หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องราวของ "Baby Cage" หรือกรงเด็ก: จากนวัตกรรมเพื่อสุขภาพสู่ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม

เนื้อหาโดย Boss Panuwat

ผู้เขียน: Boss Panuwat

ที่มาของ Baby Cage หรือกรงเด็ก

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมืองใหญ่ๆ อย่างนิวยอร์ก ลอนดอน หรือปารีส ต่างเต็มไปด้วยอาคารสูงและที่อยู่อาศัยที่คับแคบ ภายในห้องพักที่มีพื้นที่จำกัด บรรดาผู้ปกครองที่เลี้ยงลูกในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดูแลเด็กทารก โดยเฉพาะการให้ลูกได้รับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดที่เพียงพอ โดยในช่วงเวลานั้น ความเชื่อว่าอากาศบริสุทธิ์และการระบายอากาศที่ดีจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น วัณโรค จึงกลายเป็นแนวคิดที่สำคัญในการดูแลสุขภาพเด็ก ซึ่งทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมที่ไม่ธรรมดาอย่าง "กรงเด็ก" (Baby Cage) ขึ้นมา

กรงเด็ก คือเตียงที่ถูกแขวนในกรงลวดเหล็กซึ่งติดตั้งจากหน้าต่างของอาคารในเมืองใหญ่ โดยได้รับการคิดค้นจากมิสซิส โรเบิร์ต ซี. ลาฟเฟอร์ตี้ (Mrs. Robert C. Lafferty) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเธอมีเจตนาเพื่อให้เด็กทารกได้รับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดจากธรรมชาติขณะพักผ่อนในห้องพักที่ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เนื่องจากความแออัดของเมือง และเธอยังเรียกสิ่งนี้ว่า "การดูแลสุขภาพ" (health care) ของเด็กทารกในยุคสมัยนั้น

การคิดค้นกรงเด็กนี้ไม่เพียงแค่เป็นผลจากความต้องการให้เด็กได้รับอากาศที่สดชื่น แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อโรคภัยที่ระบาดในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะการระบาดของวัณโรค (Tuberculosis) ซึ่งทำให้หลายประเทศเริ่มสร้างโรงเรียนกลางแจ้ง หรือที่เรียกว่า "Open-Air Schools" เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนในสภาพแวดล้อมที่มีการระบายอากาศที่ดี และเด็กๆ ก็สามารถหายใจในอากาศที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติได้

Eleanor Roosevelt กับกรงเด็ก

หนึ่งในกรณีที่ทำให้กรงเด็กกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1906 เมื่อ Eleanor Roosevelt, ภรรยาของ Franklin D. Roosevelt ซึ่งต่อมาจะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 32 ของสหรัฐฯ ได้ติดตั้งกรงเด็กไว้ที่หน้าต่างในบ้านของเธอที่นิวยอร์ก เพื่อให้ลูกสาวคนแรกของเธอที่ชื่อว่า "แอนนา" ได้รับอากาศบริสุทธิ์ในขณะที่นอนหลับในช่วงเช้า

แต่การกระทำนี้กลับไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชนในขณะนั้น โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กจากภายในกรง และพวกเขาคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่า Eleanor Roosevelt จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้ทำเช่นนั้นเพื่อสุขภาพของลูก แต่เธอก็ต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในเวลานั้น

Eleanor Roosevelt เขียนในอัตชีวประวัติของเธอว่า ในปี 1908 เธอได้วางลูกสาวของเธอใน "กล่องที่มีลวดล้อมรอบด้าน" ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าต่างหลังบ้าน เพื่อให้ลูกสาวได้รับอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากเธอเชื่อว่าอากาศที่สดชื่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของเด็ก

การเติบโตของ Baby Cage

ในปี 1922, การขอสิทธิบัตรสำหรับ "กรงเด็กพกพา" ได้รับการยื่นโดย Emma Read ซึ่งเป็นการออกแบบให้สามารถแขวนกรงเด็กไว้ที่ขอบหน้าต่างภายนอกอาคารได้ เพื่อให้เด็กทารกได้รับอากาศบริสุทธิ์ ขณะเดียวกันพ่อแม่ก็สามารถดูแลและมองเห็นลูกได้จากภายในบ้าน

กรงเด็กได้รับความนิยมอย่างมากในลอนดอนในช่วงทศวรรษที่ 1930 โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เด็กๆ ไม่มีพื้นที่กลางแจ้งหรือสวนในบ้าน การติดตั้งกรงเด็กจึงกลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่ชุมชนต่างๆ เช่น Chelsea Baby Club ได้จัดหาให้แก่สมาชิกที่ไม่มีสวนหลังบ้าน โดยให้เด็กๆ ได้ออกไปสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดจากภายนอก

อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นขึ้น และการโจมตีจากกองทัพ Luftwaffe ของเยอรมันในช่วง "Battle of Britain" ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานกรงเด็กในลอนดอน จนกระทั่งในปี 1953 กรงเด็กเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

จุดจบของ Baby Cage และการพัฒนาในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ความนิยมในกรงเด็กเริ่มลดลง โดยเฉพาะเมื่อมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กๆ และความเสี่ยงจากการจราจรที่เพิ่มขึ้นในเมืองใหญ่ ซึ่งทำให้กรงเด็กกลายเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ในปัจจุบัน แนวทางการเลี้ยงเด็กได้พัฒนาไปมาก โดยเฉพาะในด้านการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กทารก ซึ่งไม่เพียงแค่เน้นการให้เด็กได้รับอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเด็ก อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของกรงเด็กยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนบางคนพูดถึงอยู่เสมอ เป็นตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ในยุคที่ผ่านมา ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน

คำค้นหายอดนิยม:

  • กรงเด็ก
  • การดูแลสุขภาพเด็ก
  • การเลี้ยงเด็กในเมืองใหญ่
  • โรควัณโรคในเด็ก
เนื้อหาโดย: Boss Panuwat
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Boss Panuwat's profile


โพสท์โดย: Boss Panuwat
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบเจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตวิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนเซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีเมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็นปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยเปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมากศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริต
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊าจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
ตั้งกระทู้ใหม่