การค้นพบที่น่าทึ่ง
คุณเคยจินตนาการไหมว่าเนยถั่วสามารถกลายเป็นเพชรได้? นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยเทคนิคที่น่าทึ่งในการใช้แรงกดดันที่สูงกว่าศูนย์กลางของโลก!
เทคนิคนี้เรียกว่า "stiletto heel effect" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบีบเนยถั่วระหว่างปลายของเพชรสองเม็ด ส่งผลให้คาร์บอนในเนยถั่วแปรสภาพเป็นเพชรภายใต้แรงกดดันมหาศาล
บทบาทของแรงกดดัน
ศาสตราจารย์มัลคอล์ม แมคมาฮอน จากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และสภาวะสุดขีดที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระ กล่าวว่าแรงกดดันสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ในวัสดุหลากหลายชนิด
“เราอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคนิคที่สามารถสร้างแรงกดดันได้ถึงห้าล้านบรรยากาศ ซึ่งสูงกว่าที่ศูนย์กลางของโลกหลายเท่า” ศาสตราจารย์มัลคอล์มกล่าว “เป้าหมายของเราคือการค้นหา ‘ระยะโลหะ’ ของไฮโดรเจน ซึ่งเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ของฟิสิกส์แรงกดดันสูง”
เขายังอธิบายเพิ่มเติมว่า หากสามารถสร้างไฮโดรเจนในระยะโลหะได้จริง ขั้นตอนต่อไปคือการผลิตในปริมาณที่เพียงพอสำหรับการศึกษาในรายละเอียด ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เพชรขนาดเท่าหัวแม่มือเพื่อบีบสาร
เพชรจากเนยถั่ว
หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจที่สุดจากการศึกษานี้คือการค้นพบว่า "วัสดุที่มีคาร์บอน" รวมถึงเนยถั่ว สามารถถูกเปลี่ยนเป็นเพชรได้
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์มัลคอล์มกล่าวว่าเพชรที่ได้จากวิธีนี้จะต้องใช้เพชรคุณภาพสูงและมีราคาสูงมาก ดังนั้นทีมวิจัยกำลังพัฒนาวิธีการสร้างเพชรแบบสังเคราะห์แทน
ประโยชน์อื่นๆ ของแรงกดดันสูง
ดร.คอลลิน พูลแฮม ซึ่งทำงานที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้กล่าวว่า การใช้แรงกดดันสูงช่วยให้เข้าใจความเสถียรของวัสดุต่างๆ
“การทดสอบแรงกดดันสูงในยา เป็นวิธีที่มีประโยชน์สำหรับการพัฒนายาใหม่ๆ และการทดสอบยาเดิม” เขากล่าว “ความเข้าใจถึงโครงสร้างและคุณสมบัติของยาเมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดัน อาจนำไปสู่การพัฒนายาที่เหมาะสมกับภูมิอากาศร้อน หรือรูปแบบใหม่ของยา”
อนาคตของวิทยาศาสตร์แรงกดดันสูง
การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้แรงกดดันสูงในด้านต่างๆ เช่น การสร้างวัสดุใหม่ การพัฒนายา และการค้นหาคุณสมบัติของวัสดุในสภาวะสุดขีด
แม้ว่าการเปลี่ยนเนยถั่วให้กลายเป็นเพชรอาจไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้เห็นในชีวิตประจำวัน แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในด้านนี้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาวัสดุและวิทยาศาสตร์ที่เรายังไม่เคยคาดคิดมาก่อน