หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ต้นกำเนิดกำแพงเมืองจีน!!

แปลโดย เลือดกรุ๊ปบี

กำแพงเมืองจีนถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี เริ่มต้นจากยุคที่จีนยังเป็นรัฐแยกกันหลายรัฐ การสร้างกำแพงเมืองจีนมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและมีการบูรณะหลายครั้งในหลายยุคสมัยจนถึงยุคราชวงศ์หมิง ต่อไปนี้คือรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับต้นกำเนิดและการพัฒนาของกำแพงเมืองจีน:

 

1. กำเนิดในยุคจ้านกั๋ว (475-221 ปีก่อนคริสตกาล)

ในยุค จ้านกั๋ว (หรือยุครัฐสงคราม) จีนแบ่งออกเป็นรัฐเล็ก ๆ หลายรัฐ เช่น รัฐฉิน รัฐเจ้า และรัฐเยี่ยน แต่ละรัฐต้องการป้องกันตนเองจากการโจมตีของรัฐอื่นและชนเผ่าเร่ร่อนจากทิศเหนือ โดยเฉพาะชนเผ่าซงหนู (Xiongnu) ที่มักบุกเข้ามารุกรานในฤดูหนาว

แต่ละรัฐจึงสร้างแนวกำแพงที่ทำจากดินอัดและไม้เพื่อล้อมพื้นที่ของตน กำแพงในยุคนั้นยังคงเป็นแนวกำแพงที่แยกกันและกระจัดกระจายอยู่ตามรัฐต่าง ๆ

 

2. การรวมกำแพงในสมัยจักรพรรดิฉินที่ 1 (ราชวงศ์ฉิน, 221-206 ปีก่อนคริสตกาล)

เมื่อถึง สมัยราชวงศ์ฉิน จักรพรรดิ ฉินซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang) ได้รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียว และเพื่อสร้างความมั่นคงทางการทหาร จึงมีคำสั่งให้เชื่อมกำแพงที่สร้างขึ้นในรัฐต่าง ๆ ให้เป็นแนวกำแพงยาวต่อเนื่อง

การสร้างกำแพงในยุคนี้ทำจากดินอัดเป็นหลัก แต่มีการระดมแรงงานจำนวนมากจากประชาชนและทหาร การสร้างกำแพงใช้แรงงานอย่างหนัก และมีคนเสียชีวิตจำนวนมากในระหว่างการก่อสร้าง

 

3. การบูรณะในสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220)

หลังจากราชวงศ์ฉินล่มสลาย ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) ได้ขึ้นครองอำนาจ จักรพรรดิฮั่นก็มองเห็นความสำคัญของกำแพงเมืองจีนในการป้องกันการรุกรานจากเผ่าเร่ร่อน จึงมีการบูรณะและขยายกำแพงเพิ่มเติม

กำแพงที่สร้างในสมัยฮั่นนี้มีลักษณะยาวและกว้างขึ้นอย่างมาก ครอบคลุมเส้นทางค้าขายที่สำคัญเช่น เส้นทางสายไหม เพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรูที่อาจมาจากทางเส้นทางนี้

 

4. การเสริมสร้างในสมัยราชวงศ์สุยและถัง (ค.ศ. 581-907)

สมัยราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง มีการบูรณะกำแพงเมืองจีนในบางส่วนที่เสื่อมสภาพ เพื่อรักษาแนวป้องกันจากเผ่าเร่ร่อนทางตอนเหนือ แต่เนื่องจากในยุคนี้จีนมีความมั่งคั่งและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชนเผ่าทางเหนือ การสร้างกำแพงเมืองจีนจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็นมากนัก และมีการทิ้งร้างบางส่วนไป

 

5. การฟื้นฟูและสร้างใหม่ในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644)

เมื่อเข้าสู่ยุคราชวงศ์หมิง กำแพงเมืองจีนได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ เนื่องจากราชวงศ์หมิงเผชิญกับภัยคุกคามจากชาวมองโกลและชนเผ่าอื่น ๆ จากทิศเหนือ

กำแพงเมืองจีนที่เห็นในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นผลงานจากยุคราชวงศ์หมิง กำแพงถูกสร้างด้วยหินและอิฐที่มีความทนทานสูง โดยมีการออกแบบให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และสามารถใช้เป็นแนวป้องกันทางทหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากตัวกำแพงหลักแล้ว ยังมีการสร้างป้อมปราการ หอสังเกตการณ์ และสถานีส่งสัญญาณไฟ เพื่อให้สามารถสื่อสารและเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว

 

6. ลักษณะและการออกแบบกำแพงในยุคราชวงศ์หมิง

กำแพงเมืองจีนในยุคหมิงมีความยาวกว่า 21,000 กิโลเมตร สูงประมาณ 6-7 เมตร และกว้างประมาณ 4-5 เมตร บางจุดสูงถึง 14 เมตร

ส่วนประกอบหลักของกำแพงประกอบด้วยหอสังเกตการณ์ที่ตั้งห่างกันประมาณ 500 เมตร สามารถใช้เป็นจุดเฝ้าระวังและส่งสัญญาณไฟเตือนถึงการโจมตี

ในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา กำแพงถูกออกแบบให้มีลักษณะตามแนวภูเขา เพื่อใช้ประโยชน์จากความสูงชันในการป้องกันศัตรู

 

7. กำแพงเมืองจีนในปัจจุบัน

กำแพงเมืองจีนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987

ในปัจจุบันบางส่วนของกำแพงเมืองจีนมีการชำรุดเสียหายจากสภาพอากาศและการขาดการบำรุงรักษา อย่างไรก็ตาม ส่วนที่มีชื่อเสียง เช่น บริเวณ Badaling และ Mutianyu ในกรุงปักกิ่ง ได้รับการบูรณะเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

 

ความสำคัญของกำแพงเมืองจีน

กำแพงเมืองจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งก่อสร้างทางการทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ความมุ่งมั่นของประชาชนชาวจีน และยังแสดงถึงความสามารถในการจัดการทรัพยากรเพื่อความมั่นคงของชาติ กำแพงเมืองจีนสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของจีนที่ยาวนานนับพันปี

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เลือดกรุ๊ปบี's profile


โพสท์โดย: เลือดกรุ๊ปบี
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: เลือดกรุ๊ปบี
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"กินโกโก้" มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย“ถึงเวลาแล้วหรือยัง... ที่คนไทยรุ่นใหม่ควรได้เรียน ‘วิชาวิพากษ์’ บนโลกออนไลน์” (กรณีศึกษา: เสียงพากย์ Superman – จากคำติ สู่การด่าจิกหัว)ญี่ปุ่นมีจริง บริการ “เช่าคนชรา” จะเหงา จะขาดคุณตาคุณยาย ก็จ้างได้!อำเภอเดียวของจังหวัดในภาคกลาง ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับต่างประเทศเลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" มาแล้ว! งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..คอหวยส่องด่วน!อีลอน มัสก์ ประกาศตั้ง “America Party” เขย่าการเมืองสหรัฐฯวัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม เทพสถิตชัยภูมิกัมพูชาโวย! วัดภูม่านฟ้าไทย เลียนแบบนครวัด!!วัดถาวรชัยศิริ (ด้อแด้)ติ๊กต๊อกเกอร์ชื่อดังของไทย ถูกแก๊งค์เหงียนตัดมือขาดทะเลทรายเพียงแห่งเดียวในโลก ที่มีนกเพนกวินอาศัยอยู่ตามธรรมชาติไทยเปิดดีลนำเข้าหมูสหรัฐ คนไทยได้อะไร? ใครได้–ใครเสีย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนังไทยที่ขาดทุนมากที่สุด เท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติไว้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ข้อดีของการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นที่ไม่ควรมองข้ามมาเลย์เตรียมสร้างกำแพงกั้นไทย! คนไทยเฮลั่น! โจรใต้หนาวแน่ งานนี้ใครหน้าแหกมาดู!"นัตโตะ" อาหารกลิ่นแรง แต่แรงดีไม่มีตก! บุกโรงงานต้นตำรับที่ญี่ปุ่น พร้อมเคล็ดลับแปลงร่างให้กินง่ายสไตล์ไทยๆ"กินโกโก้" มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
ตั้งกระทู้ใหม่