6 อาหาร กลิ่นแรง! (แทบทนไม่ไหว) แต่ดีต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ!
ใครว่าของอร่อยต้องหอมหวานเสมอไป? บางครั้ง "กลิ่น" ที่ชวนสะอิดสะเอียน อาจซ่อน "คุณประโยชน์" ไว้มากมายอย่างคาดไม่ถึง! วันนี้เราจะพาไปสำรวจ 6 อาหาร ที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นแรง จนหลายคนต้องเบือนหน้าหนี แต่กลับอัดแน่นไปด้วยพลัง บำรุงสุขภาพ แบบที่คุณต้องทึ่ง!
1. ทุเรียน (Durian)
ราชาแห่งผลไม้ กับฉายา "หมอนทอง" ที่ใครๆ ก็หลงใหล แต่กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ก็ทำให้หลายคน "ยี้" ไม่แพ้กัน ทุเรียนอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และ "สารต้านอนุมูลอิสระ" สูง ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แถมยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แต่ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะมีน้ำตาล และ ไขมันสูง
2. สะตอ (Sato)
ผักพื้นบ้าน กลิ่นแรง ที่นิยมนำมาทำอาหาร "ผัดสะตอกุ้ง" "แกงสะตอ" สะตอมี "สารฟลาโวนอยด์" สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และ โรคหัวใจ แถมยังมี "กำมะถัน" ช่วยขับลม แก้ท้องอืด แต่ข้อควรระวังคือ สะตอมี "กรดยูริก" สูง ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรหลีกเลี่ยง
3. ปลาร้า (Pla Ra)
วัตถุดิบหลัก ในอาหารอีสาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่น "สุดจี๊ด" ปลาร้า อุดมไปด้วย "โปรตีน" "แคลเซียม" และ "วิตามินบี 12" ช่วยบำรุงกระดูก และ ระบบประสาท แต่ควรเลือกปลาร้าที่ผ่านการหมัก และ ปรุงสุกอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัย
4. กะปิ (Kapi)
เครื่องปรุงรส ที่ขาดไม่ได้ ในครัวไทย กลิ่นฉุน แต่รสชาติ "กลมกล่อม" กะปิ มี "แคลเซียม" สูง ช่วยบำรุงกระดูก และ ฟัน แถมยังมี "โปรไบโอติก" ช่วยปรับสมดุลลำไส้ แต่ควรเลือกกะปิที่สะอาด และ มีคุณภาพ
5. ชะอม (Cha-om)
ผักพื้นบ้าน ยอดอ่อน มีกลิ่นเฉพาะตัว ที่หลายคน "ไม่ปลื้ม" ชะอม อุดมไปด้วย "วิตามินเอ" "วิตามินซี" และ "เบต้าแคโรทีน" ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แถมยังมี "แคลเซียม" และ "ฟอสฟอรัส" ช่วยบำรุงกระดูก
6. กระเทียม (Garlic)
สมุนไพร คู่ครัวไทย กลิ่นแรง แต่สรรพคุณ "ล้นเหลือ" กระเทียม มี "สารอัลลิซิน" ช่วยลดไขมัน ความดันโลหิต และ ระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังมีฤทธิ์ "ฆ่าเชื้อ" "ต้านการอักเสบ" แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาจทำให้เกิดกลิ่นตัว และ ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
เห็นไหมว่า อาหารกลิ่นแรง ที่หลายคน "ร้องยี้" กลับมีประโยชน์ ต่อสุขภาพมากมาย ใครที่ยังไม่กล้าลอง เปิดใจ แล้วลิ้มรสชาติ (และ กลิ่น) ของอาหารเหล่านี้ดู รับรองว่า คุณอาจ "ติดใจ" ก็เป็นได้!