ปฏิบัติธรรมแล้วได้อะไร
หลังจากกลับจากปฏิบัติธรรม4วัน3คืน มีคนถามว่าคิดยังงัยถึงไป ไปแล้วได้อะไร อืมม..ที่ไปเพราะอยากไปรู้วิธีการนั่งสมาธิที่ถูกต้อง อยากไปเพื่อได้ส่งบุญได้มากๆให้กับผู้ล่วงลับหรือสัตว์หรืออะไรต่างๆที่เราอยากแผ่ให้ เพราะเคยได้ยินว่าการวิปัสสนาหรือทำสมาธิมันเป็นกุศลมากๆ และไปแล้วได้อะไร ตอบว่าได้มาเยอะแบบที่คาดไม่ถึงเลย เข้าใจง่ายๆคือได้เทคนิคในการเข้าถึงสมาธิ เทคนิคในการฝึกจิตให้ไปในทางกุศล การดึงจิตให้อยู่ในทางที่ควรและใจเย็นมากขึ้น
สิ่งที่หลวงพ่อสอนมันเหมือนปรัชญา เหมือนเราเข้าใจหลักอยู่แล้วล่ะแต่ทำไม่ง่ายในคนธรรมดา ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกิเลส แต่พอเราได้ไปฟังท่าน มันทำให้ได้เทคนิคในการฝึกจิต พอจิตเป็นกุศล บุญมันก็เกิด บุญคือความสบายใจความสุข ทุกวันจิตมันฟุ้งซ่าน 1นาทีเราคิดไปได้หลายเรื่อง ส่งจิตไปหลายที่หลายจุด การที่เราได้หยุด ได้ดึงจิตให้กลับมานิ่งได้ มันทำให้มีสติ พอเรามีสติเราก็จะไม่ไปในทางไม่ดี ที่เราทำผิดพลาดไปเพราะเราไม่มีสติ กิเลสมีอยู่ตลอด มันมายั่วมันอยู่รอบตัว เราต้องหมั่นฝึกจิตฝึกให้มีสติแล้วเราจะไม่ผิดไม่พลาด หลักมันคือเท่านี้เอง แต่ต้องหมั่นฝึก ไม่จำเป็นต้องไปปฏิบัติที่วัดก็ได้ แต่หากอยากสงบอยากได้เร็ว ถ้ามีเวลามีโอกาส การเข้าฝึกที่วัดที่เค้าจัดให้มันจะดีมากๆ ไม่ต้องเคร่ง ไม่ต้องเครียด เอาแค่สบายๆ เพราะถ้าไปคิดว่าต้องได้ๆ ท่านว่ามันเป็นการยึดติด ยึดมั่นถือมั่นก็ไม่ดีอีก
เชื่อมั้ยว่าไป4วัน3คืน ทำสมาธิ เดินจงกลมทุกวันๆละหลายชม. แต่รู้สึกว่าได้เกิดสมาธิจริงๆคือแค่ครั้งเดียวในวันที่3 มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต มันเบา สบาย สงบ ลืมตาขึ้นมาเหมือนเราหลับลึกมาแล้วสดชื่น มีความสุข เพราะก่อนหน้านี้นั่งสมาธิคือหลับ หลับจริงๆแบบสัปหงกหัวโยกหัวหงาย ท่านว่าเพราะจิตเราตก ถ้าเราไม่ดึงจิต มันจะตกไปภวังค์ นั่นคือหลับ สรุปง่ายๆคือเราสามารถฝึกจิตได้ โดยนำเทคนิคที่ได้มาจากการไปปฏิบัติธรรมที่วัดมาใช้ แนวคิดต่างๆที่ได้จากคำสอนของท่านคือดีมาก มันอิ่มใจมันสุขใจ ถ้ากายพร้อมใจพร้อมคิดว่าไปอีกแน่นอน จากประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ