เคล็ดลับการเจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบน่ารับประทาน
กระเทียมเจียวจัดเป็นส่วนประกอบสำคัญให้อาหารหลายเมนู เช่น ต้มจืด ก๋วยเตี๋ยวน้ำ หมูทอด และผัดต่างๆ เพราะสามารถช่วยเพิ่มรสชาติและยังเป็นตัวช่วยให้อาหารจานนั้นๆ ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนอื่นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือกระเทียมเจียวที่นำมาใช้ต้องมีสีเหลืองสวยและกรอบน่ารับประทานกันด้วย จึงจะช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารได้เป็นอย่างดี แต่การจะเจียวกระเทียมให้มีสีเหลืองสวยและกรอบนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปเช่นกันค่ะ เพียงคุณทำตามวิธีเหล่านี้ เริ่มจาก
- ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้กระเทียมไทยที่มีกลีบเล็ก เพราะเวลาเจียวจะได้กลิ่นหอมและช่วยเพิ่มรสชาติให้กลับอาหารให้อร่อยได้ดีกว่ากระเทียมประเภทอื่น
- เมื่อได้กระเทียมแล้วให้ปลอกเปลือกออกเหลือแต่เปลือกหุ้มด้านใน จากนั้นนำมาโขลกพอหยาบไม่ต้องละเอียดมากนะคะ การโขลกก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้กระเทียมเจียวมีกลิ่นหอมมากกว่าการนำไปปั่นหรือสับค่ะ
- เมื่อได้กระเทียมเรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนในการเจียวควรใส่กระเทียมลงในกระทะขณะที่น้ำมันเริ่มอุ่นไม่ควรรอจนน้ำมันร้อนจัด เพราะจะทำให้กระเทียมสุกเร็วและไหม้ได้ นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันไม่ควรน้อยจนเกินไป
- ในขณะเจียวถ้ากระเทียมเริ่มเหลืองกรอบได้ที่ให้ตักขึ้นออกจากกระทะทันที เพราะความร้อนจากน้ำมันจะทำให้กระเทียมสุกมากไปกว่าเดิม
- หลังจากเจียวแล้วถ้าไม่ได้นำไปใช้ในทันทีควรนำกระเทียมเจียวที่ได้ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท ก็จะช่วยให้กระเทียมกรอบนานยิ่งขึ้น เพียงทำตามคำแนะนำนี้คุณก็จะได้กระเทียมเจียวที่เหลืองและกรอบอร่อยกันแล้วค่ะ
ประโยชน์ของกระเทียม
กระเทียมไม่ได้มีแค่ช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยเพียงเท่านั้น แต่ยังไม่ประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกายของเราอีกด้วย อาทิเช่น มีส่วนในการช่วยปรับความดันของโลหิตให้เป็นปกติ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้หลายชนิดที่เกี่ยวกับระบบเลือด เช่น โรคหัวใจ โรคลิ้มเลือดแข็งตัว โรคความดันโลหิต เป็นต้นนอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการหวัด เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรที่มีการใช้กันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกันเลยทีเดียว และที่สำคัญน้ำมันหอมระเหยของกระเทียมยังมีสรรพคุณในการช่วยต่อต้านการเกิดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส ได้อีกด้วย
ทราบกันแบบนี้แล้วเรามาทานกระเทียมเป็นประจำกันดีกว่าค่ะ และนอกจากนำมาเจียวรับประทานคู่กับอาหารแล้ว ยังสามารถนำมาใส่ในอาหารได้อีกหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ประเภทผัด ต้มจืด ใส่ในพริกแกง รวมไปถึงเป็นส่วนประกอบของน้ำพริกต่างๆ โดยเฉพาะน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู และน้ำพริกปลาร้า
อ้างอิงจาก: แม่ครัว, ครัวแม่พิม