มารู้จักกับ"ค่าเงินบาท"
💸 สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ เคยได้ยินคำว่าค่าเงินบาทกันบ้างไหมคะ และมีความสำคัญอย่างไร วันนี้เรามาดูบาทกันค่ะ
ค่าเงินบาทแบ่งได้ 2 ลักษณะ ดังนี้
1. ค่าเงินบาทอ่อนค่า
2. ค่าเงินบาทแข็งค่า
ค่าเงินบาท จะอยู่ที่ 32.259 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย ประจำวันที่ 30 กันยายน 2567) ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า ค่าเงินบาทแข็งค่า
ค่าเงินบาทแข็งค่า หมายถึง เงินบาทมีมูลค่ามากขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศ ลักษณะเช่นนี้ในภาคเศรษฐกิจจะมีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจส่งออกสินค้า เพราะในการดำเนินธุรกิจจะเป็นการขายสินค้าส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้นเงินที่ได้รับจากการขายสินค้าจึงเป็นเงินตราต่างประเทศ เมื่อนำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทเม็ดเงินที่ได้ก็จะลดลงไปตามค่าเงินบาทที่แข็งค่านั่นเอง
แต่หากเปรียบเทียบกับธุรกิจอีกประเภทหนึ่ง นั่นคือ ธุรกิจนำเข้าสินค้า กรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่านั้น จะให้ผลในทางตรงกันข้าม เพราะในการดำเนินธุรกิจนำเข้าสินค้า จะเกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย เมื่อเงินบาทมีมูลค่ามากขึ้น จึงส่งผลให้สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง
หลังจากได้ทำความรู้จักกับค่าเงินบาทแข็งค่าไปแล้ว เรามาดูค่าเงินบาทอีกลักษณะหนึ่ง นั่นคือ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่ากันบ้างนะคะ
ค่าเงินบาทอ่อนค่า คือ เงินบาทมีมูลค่าน้อยลง ลักษณะเช่นนี้แน่นอนว่า ต้องส่งผล กระทบต่อธุรกิจนำเข้าสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะในการซื้อสินค้าจะต้องใช้เงินจำนวนมาก เพื่อซื้อสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย
🌾 แต่ในทางตรงกันข้าม สำหรับธุรกิจส่งออกสินค้า เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จะส่งผลดีต่อธุรกิจประเภทนี้ เพราะเมื่อส่งสินค้าออกไปขายยังต่างประเทศ ก็จะทำให้ขายสินค้าได้ในราคาที่สูงขึ้น เพราะสินค้าที่ขายได้จะได้รับเป็นเงินในสกุลตราต่างประเทศ เมื่อนำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทของไทยก็จะได้รับเงินในจำนวนที่มากขึ้นนั่นเอง
สำหรับค่าเงินบาททั้ง 2 ลักษณะ อาจจะฟังเข้าใจยากสักนิด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงในการขายภาพออนไลน์ของฉันเองค่ะ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าและแข็งค่าเช่นกัน เรื่องมีอยู่ว่า
📷 ฉันเป็นคนที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก จึงมีภาพที่ถ่ายสะสมไว้จำนวนมาก วันหนึ่งคิดว่าหากเรานำภาพของเราออกขายได้คงจะเป็นเรื่องดีมาก ๆ จึงได้ศึกษาเกี่ยวกับการขายภาพถ่ายออนไลน์ผ่าน application หนึ่งในต่างประเทศ หลังจากที่ลงขายไปได้ระยะหนึ่ง ก็สามารถขายภาพได้ ในตอนนั้นส่วนแบ่งรายได้คิดเป็น จำนวนเงิน 28 ดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงเวลานั้นเอง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 37 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นลักษณะค่าเงินบาทอ่อนค่า และเมื่อคำนวณดูแล้ว ฉันจะได้เงินจากการขายภาพเป็นเงิน 1,036 บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าทีเดียว
🚙⛱️🍈 นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่มีความผันผวน โดยเฉพาะเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น ดังนั้นเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศลดน้อยลง เพราะเลือกที่จะไปท่องเที่ยวในประเทศอื่นแทน เป็นสาเหตุให้ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศซบเซาตามไปด้วย
✍️ เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับบทความเรื่อง ค่าเงินบาท ที่นำมาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันในวันนี้ ฉันหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ และต่อไปเมื่อเพื่อน ๆ ได้ยินคำว่าค่าเงินบาทคงจะทำให้เข้าใจมากขึ้นนะคะ ขอบคุณค่ะ
💸💸💸💸💸