เกาหลีใต้จ่อออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะยกเว้น K-ETA ให้ 6 ประเทศในเอเชีย แต่ไม่มีประเทศไทย
จากการที่นักท่องเที่ยวไทยถูกกักตัวและส่งกลับบวกกับแฮชแท็กแบนเกาหลี ทำให้นักท่องเที่ยวไทยไปเยือนเกาหลีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในเดือนกรกฎาคม ตัวเลขขององค์การท่องเที่ยวเกาหลี เปิดเผยว่า จำนวนคนไทยที่เข้าไปเที่ยวเกาหลีลดลง 19.5% จากปีก่อน เหลือ 20,150 คน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ประเทศไทยซึ่งเคยติดอันดับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าไปเที่ยวเกาหลี เคยอยู่ในอันดับ 3 ในเดือนเมษายน และอันดับ 5 ในเดือนพฤษภาคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมจากประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 19.1 จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 168,328 คน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เกาหลีใต้ ยอดนักท่องเที่ยวฮวบลงขนาดนั้น เมื่อล่าสุด รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาให้นักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์เข้าประเทศได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองในระยะแรก สำหรับวีซ่าฟรีในระยะนี้ อนุญาตให้ใช้เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ที่มาจากเรือเท่านั้น นอกจากนี้ รัฐบาลมีแผนแก้ไขกฎหมายเพื่ออนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้สามารถเข้าพักในโฮมสเตย์ในเมืองได้ ซึ่งก่อนหน้านี้อนุญาตให้เฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยแผนดังกล่าวประกาศบนที่ประชุมกลยุทธ์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่กรุงโซล เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวแทนจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และวิสาหกิจเอกชน เข้าร่วมประชุมประมาณ 60 คน เพื่อมุ่งเน้นฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 ด้วย ขณะที่ รักษาการประธานาธิบดีฮัน ด็อกซู ประธานในการประชุม เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของมาตรการว่า จะพิจารณาอย่างจริงจังและนำร่องโครงการสำหรับนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปชาวจีนทันที มากไปกว่านั้น รัฐบาลยังมีแผนจะขยายเวลาการยกเว้นระบบคัดกรองคนเข้าประเทศเกาหลีใต้แบบออนไลน์ หรือ Korea Electronic Travel Authorization (K-ETA) ชั่วคราวไปจนถึงเดือนธันวาคมปีหน้า รวมถึงนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และอินเดีย ก็จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกวีซ่าด้วยเช่นกัน ข้อมูลจากองค์กรการท่องเที่ยวเกาหลีระบุว่า ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้ถึง 13.74 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2019 (17.5 ล้านคน) ก่อนจะเกิดโรคระบาด