พระภรรยาเจ้าและพระภรรยาในสมัยราชวงศ์ชิง ในจักรพรรดิเฉียนหลง
🐉พระภรรยาเจ้าและพระภรรยาในสมัยราชวงศ์ชิง ในจักรพรรดิเฉียนหลง
🍁ภาพประวัติศาสตร์ เทียบกับซีรีย์(ซีรีย์ หรูอี้จ้วน)🍁
❤️🙂นับจากซ้ายไปขวานะครับ🙂❤️
..............................................................................
🐉จักรพรรดินีเสี้ยวเสียนฉุน🐉
(จักรพรรดินิพระองค์เเรกในจักรพรรดิเฉียนหลง)
🔹จักรพรรดินีเสี้ยวเสียนชุนหรือฟู่ฉาฮองเฮาทรงมาจากจากราชสกุลสกุล ฟู่ฉา (富察) ทรงเป็นธิดาคนเดียวของ ฟู่ฉา หลี่หรงเป่า มีน้องชายคือ ฟู่ฉา ฝูเหิง พระนางได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายสี่ก่อนที่จะเป็นเป่าชินหวัง (宝亲王/寶親王)
🔹(ต่อมาครองราชย์เป็นจักรพรรดิเฉียนหลง) มีพระอิสริยยศเป็น ตี้ฝูจิ้น และหลังจากนั้นเมื่อองค์ชายเป่าชินหวังได้ขึ้นเสวยราชย์สมบัติเป็น จักรพรรดิเฉียนหลง จึงทรงแต่งตั้งพระนางเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินี
🔹พระนางฟู่ฉาทรงเป็นที่รักและโปรดปรานของ จักรพรรดิเฉียนหลงมาก จึงมักจะทรงติดตาม จักรพรรดิเฉียนหลงเสด็จประพาสทั่วประเทศจีนอยู่เสมอจักรพรรดิเฉียนหลง
🔹ในปี ค.ศ. 1748 ในช่วงหนึ่งของการประพาสตามหัวเมืองภาคใต้ของประเทศจีน พระนางฟู่ฉาทรงพระประชวรหนักเและสิ้นพระชนม์ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ.1748 ขณะพระชันษา 36 พรรษาพระศพถูกฝังอยู่ในสุสานชิงตะวันออก
🔹และการสิ้นพระชนม์ของพระนางนั้นทำให้จักรพรรดิเฉียนหลงทรงเสียพระทัยมากหลังจากที่พระนางสิ้นพระชนม์
🔹จักรพรรดิเฉียนหลงมักจะแต่งกลอนรำพันและกลอนเชิดชูพระนางอยู่หลายบท และทุก ๆ ครั้งก่อนที่พระองค์จะเสด็จไปที่ใดก็พระองค์ก็จะทรงไปเยี่ยมหลุมพระศพของพระนางอยู่เสมอ กล่าวได้ว่าพระนางฟู่ฉานั้นเป็นผู้ที่จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงรักและให้เกียรติมากที่สุดผู้หนึ่ง
............................................................................
🐉จักรพรรดินีอูลาน่ารา🐉
(จักรพรรดิดินีพระองค์ที่2 ในจักรพรรดิเฉียนหลง)
🔸พระนางเป็นธิดา ของแม่ทัพ น้าเอ่อปู จากราชินิกุลอูลาน่าราจากกองธงขลิบเหลือง ( อดีตคือ กองธงน้ำเงินขลิบแดง ) พระนางก็ได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายสี่หงลี่ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นเป่าชินหวังมีพระอิสริยยศเป็น เช่อฝูจิ้น (พระชายารอง)
🔸และหลังจากองค์ชายเป่าชินหวังหงลี่ได้ขึ้นเสวยราชย์สมบัติเป็นจักรพรรดิเฉียนหลงจึงทรงแต่งตั้งให้พระนางเป็น เสียนเฟย-เสียนกุ้ยเฟย-เสียนหวงกุ้ยเฟย-น่าราฮองเฮา
🔸ในตอนที่จักรพรรดินีเซี่ยวเสียนฉุน พระอัครมเหสีพระองค์แรกในจักรพรรดิเฉียนหลงสวรรคต ทำให้จักรพรรดิเฉียนหลงเสียพระทัยมาก และเพราะยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์
🔸ไทเฮาจึงให้แต่งตั้ง เสียนกุ้ยเฟย ขึ้นเป็น เสียนหวงกุ้ยเฟย เพื่อให้พระนางดูแลวังหลังแทนเสมอจักรพรรดินี คือควบคุมวังหลัง 6 วังใหญ่
🔸หลังจากการไว้ทุกข์ตามโบราณราชประเพณี คือ 2 ปี จักรพรรดิเฉียนหลงจึงเฉลิมพระยศพระนางให้เป็นจักรพรรดินีซึ่งเป็นฮองเฮาพระองค์ที่สองในรัชกาลเฉียนหลงตามพระประสงค์ของไทเฮา
🔸ต่อมาจักรพรรดิเฉียนหลงจะแต่งตั้งลิ่งกุ้ยเฟยเป็นลิ่งหวงกุ้ยเฟย พระนางทรงเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการทำผิดพระราชประเพณี คือถ้าฮองเฮายังไม่สวรรคตจะไม่มีการแต่งตั้งตำแหน่งหวงกุ้ยเฟย
🔸พระนางจึงทรงตัดพระเกศาของพระองค์เองเพื่อเป็นการประท้วง ซึ่งการที่ตัดผมชาวแมนจูถือว่าการตัดผมนั้นเป็นการไว้ทุกข์ให้กับผู้ใหญ่ในครอบครัวของตนหรือของสามี
🔸ซึ่งในตอนนั้นพระราชมารดาของจักรพรรดิเฉียนหลงยังมีพระชนม์ชีพอยู่จึงอาจถือเป็นการแช่งพระราชมารดาของพระองค์
🔸จักรพรรดิเฉียนหลงจึงยึดตราประทับจักรพรรดินี แต่ยังคงให้พระนางอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดินี หลังจากนั้นไม่เกินปีพระนางก็สิ้นพระชนม์ โดยงานพระศพถูกจัดในขั้นหวงกุ้ยเฟย แต่ถึงอย่างนั้นงานศพของพระนางถูกจัดอย่างเรียบง่ายไม่สมฐานะเท่าใด
🔸พระศพของพระนางถูกฝังในสุสานชิงตะวันออกและไม่ได้ถูกฝังในโถงเดียวกันกับจักรพรรดิเฉียนหลง แต่ถูกฝังร่วมกันกับฉุนฮุ่ยหวงกุ้ยเฟย
..............................................................................
🐉จักรพรรดินีเสี้ยวอี้ฉุน🐉
(พระมเหสีในจักรพรรดิเฉียนหลง และเป็นพระราชมารดาในจักรพรรดิเจียชิ่ง)
🔸พระนางกำเนิดในราชสกุลเว่ยจียา หรือ เว่ย ซึ่งเป็นสกุลจากกองธงฮั่น เดิมที พระนางทรงเป็นนางสนองพระโอษฐ์ในพระนางฟู่ฉาฮองเฮา แต่เนื่องด้วยพระนางเป็นสตรีที่งดงามทั้งกิริยา วาจา การวางตัว บวกกับมีพระพักตร์ที่งดงาม สะสวย
🔸 ทำให้จักรพรรดิเฉียนหลง ที่มักเสด็จมาที่ตำหนักฉางชุนของสมเด็จพระจักรพรรดินีบ่อย ๆ ทรงเกิดความพอพระทัยในตัวของพระนาง จึงรับสั่งให้เข้าเฝ้าถวายองค์ และแต่งตั้งให้เป็นพระสนมหลิง (หลิงกุ้ยเหริน)
🔸ต่อมาจึงอวยฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็นพระสนมเอกหลิง (หลิงผิน) ถัดมาอีกสามปีก็ถูกเลื่อนขึ้นเป็นพระชายาหลิง(หลิงเฟย)
🔸ต่อมาได้เลื่อนเป็นสมเด็จพระอัครเทวีหลิง (หลิงกุ้ยเฟย) และตำแหน่งสุดท้ายของพระชนม์ชีพที่ได้รับคือพระอัครราชเทวีในองค์จักรพรรดิหลิงอี้ (หลิงอี้หวงกุ้ยเฟย)
🔸และหลังจากที่จักรพรรดินีจี้ ทรงสิ้นพระชนม์ จักรพรรดิเฉียนหลงก็ไม่ได้ตั้งใครขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีอีกเลย
🔸หน้าที่ควบคุมดูแลฝ่ายในทั้งหมดจึงตกอยู่ที่พระอัครราชเทวีในองค์จักรพรรดิ (หลิงอี้หวงกุ้ยเฟย) เมื่อสิ้นรัชกาลเฉียนหลง
🔸องค์ชายหย่งเอี๋ยน ซึ่งเป็นพระโอรสลำดับที่สิบห้าในจักรพรรดิเฉียนหลงและประสูติจากหลิงอี้หวงกุ้ยเฟย
🔸ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิเจี่ยชิ่ง ทรงมีปมในพระทัยที่ว่า ที่พระมารดาของพระองค์ไม่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีเพราะว่าพระนางมีชาติกำเนิดที่เป็นชาวฮั่น
🔸ซึ่งตามกฏมลเฑียรบาลราชวงศ์ชิงกำหนดไว้ว่าห้ามสตรีจีนเป็นใหญ่เหนือสตรีแมนจู ทำให้จักรพรรดิเจียชิ่งเกิดความคับข้องพระทัยมาโดยตลอด
🔸พระองค์จึงเปลี่ยนราชสกุลของพระมารดาที่เป็นสกุลฮั่นจาก เว่ย เป็น เว่ยจียา และเลื่อนพระมารดาจากพระอัครราชเทวีในองค์จักรพรรดิให้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีโดยให้ทรงพระนามว่า สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวอี้ชุน
.............................................................................
🐉พระมเหสีเอกซูเจีย หรือ ซูเจียหวงกุ้ยเฟย🐉
🔸ซูเจียหวงกุ้ยเฟย เป็นพระมเหสีเอกในพระ จักรพรรดิเฉียนหลง ประสูติเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ.1713 ในตระกูลจิน (สกุลคิม) ของชาวโชซอน (เกาหลี)
🔸ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นชาวแมนจู โดยเป็นธิดาของจินซานเป่า ถวายตัวเป็นพระสนมกับพระจักรพรรดิเฉียนหลง และได้เป็นพระสนมเอกขั้นกุ้ยเหริน
🔸ในปี ค.ศ.1737 จึงได้รับพระยศเป็น เจียผิน (嘉嬪"พระวรราชชายาเจีย") ให้ประสูติองค์ชายสี่คือ หลู่ว์ตวนชินอ๋อง หย่งเฉิง ในปี ค.ศ.1739
🔸จนในปี ค.ศ.1741 จึงได้รับพระยศเป็น เจียเฟย (嘉妃"พระวรราชเทวีเจีย") และประสูติองค์ชายแปด อี๋เซิ่นชินอ๋อง หย่งเสวียน ในปี ค.ศ.1746
🔸ในปี ค.ศ.1748 ก็ได้รับพระยศเป็น เจียกุ้ยเฟย และประสูติองค์ชายเก้าในปีเดียวกัน
🔸ในปี ค.ศ.1752 ก็ทรงประสูติพระโอรสอีกองค์คือองค์ชายสิบเอ็ด เฉิงเจ๋อชินอ๋อง หย่งซิง
🔸 พระนางสิ้นพระชนม์ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1755 พระชนม์ 42 ชันษา สมเด็จพระพันปีหลวงฉงชิ่งจึงอวยพระยศพระนางหลังสิ้นพระชนม์ขึ้นเป็น ซูเจียหวงกุ้ยเฟย
#jarnmooChannel