ปริศนาวิญญาณสยองวิญญาณในทะเลสาบ ณ เมืองเคราล่า
ผมยอมรับเลยนะครับว่าชอบฟังเรื่องเล่าเรื่องผีวิญญาณหลอนสิ่งเร้นลับต่างๆนานาคุณเคยฟังเล่าเรื่องผีในรายการ the shock หรือเปล่านั่นแหละครับ ผมจะนอนหลับได้ก็ต่อเมื่อได้ฟังรายการนี้แล้วมันก็จะหลับไปแต่ไม่รู้สึกอะไรนะครับ
มันเป็นความเคยชินอาจจะเป็นความชอบส่วนบุคคล วันนี้ก็เลยมีเรื่องที่จะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่องผีๆนี่แหละแต่มันเป็นผีวิญญาณหลอนหรืออะไรก็ไม่รู้นะจากต่างประเทศเท่าที่อ่านและรวบรวมมาก็เลยมานำเสนอหวังว่าคงจะสร้างความเพลิดเพลินสยองขวัญสั่นประสาทได้บางพอสมควรนะครับ
วิญญาณในทะเลสาบ
ทุก ๆ กลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนที่มีฝนตกหนักมากที่สุดในประเทศอินเดีย ณ เมืองเคราล่า รัฐหนึ่งทางตอนใต้สุดของอินเดียตะวันตก ชาวเมืองจะต่างพากันหยุดงาน เพื่อออกมาฉลองเทศกาลปุราม หรือพิธีเฉลิมฉลองก่อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลินั่นเอง
แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวเมืองเคราล่าในหมู่บ้านคอทตายัม กลับต้องประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ท่ามกลางเหตุการณ์สยองขวัญสั่นประสาท ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เจอ
โดยปกติแล้ว ทุก ๆ เดือนกรกฎาคม ชาวเมืองเคราล่าในแต่ละหมู่บ้าน จะเตรียมเรือของพวกเขาเพื่อนำไปแข่งขันกันในพิธีฉลองเทศกาลปุราม ซึ่งในวันเทศกาลนั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านคอทตายัมทั้งหญิงและชายต่างมุ่งหน้ามายังทะเลสาบเวมนาบาด เพื่อเข้าร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับนำหม้อดินเปล่า ๆ ติดตัวมาด้วย
เนื่องจากพวกเขาหวังว่าสายฝนจะโปรยปรายลงมา สร้างความชุ่มฉ่ำและนำพาโชคลาภมาให้แก่พวกเขา ซึ่งก่อนที่จะมีการแข่งขันพายเรือ จะต้องมีพิธีสังเวยเรือโดยใช้ไก่เป็นเครื่องบูชา จากนั้นชาวบ้านที่เป็นฝีพายก็จะลงไปนั่งประจำที่ ทุกคนต่างนุ่งโจงกระเบนและโพกหัวกันด้วยผ้าสีขาว โดยมีนายเรือกางร่มสีแดงยืนคอยสั่งการอยู่กลางลำ
ในขณะที่ชาวเมืองต่างพากันวุ่นวาย กับพิธีกรรมที่จะเริ่มขึ้นตรงหน้าในไม่ช้า ดูเหมือนว่าไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็น บุรุษลึกลับคนหนึ่ง ซึ่งเข้าไปร่วมอยู่ในขบวนฝีพายบนเรือลำหนึ่งด้วย นั่นคงเป็นเพราะการแต่งกายของชายคนนั้น ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้ไม่มีใครรู้สึกผิดปกติ
แต่ในขณะที่เรือลำนั้นกำลังจะแล่นออกจากฝั่ง จู่ ๆ ก็เกิดคลื่นขนาดยักษ์พัดเข้ามากระแทกเข้ากับเรืออย่างจัง ส่งผลให้เรือลำใหญ่ถึงกับเอียงวูบ และพาร่างของฝีพายหลายสิบนาย จมหายลงไปในทะเลสาบทันที ท่ามกลางความตกตะลึงของชาวบ้านที่ยืนมุงดูอยู่ริมฝั่ง
ไม่กี่นาทีต่อมา ทั่วทั้งท้องทะเลสาบก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มกว่า 30 คน โผล่พรวดขึ้นมาบนผิวน้ำ พร้อมกับตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นไม่นาน นักประดาน้ำกว่า 10 นายก็มาพร้อมกันที่ชายฝั่ง และโดดลงไปช่วยเหลือพวกเขาทันที ในขณะที่ชาวบ้านที่อยู่บนฝั่งก็ต่างหาอุปกรณ์เท่าที่พอจะหาได้ โยนลงไปให้พวกเขาเหล่านั้นเกาะพยุงตัวเองเอาไว้
ทันทีที่ฝีพายกลุ่มแรกขึ้นมาจากน้ำได้ พวกเขาก็ละล่ำละลักบอกกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนฝั่งว่า ในทะเลสาบนั้นจะต้องมีสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน เพราะขณะที่พวกเขาลอยคออยู่ในน้ำนั้น ต่างรู้สึกเหมือนกับว่า มีมือของใครคนหนึ่งมาดึงขาของพวกเขาเอาไว้
ทั้งที่ทุกคนในนั้นต่างว่ายน้ำเป็น แต่มือลึกลับดังกล่าวกลับมีแรงมาก จนทำให้พวกเขาไม่สามารถพยุงตัวเองเอาไว้ได้ ยังดีที่ความช่วยเหลือมาทันท่วงทีไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะต้องจบชีวิตอยู่ใต้ท้องทะเลสาบแห่งนี้อย่างแน่นอน
หลังจากที่นักประดาน้ำช่วยเหลือเหล่าฝีพายขึ้นมาจากทะเลสาบได้หมด โดยที่ไม่มีใครเป็นอะไร เพียงแต่บางคนอาจจะได้รับบาดเจ็บ ขณะที่แย่งกันว่ายเข้าฝั่งบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนที่อยู่ในพิธีเป็นอย่างมาก เพราะโดยปกติแล้ว ในระหว่างประกอบพิธีฉลองเทศกาลปุราม ที่จัดขึ้นเป็นประจำมานานหลายปี น้ำในทะเลสาบจะสงบเงียบปราศจากคลื่นลม ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดลบันดาลให้เป็นเช่นนั้น แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้พวกเขาต่างพากันสงสัยว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่ในขณะที่หลายคนต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้น ก็มีชายคนหนึ่งในกลุ่มของเหล่าฝีพายโวยวายขึ้นมา พร้อมกับชี้มือไปที่เรือลำใหญ่ซึ่งใช้ประกอบในพิธี และเมื่อทุกคนหันไปมองตามมือของฝีพายคนนั้น พวกเขาก็เห็นร่างดำทะมึนของชายคนหนึ่ง ยืนอยู่บนหัวเรือและกำลังหัวเราะด้วยความสะใจแต่ในตอนแรกไม่ได้มีใครสนใจชายคนที่ยืนอยู่บนเรือเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างคิดว่าเขาก็คงเป็นผู้ที่มาร่วมในพิธีคนหนึ่งเท่านั้น
จนกระทั่งชายคนที่ร้องโวยวายขึ้นมา ตะโกนบอกให้ทุกคนทราบว่า ชายคนที่ยืนอยู่บนเรือคนนั้น เป็นเพื่อนของเขาซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เท่านั้นเองชาวบ้านที่มาเข้าร่วมพิธีต่างก็ลุกฮือด้วยความหวาดกลัว บางคนรีบถอยหนีออกมาให้ห่างจากเรือลำที่เกิดเหตุ บางคนก็เริ่มสวดมนต์ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ขณะที่บางคนรวมทั้งชายคนที่ร้องโวยวายขึ้นมา ต่างอาศัยความกล้าเดินเข้าไปใกล้เรือลำนั้น แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเข้าไปถึงตัวชายลึกลับ จู่ๆท้องฟ้าก็กลายเป็นสีแดงเพลิง และทันใดนั้นเอง ร่างของชายลึกลับคนดังกล่าว ก็ค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับสายฝน ที่เริ่มกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ชาวบ้านก็ต่างเข้ามารุมซักถามชายคนที่อ้างว่า เป็นเพื่อนของบุรุษลึกลับคนนั้นด้วยความสนใจ แล้วพวกเขาก็ได้ทราบความจริงว่า บุรุษลึกลับคนดังกล่าว มีชื่อว่า นาซิม เป็นหนึ่งในฝีพาย
ที่กำลังจะได้เข้าร่วมการแข่งเรือในพิธีครั้งนี้ แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาก่อนจะถึงวันงาน นาซิมซึ่งมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะนำพาโชคลาภมาให้ เขาจึงมักจะนำเรือลำเล็กออกไปฝึกพายตามลำพังเป็นประจำ
จนกระทั่งวันหนึ่ง นาซิมเกิดพายเรือเข้าไปชนกับหินโสโครกกลางทะเลสาบ จนเรือของเขาพลิกคว่ำ และที่โชคร้ายไปกว่านั้น หัวของเขายังไปกระแทกเข้ากับขอบเรือจนสลบเหมือด ทำให้เขาไม่สามารถพยุงร่างของตัวเองขึ้นมาจากน้ำได้ ในที่สุดวิญญาณของนาซิมก็หลุดลอยออกจากร่าง และยังคงวนเวียนอยู่ใน ณ ผืนน้ำอันกว้างใหญ่แห่งนี้ และเชื่อว่าการที่เขามาปรากฏร่างในพิธีครั้งนี้ คงจะเป็นเพราะความผิดหวังที่ตัวเองไม่ได้เข้าร่วมงานตามที่ตั้งใจไว้
และนับตั้งแต่นั้นมา ชาวเมืองเคราล่าในหมู่บ้านคอทตายัมก็มักจะเห็นวิญญาณของนาซิม มาปรากฏตัวยังบริเวณชายฝั่งของทะเลสาบเวมนาบาดเป็นประจำ แม้ว่าชาวบ้านจะช่วยกันทำพิธีสวดส่งวิญญาณของเขาให้ไปผุดไปเกิดแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ความผูกพันธ์ที่นาซิมมีต่อหมู่บ้านแห่งนี้ดูจะยิ่งใหญ่มาก และคงจะทำให้วิญญาณของเขายังล่องลอยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ไปจนชั่วนิรันดร์.....
👉หวังว่าเพื่อนๆคงจะมีประสบการณ์หรือเรื่องราวเรื่องผีต่างๆนานาในใจกันบ้างแล้วนะครับถ้าเพื่อนๆสนใจเรื่องอะไรสยองแบบไหนก็ลองเสนอแนะเข้ามาได้นะครับ
ภาพจาก google search