ขงเบ้ง แม้เป็นปราชญ์ที่สุดในสามก๊ก ก็ยังเสียรู้เล่าปี่?
สวัสดีครับ เมื่อครั้นผมนึกถึงท่านขงเบ้ง ผมมักจะนึกถึงท่านกุนซือเทวดาท่านนี้ในความเหนือชั้นของการวางแผน ซ้อนกลมากมายนัก และต้องขออภัยหากมิถูกใจใคร ใครแสดงความเห็นกันได้เต็มที่ โดยการหยิบยกเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ในจอแก้วปี1994โดยประมาณว่า
เมื่อเล่ากี๋ รู้ตนว่าใกล้ชะตาขาด เพราะท่านพ่อเล่าเปียวมิอาจนำบัลลังก์ให้เล่ากี๋ได้ เนื่องจากอิทธิพลอันมากมายของภรรยาสาว ซัวฮุหยิน ของตระกูลซัวนั้นเอง
เล่ากี๋หนีไปขอร้องให้ขงเบ้งช่วย เชิญขอให้ขงเบ้งมาปรึกษา แต่เนื่องครอบครัว ขงเบ้งคงไม่ช่วยแน่ ทำอย่างไรก็คงไม่ช่วย
เมื่อเล่ากี๋คิดอย่างนั้น ร้องห่ม ร้องไห้ ขอความเมตตาจากเล่าปี่ โดยได้แจ้งว่า หากไม่สามารถหนีรอดจากเงื้อมมือตระกูลซัวได้ล่ะก็ คงต้องมอดม้วยเป็นแน่
เล่าปี่ครุ่นคิดไม่นาน เพราะอ่านนิสัยใจคอคนขาด รู้ว่าขงเบ้งเป็นเช่นไรเล่า เล่าปี่คิดออกว่า ขงเบ้งนั้นเป็นปราชญ์ผู้กระหายความรู้ ฉะนั้นปัญญาต้องล่อด้วยความรู้ และขงเบ้งนั้นคงไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำขนาดจะปล่อยให้เล่ากี๋สิ้นชีวีต่อหน้าเป็นแน่
เล่าปี่ประครองหลานกี๋ แล้วแนะนำโดยประมาณว่า
"เอาอย่างนี้นะกี๋ เจ้าแกล้งเชิญท่านขงเบ้งไปดูตำราพิชัยยุทรที่หายาก โดยบอกเชิญเขาไปดูศึกษาช่วยชี้แนะเฉยๆ อย่าไปเซ้าซี้เขา เมื่อเขาจนมุมแล้ว เจ้าจงแกล้งจะฆ่าตัวตายเสีย เมื่อนั้นแลเขาจะข่วยเจ้า"
เมื่อกี๋ฟังก็ เก็ท ทู เดอะ พ้อยท์ (นับว่าป๋าปี่ ในงวดนี้ เจ้าเล่ห์เสียจริง) เล่ากี๋ก็เชิญขงเบ้งไปตามที่ว่า ขงเบ้งก็สนใจตามไปทันใด
แต่ขงเบ้งย่อมรู้ทันอยู่แล้วว่าเล่ากี๋จริงๆจุดประสงค์คือเช่นไร แต่ด้วยนิสัยใคร่รู้วิชาการ จึงมาและดักคอไว้ว่า
"ท่านเล่ากี๋ หากท่านปรึกษาเรื่องครอบครัวท่าน ข้าจะกลับทันที"
เล่ากี๋ตบปากรับคำ และเชิญขงเบ้งไปดูตำราชั้น 2 โดยบันไดนั้นเป็นบันไดพิงเฉยๆ เมื่อขงเบ้งเห็นตำรา(ซึ่งผมไม่แน่ชัดว่าของแท้หรือของปลอม) ก็เริ่มหยิบอ่าน ทันใดนั้น บันไดที่พาดขึ้นชั้น2 เล่ากี๋ก็ให้ลูกน้องเอาออกไป หรือผลักออกนี่แล
เมื่อบันไดหาย เล่ากี๋คุกเข่าข้อร้องทันควัน ร่ำไห้จนขงเบ้งท่านคงยิ่งอารมณ์เสีย เมื่อจะกลับก็กลับไม่ได้ เพราะบันไดที่พาดไว้หายไปเสียแล้ว
ขงเบ้งโมโหจึงขึ้นเสียงว่า "ข้าบอกท่านแล้วใช่หรือไม่ หากท่านปรึกษาเรื่องนี้ ข้าจะกลับ เอาบันไดมา อย่างไรข้าก็ไม่ช่วย"
เมื่อนั้นเล่ากี๋ใช้ไม้ตายขั้นสุดท้าย หยิบกระบี่ขึ้นมาทันควัน
"ถ้าท่านไม่ช่วย ข้าก็เหมือนตายแล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าขอลาตายเสียบัดนี้"
เมื่อพูดจบก็ค้างท่าจะเชือดคอตาย (ค้างไว้เฉยๆ)
ขงเบ้งเห็นก็ตกใจ ความโกรธหาย เป็นความเวทนา จุดนี้ขงเบ้งคงคิดว่า ถ้าเล่ากี๋ตายเพราะเราตรงนี้ ไม่ดีแน่ๆ จึงได้แนะนำให้เล่ากี๋ อาสาไปดูแลชาญเมืองแทนจะได้รอดพ้นจากอำนาจตระกูลซัว
เล่ากี๋ดีใจคำนับท่านขงเบ้งใหญ่ ให้ลูกน้องเอาบันไดกลับมา และทำตามคำแนะนำท่านขงเบ้งต่อไป
จากเหตุการณ์นี้ เล่ากี๋เลยรอดตายหนีไปตั้งหลักอยู่ชายแดน
จากการกระทำเช่นนี้ของเล่าปี่ กลับเป็นผลดีในอนาคต เพราะเล่ากี๋ ตอบแทนบุญคุณครั้งนี้อย่างอื้อซ่า
ไหนเล่าตอนอพยพคน จะให้เล่ากี๋ส่งพลมารอรับ
ไหนเล่าตอนยืมเก็งจิ๋ว จึงใช้อายุขัยเล่ากี๋มาซื้อเวลายืมเมือง
เล่ากี๋เองด้วยที่คาดว่าเป็นเพลย์บอยอยู่พอตัว ก็สิ้นอายุขัยในวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์นี้นับว่าเป็นไม่กี่ครั้ง ที่ขงเบ้งจะเสียรู้ และคงเป็นไม่กี่ครั้ง ที่เห็นได้ว่าเล่าปี่ใช้คนเก่งดูคนขาดเพียงใด
สวัสดี
ภาพ: AI Generate By Canva