หญิงคนหนึ่งเกลียดรูปที่สามีเอาไปใส่กรอบแล้วแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น ต่อมาถึงได้พิสูจน์ทราบว่าเป็นผลงานของ ปาโบล ปิกัสโซ มีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของคนที่มีของดีอยู่กับตัว โดยที่เจ้าตัวไม่รู้จักและไม่รู้มูลค่าของมัน เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ อันเดรีย โล รอสโซ ชายวัย 60 ปี ได้พบภาพวาดเก่าในบ้านของเขา ซึ่งต่อมากลายเป็นผลงานของ ปาโบล ปิกัสโซ ซึ่งมีมูลค่าราวๆ 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐหรือมากกว่า 200 ล้านบาท ที่ถูกซ่อนไว้เป็นเวลานานหลายสิบปี เพียงเพราะแม่ของเขาเกลียดภาพวาดนั้น เขาเล่าว่า พ่อของเขาซึ่งทำงานเป็นพ่อค้าของเก่า กำลังทำความสะอาดห้องใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งในเมืองคาปรี ประเทศอิตาลี เมื่อปี พ.ศ. 2505
และได้พบชิ้นงานศิลปะชิ้นนี้เข้า พ่อของผมเป็นคนจากเกาะคาปรี และมักจะเก็บสะสมขยะเพื่อขายในราคาถูกมาก ถึงแม้จะมีลายเซ็นที่โดดเด่นที่มุมซ้ายบนของภาพวาด แต่พ่อของเขาก็ไม่รู้ว่าจิตรกรชาวสเปนคนนี้มีชื่อเสียง เขาพบภาพวาดนั้นก่อนที่ผมจะเกิดเสียอีก และเขาไม่รู้เลยว่าปิกัสโซเป็นใคร เขาไม่ใช่คนที่มีวัฒนธรรมมากนัก แม่ของผมไม่ต้องการเก็บมันไว้ เธอพูดตลอดว่ามันแย่มาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้เป็นภรรยาจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าภาพวาดนั้นน่าเกลียด แต่สามีก็ยังนำมันใส่กรอบราคาถูก
และจัดแสดงไว้ที่ผนังห้องนั่งเล่นในบ้านที่เมืองปอมเปอี และรักษาภาพวาดนั้นไว้เป็นเวลาหลายสิบปี ในขณะที่อ่านเกี่ยวกับผลงานของปิกัสโซในสารานุกรม ผมจะมองดูภาพที่บ้านและเปรียบเทียบกับลายเซ็นของเขา ผมบอกพ่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามันคล้ายกัน แต่พ่อไม่สนใจ อังเดรียที่สงสัยมาตลอดว่ามันเป็นผลงานของปิกัสโซจริงๆ เมื่อโตขึ้นเขาจึงตัดสินใจนำไปตรวจสอบลายเซ็นของจิตรกรชาวสเปนในที่สุด ครอบครัวของเขาต้องทนกับการสืบสวนภาพวาดดังกล่าวนานหลายเดือน
โดยขอความช่วยเหลือและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลายคน จนกระทั่งในที่สุด นักวิเคราะห์ลายมือชื่อ Cinzia Altieri สมาชิกคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ของ Arcadia Foundation ก็ยืนยันว่าลายเซ็นดังกล่าวเป็นของปิกัสโซ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลายเซ็นนั้นเป็นของเขา เชื่อกันว่างานศิลปะชิ้นนี้ถูกวาดขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2473 ถึง พ.ศ. 2479 และเป็นภาพเหมือนของโดรา มาร์ จิตรกรและช่างภาพชาวฝรั่งเศส ผู้เป็นที่รักของปิกัสโซ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด จนกระทั่งทั้งคู่เลิกรากันในปี พ.ศ. 2488 ก่อนที่ปิกัสโซจะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2516
โดยได้ผลิตงานศิลปะทิ้งไว้มากกว่า 14,000 ชิ้น มูลนิธิปิกัสโซในเมืองมาลากา ประเทศสเปน จะมีสิทธิ์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับความถูกต้อง ว่าเป็นภาพวาดต้นฉบับจริงหรือไม่ แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น ภาพวาดดังกล่าวจะถูกเก็บรักษาไว้ในห้องนิรภัยในเมืองมิลาน