ฟังเพลงตอนออกกำลังกาย ประโยชน์ดี ๆ ของการฟังเพลง ขณะออกกำลังกาย
ข้อดีของการฟังเพลงตอนออกกำลังกาย
1.ช่วยให้ออกกำลังกายได้หนักขึ้น
ผลการวิจัยระบุว่า ผู้ที่ฟังเพลงตอนออกกำลังกายสามารถออกกำลังกายได้หนักขึ้น การฟังเพลงช่วยลดความเบื่อหน่าย และยังช่วยให้สามารถออกกำลังกายซ้ำ ๆ หรือออกกำลังกายประเภทฝึกความอึด หรือฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้หนัก และนานขึ้น รู้สึกเหนื่อยช้าลง ช่วยพัฒนาคุณภาพในการออกกำลังกาย เพิ่มความทนทานได้อีกด้วย
มีงานวิจัยที่ทำการวัดคลื่นสมองด้วยเครื่อง Electroencephalogram (EEG) ในขณะฟังเพลง พบว่า การฟังเพลงขณะออกกำลังกาย ช่วยลดคลื่นธีต้า (Theta waves) ชนิดความถี่ 4-7 เฮิร์ต (Hz) ได้ ซึ่งกระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการระงับอาการเมื่อยล้าต่าง ๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้วิ่งได้นานขึ้น
2.ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง พบว่า อาสาสมัครที่ฟังเพลงตอนออกกำลังกายมีระดับของเซโรโทนิน (Serotonin) หรือสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ซึ่งรู้จักกันในชื่อของ “ฮอร์โมนรู้สึกดี” สูงขึ้น จึงทำให้ออกกำลังกายแล้วรู้สึกอารมณ์ดี
3.ทำให้จิตใจสงบ
เพลงที่มีจังหวะ หรือช่วงความเร็วคงที่ อยู่ที่ 80-115 ครั้งต่อนาที (BPM) อย่างเช่น เพลงบัลลาด เพลงคลาสิก สามารถช่วยให้หัวใจเต้นช้าลง และช่วยลดความวิตกกังวล ก่อนลงสนาม ออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง หรือเล่นกีฬาต่าง ๆ ได้ ไม่ใช่แค่จังหวะดนตรี แต่เนื้อเพลง และความรู้สึกที่มีต่อเพลงนั้น ๆ ก็สามารถช่วยให้ผ่อนคลาย และรู้สึกสงบได้เช่นกัน
4.ช่วยให้ร่างกายทำงานประสานกันมากขึ้น
หากฟังเพลงไปด้วย จะช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นจังหวะ และทำงานประสานกันได้ดีมากขึ้น จากการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่ง พบว่า การฟังเพลงตอนออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มคลื่นไฟฟ้าในสมอง ส่วนที่ควบคุมให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างสัมพันธ์กัน
5.ฟังเพลงตอนออกกำลังกายเวิร์กเอาท์ได้สนุกกว่า
การฟังเพลงสามารถช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากการออกกำลังกายสุดโหด ช่วยให้ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น และสนุกขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่มีอาสาสมัครเข้าร่วมจำนวน 34 คน พบว่า การฟังเพลงตอนออกกำลังกาย ช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนุกสนาน กว่าการดูคลิปแบบไม่ฟังเสียงเสียอีก
6.ช่วยลดโอกาสบาดเจ็บ
งานศึกษาวิจัยในอาสาสมัครที่ไม่ได้เป็นนักวิ่งอาชีพจำนวน 26 คน พบว่า การฟังเพลงที่มีจังหวะในช่วง 130-200 ครั้งต่อนาที (BPM) จะทำให้นักวิ่งเร่งและชะลอฝีเท้าไปตามจังหวะเพลง แต่หากเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็วขึ้นเป็นช่วง 160-180 ครั้งต่อนาที (BPM) การวิ่งแต่ละก้าวจะสั้นลง จึงช่วยลดแรงกด และแรงกระแทก รวมไปถึงช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย
7.ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
งานวิจัยในอาสาสมัคร 60 คน พบว่า การฟังเพลงช้าหลังจากออกกำลังกายเสร็จ สามารถช่วยให้อัตราการเต้นหัวใจ และระดับความดันโลหิตลดลง ทั้งยังทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วกว่าการฟังเพลงเร็ว หรือการนั่งพักในที่เงียบ ๆ นอกจากนี้การเลือกเพลงที่เหมาะสม ช่วยผ่อนคลายความเครียด และลดผลกระทบจากการออกกำลังกายได้อีกด้วย
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต "จ้านฮ่าวหลี่" คดีฉ้อโกงพันล้านหยวน
"ภูมิรพี"เด็กไทยฟุตบอล U17 สู่ตัวหลักมือกาวมัธยมปลายในญี่ปุ่น
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เผยประวัตินักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน ผู้ต้องสงสัยฆ่าหนุ่มขับอัลติสบนทางด่วน พบมีหมายจับพยายามฆ่าด้วย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
สวยสะกดโลก! สรุปผล 100 ผู้หญิงใบหน้าสวยที่สุดปี 2025
ลือหึ่ง "ลิซ่า" BLACKPINK แอบจดทะเบียนสมรสกับแฟนหนุ่มแล้ว
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
5 คุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าทึ่งของปลาทะเล
OpenAI กำลังเปิดรับสมัครงาน ด้วยเงินเดือนประจำ ปีละ 17.5 ล้านเหรียญ
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
'MH370' ปริศนาเกี่ยวกับเครื่องบินที่ลึกลับที่สุดในยุคปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ฮุน มาเนต” เรียกร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวชายแดนกัมพูชา–ไทยอย่างถูกต้องตามจริยธรรมวิชาชีพ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
Avatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%
UNICEF เตือน การจำกัดอายุการใช้งานโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ช่วยให้เด็กปลอดภัยขึ้น









