หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

16 นิสัยเสียๆ ทำลายสุขภาพ พฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆที่ทำร้ายสุขภาพตัวเอง

โพสท์โดย sompeansomped

 

1.กลั้นปัสสาวะ

เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค เป็นสาเหตุหลักของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดที่กระเพาะปัสสาวะอ่อนแรง จนไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ทำให้ไตมีปัญหา เวลาที่ไม่ยอมปัสสาวะ น้ำปัสสาวะจะไหลย้อนกลับไปที่ไต ทำให้เกิดแรงกดขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้มีการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดี

หากรู้สึกปวดปัสสาวะ ควรที่จะไปเข้าห้องน้ำทันที และควรปัสสาวะให้ได้วันละประมาณ 5-7 ครั้ง

 

2.กัดเล็บ

ชอบกัดเล็บเวลาที่มีเรื่องกลุ้มใจ หรือวิตกกังวล ถือว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดี เนื่องจากเป็นการทำลายสภาพผิวของเล็บ และอาจทำให้เกิดอาการติดเชื้อบริเวณผิวหนังได้ อาจนำไปสู่การติดเชื้อในร่างกาย ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้

 

 

3.ใช้คอมพิวเตอร์นานเกินไป

การที่จ้องหน้าจอเวลานานจนเกิดไปโดยที่ไม่ขยับตัวเลย อาจจะทำให้เกิดผลเสียได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นโรคยอดนิยมอย่าง ออฟฟิศซินโดรม ที่หากไม่ทำการรักษาให้ดีอาจจะเสี่ยงให้เกิดความพิการได้ จะทำให้ดวงตาเกิดอาการเมื่อยล้า กระจกตามีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาได้ อาจทำให้ดวงตาแห้ง และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการมองเห็น

ลุกออกจากหน้าจอบ้าง โดยในหนึ่งชั่วโมง ควรที่จะพักสายตา และยืดเส้นยืดสายสัก 5 นาที หรืออาจจะใช้วิธีในการเดินไปห้องน้ำ แบบนี้จะช่วยทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง

 

4.ใช้ไหล่แบกของมากเกินไป

เวลาที่สะพายถุงหนัก ๆ ไว้บนไหล่ข้างหนึ่งนั้น จะทำให้คอเสียสมดุล และเกิดอันตรายได้ จะทำให้คอ และแขนเกิดอาการชาได้ จึงไม่ควรใช้ไหล่ข้างเดียวในการแบกของ

วิธีที่ดีกว่า คือ ใช้กระเป๋าเป้แบบสะพายหลังดี เพื่อความสมดุลของไหล่

 

 

5.เคี้ยวหมากฝรั่ง

การเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ตลอดเวลา จะทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายเพิ่มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการสะสมตัวของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก นอกจากนี้ยังสร้างแรงกดบริเวณกราม และทำให้เกิดฟันผุด้วย

เคี้ยวหมากฝรั่งแค่ 5-10 นาทีพอ หลังจากเคี้ยวหมากฝรั่งเรียบร้อยแล้ว ควรบ้วนปากให้สะอาดด้วย 

 

6.หักข้อนิ้วมือ

การหักข้อนิ้วดังเป๊าะ ๆ นอกจากจะสร้างความรำคาญให้เพื่อนแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของตัวคุณเองด้วย ในข้อนิ้วนั้น  มีสสารบางอย่างที่เรียกว่า ‘ไขข้อ‘ ที่ช่วยให้เคลื่อนไหวข้อนิ้วได้ง่ายขึ้น การหักนิ้ว จะทำให้เกิดฟองขึ้นในไขข้อ ซึ่งถ้าใครทำบ่อย ๆ จะทำให้เกิดมือบวม หรือหยิบจับอะไรได้อยากขึ้น เมื่อผ่านไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการไขข้ออักเสบขึ้นมาได้

 

 

7.นอนดึก นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ

การนอนดึก ทำให้ร่างกายของเราทำงานไม่เป็นระบบ เรียกสั้น ๆ ว่า “นาฬิกาชีวิตพัง” เนื่องจากร่างกายใช้เวลานอนในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ที่ซึกหรอ การที่เรานอนดึก และพักผ่อนไม่เพียงพอนั้น นำไปสู่ปัญหาในระยะยาวได้ อย่างเช่น นอนตื่นมาแล้วไม่สดชื่น สมาธิสั้น ทำให้เรียนรู้ และจดจำอะไรได้ยากขึ้น รวมไปถึงโรคร้ายต่าง ๆ อย่าง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคซึมเศร้า

สร้างกิจวัตรการนอน โดยนอนให้ได้คืนละ 7-8 ชั่วโมง

 

8.ดื่มเหล้า สูบบุหรี่

การสังสรรค์ที่มากจนเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายพังได้ ทั้งในเรื่องของการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะทำให้เสี่ยงต่อโรคตับแข็ง มะเร็งตับ หรือโรคหัวใจได้ บางคนยังนิยมสูบบุหรี่ระหว่างการทำงานทำให้เสี่ยงต่อการโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคต

อยากมีสุขภาพแข็งแรง ควรเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ หรือลดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

 

9.ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

ชีวิตที่เร่งรีบ และงานที่หนักจนเกิดไป ทำให้ละเลยการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี ช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกาย และปรับสมดุลให้กับชีวิต

ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

 

10.สวมหูฟัง

การพูดคุยกันตามปกตินั้นมีความดังประมาณ 60 เดซิเบล ถ้าอยากจะให้ปลอดภัยก็ควรปรับเสียงในหูฟังให้น้อย 75 เดซิเบล (ความดังในระดับเท่ากับเสียงเครื่องดูดฝุ่น) และไม่ควรฟังแต่ละครั้งนานเกินสองชั่วโมง เนื่องจากการฟังเสียงดัง ๆ บ่อย ๆ นั้น อาจทำให้สูญเสียการได้ยินเมื่อมีอายุมากขึ้นได้

 

 

11.ใช้อินเทอร์เน็ตก่อนเข้านอน

‘แสงสีฟ้า‘ ที่ออกมาจากเครื่องมืออิเลคโทรนิค อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์นั้น อาจสร้างความรบกวนต่อการนอนได้

ผลการศึกษาวิจัยแสงให้เห็นว่า แสงในยามค่ำคืนไม่ว่าจะเป็นชนิดไหน ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก) โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจ

ควรหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านจะดีกว่า อาจจะเลือกเป็นหนังสือประเภท เบาสมอง หรือ เสริมสร้างพลังใจเชิงบวก เพื่อเป็นการผ่อนคลายสมอง และจิตใจก่อนเข้านอน 

 

12.นั่งเป็นเวลานาน

การนั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง หมายความว่า จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีส่วนเชื่อมโยงกับปัญหาทางด้านสุขภาพอื่น ๆ อย่างเช่น โรคหัวใจ

วิธีแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ คือ ลุกขึ้นเดินเป็นระยะ ๆ การเดินวันละ 10 นาที ก็สามารถช่วยได้

 

 

13.กินอาหารเร็วเกินไป

การกินอาหารเร็วเกินไป ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับการกินได้น้อยลง ควรการรับประทานอาหารให้ช้าลง ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ง่ายขึ้น เนื่องจากร่างกายมีโอกาสได้รับรู้ว่ากินอิ่มแล้ว

ควรตักอาการเข้าปากเป็นคำเล็ก ๆ แล้วเคี้ยวนาน ๆ ช่วยให้ระบบการย่อยของกระเพาะทำงานได้ดี เพราะอาหารผ่านการเคี้ยวที่ช้า ๆ และละเอียด 

 

14.อยู่คนเดียวนานเกินไป

ถ้าคุณไม่รู้สึกผูกพันกับใครเลย คุณก็มีแนวโน้มจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคซึมเศร้า โรคที่เกี่ยวกับสมอง (อย่างเช่นโรคสมองเสื่อม) และการอักเสบ

ถ้ารู้สึกเดียวดายหรือเหงา ควรเข้าร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่ม หรือชมรมต่าง ๆ ติดต่อพบปะกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อนฝูง เริ่มทำอะไรใหม่ ๆ ที่จะทำให้ได้รู้จักผู้คนอื่น ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับสังคมใหม่ ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา ใช้เวลาว่างอย่างคุ้มค่า และมีประโยชน์ต่อสาธารณะ 

 

 

15.อดอาหารเช้า หรือทานข้าวไม่ตรงเวลา

การที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จนเกิดสภาวะอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ นำมาซึ่งอาการโรคสมองเสื่อม ในขณะที่การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อาจจะทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ หากคนเป็นคนที่กินดึกแล้วนอนเลย อาจจะเสี่ยงที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อนได้

พฤติกรรมเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วย การทานอาหารให้เป็นเวลา และไม่อดอาหารเช้า

 

16.รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์

หลาย ๆ คนที่ชอบกินอาหาร Junk Food หรืออาหารสำเร็จรูป เนื่องจากชีวิตประจำวันที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมแบบนี้เสี่ยงอันตรายอย่างมาก เนื่องจากอาหารประเภทนี้ จะมีไขมัน และคอเลสเตอรอลในอัตราที่สูงมาก รวมไปถึงปริมาณน้ำตาล และโซเดียมที่สูงกว่าอาหารทั่วไป ทำให้มีความเสี่ยงที่เกิดโรคตามมา อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคตับ เป็นต้น

พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ หรือพยายามที่จะลดการทานให้น้อยลง รวมไปถึงการออกกำลังกาย จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่จะเกิดขึ้น

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sompeansomped's profile


โพสท์โดย: sompeansomped
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: momon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจอีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"1 ใน 8 ของนักเรียนร.ร.รัฐในนิวยอร์ก'ไร้บ้าน'!ตำรวจ ตามรวบจนครบ 3 โจ๋เหิมเกริม ใช้มีดฟันคู่อริ กลางสถานี BTS5 เทคนิคเพิ่ม Productivity ที่ช่วยให้คุณทำงานสำเร็จเร็วขึ้น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลิลลี่ เหงียน" สวนกลับ "ปู มัณฑนา"..อย่าลืมเอาเงินมาคืนกะxsี่ผู้มีพระคุณด้วยเงินดิจิทัลเฟส 3 คนทั่วไป เงินเข้าเมื่อไหร่ ได้เงินสดไหม วิธีเช็กสถานะทางรัฐอีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"หวังเซียนเฉา นักการทูตผู้ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ถัง‘ขนม ศศิกานต์’ เลิก ‘ครูเต้ย อภิวัฒน์’ ทั้งที่เพิ่งคลอดลูก คนที่ 2 จากกันด้วยดี ไม่มีมือที่ 3
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
รวม 50 แคปชั่นคำคม คนอกหัก รักเจ็บๆรวมคำคมนักเลง กวนๆวัยรุ่น"10 สัตว์น่ารักที่สุดในโลกที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ง่ายๆ""Artist’s Shit: เมื่ออุจจาระธรรมดา กลายเป็นศิลปะที่มีมูลค่าสูงกว่าทองคำ!"
ตั้งกระทู้ใหม่