แม่น้ำสาละวิน: สายน้ำแห่งพรมแดนและความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพ
แม่น้ำสาละวินเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความยาวถึง 2,800 กิโลเมตร ทำให้แม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับที่ 26 ของโลก และยาวเป็นอันดับสองในภูมิภาค รองจากแม่น้ำโขง ต้นกำเนิดของแม่น้ำสาละวินมาจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาหิมาลัย ไหลผ่านหลายประเทศ ทั้งจีน พม่า และไทย
ในประเทศจีน แม่น้ำสาละวินถูกเรียกว่า "นู่เจียง" (怒江) หรือ "แม่น้ำพิโรธ" เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลแรงและมีความลึกมากในบางจุด แม่น้ำสายนี้ไหลผ่านมณฑลยูนนาน และเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชนเผ่าต่าง ๆ โดยเฉพาะชนชาติลีซอและนู่เจียง นอกจากนี้ แม่น้ำสาละวินยังมีต้นกำเนิดเดียวกันกับแม่น้ำโขงและแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นสายน้ำที่ยิ่งใหญ่ของทวีปเอเชีย แต่แยกตัวออกจากกันในช่วงต้นของเส้นทาง
เมื่อแม่น้ำสาละวินไหลเข้าสู่พม่า จะผ่านพื้นที่หลากหลาย ตั้งแต่รัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง และรัฐกะยา จนถึงเขตพรมแดนระหว่างไทยและพม่าที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเทศไทย แม่น้ำสาละวินจึงทำหน้าที่เป็นเส้นพรมแดนธรรมชาติ ก่อนที่จะไหลกลับเข้าสู่พม่าและบรรจบกับมหาสมุทรอินเดียที่อ่าวเมาะตะมะ รัฐมอญ
แม่น้ำสาละวินยังเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญในภูมิภาคนี้ เนื่องจากสายน้ำที่เย็นและไหลแรงเพราะเกิดจากการละลายของหิมะ ทำให้แม่น้ำสายนี้มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและสมบูรณ์ เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของพืชและสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะในประเทศจีน พื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินเป็นส่วนหนึ่งของ "พื้นที่คุ้มครองแม่น้ำขนานสามสายแห่งยูนนาน" ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก พร้อมกับแม่น้ำโขงและแม่น้ำแยงซี แหล่งมรดกโลกนี้ได้รับการยกย่องเนื่องจากมีความหลากหลายทางชีวภาพและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ
แม่น้ำสาละวินเป็นมากกว่าสายน้ำ เพราะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ตามสองฟากฝั่งมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบัน