Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กลุ่มชาติพันธุ์โส้

โพสท์โดย ท้าวขี้เมี่ยง ดังปึ่ง

    คำว่าโส้ หรือ โซ่ หรือกระโซ่ เป็นคำที่เรียกชื่อชนกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในภาคอีสาน ชาวโส้จะมีลักษณะชาติพันธุ์ของมนุษย์ในกลุ่มมองโกลอยด์ ตระกูลออสโตร – เอเชียติก มอญ – เขมร เป็นกลุ่มเดียวกับพวกแสก และกะเลิงจากบันทึกกรมพระยาดำรงราชานุภาพเมื่อครั้งเสด็จตรวจราชการที่มณฑลอุดรและมณฑลอีสาน เมื่อปี พ.ศ. 2449 อธิบายว่ากระโซ่ คือพวกข่าผิวคล้ำกว่าชาวเมืองอื่น มีภาษาพูดของตนเอง อาศัยอยู่ในบริเวณมณฑลอุดร มีมากเป็นปึกแผ่นที่เมืองกุสุมาลย์มณฑลในจังหวัดสกลนคร นอกจากนี้พบว่ามีชาวโส้อาศัยกันเป็นกลุ่ม ๆ กระจายอยู่ทั่วไป เช่น ที่อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม อำเภอเขาวง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง อำเภอดอนตาล อำเภอคำชะอี อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร

    ถิ่นฐานเดิมของชาวโส้ ชาวโส้ เดิมมีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณภาคกลางของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อาศัยกระจัดกระจายในเขตการปกครองของเมืองภูวดลสอางค์ หรือเมืองภูวนากรแด้ง เมื่อสมัยขึ้นกับราชอาณาจักรไทย ชาวโส้อาศัยอยู่ในเมืองพิณ เมืองนอง เมืองวัง – อ่างคำ และเมืองตะโปน (ปัจจุบัน คือ เมืองเซโปนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)

    การอพยพของชาวโส้สู่จังหวัดมุกดาหารและสกลนคร ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ชาวโส้ที่เข้ามาอาศัยในเขตจังหวัดมุกดาหารอพยพเข้ามาในช่วงสมัยรัชกาลพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พ.ศ. 2359 ตามตำนานกล่าวว่าเป็นคำสั่งของแถน โดยผู้ทรงเจ้าทรงผีของชาวโส้เป็นผู้ประกาศบอกกันทั่วไปว่าในไม่ช้าจะเกิดกลียุคในบริเวณที่อาศัยนี้ ได้แก่ บริเวณเมืองตะโปน จึงขอให้ลูกหลานที่รักอิสระ รักสงบ ให้พากันอพยพหนีข้ามแม่น้ำโขงไปอยู่ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่บรรพบุรุษเดิมให้อยู่บริเวณเทือกเขาภูพานเพราะบริเวณดังกล่าวมีหนองน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นที่อุดมสมบูรณ์ จะทำให้ชาวโส้มีความรุ่งเรืองต่อไป ดังนั้นผู้ที่เชื่อคำทำนายก็ได้เดินทางมาตามคำบอกนั้นเขตนั้นในปัจจุบัน คือ อำเภอดงหลวง จังหวัด มุกดาหาร

    ชาวโส้ที่อพยพเข้าสู่จังหวัดสกลนคร เชื่อว่าน่าจะมีบรรพบุรุษอยู่ที่เมืองมหาชัยกองแก้ว เมืองบก เมืองวัง เมืองบ้ำ โดยเข้ามาอยู่ในบริเวณอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนครปัจจุบัน สาเหตุที่ชาวโส้อพยพเข้าสู่บริเวณนี้สามารถสันนิษฐานได้ดังนี้

    ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการทำสงครามกับเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ กองทัพไทยได้ยึดนครเวียงจันทน์ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2371 และเข้าทำลายนครเวียงจันทน์อีกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2371 เจ้าอนุวงศ์ได้เข้าไปพึ่งบารมีของญวน และพาเครือญาติอพยพหนีไปอยู่ที่เมืองเว้ เมืองกะปอม และในเขตญวน หลังจากนั้นกองทัพไทยได้ยึดเมืองมหาชัยกองแก้ว ซึ่งเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมากแล้วนำเอาชาวโส้ ชาวข่าอื่น ๆ ข้ามฝั่งภาคอีสาน ชาวโส้จำนวนมากได้อาศัยอยู่ในเขตอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร

    วิถีชีวิตของชาวโส้ ด้วยกลุ่มชาติพันธุ์โส้ เป็นกลุ่มชนที่มีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งที่เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ (Supernaturalism) และความเชื่อตามคติขอม ชาวโส้ยังมีการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีจากบรรพบุรุษอย่างเหนียวแน่น เช่น พิธีกรรมเกี่ยวกับการคิด การแต่งงาน การรักษาคนป่วย พิธีกรรมเกี่ยวกับการตาย และพิธีกรรมเกี่ยวกับการละเล่น ได้แก่ การเล่นลายกลอง การเล่นโส้ทั่งบั้ง ชาวโส้จะนำเอาดนตรีเข้าไปบรรเลงเป็นส่วนประกอบพิธีกรรม

    พิธีกรรมเกี่ยวกับการเกิด เมื่อหญิงชาวโส้ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ชาวโส้จะทำ "พิธีตัดกำเนิด" โดยใช้หมอที่มีวิชาอาคม ซึ่งจะเป็นหมอผู้ชายหรือหญิงก็ได้แต่ต้องไม่เป็นหม้ายมาทำพิธีตัดกำเนิด โดยมีเครื่องคายในการทำพิธีกรรมดังนี้

  1. กระทงสามเหลี่ยม 9 ห้อง จำนวน 1 กระทง
  2. ข้าวดำ ข้างแดง แกงส้ม แกงหวาน
  3. น้ำใบส้มป่อย 1 ขัน
  4. ด้าย ทำด้วยฝ้ายแท้สีขาว และสีดำ
  5. เครือสูด (เถาวัลย์ชนิดหนึ่ง)

    ฝ้ายทำด้วยด้ายสีขาวและสีดำ จะผูกคาดศีรษะของผู้ตั้งครรภ์ อีกปลายหนึ่งผูกไว้ที่กระทง และอีกข้างหนึ่งสามีของผู้ตั้งครรภ์จะจับไว้ ผู้ตั้งครรภ์ก็จะนั่งเหยียดเท้าทั้งสองข้างไปทางกระทง โดยมีอุปกรณ์ที่ใช้เบิกผี มีดังนี้

  1. ผ้าถุง 1 ผืน
  2. ผ้าขาวม้า 1 ผืน
  3. ไก่ต้มสุก 1 ตัว
  4. เหล้า 1 ไห
  5. เงิน 12 บาท

    เสร็จแล้วหมอผีจะทำพิธีเอาข้าวดำ ข้าวแดง ไปจ้ำตัวผู้ตั้งครรภ์เพื่อเอาแม่เสนียดออกจากตัวผู้ตั้งครรภ์ทิ้งไว้ในกระทง พร้อมกับนับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า ต่อไปหมอจะเบิกผีพรายด้วยคาถา แล้วหมอจะใช้ง้าว (ดาบ) ตัดด้าย และเถาวัลย์ เสร็จแล้วจึงนำกระทงไปทิ้งตามทิศที่หมอบอก ผู้นำกระทงไปทิ้งเวลากลับจะต้องหักกิ่งไม้ติดมือมาด้วยเพื่อที่จะเอามาปัดสิ่งชั่วร้ายออกจากบ้าน จึงเป็นเสร็จพิธีตัดกำเนิด

    พิธีกรรมเกี่ยวกับการรักษาคนป่วย ชาวโส้จะมีความเชื่อในเรื่องผีมาก และชาวโส้จะแบ่งประเภทของผีเป็น 2 ประเภท คือ ผีมูล และผีน้ำ เป็นผีที่อยู่ตามธรรมชาติ เช่น ผีฟ้า ผีแถน ผีไร่ ผีนา ผีตามป่าตามเขา ส่วนผีมูลเป็นผีที่มาจากเชื้อสายบรรพบุรุษ เมื่อจะกระทำการใด ๆหรือเมื่อเจ็บป่วยชาวโส้จะทำพิธีกรรมเหยา

    การเหยาของชาวโส้ แบ่งออกเป็นกลุ่ม ดังนี้

  1. การเหยาลงสนาม เป็นการเหยาตามฮีตคองของหมอเหยา ผู้ที่เข้าร่วมพิธีกรรมจะต้องเป็นผู้ป่วยที่หมอเหยาเคยรักษาแล้วหายป่วย ที่ลงสนามผีน้ำและผีมูล การลงสนามของผีมูลจะทำกัน 3 ปี ต่อ 1 ครั้ง แต่ผีน้ำจะลงสนามทุกปีซึ่งการเหยาจะลงสนามช่วงเดือน 3 – 4 ของเดือนทุกปี
  2. การเหยาลงทำไร่นา จะทำการเหยาในช่วงก่อนการลงปักดำนาจุดประสงค์ในการเหยาเพื่อให้ผีไร่นาช่วยดลบันดาลให้น้ำท่าข้าวกล้าในนาอุดมสมบูรณ์
  3. การเหยาตัดกำเนิด เป็นการเหยาเพื่อตัดกำเนิดในการคลอดลูก เพื่อหญิงชาวโส้ที่จะคลอดลูกและลูกที่คลอดออกมาสมบูรณ์แข็งแรงไม่มีพิษภัย
  4. การเหยาเพื่อเสี่ยงทายเป็นการเหยาเพื่อหาสาเหตุ เมื่อพบสาเหตุแล้ว จะทำการเหยาเพื่อแก้ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของการเหยาเพื่อรักษาคนป่วย
  5. การเหยาเพื่อการรักษาคนป่วย คนโส้เชื่อว่าคนป่วยเกิดจากการกระทำของผีน้ำหรือผีมูลก็ได้

   

ในการเหยาทั้ง 5 ประเภท จะมีเครื่องคายหรือเครื่องเซ่นสรวงเหมือนกัน

    ในกรณีการเหยาเพื่อรักษาคนป่วย ชาวโส้มีความเชื่อว่า การเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดจากการกระทำของผี การรักษาคนป่วยขั้นแรกที่ชาวโส้นึกถึง คือ การเหยา โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ คือ ถ้าของบ้านที่มีคนป่วยจะต้องหาหมอมาเหยา และหาหมอล่ามและหมอแคน ต่อจากนั้นจะต้องเตรียมค่าคาย ที่จะให้หมอเหยาขึ้นบ้านเป็นเงิน 2 บาท ขันธ์ 5 เหล้า 1 ขวด และไข่ไก่ 1 ฟอง หลังจากนั้นหมอเหยาจะเสี่ยงหาสาเหตุว่าโดนกระทำของผีตนใด อุปกรณ์การเสี่ยงทาย 2 อย่าง คือ เสี่ยงทายจากการตั้งไข่ กับการเสี่ยงทายจากการนับเม็ดข้าวสาร ว่าเป็นคู่หรือคี่ว่าเหยาแล้วจะหายหรือไม่หาย เมื่อทราบสาเหตุแล้วก็จัดการหาคายลงดิน มี

  1. ผ้าซิ่นผืน แพรวา
  2. เงินค่าคาย 60 บาท
  3. กระทง 1 กระทง (เป็นกระทงเพื่อเซ่นสรวง) ประกอยด้วย

       - ดอกไม้แดง

       - เทียน

       - ข้าวดำ ข้าวแดง

       - หมากพลู

       - เมี่ยง ทำจากใบมะยอใบมะยม หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

       - รูปคน ซึ่งหมายถึง คนป่วยทำจากกาบกล้วย

       - รูปช้าง ม้า ทำจากดิน

       - เรือ ทำจากกาบกล้วย

       - เครือซูด

    พิธีกรรมเกี่ยวกับการตาย ชาวโส้เรียกพิธีกรรมเกี่ยวกับการตายว่า "ซางกะมูด" เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ของชาวโส้ ซาง แปลว่า กระทำ กะมูด แปลว่า ผี ซางกะมูดมีความหมายรวมกันว่าการกระทำผีดิบให้เป็นผีสุก ก่อนจะนำคนตายไปฝังหรือเผา หากไม่กระทำพิธีซางกะมูดผีนั้นจะยังเป็นผีดิบอยู่ ซึ่งไม่เป็นมงคลจะทำให้วิญญาณไปผุดไปเกิดไม่ได้ การกระทำพิธีซางกะมูดจะทำศพคนตายที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้น หากศพที่มีการตายตามปกติก็จะกระทำซางกะมูดได้เลย คือ ทำก่อนไปเผา แต่ศพที่ตายโดยอุบัติเหตุชาวโส้ถือว่าเป็นการตายผิดปกติจะทำพิธีก็ต่อเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนแล้ว

    ขั้นตอนในการทำพิธีซางกะมูด ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะกรณีศพตายปกติ มีขั้นตอนการทำซางกะมูด 6 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ขั้นหาฤกษ์ยาม เมื่อมีคนตายเกิดขึ้น ญาติผู้ตายจะรีบแจ้งข่าวการตายให้นิ๊ว (น้าบ่าว) ทราบทุกคน แจ้งข่าวให้เฒ่าแก่เจ้าฮีตหรือพิธีกรประจำหมู่บ้านเพื่อหาฤกย์ยามในการเก็บศพ เผา หรือฝัง (วันอังคารจะเป็นวันคะลำ / ขะลา) เมื่อหาฤกย์ยามได้แล้วญาติผู้ตายก็จะบอกนั๊วเป็นครั้งที่สองเพื่อให้ทราบวันเวลาในการซางผี ซึ่งครั้งแรกจะเป็นการบอกข่าวการตายแก่ยาฮีต (พิธีกรประจำหมู่บ้าน) และบอกเขย (หมายถึงจุ้มเขยทั้งหมด)
  2. ขั้นตอนรับนิ๊ว (น้าบ่าว) ในวันแรกจะจัดของต้องรับน้าบ่าวดังนี้ จัดสำรับกับข้าว 2 สำรับไข่ไก่สำรับละ 1 ฟอง ส่วนน้าบ่าวจะเตรียมเหล้าไห 2 ไห โดยให้พิธีกรหรือเฒ่ายาฮีต 1 ไห และมอบให้เฒ่าจ้ำผี 1 ไห
  3. ขั้นกระทำพิธีในวันที่สองของการตาย แจ้งให้น้าบ่าวทราบเรื่องซางกะมูด น้าบ่าวจะเตรียมเหล้าไห 2 ไห มอบให้พิธีกรหรือยาฮีต 1 ไห เฒ่าจ้ำผีที่ตาย 1 ไห

    4.ขั้นก่อนการเคลื่อนย้ายศพออกจากบ้าน เฒ่าจ้ำจะบอกผีหรือบอกซางศพว่า "ถึงเวลาจะไปอยู่ในที่มงคลแล้วไปอยู่บ่อนฮ่มบ่อนเย็นเด้อ" พร้อมกับหยิบข้าวสารหว่านไปที่ซากศพนั้น จากนั้นก็จะทำพิธีกรรมซางกะมูดครั้งสุดท้ายก่อนที่จะนำศพไปป่าช้า การทำพิธีซางกะมูดครั้งสุดท้ายฮีตจะถือถ้วยติดเทียนจุดไฟ 1 คู่ แล้วลุกขึ้นยืน คนที่ 1 เดินนำหน้าเวียนขวา คนที่ 2 เป็นเขยคนแรกถือบั้งไม้หรือไห คนที่ 3 เป็นเขยเล็กจะถือเหล็ก (มีดพร้าหัก เคียวหัก หรือขวานหัก) เคาะ และคนที่ 4 คนสุดท้ายจะเป็นคนถือชามหรือจาน คนทั้งสี่จะเดินเวียนขวาแล้วเวียนซ้าย

  1. ขั้นการขอขมา จุ้มเขย และลูกหลานจะเข้ามาขอขมาคารวะต่อศพ โดยเจ้าฮีตจะเป็นผู้นำกล่าวโดยให้ทุกคนหมอบลง เจ้าฮีตจะถือขันธ์ 5 มีดอกไม้ และเทียนรวม 5 คู่ และเจ้าฮีตจะนำกล่าวขมาต่อผี
  2. ขั้นการตัดเวรกรรม เมื่อศพไปถึงป่าช้าแล้ว ก่อนที่จะเผาหรือฝังจะมีพิธีทางศาสนาแล้วจะมีพิธีตัดเวรตัดกรรมดังนี้ พิธีกรหรือเจ้าฮีตจะนำเถาวัลย์มา 1 เส้น ยาวประมาณ 1 – 2 วา ปลายข้างหนึ่งจะมัดไว้ที่โลงศพอีกปลายหนึ่งจะจับไว้โดยญาติ ลูกหลาน และผู้แบกหามศพ เจ้าฮีตจะกล่าวว่า "ต่อไปนี้ตัดญาติขาดมิตรกัน เดินทางคนละเส้น ทางใครทางมัน..." พร้อมกับใช้มีดตัดตรงกลางเถาวัลย์เส้นนั้นให้ขาดและพูดต่อไปอีกว่า "ทางคนละเส้นตะเวนคนละนวย"

   

คนไทยโส้มีพิธีกรรมความเชื่อที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ในปัจจุบันความเชื่อในบางพิธีกรรมเริ่มจัดทำน้อยลง คนรุ่นใหม่ที่ออกไปศึกษานอกหมู่บ้านหรือไปทำงานต่างถิ่นจึงมีความสนใจในพิธีกรรมของวิถีแบบเก่าลดน้อยลงจากบรรพบุรุษมาก

    การแต่งกายของชาวโส้สมัยโบราณ

    ผู้ชาย สวมเสื้อคอตั้งเล็กน้อย ติดกระดุม ชายเสื้อผ่าด้านข้าง กางเกงขาก๊วย หรือผ้าเตี่ยวสีดำ กางเกงชั้นในสีขาว ถ้ามีเทศกาลจะนิยมคาดเอวหรือพันศรีษะด้วยผ้าปิดที่สวยงาม สวมรองเท้าทำด้วยหนังควาย ผู้เรียนไสยศาสตร์จะสวมลูกประคำด้วยลูกแก้หรือลูกมะกล่ำเป็นสัญลักษณ์

    ผู้หญิง นิยมใส่เสื้อดำ แขนกระบอก ผ่าอกขลิบแดงทั้งสองด้าน ติดกระดุมด้วยเหรียญเงินไม่มีกระเป๋าที่ตัวเสื้อ ผ่าชายเสื้อทั้งสองด้าน มีฝ้ายสีแดงพันเป็นเกลียวเย็บเป็นรังดุม ใช้เป็นสัญลักษณ์ของหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน ใช้นำมันทาผม

โพสท์โดย: ประเสริฐ ยอดสง่า
อ้างอิงจาก: กลุ่มชาติพันธุ์โส้
ตำนานไทโส้
ตำนานอำเภอกุสุมาลย์
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Thorsten
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
5 ธุรกิจเสือนอนกิน ที่คุณก็เริ่มได้4 เครื่องดื่มชะลอวัย หน้าใสไร้ริ้วรอย ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย ต้องดื่ม 3 เครื่องดื่มสร้างสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง 3 เครื่องดื่มเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย7-11 มาตอบเอง! ดูยังไงว่าเป็นร้านของบริษัทหรือแฟรนไชส์ สังเกตง่าย ๆ ที่ตรงนี้ความเครียดในวัยทำงาน: ทำไมถึงเกิดขึ้นและวิธีการจัดการให้ดี!โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ทำเพจเฟสบุ๊คให้ปัง! เคล็ดลับสำหรับผู้ที่อยากมีเพจสุดฮอตดาราดังของจีน "เซีย อี้ตัน" เสียชีวิตแล้วช็อคอีกรอบ! ลือ ไอ้เหี้ยมชาวจีนที่ฆตต.สาวสองที่แท้ควักปอดไป "ต้มกิน"?รวมภาพสุดขำ ฮาๆ วันหยุด 27/05/68 จ้าน้องงูจงอางจ้องหน้ากู้ภัย หลังหลุดจากกล่องระหว่างทางไปปล่อย วุ่นวายทั้งคันรถ! เพราะน้องจ้องอย่างแรง พร้อมเซ็ตย่อห่อใส่ใข่ให้แน่ๆ ถ้ามีโอกาศความสุขสร้างขึ้นง่าย ๆ: เคล็ดลับชีวิตที่ทำได้ทุกวันทึ่งทั่วโลก : หาดโบทานิคัล (Botanical Beach) หาดที่มีความแปลก เมื่อพื้นที่ของหาด เหมือนกับเป็นบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มเล็กๆ เต็มไปหมด ดูเพลินเลย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ความเครียดในวัยทำงาน: ทำไมถึงเกิดขึ้นและวิธีการจัดการให้ดี!รวมภาพสุดขำ ฮาๆ วันหยุด 27/05/68 จ้าใส่อาหารร้อนในกล่องโฟม? จดและจำ 5 ข้อง่ายๆ คนกินปลอดภัย ไม่เสี่ยงมะเร็ง!โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่น้องงูจงอางจ้องหน้ากู้ภัย หลังหลุดจากกล่องระหว่างทางไปปล่อย วุ่นวายทั้งคันรถ! เพราะน้องจ้องอย่างแรง พร้อมเซ็ตย่อห่อใส่ใข่ให้แน่ๆ ถ้ามีโอกาศ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ความเครียดในวัยทำงาน: ทำไมถึงเกิดขึ้นและวิธีการจัดการให้ดี!ทำเพจเฟสบุ๊คให้ปัง! เคล็ดลับสำหรับผู้ที่อยากมีเพจสุดฮอตใส่อาหารร้อนในกล่องโฟม? จดและจำ 5 ข้อง่ายๆ คนกินปลอดภัย ไม่เสี่ยงมะเร็ง!ความสุขสร้างขึ้นง่าย ๆ: เคล็ดลับชีวิตที่ทำได้ทุกวัน
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง