นักงานบัญชีกับคนขับแทกซี่
ตอนที่ 1: แท็กซี่ในคืนฝนโปรย
เสียงฝนกระหน่ำราวกับจะกลบทุกสิ่งในยามค่ำ แพม สาวบัญชีวัย 33 ปีที่เพิ่งเลิกงานหลังจากทำโอทีจนดึก ก้าวออกจากสำนักงานพร้อมร่มคันเล็กที่ไม่อาจกันฝนได้อย่างสมบูรณ์ เส้นผมยาวที่เคยเรียบร้อยตอนนี้เปียกลู่แนบใบหน้า เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เธอสวมก็เปียกจนแนบกับลำตัว เผยให้เห็นสัดส่วนอันน่ามอง
เธอรีบโบกแท็กซี่อย่างเร่งรีบ รถแท็กซี่คันหนึ่งจอดสนิทตรงหน้า กระจกรถเลื่อนลงเผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่มีสายตาเป็นมิตร
"ไปซอยปรีดานะคะ ลุงรีบหน่อยได้ไหม ฝนตกแบบนี้เดี๋ยวรถจะติดค่ะ" แพมพูดอย่างเหนื่อยอ่อน พลางเปิดประตูขึ้นไปนั่ง
เมื่อประตูปิดลง ลุงคนขับเหลือบมองผ่านกระจกมองหลัง สายตาของเขาหยุดอยู่ที่เรือนร่างที่เปียกชื้นของแพม เสื้อเชิ้ตสีขาวที่แนบเนื้อทำให้ลุงถึงกับกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว เขาพยายามดึงสายตากลับไปที่ถนน แต่ความคิดบางอย่างยังวนเวียนในหัว
"ขอโทษนะครับ ฝนตกหนักแบบนี้ ถนนก็ลื่นด้วย" ลุงแกพูดพลางปรับกระจกมองหลังให้เห็นชัดขึ้นอีกนิด
แพมไม่ได้สังเกต เธอเอามือลูบเส้นผมที่เปียกชื้นอย่างลวกๆ พลางถอนหายใจ “เหนื่อยชะมัดเลย... ชีวิตนี้มีแต่โอที”
ลุงยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบ “ทำงานหนักแบบนี้ ระวังสุขภาพด้วยนะครับคุณ”
“ค่ะ ขอบคุณนะลุง” แพมตอบเรียบๆ ขณะเอนตัวพิงเบาะ สะโพกของเธอแนบกับผ้าคลุมเบาะที่ค่อนข้างบาง ลุงเหลือบมองเล็กน้อยแล้วรีบดึงสายตากลับไป
ฝนตกหนักจนถนนลื่น ลุงจึงหยุดรถชั่วคราวเมื่อถึงสัญญาณไฟแดง เขาหันมาพูดกับแพม "เปียกแบบนี้ เดี๋ยวไม่สบายเอานะครับ เสื้อคุณดูจะบางมากด้วย"
แพมยกมือปิดหน้าอกตัวเองอย่างลวกๆ เมื่อรู้ตัว เธอหันมาพูดติดตลก “ก็ช่วยไม่ได้ค่ะ ฝนมันมาไม่ทันตั้งตัว”
ลุงหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เสื้อเปียกชื้นของเธอ ก่อนจะเผลอพูดออกมา "มันทำให้... เอ่อ... ดูดีไปอีกแบบนะครับ"
แพมหันมามองลุงด้วยสายตาฉงน ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “ลุงนี่ตลกดีนะ” เธอพูดพร้อมยกมือปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นหัวเราะ
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมหมายถึง... เอ่อ... แค่ล้อเล่นครับ" ลุงรีบแก้ตัว ใบหน้าเริ่มแดงเล็กน้อย
ระหว่างที่รถแล่นต่อ เสียงฝนกระทบกระจกยังคงดังอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศในรถเริ่มอึดอัดเล็กน้อยเมื่อทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันอีก แพมนั่งไขว่ห้างโดยไม่รู้ตัวว่าการกระทำนั้นทำให้กระโปรงที่เปียกของเธอยิ่งรัดรูปขึ้น ลุงเหลือบมองเธออีกครั้งผ่านกระจกมองหลัง แววตาของเขาฉายประกายบางอย่างที่ยากจะอธิบาย
*******************
ตอนที่ 2: สายตาที่ล่วงล้ำ
เสียงฝนยังคงกระหน่ำไม่หยุด แสงไฟจากถนนที่สะท้อนผ่านกระจกหน้าต่างทำให้บรรยากาศในรถยิ่งดูอึมครึมและเปลี่ยวเหงา ลุงแท็กซี่ขับต่อไปด้วยจิตใจที่ไม่สงบ เขาพยายามควบคุมความคิดตัวเองแต่ก็ไม่อาจละสายตาไปจากกระจกมองหลัง
แพมนั่งไขว่ห้าง เอนตัวพิงเบาะพลางลูบเส้นผมเปียกชื้นที่แนบหน้าออกอย่างหงุดหงิด ความเปียกของเสื้อเชิ้ตสีขาวยังคงเผยให้เห็นรูปร่างโค้งเว้าของเธอชัดเจนกว่าปกติ ลุงแท็กซี่เผลอมองอีกครั้ง คราวนี้สายตาของเขาลากไปตามแนวคอเสื้อที่เปิดเผยมากขึ้น เพราะเนื้อผ้าที่บางเบาจากความเปียกน้ำ
ลุงกลืนน้ำลายอีกครั้ง เสียงกลืนนั้นเงียบแต่กลับดังก้องในใจของเขาเอง เขาหันไปมองถนน แต่สายตาก็ยังคงแวะกลับมาที่เธอผ่านกระจกทุกครั้งที่มีโอกาส
"เปียกแบบนี้คงหนาวน่าดูเลยนะครับ" ลุงพูดขึ้น ทำลายความเงียบ แต่เสียงของเขาฟังดูแผ่วเบาและแหบพร่า
แพมเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านกระจก ดวงตาสองคู่นั้นสบกันครู่หนึ่ง เธอยิ้มอย่างไม่คิดอะไร “ค่ะ หนาวเหมือนกัน แต่ดีที่รถลุงอุ่น”
“ใช่ครับ อุ่น...” ลุงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แต่ความคิดของเขากลับไม่ได้อยู่ที่ความอบอุ่นของรถ
สัญญาณไฟแดงหยุดรถอีกครั้ง ลุงคนขับมองเธอผ่านกระจกอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาจงใจปล่อยสายตาให้สำรวจมากขึ้น ตั้งแต่เส้นผมที่ชื้นน้ำจนถึงแผ่นอกที่ลมหายใจของเธอทำให้เนื้อผ้าขยับตามอย่างเด่นชัด
แพมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างแปลกไป เธอเหลือบมองกระจกมองหลังก่อนจะเห็นสายตาของลุงที่มองมาที่เธอ รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าเธอหายไปชั่วขณะ
“ลุงมองอะไรหรือคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความระแวดระวัง
ลุงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบหันกลับไปที่ถนน “เอ่อ... ไม่มีอะไรครับ ผมแค่... เห็นเสื้อคุณมันเปียกมาก เลยเป็นห่วง กลัวจะไม่สบาย”
แพมจ้องมองเขาผ่านกระจกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “ขอบคุณนะคะ แต่ลุงอย่ามองแบบนั้นดีกว่า มันทำให้รู้สึกแปลกๆ”
คำพูดของเธอเหมือนตบหน้าเขา ลุงคนขับรีบขอโทษด้วยเสียงที่อ่อนลง “ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ... แค่ เอ่อ... พอดีเห็นคุณสวย ก็เลย...”
บรรยากาศในรถเงียบลงอีกครั้ง แพมหันกลับไปมองนอกหน้าต่าง พยายามสงบจิตใจ แต่เธอรู้ดีว่าสายตาของลุงยังคงจับจ้องมาที่เธอ
ลุงคนขับลอบกลืนน้ำลายอีกครั้ง ความอึดอัดเริ่มแผ่ซ่านทั่วทั้งรถ ท่ามกลางเสียงฝนที่ยังคงตกหนัก
*************
ตอนที่ 3: น้ำหอมต้องห้าม
เสียงฝนยังคงตกหนัก เส้นทางที่มืดมิดข้างหน้าดูยาวนานกว่าปกติ แพมหยิบกระเป๋าถือของเธอขึ้นมาเปิด เพื่อหากระดาษทิชชู่เช็ดเส้นผมที่เปียก เธอค้นไปเรื่อยๆ แต่ดันไปปัดโดนขวดน้ำหอมเล็กๆ ที่เธอพกไว้ใช้งานส่วนตัว
ขวดน้ำหอมหล่นลงบนเบาะ กระแทกจนฝาเปิด กลิ่นหอมอบอวลฟุ้งกระจายไปทั่วรถทันที แพมหยุดนิ่งไปชั่วครู่เมื่อกลิ่นนั้นกระทบจมูก เธอจำได้ว่าน้ำหอมขวดนี้ไม่ใช่น้ำหอมธรรมดา แต่มันเป็นน้ำหอมที่มีสารบางอย่างที่เคยอ่านเจอว่าอาจช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางอารมณ์
ลุงแท็กซี่ที่ขับอยู่ก็รู้สึกถึงกลิ่นเช่นกัน เขาสูดลมหายใจลึกโดยไม่รู้ตัว "กลิ่นหอมดีจังเลยนะครับ คุณใช้น้ำหอมอะไร?"
แพมหน้าแดงเล็กน้อย เธอพยายามเก็บขวดน้ำหอมเข้ากระเป๋าทันที “เอ่อ... ขอโทษค่ะ มันหล่น...” เธอรีบพูดเหมือนไม่อยากขยายความ
แต่กลิ่นนั้นกลับเริ่มมีผลต่อเธอเอง หัวใจเธอเริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ร่างกายรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาท่ามกลางความหนาวเย็นจากฝนข้างนอก เธอกลืนน้ำลายอย่างฝืนทน พยายามไม่สนใจความรู้สึกประหลาดที่กำลังก่อตัว
"หอมจนรู้สึกสบายใจเลยครับ" ลุงแท็กซี่พูดขึ้นอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย แต่แพมกลับรู้สึกว่าอากาศในรถเริ่มหนักอึ้งและอึดอัดขึ้น
“ค่ะ... เอ่อ ขอโทษนะคะ มันไม่ใช่น้ำหอมธรรมดา” แพมพึมพำด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง พยายามสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบตัวเอง แต่กลิ่นหอมยังคงวนเวียน
ความรู้สึกบางอย่างในตัวแพมเริ่มก่อตัว ความอบอุ่นที่พุ่งขึ้นมาทำให้เธอเผลอยกมือขึ้นลูบแขนของตัวเองเบาๆ เพื่อข่มอารมณ์ เธอกัดริมฝีปากตัวเอง พยายามสะกดทุกความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน
ลุงคนขับหันมามองเธอผ่านกระจกมองหลังอีกครั้ง คราวนี้เขาสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของแพม ริมฝีปากที่ดูเหมือนขยับน้อยๆ ดวงตาที่หลบมองต่ำ และท่าทางที่ดูไม่สบายตัว
"คุณโอเคไหมครับ?" ลุงถามด้วยความเป็นห่วง แต่ในน้ำเสียงนั้นแฝงด้วยความสนใจบางอย่าง
“ค่ะ... ฉันโอเค” แพมตอบกลับเสียงเบาแต่ฟังดูสั่นเล็กน้อย เธอรีบเปลี่ยนท่านั่ง พยายามปรับตัวเองให้สงบนิ่งที่สุด
ลุงแท็กซี่แอบสูดกลิ่นหอมอีกครั้ง มันเริ่มมีผลกับเขาเช่นกัน หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น มือที่จับพวงมาลัยเริ่มกระชับแน่นมากกว่าเดิม เขาพยายามไม่สนใจความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ในรถที่ปิดสนิทและอบอวลด้วยกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ธรรมดานั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัดและความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
******