หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ขาชา เกิดจากอะไร ? เกี่ยวข้องอย่างไรกับระบบประสาท ? อาจส่งสัญญาณเตือนโรคร้ายที่คาดไม่ถึง !

โพสท์โดย sompeansomped

 

อาการชา เป็นอาการผิดปกติของระบบประสาทรับความรู้สึก เกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่นิ้ว มือ แขน ขา หรือ เท้า เป็นอาการที่มีความรู้สึกเจ็บ ปวด ร้อน หรือ เย็นน้อยกว่าปกติ หรือ ไม่มีความรู้สึกเลย บางคนอาจรู้สึกซ่า ๆ บางคนมีอาการเหมือนมีอะไรยุบยิบ ๆ ตามปลายมือปลายเท้า แล้วก็หายไป หรือ อาจเป็นตลอด สาเหตุมาจากการอยู่ในท่าเดิมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ใช้งานอวัยวะส่วนนั้นบ่อย ๆ เช่น นั่งขัดสมาธิ จับเมาส์ นอนทับแขน เล่นโทรศัพท์มือถือ

 

ขาชา สัญญาณเตือนของโรคร้ายที่คาดไม่ถึง

หากพบว่าขาชาไม่ใช่เพียงอาการเหน็บชาที่เกิดขึ้นเพียงครู่หนึ่งเท่านั้น แต่ถ้ามีอาการขาชาบ่อยครั้ง หรือ มีความถี่มากจนเกินไปในหนึ่งวัน อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายทางสมองและระบบประสาท ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

 

1.โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

เป็นภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพจนไปกดเส้นประสาท ส่งผลให้เส้นประสาทเกิดการอักเสบ จะมีอาการปวดขา จนรู้สึกขาชาลงไปถึงน่องเหมือนเป็นตะคริว

ผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการขาชาที่อาจส่งผลต่อโรคหมอนรองกระดูกได้ เริ่มจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบง่าย ๆ เช่น ไม่นั่งอยู่เฉย ๆ เป็นเวลานาน เลี่ยงยกของหนัก หรือ ยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ

 

2.โรคปลายประสาทอักเสบ

เกิดจากความเสียหายของเส้นประสาท สาเหตุมักมาจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือ การกดทับเส้นประสาท อาการแรกเริ่มคือชามือชาเท้า ซึ่งหากรุนแรงมากขึ้นจะลามไปจนมีอาการขาชา หรือ แขนชาได้

ผู้ป่วยควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยืดเส้นยืดสาย ไม่อยู่ท่าเดิมนาน ๆ แต่อย่างไรก็ตาม การไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

 

 

การบรรเทาอาการจากโรคเส้นประสาทด้วยการรับประทานอาหารที่ให้มีปริมาณวิตามิน B ที่เพียงพอ สามารถช่วยได้ ซึ่ง วิตามิน B1 B6 และ B12 เป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญต่อการบำรุงรักษาเส้นประสาท พบได้จากอาหารหลายชนิด

 

วิตามิน B1 พบได้ในธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี สารสกัดจากยีสต์ ผลิตภัณฑ์จากถั่ว

 

วิตามิน B6 พบได้ในอาหารจำพวกปลาทูน่า ผักโขม ผักตระกูลปวยเล้ง กล้วย

 

วิตามิน B12 ได้จากไข่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเลประเภทกุ้ง ปู ผลิตภัณฑ์นม

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sompeansomped's profile


โพสท์โดย: sompeansomped
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: Thorsten, momon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ดราม่าแรง! ร้านอาหารจีนตลาดคลองเตย ไรเดอร์บอกเหม็นจนจะอ้วกจบเห่! DSI สั่งฟ้อง 18 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป ข้อหาอื้อ ฉาวสะเทือนวงการ!อาหาร 7 ชนิดที่คนท้องเสียไม่ควรกินเคล็ดลับ บำรุงผิวหน้าหนาว แก้ปัญหา “ผิวแตก” ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวันเกิดเหตุเครนล้มทับรางรถไฟฟ้า ก่อนรถไฟฟ้าวิ่งมาชนเละ ที่เซี่ยงไฮ้เขาพระวิหาร: สัญลักษณ์แห่งความงดงามและความขัดแย้ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวซื้อหมึกกรุบยี่ห้อดังไม่ตรงปก ทักแชทหาแอดมินเพจ กลับถูกด่าเฉย ชาวเน็ตฟันธงน่าจะโดนเพจปลอมเข้าเเล้วมายาลิฟเฟลล์ : ภูเขาไฟสีมรกตแห่งไอซ์แลนด์4 ราศี รวยไม่หยุด เตรียมรับดาวใหญ่ที่มาพร้อมกับเงินก้อนใหญ่ปี 2568
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
3 ขั้นตอน จัดบ้านรับปีใหม่ เสริมสิริมงคล ให้ปัง ตลอดทั้งปีอาหาร 7 ชนิดที่คนท้องเสียไม่ควรกินเคล็ดลับ บำรุงผิวหน้าหนาว แก้ปัญหา “ผิวแตก” ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวันสาวป่วยน้ำหนักลด และชอปปิ้งออนไลน์อย่างบ้าคลั่ง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคหายาก
ตั้งกระทู้ใหม่