น้ำตา การร้องไห้ช่วยให้ดีขึ้น ประโยชน์ของน้ำตา ที่มากกว่า การเสียใจ
น้ำตาเกิดจากอะไร ?
น้ำตาผลิตขึ้นโดยต่อมน้ำตา ซึ่งอยู่ในเบ้าตาตรงมุมบนหัวตาไปถึงมุมหางตา จากนั้นจะส่งผ่านหลอดน้ำตา ซึ่งเป็นหลอดเล็ก ๆ อยู่ในเปลือกตาบนและล่าง ตรงมุมหัวตา เพื่อไปเก็บเอาไว้ที่ถุงน้ำตา ซึ่งอยู่หลังผิวหนังบริเวณระหว่างมุมหัวตาของเปลือกตากับดั้งจมูก
ประเภทของน้ำตา มี 3 ประเภท
- น้ำตาหล่อเลี้ยงลูกตา (basal tears)เป็นน้ำตาที่ช่วยหล่อลื่น บำรุง คอยหล่อเลี้ยงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ทำความสะอาด และปกป้องดวงตา
- น้ำตาที่หลั่งออกมาเมื่อมีสิ่งระคายเคือง (reflex tears)เป็นน้ำตาที่ร่างกายผลิตขึ้นเมื่อมีอาการ ระคายเคืองที่เกิดจากปัจจัยทางกายภาพต่าง ๆ อย่างเช่น อนุภาคฝุ่น ฝุ่นละออง ควัน หรือแม้กระทั่งขนตาที่หลุดเข้าตา ซึ่งน้ำตาเหล่านี้ไม่ได้เพียงแต่ช่วยชะล้างสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคืองเท่านั้น แต่ยังมีแอนติบอดี (antibody) หรือสารภูมิต้านทานที่ช่วยทำลายเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในดวงตาด้วย
- น้ำตาจากอารมณ์ (emotional tears) เป็นน้ำตาที่ถูกกระตุ้นโดยความรู้สึกที่แตกต่างกันทั้งใน ด้านบวก (ความสุข และความตื่นเต้น) และด้านลบ (ความโศกเศร้า ความโกรธ หรือความกลัว)
ประโยชน์ของ น้ำตา
1.ช่วยในการผ่อนคลาย
ในการศึกษาปี 2014 พบว่า การร้องไห้เป็นกลไกการปลอบโยนตนเองที่ดีที่สุด ทำให้ระบบประสาทรอบนอกเปิด (PNS) พวกเขาจึงรู้สึกถึงความผ่อนคลาย อารมณ์ที่เย็นลง ลดความทุกข์ในจิตใจ และยังช่วยในการย่อยอาหารได้ดี
ความโกรธ ความเสียใจ ที่เป็นอารมณ์เชิงลบ ความสุข การหัวเราะ ที่เป็นอารมณ์เชิงบวกนั้น สามารถเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้เราร้องไห้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน การเล่นสนุกกับเพื่อน การซาบซึ้งอะไรในบางอย่าง ช่วงนี้เองที่ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา รู้สึกราวกับได้รับการปลดปล่อยอะไรบางอย่าง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
2.ช่วยบูสต์อารมณ์
หลังจากร้องไห้เราจะรู้สึกดีขึ้น ผลสำรวจจากประชากร 2 ใน 3 ที่เห็นตรงกันกับเรื่องนี้ Ad Vingerhoets ผู้เขียน Why Only Humans Weep และเป็นศาสตราจารย์ด้านสังคมและพฤติกรรมศาสตร์ เนเธอร์แลนด์ กล่าวไว้ว่า หลายครั้งที่เราร้องไห้แล้วรู้สึกดีขึ้น ได้บูสต์อารมณ์กลับมา การที่ร้องไห้แล้วมีคนปลอบโยน คือ ความห่วงใย และความอบอุ่นที่เราได้รับ เมื่อเราแสดงออกทางอารมณ์ อย่างการร้องไห้
3.ช่วยเพิ่มการสื่อสาร
น้ำตาของทารก หรือเด็กเล็ก ช่วยเพิ่มความสนใจ และดึงดูดความช่วยเหลือได้อย่างทันที สิ่งนี้ถูกฝังลงไปในส่วนลึกของมนุษย์ เมื่อโตขึ้นเวลาเราเห็นใครร้องไห้ เราจะรับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลืออะไรสักอย่าง
4.ช่วยให้เราได้รับสิ่งที่ต้องการ
ผลการศึกษาชี้ว่า การร้องไห้ในสถานการณ์แบบนี้ทำให้คนอื่นรู้สึกผิด และมีแนวโน้มที่จะยอมรับในสิ่งเราต้องการ
5.น้ำตานั้นดีต่อดวงตา
น้ำตานั้นช่วยให้ดวงตาชุ่มชื่น และมีสุขภาพดี น้ำตาจะคอยป้องกันสิ่งสกปรก หรือควันเข้าตา ช่วยป้องกันไม่เกิดอาการ ตาแห้ง ตาเจ็บ ร้ายแรงที่สุดคือสูญเสียการมองเห็น
6.บรรเทาอาการปวดเมื่อย
นักวิจัย พบว่า การที่ร้องไห้ทำให้หลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) สารแห่งความสุขออกมา ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยทั่วทั้งร่างกาย
7.ส่งเสริมการนอนหลับ
จากการศึกษาในปีในปี 2015 ของทีมวิจัย พบว่า การร้องสามารถช่วยให้เพิ่มการนอนหลับได้ดี โดยเฉพาะกับเด็กทารก และเด็กแรกเกิด เพราะเสียงร้องไห้นั้นจะทำให้ปอดของทารกแข็งแรง และทำความสะอาดของเหลวในจมูก และปากที่อาจปนเปื้อนมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา
8.กำจัดแบคทีเรีย
การร้องไห้สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียภายในดวงตา หรือรอบ ๆ ดวงตาออกไปได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบของไลโซไซม์ ที่มีคุณสมบัติกำจัดเชื้อจุลินทรีย์
9.บรรเทาความเครียด
จากการศึกษา พบว่า มนุษย์อาจเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ร้องไห้จากอารมณ์ แม้ไม่แน่ชัดว่าการร้องไห้นั้นทำงานกับความรู้สึกอย่างไร เพราะเราเศร้าเราก็ร้องไห้ มีความสุขเราก็ร้องไห้ แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้ คือ การร้องไห้นั้นช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางร่างกายที่มาจากอารมณ์ได้ การร้องไห้นั้นจะกระตุ้นทำให้ร่างกายพลักดันความตึงเครียด หรือการทำงานของร่างกายบางอย่างไปจุดที่สูงและค่อยปล่อยลงมา หลังจากเราเริ่มหยุดร้องไห้ ทำให้เกิดภาวะสมดุล เกิดความสงบ เป็นหนึ่งในการจำกัดความเครียดที่ดี
98 % ของผู้ที่ร้องไห้จนก่อให้เกิดน้ำตาไหลนอง พบว่า มาจากฮอร์โมนความเครียด จากเรื่องส่วนตัว จนต้องใช้การระบายด้วยการร้องไห้ออกมา ทำให้ฮอร์โมนเหล่านั้นในร่างกายมีระดับลดลง