สิ่งที่ยากที่สุด คือการยอมรับว่าตนเอง (เคย) คิดผิด
สิ่งที่ยากที่สุด คือการยอมรับว่าตนเอง (เคย) คิดผิด
รอน เคยอิจฉาที่แฮร์รี่ได้เป็นตัวแทนการประลองเวทย์ไตรภาคี เพราะเขาเชื่อ(เหมือนกับคนอื่นๆ) ว่าแฮร์รี่แอบเอาชื่อตัวเองใส่ลงไปในถ้วยอัคนี แต่คราวนี้แฮร์รี่แอบทำโดยไม่บอกเขา ความโกรธและความอิจฉาจึงประทุขึ้นในใจ ทำให้เขาถอยห่างออกมาจากเพื่อนสนิทเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมา กว่ารอนจะยอมรับว่าตนเองคิดผิดก็หลังจบภารกิจแรก
แต่จริงๆ แล้วรอนคงเริ่มคิดมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก่อนถึงวันทำภารกิจแรกของแฮร์รี่ โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งสองปะทะอารมณ์กันในห้องนั่งเล่นรวมบ้านกริฟฟินดอร์ เขาอาจมองอยู่ห่างๆ ดูแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ฝึกซ้อมคาถาเรียกของกัน ซึ่งนั่นอาจทำให้รอนเริ่มทบทวนตัวเองว่าเขาอาจคิดผิดไปจริงๆ
เช่นเดียวกับพี่ชายของเขา
เพอร์ซี่ ผู้ซึ่งหันหลังให้กับทุกคนในครอบครัว เพราะเขาเชื่อว่าทุกคนกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่จะเดินตามดัมเบิลดอร์ เพราะในเมื่อตอนนี้กระทรวง (ที่เขารักและเทิดทูน) ได้บอกออกมาว่าดัมเบิลดอร์ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว – ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะเป็นแค่ความเห็นต่างธรรมดาๆ แต่การพูดดูถูกพ่อของเขาเองต่างหาก น่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาตัดขาดจากครอบครัว
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ครอบครัวกับดัมเบิลดอร์ได้เตือนมาตลอด กลายเป็นความจริงในที่สุด แต่ที่ต่างจากรอน คือ เพอร์ซี่ไม่ได้กลับมาหาครอบครัวในทันที เขาใช้เวลาเกือบสองปีกว่าจะยอมรับได้ว่าตนเองคิดผิดไปจริงๆ
ถามว่าทำไมเพอร์ซี่ถึงใช้เวลานานกว่ารอนในการทบทวนตัวเอง เพราะ เขาคือเพอร์ซี่ วีสลีย์ไงล่ะครับ เด็กที่เรียนเก่ง ประวัติการศึกษาดี มุ่งมั่น ทะเยอทะยาน บ้างาน รักความสมบูรณ์แบบ สิ่งที่จะติดตัวคนอย่างเพอร์ซี่มาด้วย ก็คืออัตตาที่สูงลิบ และจริงอยู่ที่การยอมรับว่าตนเองเคยคิดผิดนั้นว่ายากแล้ว แต่การรวบรวมความกล้าเพื่อจะบอกออกมาว่า “ฉันผิดไป” ก็เป็นสิ่งที่ยากเหมือนกัน
โดยเฉพาะถ้าคุณมีอัตตาที่สูงเกินกว่าจะก้าวข้ามได้แบบเพอร์ซี่ (แต่สุดท้ายเขาก็เอาชนะมันได้)
ปล. เราชื่นชมทุกคนที่กล้าออกมายอมรับว่าเคยคิดผิดไป เพราะเราก็รู้ว่ามันยากและต้องใช้ความกล้ามากแค่ไหนในการต่อสู้กับตนเอง
อ้างอิงจาก: พอตเตอร์ไดอารี่