ทำสติให้เจริญขึ้นที่บ้าน ไม่ใช่รอไปวัดแล้วค่อยพยายาม
หัวใจในการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
คือการเข้าใจว่า
มีอะไรในกายใจของคุณ
ที่แสดงความไม่เที่ยงให้ดูได้บ่อยๆ
เพราะเมื่อดู ‘ความไม่เที่ยง’ ในตัวเองได้บ่อยๆ
สติแบบพุทธก็ค่อยๆเจริญ
และความทุกข์ความอึดอัดแบบที่คุณมี
ก็จะค่อยๆเสื่อมสลายหายไปในสามวันเจ็ดวัน
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ความไม่เที่ยง
ที่ดูได้บ่อยๆของคนยุคเรา
ได้แก่ ความฟุ้งซ่าน และโทสะ
คนยุคเราฟุ้งซ่านจนทรมานใจ
และหงุดหงิดโกรธเกรี้ยวบ่อยเหมือนถูกไฟคลอก
เพื่อจะดูความฟุ้งซ่านและโทสะได้จริง
ต้องมีเครื่องทุ่นแรงเป็นทุน
ได้แก่ การรู้จักสังเกตลมหายใจแห่งความสุข
สังเกตว่า เมื่อเริ่มหายใจ
ด้วยการค่อยๆขยายหน้าท้อง
สายลมหายใจจะยาว ความรู้สึกจะสบาย
เมื่อคุ้นกับลมหายใจแห่งความสุขได้บ่อยๆ
อย่างน้อยสักชั่วโมงละครั้งสองครั้ง
พอถึงเวลาต้องใช้
เช่น คิดฟุ้งซ่านทรมานใจ
ก็หายใจอย่างเป็นสุขขึ้นมาทีหนึ่ง
เพื่อเปรียบเทียบดูว่า
ที่ลมหายใจนี้ฟุ้งหนักแค่ไหน
ลมหายใจต่อไปเบาลงหรือหนักขึ้นไปอีก
เพียงเท่านี้ ความฟุ้งซ่านทรมานใจ
ก็รบกวนคุณได้ไม่นาน
แต่จะกลายเป็นการมากระตุ้น
ให้เกิดสติปัญญาจริงๆ
เห็นของจริงว่า ความฟุ้งซ่านทรมานใจ
เขามาเพื่อแสดงความไม่เที่ยง
เพื่อให้คุณฝึกดูอนิจจังให้เป็น
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
หรือเมื่อโกรธจัด
แทนที่จะฟาดสายฟ้า
ออกมาจากปาก จากมือไม้
ก่อบาปก่อเวร
มีเรื่องมีราวกับชาวบ้านแบบเคยๆ
แค่หายใจอย่างเป็นสุขทีหนึ่ง
เพื่อเปรียบเทียบดูว่า
ที่ลมหายใจนี้โกรธแรงแค่ไหน
ลมหายใจต่อไปเบาลงหรือแรงขึ้นอีก
เพียงเท่านี้
โทสะก็บันดาลบาปเวรเดิมๆขึ้นไม่ได้
แต่จะกลายเป็นมาเพื่อช่วยแสดงความไม่เที่ยง
เพื่อให้คุณฝึกดูอนิจจังให้เป็น
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
เมื่อเห็นว่า
หัวใจของการปฏิบัติธรรมที่บ้านคืออะไร
คุณจะเห็นผลตั้งแต่วันแรกๆ
และติดใจพอที่จะเจริญสติในวันต่อๆไป
โดยไม่รอเวลาว่างให้พร้อมพอจะปลีกวิเวก
ไปปฏิบัติธรรมนอกบ้านที่ไหนอีก
และถ้าไปปฏิบัติธรรมที่วัดหรือในป่าในถ้ำ
ก็จะเป็นการไปเพื่อต่อยอดให้เจริญถึงที่สุด
ไม่ใช่เพื่อไปนับหนึ่งใหม่กันแล้วๆเล่าๆทุกครั้ง!