หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ร้านที่มองไม่เห็น

เนื้อหาโดย อักษราลัย

ร้านที่มองไม่เห็น
โดย #อักษราลัย

 

        “พี่แน่ใจนะว่าร้านปิดแล้ว?” ผู้หญิงคนนั้นถามเพื่อนที่เดินผ่านร้านขายของชำของฉัน

        “ก็เห็นอยู่ว่าประตูเหล็กปิดลงอยู่ ไฟก็ดับ” อีกคนตอบกลับอย่างมั่นใจ

        ฉันได้ยินบทสนทนานั้นอย่างชัดเจนผ่านประตูกระจกร้าน ทั้งที่ตอนนี้ร้านเปิดอยู่ ไฟก็สว่างจ้า ประตูเหล็กก็ยกขึ้นตั้งแต่เช้า แต่ลูกค้าทุกคนที่เดินผ่านกลับมองเห็นร้านในสภาพตรงกันข้าม

        ร้านนี้เป็นมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว เป็นร้านขายของชำเล็ก ๆ ที่อยู่มาตั้งแต่ฉันจำความได้ ตอนเด็ก ๆ ฉันชอบนั่งดูพ่อคิดเงินให้ลูกค้า ได้ยินเสียงหัวเราะและเรื่องราวมากมายจากชาวบ้านที่แวะเวียนมาซื้อของ พ่อเคยบอกว่าร้านนี้ไม่ได้มีค่าแค่เรื่องเงินทอง แต่มันคือส่วนหนึ่งของชุมชน เป็นจุดนัดพบ เป็นที่พึ่งยามฉุกเฉินของเพื่อนบ้าน

        เรื่องนี้มันเริ่มต้นมาได้เดือนกว่าแล้ว วันที่ฉันพบว่ามีเหรียญเก่า ๆ วางอยู่หน้าร้าน เหรียญนั้นมีสีดำคล้ำราวกับผ่านการใช้งานมานานนับร้อยปี มันถูกวางเรียงเป็นรูปวงกลม ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นแค่ขยะที่ใครสักคนทิ้งไว้ จึงเก็บกวาดทิ้งไป

        แต่หลังจากวันนั้น ทุกอย่างก็เริ่มผิดปกติ

        ลูกค้าประจำที่เคยแวะเวียนมาซื้อของทุกวันหายไป คนที่เดินผ่านร้านก็เหมือนมองไม่เห็นว่ามีร้านอยู่ตรงนี้ บางคนถึงขั้นเดินชนประตูร้านเพราะคิดว่าไม่มีอะไรขวางอยู่

        เรื่องแปลก ๆ ในร้านที่เกิดขึ้นก็น่าขนลุก แรก ๆ มันเป็นแค่เสียงประหลาด ๆ เสียงเหรียญหล่นกระทบพื้นยามดึก เสียงขวดแก้วกระทบกันเบา ๆ แม้จะไม่มีลมพัด แต่แล้วทุกอย่างก็เริ่มรุนแรงขึ้น

        สินค้าไม่ได้แค่เคลื่อนที่ แต่มันลอยขึ้นกลางอากาศ ขวดน้ำ กระป๋องอาหาร ถุงขนม ทุกอย่างลอยวนเป็นวงกลมราวกับมีคนหยิบมาเล่นกล ก่อนจะร่วงกราวลงพื้นพร้อมกัน บางครั้งฉันเห็นเงาดำ ๆ เคลื่อนไหวตามชั้นวางของ เหมือนมีใครกำลังเดินเลือกซื้อของอยู่ แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็ไม่มีอะไร

        กลางดึกคืนหนึ่ง ฉันได้ยินเสียงเด็กหัวเราะคิกคักดังมาจากมุมร้าน พอเปิดไฟดู ก็เห็นตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ที่ไม่เคยมีในร้านวางอยู่บนชั้น มันทำจากผ้าขาวเก่า ๆ มีด้ายแดงพันรอบคอ ใบหน้าวาดด้วยหมึกดำเป็นรอยยิ้มที่กว้างผิดธรรมชาติ พอจะเก็บมันไปทิ้ง ฉันก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูว่า “อย่าทิ้งหนูนะ หนูเหงา...”

        บนกระจกร้านเริ่มมีรอยฝ่ามือปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ บางวันเป็นรอยมือเล็ก ๆ เหมือนเด็ก บางวันเป็นรอยมือใหญ่ทิ้งคราบดำไว้ราวกับเปื้อนเขม่า และที่น่ากลัวที่สุดคือ บางครั้งรอยมือพวกนั้นก็เคลื่อนที่ เลื้อยไปมาบนกระจกเหมือนมีคนกำลังลากมือไปมาช้า ๆ

        แล้วก็มีลูกค้าผี... พวกเขาเดินเข้ามาในร้านเหมือนคนปกติ หยิบของใส่ตะกร้า เดินมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ แต่พอฉันมองดี ๆ ก็เห็นว่าเท้าของพวกเขาลอยเหนือพื้น ใบหน้าซีดขาวผิดธรรมชาติ และเมื่อพวกเขายื่นเงินมาจ่าย มันก็เป็นเหรียญเก่า ๆ สีดำคล้ำแบบเดียวกับที่เคยพบหน้าร้าน

        คืนหนึ่ง ฉันตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงคนนับเงินดังมาจากเคาน์เตอร์ พอลงมาดู ก็เห็นร่างของพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำ กำลังนับเหรียญสีดำกองใหญ่ พ่อหันมามองฉันช้า ๆ ใบหน้าซีดเผือด มีผ้าขาวปิดตาอยู่ ปากขยับพูดว่า

        “ลูก... พ่อเป็นห่วง...” ก่อนที่ร่างนั้นจะค่อย ๆ จางหายไป ทิ้งไว้แค่กองเหรียญดำบนเคาน์เตอร์

        ยอดขายดิ่งลงเหลือศูนย์ ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ พอกสูงขึ้นเรื่อย ๆ เงินเก็บที่มีร่อยหรอลง ฉันต้องเริ่มขายทองที่แม่ให้ไว้ทีละเส้น ธนาคารโทรมาทวงหนี้บัตรเครดิตทุกวัน แม้แต่น้ำประปาก็เกือบถูกตัด เหลือแค่ไฟที่ยังติดสว่างจ้าอยู่ในร้านที่ไม่มีใครมองเห็น

        “เงินปากผี” ป้าแก้วเพื่อนบ้านบอกฉันหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องราวให้ฟัง “มันเป็นของต้องห้าม เขาเอาเงินที่ใช้ปิดตาศพมาทำพิธี ใครโดนเข้าก็จะเหมือนถูกผีปิดตา คนอื่นจะมองไม่เห็นร้านของเรา เหมือนร้านปิดอยู่ทั้ง ๆ ที่เปิดตามปกติ”

        “แล้วจะแก้ยังไงคะ?” ฉันถามอย่างร้อนรน ยอดขายที่ตกลงอย่างหนักทำให้ฉันแทบจะอยู่ไม่ได้

        “ต้องหาคนที่ทำมาให้เจอ แล้วให้เขาถอนของให้” ป้าแก้วตอบ “แต่ระวังนะ คนพวกนี้ใจดำ บางทีเขาอาจจะขอแลกกับชีวิตคนที่เรารัก”

        ฉันนั่งมองร้านที่ว่างเปล่า เสียงพูดคุยของคนที่เดินผ่านไปมายังดังอยู่เรื่อย ๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าร้านปิด ทั้งที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ เปิดไฟสว่าง พร้อมต้อนรับลูกค้าเสมอ

        เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารอีกแล้ว แจ้งว่าถ้าไม่จ่ายค่างวดบ้านภายในสิ้นเดือนนี้ จะยึดบ้าน... บ้านที่พ่อใช้เวลาทั้งชีวิตผ่อน ร้านที่เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว ทุกอย่างกำลังจะหายไป

        วันนั้น จู่ ๆ เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น มีชายชราเดินเข้ามา เขาสวมชุดขาวทั้งชุด ผมสีขาว ดวงตาของเขาเหมือนมองทะลุผ่านตัวฉันไป ในมือถือถุงผ้าเก่า ๆ ที่ส่งกลิ่นธูปอบอวล

        “อยากให้คนเห็นร้านของเจ้าเหมือนเดิมไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ข้าช่วยได้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน...”

        ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก นึกถึงคำเตือนของป้าแก้ว แต่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ร้านคงต้องปิดจริง ๆ แน่ ทั้งบ้านและร้านที่พ่อทำงานหนักมาทั้งชีวิตจะหายไปในพริบตา

        “ข้อแลกเปลี่ยนอะไร?” ฉันถามออกไป เสียงสั่นเครือ

        ชายชราคนนั้นยิ้ม เผยให้เห็นฟันสีเหลืองที่เรียงไม่เป็นระเบียบ “เจ้าต้องสัญญาว่า จะมาแทนที่ข้า เมื่อถึงเวลา...”

        ฉันยังไม่ทันได้ตอบ เขาก็หายไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งไว้เพียงกลิ่นธูปและควันสีขาวที่ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ ถุงผ้าเก่าที่เขาถือตกอยู่ที่พื้น ข้างในมีเหรียญเก่า ๆ คล้ายกับที่เคยพบหน้าร้าน แต่ครั้งนี้มันถูกร้อยด้วยด้ายแดง พร้อมกับกระดาษเขียนว่า “ถ้าตกลง ให้สวมมันไว้ที่คอ”

        ขณะที่ฉันกำลังจ้องมองถุงผ้าในมือ เงาดำ ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวรอบ ๆ ร้าน เสียงกระซิบดังแว่วมา “สวมมันสิ... สวมมันสิ... แล้วเธอจะได้อยู่กับพวกเราตลอดไป...” เสียงหัวเราะคิกคักของเด็กดังแทรกขึ้นมา พร้อมกับเสียงเหรียญกระทบพื้นที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับมีใครกำลังโปรยเหรียญลงมาจากเพดานร้าน

        ฉันหลับตาแน่น พยายามไม่สนใจเสียงรอบตัว แต่แล้วก็รู้สึกถึงลมเย็น ๆ พัดผ่านใบหน้า กลิ่นธูปที่เข้มข้นขึ้น และเสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นข้างหู

        “ลูก...” เสียงของพ่อ

        “พ่อไม่อยากให้ลูกต้องทิ้งร้านไป...”

        ฉันลืมตาขึ้น เห็นร่างของพ่อยืนอยู่ตรงหน้า คราวนี้ไม่มีผ้าปิดตาแล้ว แต่ดวงตาของพ่อกลับเป็นสีดำสนิท มีน้ำสีดำไหลออกมาตามมุมตา

        “มาอยู่กับพ่อไหม? เราจะได้ดูแลร้านด้วยกัน... ตลอดไป...”

        มือเย็นเฉียบของพ่อเอื้อมมาหยิบสร้อยเหรียญในมือฉัน

        “แค่สวมมันเท่านั้น ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม...”

        มือของพ่อค่อย ๆ ยกสร้อยเหรียญขึ้น ฉันรู้สึกถึงความเย็นของโลหะที่แตะผิวคอ ในขณะที่รอบ ๆ ตัว เงาดำทั้งหลายก็เริ่มรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงหัวเราะของเด็ก เสียงกระซิบ เสียงเหรียญกระทบพื้น ดังระงมไปทั่วร้าน

        ฉันต้องตัดสินใจ...

        เลือกที่จะรักษาร้านของพ่อไว้ แลกกับการต้องอยู่ในโลกของความมืดตลอดไป หรือปล่อยให้ทุกอย่างจบลง และกลับไปใช้ชีวิตธรรมดาที่ไม่มีร้านนี้อีกต่อไป

        สร้อยเหรียญเย็นเฉียบแตะต้นคอฉัน พร้อมกับที่เสียงกระซิบของพ่อดังขึ้นอีกครั้ง

        “ตัดสินใจได้แล้ว... ลูกรัก...”

        ............

       

วันนี้ร้านขายของชำร้านนี้ยังคงเปิดอยู่เหมือนเดิม ลูกค้าเข้าออกพลุกพล่าน ทุกคนบอกว่าของถูกและคุณภาพดี แต่แปลกที่ว่า ไม่มีใครจำได้ว่าเจ้าของร้านหน้าตาเป็นยังไง ทุกคนเห็นแค่ร่างในชุดดำที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ สวมสร้อยเหรียญเก่า ๆ ที่ส่องประกายวูบวาบใต้แสงไฟ และถ้าใครสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเท้าของร่างนั้น... ไม่ได้แตะพื้นเลย

        .....................................

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชงเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอมปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
2026 ปีแห่งการสั่นสะเทือน! แกะรอยคำทำนาย บาบาวานก้า ที่โลกต้องจับตา การเปลี่ยนขั้วอำนาจสู่ยุคดิจิทัลและการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณบ้านผีสิง (2550): เงาของอดีต ความรักอำมหิต และบาดแผลที่ตามหลอกหลอนดูดวงทั้ง 12 นักษัตร เดือนธันวาคม 2568เปิดดวง 3 ราศี ดวงพุ่งแรง มีเกณฑ์ ถูกเลข รับทรัพย์ก้อนโต 💰
ตั้งกระทู้ใหม่