11 สัญญาณเตือน โรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ เป็นภาวะหนึ่งของโรคสมองเสื่อม ที่พบมากถึง 60-80% ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทั้งหมด เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในสมองตาย หรือ ไม่ทำงาน ส่งผลให้สมองส่วนที่เหลือทำงานได้ไม่เต็มที่ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา สมองจะเสื่อมลงอย่างมากและรุนแรงขึ้น จนในที่สุดผู้ป่วยอัลไซเมอร์จะไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- อาการของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์เริ่มด้วยขี้ลืม หากละเลยอาการเริ่มต้น คิดว่าเป็นเพียงความขี้ลืมปกติ อาการอาจแย่ลงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
- ผู้ที่มีกรรมพันธุ์โรคอัลไซเมอร์จะมีความเสี่ยงสูง แต่หากดูแลสุขภาพอย่างดี สามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ลงได้ถึง 32% เมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้ชีวิตแบบไม่ใส่ใจสุขภาพ
- ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาดได้ มีเพียงการรักษาประคับประคองให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตัวเองด้วยการใช้ยา ซึ่งผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรวมถึงควบคุมอาการของโรคประจำตัวอื่น ๆ ร่วมด้วย
อาการ และ ความรุนแรง
อาการของโรคอัลไซเมอร์จะดำเนินไปเรื่อย ๆ กินเวลาหลายปี โดยจะแสดงอาการตามระยะเสื่อมของสมอง 3 ระยะ ดังนี้
1.อาการระยะแรก
อาการแรกของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ เริ่มด้วยความขี้หลงขี้ลืม ลืมเรื่องที่เพิ่งพูดไป หรือ ลืมเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น ย้ำคิดย้ำทำ ถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ ลังเล ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่าย ๆ ได้ รวมถึงมีความวิตกกังวลมากขึ้น ตื่นตกใจง่าย อาจมีอารมณ์เปลี่ยนแปลง
2.อาการระยะปานกลาง
หากผู้ป่วยละเลยอาการเริ่มต้น คิดว่าเป็นเพียงความขี้ลืมปกติ ปัญหาความจำอาจแย่ลงจนไม่สามารถจำชื่อคนรู้จัก หรือ ไม่สามารถลำดับเครือญาติคนใกล้ชิดได้ว่าใครเป็นใคร รวมถึงอาจมีอาการสับสน ลืมวันเวลา นอนไม่หลับ และที่พบบ่อยคือหลงทาง ไม่สามารถหาทางกลับบ้านเองได้ ความรุนแรงของอาการระยะปานกลางอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย หรือ เกิดภาวะซึมเศร้า
3.อาการระยะสุดท้าย
เป็นระยะที่รุนแรง จนผู้ป่วยเกิดภาพหลอน เรียกร้องความสนใจ หรือ ก้าวร้าวขึ้น อาการทางกาย เช่น เคี้ยวอาหารและกลืนได้ลำบาก เคลื่อนไหวช้าลง หรือ ไม่สามารถเดินเองได้ ปัสสาวะ/อุจจาระเล็ด เนื่องจากกลั้นไม่อยู่ และ สูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องพึ่งพาผู้อื่นในเรื่องง่าย ๆ เช่น ป้อนข้าว อาบน้ำ ฯลฯ
11 สัญญาณเตือน โรคอัลไซเมอร์
1.มีการหลงลืมที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น ลืมในเรื่องที่เพิ่งผ่านเข้ามาเร็ว ๆ นี้ ลืมวัน ลืมเหตุการณ์สำคัญ ถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องใช้เครื่องมือในการช่วยจำ เช่น สมุดจด หรือ บุคคลในครอบครัวคอยช่วยเหลือ
2.เสียความสามารถในการวางแผน หรือ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ เป็นขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง เช่น ลืมขั้นตอนจ่ายเงินเมื่อไปธนาคาร การขับ/ขี่ ยาพาหนะ
3.รู้สึกยากลำบากในการทำงานที่คุ้นเคย ไม่ว่าที่บ้าน ที่ทำงาน หรือ เวลาพักร้อน เช่น ขับรถไปในสถานที่ที่ไปประจำ จำกฎกติกาของกีฬาที่เล่นประจำไม่ได้
4.รู้สึกสับสนกับเวลา สถานที่ ในขณะหนึ่ง เช่น ไม่รู้วันที่ ฤดูกาล เวลา ลืมสถานที่ที่ตัวเองอยู่ ไม่รู้ว่าจะไปสถานที่นั้น ๆ อย่างไร
5.รู้สึกลำบากที่จะเข้าใจในภาพที่เห็น และ ความสัมพันธ์ระหว่างภาพที่เห็นกับตัวเอง เช่น อ่านหนังสือเข้าใจลำบากขึ้น กะระยะทางยากขึ้น วางของบนโต๊ะแต่มักปล่อยลงก่อนถึงโต๊ะ บอกสีต่าง ๆ ยากขึ้น
6.มีปัญหาในการค้นหา หรือ ใช้คำที่เหมาะสมในการพูด การเขียน เช่น มักจะหยุดระหว่างกำลังสนทนา ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรต่อ อาจพูดคำเดิมประโยคซ้ำ ๆ
7.จำชื่อคนรู้จักไม่ได้
8.ลืมของไว้ในที่ที่ไม่ควรวาง หรือ เก็บไว้และไม่สามารถย้อนนึกกลับไปได้ว่าวางไว้ที่ใด
9.ความสามารถในการตัดสินใจลดลง หรือ สูญเสียไป เช่น ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรกับตนเอง ไม่ทำผม ไม่อาบน้ำ เมื่อจะไปงานสำคัญ
10.มีการแยกตัวออกจากงานที่ทำ กิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น ปกติจะไปเล่นกีฬา พบปะเพื่อนทุกสัปดาห์ แต่วันหนึ่งกลับไม่ไปโดยไม่มีเหตุผลใด ๆ
11.อารมณ์และบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไป เช่น ดูสับสน วิตกกังวล หวาดกลัว
การชะลอการเกิดอัลไซเมอร์
จากการประชุมนานาชาติของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ ประจำปี 2562 ที่ลอสแองเจลิส ระบุว่าการดำเนินชีวิตอย่างรักสุขภาพจะส่งผลดีต่อสมอง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ และ โรคสมองเสื่อมอื่นได้ โดยการปฏิบัติดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และ สมอง
- ไม่สูบบุหรี่ และ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- มีกิจกรรมการกระตุ้นความคิด
โดยมีสองงานวิจัยในการประชุมชี้ว่า ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสุขภาพ หรือ เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ได้
สำหรับอีกรายงานได้ยืนยันว่า การพักอาศัยในบริเวณที่มีมลภาวะสูงจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์สูงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้หญิงสูงวัยที่ใช้สมองอยู่เสมอ มีศักยภาพการทำงานสูง (วัดจากคะแนนการทำงานของสมอง ระยะเวลาที่เรียนหนังสือ หน้าที่การงาน กิจกรรมทางกายภาพ) มีความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นเพียง 21% ต่างจากผู้ที่ไม่ค่อยได้บริหารสมอง จะมีความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นถึง 113%
หากพบสัญญาณเตือนข้อใดข้อหนึ่ง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่เริ่มแรกและรับการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด