อเมริกาเศรษฐกิจไม่ดี 7-11 ปิดไปแล้วเกือบ 450 แห่ง
เมื่อพูดถึง7-Eleven คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะไม่ว่าจะซอกไหนมุมไหนในประเทศไทยก็จะเห็น7-Eleven เต็มไปหมด บางครั้งบนถนนสายสั้นๆแค่เดินไม่เท่าไหร่ก็เจออีกสาขานึงแล้ว ถ้าจะบอกว่า7-Eleven ได้ประกาศปิดร้านค้าเกือบ 450 แห่ง คงไม่มีใครเชื่อ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงในอเมริกาเหนือ
สาเหตุหลักของการปิดร้าน7-Eleven ในอเมริกาเหนือ เนื่องจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไปทำให้ยอดขายลดลง โดยเฉพาะ ยอดขายบุหรี่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ปี 2019 ยอดขายบุหรี่ของ 7-Eleven ในอเมริกาเหนือลดลง 26% แม้ว่าบริษัทจะหันมาส่งเสริมผลิตภัณฑ์นิโคตินอื่นๆ แต่ก็ยังไม่ได้ยอดขายตามเป้าคาดหวัง รวมถึงผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง จึงตัดสินใจปิดสาขา 444 แห่งที่มีผลการดำเนินงานไม่ดี .
เมื่อเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง บริษัทต่างๆ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด 7-Eleven ก็หนีไม่พ้นความท้าทายนี้เช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันอาหารกลายเป็นหมวดที่มียอดขายสูงสุด บริษัทจึงตัดสินใจเปลี่ยนร้าน 7-Eleven ให้เป็นร้านที่เน้นอาหารเป็นหลัก โดยจะขายอาหารยอดนิยม เช่น นม ขนมปัง แซนด์วิชไข่ และมิโซะราเมนในร้านต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดผ่านการขายอาหารเหล่านี้ ซึ่งเดิมก่อนหน้านั้น การขายบุหรี่ถือเป็นแหล่งกำไรสำคัญของร้านสะดวกซื้อ