ใส่หรือไม่ใส่กางเกงในขณะออกกำลังกาย: หมอแนะนำแบบไหนดีกว่ากัน?
การใส่หรือไม่ใส่กางเกงในขณะออกกำลังกายเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยและยังคงเป็นหัวข้อถกเถียง โดยมีคำแนะนำจาก นพ.ฆนัท ครุธกูล อายุรแพทย์โรคหัวใจและนายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ ซึ่งโพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก "ฟิตร่าง สร้างสุขภาพกับหมอฆนัท" เพื่อไขข้อข้องใจนี้
ใส่หรือไม่ใส่กางเกงใน? ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การใส่หรือไม่ใส่กางเกงในขณะออกกำลังกายนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายและความถนัดของแต่ละคน บางคนอาจรู้สึกว่าการไม่ใส่กางเกงในนั้นทำให้รู้สึกสบายและคล่องตัวกว่า ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตาม นพ.ฆนัทชี้ให้เห็นถึงข้อดีในการใส่กางเกงใน ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะการรักษาความสะอาด
คำแนะนำสำหรับผู้หญิง
สำหรับผู้หญิง การใส่กางเกงในขณะออกกำลังกายมีความสำคัญในการปกป้องอวัยวะเพศจากเชื้อโรคและเหงื่อที่อาจสะสมจนเกิดการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะยีสต์และเชื้อจากปัสสาวะที่เล็ดรอดออกมา การมีผ้าสะอาดเป็นเกราะป้องกันจะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น อาการคันและการติดเชื้อได้
คำแนะนำสำหรับผู้ชาย
ในกรณีของผู้ชาย การไม่ใส่กางเกงในขณะออกกำลังกายอาจให้ความรู้สึกสบายและโล่งขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องการสะสมของเหงื่อและความชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคผิวหนังบริเวณขาหนีบได้ นอกจากนี้ อวัยวะเพศที่เคลื่อนไหวมากเกินไปอาจเกิดการเสียดสีกับกางเกงและนำไปสู่การบาดเจ็บได้
หากรู้สึกอึดอัดจากการใส่กางเกงใน การเลือกใส่กางเกงที่มีซับในก็สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ โดยยังคงรักษาสุขอนามัยและป้องกันอันตรายจากการเสียดสีและการสะสมความชื้น
เลือกกางเกงในอย่างไรเพื่อสุขภาพที่ดี?
นพ.ฆนัทแนะนำให้เลือกกางเกงในที่สะอาดและระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงในที่รัดแน่นเกินไปเพราะอาจส่งผลต่อการผลิตอสุจิในผู้ชาย แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าการใส่กางเกงในรัดแน่นส่งผลต่อภาวะเป็นหมันโดยตรง แต่ควรพิจารณาความเหมาะสมและความสบายเป็นสำคัญ
สรุป: ใส่กางเกงในขณะออกกำลังกาย ดีกว่าไม่ใส่
การใส่กางเกงในขณะออกกำลังกายยังคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความสะอาดและการป้องกันการติดเชื้อ สิ่งสำคัญคือการทำความสะอาดร่างกายทันทีหลังการออกกำลังกาย ไม่ควรปล่อยให้เหงื่อและความชื้นสะสมเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ