พระธุดงค์ทำร้ายแม่ค้าส้มตำ สาเหตุไม่สำรวม เบื้องต้นถูกจับสึกและดำเนินคดี
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nong Nan” โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้านส้มตำชื่อดังย่านชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี พระธุดงค์ รูปหนึ่งเดินเข้ามาทำร้ายแม่ค้าส้มตำถึงในร้าน โดยใช้กำปั้นทุบเข้าที่บริเวณกกหู สร้างความงุนงงและตกใจให้กับผู้เสียหายและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังทราบสาเหตุว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวอ้างว่ากลุ่มหญิงสาวไม่สำรวม จึงต้องสั่งสอนด้วยการทำร้ายร่างกาย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่ร้าน ส้มตำ & จิ้มจุ่ม ของ นางสาวทัศนีย์ หรือ แนน อายุ 27 ปี ซึ่งร้านตั้งอยู่บริเวณศาลาสาธารณะริมถนนบ้านหนองคาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยขณะที่น้องแนนกำลังนั่งพูดคุยและหัวเราะอย่างสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนหญิงที่มานั่งรับประทานอาหาร จู่ๆ พระธุดงค์รูปหนึ่งที่นั่งพักอยู่ในศาลาริมทาง ได้เดินตรงเข้ามาที่ร้าน
ตอนแรก น้องแนนเข้าใจว่าพระจะมาขอน้ำดื่มตามปกติ จึงหันไปถามพระว่าจะรับอะไร แต่ไม่ทันจะพูดจบ พระได้ใช้กำปั้นทุบเข้าที่กกหูของเธออย่างแรง ทำให้เกิดอาการเจ็บและตกใจอย่างมาก น้องแนนจึงร้องโวยวายและรีบหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปเพื่อบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน
หลังเกิดเหตุ พระสงฆ์รูปดังกล่าวพยายามพูดจาวกวนและไม่สามารถอธิบายเหตุผลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว อีกทั้งยังพยายามเดินหนีออกจากร้าน น้องแนนจึงขอให้เพื่อนผู้ชายช่วยกันยื้อยุดตัวพระไว้ ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ ให้มาดำเนินการสอบสวน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงและนำตัวพระมาที่สถานีตำรวจ พบว่า พระรูปนี้เป็นพระจริง โดยมีเอกสารใบสุทธิที่ระบุว่าเคยบวชที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่เดินทางมาถึงจังหวัดเพชรบุรี พระให้การวกวนแต่ยอมรับว่า “สาเหตุที่ทำร้ายหญิงสาว เนื่องจากเห็นกลุ่มหญิงสาวไม่สำรวม หัวเราะเสียงดัง จึงเดินออกจากศาลามาเพื่อสั่งสอน” โดยการใช้กำปั้นทุบเข้าที่กกหู
นอกจากนี้ ยังพบว่าพระได้เขียนข้อความลงบนกระดาษลักษณะเป็นการ “เตือนสติ” ซึ่งพระอ้างว่าเป็นเหตุผลในการสั่งสอนหญิงสาวกลุ่มนี้ให้มีความสำรวมมากขึ้น
หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าการกระทำของพระรูปดังกล่าวเข้าข่าย ทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะการทำร้ายผู้หญิง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับพระภิกษุที่ควรจะสำรวมในกิริยาวาจา ตามหลักพระธรรมวินัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวพระรูปดังกล่าวไปให้เจ้าอาวาสวัดชะอำทำการ สึกจากการเป็นพระภิกษุ เพื่อให้กลับมาเป็นฆราวาส
เมื่อพระถูกจับสึกแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวเพื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งมีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา