แม่ไม่เห็นด้วยกับความรัก จึงขังแบลนช์ มอนนิเยร์ นานถึง 25 ปี ก่อนได้รับการช่วยเหลือ
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มีเรื่องราวที่สะท้อนถึงความโหดร้ายและความทุกข์ทรมานที่เกิดจากความรักและความเข้าใจผิด หนึ่งในเรื่องราวที่น่าสลดใจที่สุดคือการถูกกักขังของแบลนช์ มอนนิเยร์ (Blanche Monnier) หญิงสาวผู้ถูกซ่อนเร้นจากโลกภายนอกเป็นเวลานานถึง 25 ปี เนื่องจากความไม่เห็นด้วยของครอบครัวเกี่ยวกับความรักของเธอ
แบลนช์เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1849 ในเมืองปัวติเยร์ ประเทศฝรั่งเศส เธอเป็นหญิงสาวที่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝัน แต่เมื่อเธอตกหลุมรักทนายความหนุ่มที่ไม่มีเงินทอง แม่ของเธอ ลุยส์ มอนนิเยร์ กลับมองว่าเขาไม่คู่ควรกับลูกสาวของเธอ ความรักที่บริสุทธิ์กลับกลายเป็นเหตุผลให้แบลนช์ต้องเผชิญกับโชคชะตาที่โหดร้าย
ในปี ค.ศ. 1876 เมื่อแบลนช์ยังคงยืนกรานในความรักของเธอ แม่ของเธอจึงตัดสินใจล็อกเธอไว้ในห้องเล็กๆ ที่มืดมิดในบ้าน โดยไม่ให้มีการติดต่อกับโลกภายนอก การถูกกักขังนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจำกัดเสรีภาพ แต่ยังเป็นการทำลายจิตใจและสุขภาพของเธออย่างช้าๆ ในช่วงเวลาที่เธอถูกขังอยู่ แบลนช์ต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย เธอใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งโสโครกและขาดสารอาหาร จนกระทั่งน้ำหนักตัวของเธอลดลงเหลือเพียง 25 กิโลกรัม
การช่วยเหลือแบลนช์เกิดขึ้นเมื่อมีจดหมายลึกลับส่งถึงอัยการสูงสุดแห่งปารีสในปี ค.ศ. 1901 จดหมายนี้เปิดเผยสภาพที่น่าสยดสยองที่แบลนช์ต้องทนทุกข์อยู่ ตำรวจจึงได้เข้าตรวจสอบและพบว่าเธออยู่ในสภาพที่เลวร้ายอย่างยิ่ง หลังจากได้รับการช่วยเหลือ แบลนช์ต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตอย่างรุนแรง รวมถึงโรคเบื่ออาหารและโรคจิตเภท
แม้ว่าแบลนช์จะได้รับการช่วยเหลือ แต่ชีวิตหลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับไปเป็นเหมือนเดิม เธอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในสถานดูแลสุขภาพจิต จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1913 เรื่องราวของแบลนช์ มอนนิเยร์ เป็นเครื่องเตือนใจให้เราเห็นถึงผลกระทบจากการละเมิดสิทธิและความรักที่ไม่เข้าใจ ซึ่งยังคงมีความสำคัญต่อการพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพจิตและการสนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว