Emface เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า ย้อนวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด
Emface เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า ย้อนวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีความงามพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด การยกกระชับใบหน้าและลดเลือนริ้วรอยไม่จำเป็นต้องอาศัยการผ่าตัดหรือเข็มฉีดอีกต่อไป เทคโนโลยี Emface ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวคิดการดูแลผิวด้วยนวัตกรรมที่ผสานพลังงาน HIFES (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation) และ Radio Frequency (RF) ทำงานลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อและชั้นผิวอย่างแม่นยำ ช่วยยกกระชับใบหน้า ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องพักฟื้น พร้อมเผยผิวที่อ่อนเยาว์ กระชับ และเป็นธรรมชาติอย่างยั่งยืน
Emface คืออะไร?
Emface เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่ผสาน 2 พลังงาน ได้แก่ HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ Synchronized RF (Radio Frequency) ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวยกกระชับ ดูอ่อนเยาว์ และเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของ Emface
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม
- ไม่ต้องพักฟื้น
- ทำงานลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ
- ปลอดภัยและได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา
Emface ช่วยอะไรได้บ้าง?
- ยกกระชับผิว ด้วยพลังงาน HIFES ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า
- สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน:
- ช่วยเผาผลาญไขมันและฟื้นฟูผิว
- ลดเลือนริ้วรอย ผิวหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
Emface ทำงานอย่างไร?
การทำงานของ Emface ผสานสองเทคโนโลยีหลักเข้าด้วยกัน
- HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation): ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- Synchronized RF: ช่วยเพิ่มอุณหภูมิใต้ชั้นผิวที่ 42 องศาเซลเซียส เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินโดยไม่ทำลายเซลล์ไขมัน
ขณะทำการรักษา จะมีความรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ทำ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพลังงานกำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
Emface เหมาะกับใคร?
- Emface แหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- Emface แหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอย
- Emface แหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างกล้ามเนื้อใบหน้า
- Emface แหมาะสำหรับ เหมาะกับทุกสภาพผิวและช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป
Emface ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใดบ้าง?
- Emface ทำบริเวณหน้าผาก ยกคิ้วและลดริ้วรอย
- Emface ทำบริเวณแก้ม กระชับผิว แก้ไขริ้วรอยร่องแก้ม
- Emface ทำบริเวณกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับมากขึ้น
Emface ต่างจาก Ulthera และ Thermage อย่างไร?
เทคโนโลยีทั้งสาม Ulthera, Thermage และ Emface ล้วนเป็นเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่แต่ละเทคโนโลยีมีจุดเด่นและชั้นผิวที่ทำงานแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- Ulthera ใช้เทคโนโลยี คลื่นเสียง Focused Ultrasound (อัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง) ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับกล้ามเนื้อใบหน้า ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด
- Thermage ใช้เทคโนโลยี คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) ซึ่งเน้นการทำงานใน ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) โดยคลื่นความร้อนจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- Emface เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ผสานการทำงานของ HIFES (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation) และ คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้ง ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle) และ ชั้นผิวหนัง (Dermis) พร้อมกัน โดย HIFES ช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ส่วน RF ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ใบหน้ายกกระชับและผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการทำ Emface
- ก่อนเริ่มขั้นตอนการทำ Emface ผู้เชี่ยวชาญจะทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก เพื่อลบเครื่องสำอาง ฝุ่นละออง และความมันส่วนเกิน
- ผู้เชี่ยวชาญจะติดแผ่น Applicator (แผ่นส่งพลังงาน) บริเวณจุดสำคัญ ได้แก่ หน้าผากและแก้ม
- เมื่อแผ่น Applicator ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เครื่อง Emface จะเริ่มปล่อยพลังงานทั้งสองชนิดทำงานประสานกันเพื่อยกกระชับผิว และฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ยกกระชับ และกระจ่างใสขึ้น
- ใช้เวลาทำประมาณ 20 นาทีต่อครั้ง ระหว่างการรักษา ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกถึงการหดเกร็งของกล้ามเนื้อใบหน้า แต่ไม่รู้สึกเจ็บ มีเพียงความรู้สึกอุ่นๆ ที่ผิวเท่านั้น
- หลังจากทำ Emface เสร็จสิ้น ผู้เชี่ยวชาญจะถอดแผ่น Applicator ออกอย่างระมัดระวัง
ดูแลตนเองหลังทำ Emface
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง
- ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง และสวมหมวกปีกกว้างเพื่อปกป้องผิว
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือขัดผิวบริเวณที่ทำ Emface ในวันแรก
- หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนในช่วง 24 ชั่วโมงหลังทำ
- หลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
สรุปผลลัพธ์จาก Emface
- ริ้วรอยลดลง 37%
- กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น 30%
- ความหนาแน่นกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 19%
- คอลลาเจนเพิ่มขึ้น 26%
- ผิวยกกระชับขึ้น 23%
คำถามที่พบบ่อย
Emface เจ็บไหม?
- การทำ Emface ไม่เจ็บเลย เพราะเทคโนโลยีนี้ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ทำให้เกิดบาดแผลใด ๆ บนผิวหนัง
Emface เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่?
- เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ ครั้งแรกหลังทำเสร็จ โดยใบหน้าจะดูยกกระชับขึ้นเล็กน้อย และผิวดูสดใสขึ้น ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากทำครบ 4 ครั้ง ตามแผนการรักษาที่แนะนำ
ต้องทำ Emface กี่ครั้ง?
- แนะนำให้ทำ Emface อย่างน้อย 4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การทำติดต่อกันในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อใบหน้าได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากครบ 4 ครั้ง แนะนำให้ทำการรักษาซ้ำ ทุก 3-6 เดือน เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ไว้
Emface ทำร่วมกับ Filler หรือ Botox ได้ไหม?
- สามารถทำ Emface ร่วมกับ Filler และ Botox ได้ อย่างไรก็ตาม ควรมีการวางแผนและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อกำหนดช่วงเวลาและลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม โดยทั่วไปมักแนะนำให้ ทำ Emface ก่อนการฉีด Filler หรือ Botox เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสารที่ฉีดเข้าไป
ต้องทำ Emface โดยแพทย์หรือไม่?
- การทำ Emface ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างถูกต้อง
Emface เป็นเทคโฯโลยีความงามที่ก้าวข้ามข้อจำกัดแบบเดิม ๆ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานพลังงาน HIFES และ RF อย่างลงตัว ช่วยยกกระชับผิวหน้าและฟื้นฟูกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีเข็ม และไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์คือใบหน้าที่ดูยกกระชับ อ่อนเยาว์ และเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ยาพิษ คนสนิท ความไว้ใจ : บทเรียนราคาแพงว่า…อย่าไว้ใจใครเกินไป
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
กินไข่ผิดชีวิตเปลี่ยน? ไข่ทั้งฟอง vs ไข่ขาว กินแบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน!
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
เมทัลชีท PU คืออะไร? วัสดุที่เหมาะสำหรับบ้านและอาคาร
[ด่วน!] ใกล้สิ้นปีแล้ว จองสถานที่จัดเลี้ยงบริษัท ขอนแก่น ที่ "ร้านคัม" ริมบึงหนองโคตร บรรยากาศดี โปรฯเพียบ!
ทริคประหยัดค่าไฟสูงสุดถึง 50% ต่อเดือน แค่ใช้แอร์ให้ถูกวิธี!
