อามันต์(เจ้าแห่งป่า)Specil - แม่หญิงเรไรคนงาม *นิยายจบในตอน*
นิยายเรื่อง อามันต์เจ้าแห่งป่า Spcila นามปากกา...มาศอุไร
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook)
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
-----------------------------------------------------
*ลิงค์สำหรับเข้าโหลดซื้อนิยาย ebook เรื่อง อามันต์(เจ้าแห่งป่า)*
- https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIwNzM3MyI7fQ
------------------------------------------------------
*สามารถเข้าอ่านนิยาย อามันต์(เจ้าแห่งป่าฉบับเต็มได้ที่ ธัญวลัย) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ
- https://www.tunwalai.com/story/469450
--------------------------------------------------------
*แฟนเพจ: กนกรส* https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1571440
แม่เรไรคนงาม
(3)
“อาการของนังลำดวนเป็นอย่างไรบ้าง พ่อหมอ...มันจะตายหรือไม่? ” เศรษฐีเปลวกระโจนจากตั่งไม้สักอย่างร้อนใจ เขาคว้าท่อนแขนผอมของหมอรักษาพามานั่งยังเก้าอี้หวายตัวใกล้ๆ พร้อมเอ่ยถามเสียงระรัว
สีหน้าของพ่อหมอฉายแววกังวล เขาตรวจดูอย่างละเอียด อาการของคนป่วยค่อนข้างน่าเป็นห่วง ถ้าไม่พาไปรักษาในเมือง ให้หมอฝรั่งดูอาการท่าจะรอดยากงานนี้
พ่อหมอจึงอธิบายอาการของลำดวนอย่างละเอียด ตบท้ายด้วยคำแนะนำอย่างที่ตัวเองคิด และลากลับเรือนยาของตัวเองทันที
“โธ่!ลำดวน เอ็งช่างอาภัพนัก...”
เศรษฐีเปลวคร่ำครวญ นึกใจหายหากเขาต้องเสียเมียรักคนนี้ ลำดวนให้ความสุขเขาจนอิ่มเอม ไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักครั้งในยามเขาเสพสุขกับเรือนร่างอรชรของเจ้าหล่อน มีแต่จะนำความสุขอิ่มเอมมาทำให้หัวใจคนแก่เยี่ยงเขาชุ่มชื่นอยู่เสมอ
พอส่งพ่อหมอลงเรือน เศรษฐีเปลวจึงย้อนกลับเข้ามาเฝ้าอาการของหญิงสาว ลำดวนเป็นเมียคนที่สามของเขา ซึ่งเปลวค่อนข้างจะหลงหนักมากกว่าเมียคนอื่นๆ ที่เขาให้การเลี้ยงดู ปลูกเรือนหลังเล็กให้อยู่รายล้อมภายในบริเวณเรือนใหญ่ของเขา
ซึ่งผู้หญิงที่เปลวเลี้ยงดูเอาไว้นั้นมีนับสิบชีวิต แต่ที่เรียกเป็นเมีย มีเพียงสี่คนเท่านั้น คนแรกคือเป็นเมียเอก ชื่อว่าจำปี คนที่สองชื่อว่าจำปา เจ้าหล่อนเป็นน้องสาวคลานตามกันมาของจำปี ส่วนคนที่สามคือลำดวน และคนสุดท้ายเศรษฐีเปลวเพิ่งจะได้เจ้าหล่อนมาเป็นเมียเมื่อไม่กี่อาทิตย์ มีชื่อว่า เรไร
“นังลำดวนมันถูกวางยาพิษ ร้ายแรงถึงขั้นเอาชีวิต ดีที่อีฉันเข้ามาเจอมันเร็ว เลยช่วยยื้อลมหายใจมันเอาไว้ได้ข้ามวัน แต่จะนานสักแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับเวรและกรรมที่มันเคยทำมา ทั้งอดีตชาติหรือปัจจุบัน ถ้ามันทำกรรมดีมากกว่ากรรมชั่ว มันก็คงจะรอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราช...”
ละเมียดผู้เป็นแม่แท้ๆของลำดวน พรั่งพรูความคิดอย่างคนเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเกินครึ่งชีวิต นางเอ่ยปากบอกแก่เศรษฐีผู้มักมากในกามตัณหาอย่างนึกน้อยอกน้อยใจต่อโชคชะตา
อุตส่าห์ได้มาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเรือนใหญ่งามเพียงไม่กี่ปี ถ้าสิ้นลำดวนมิต้องกลับไปตกระกำลำบากอีกกระนั้นหรือ?
ละเมียดทอดสายตามองลูกสาว
ลำดวนเอ่ย...ลำดวนลูกแม่ไยเอ็งถึงต้องมาพบเจอแต่กับคนจิตใจโหดร้ายถึงเพียงนี้ ทั้งที่เอ็งยังสาวยังแส้อยู่แท้ๆแต่จะมาด่วนตายจากด้วยถูกคนจิตใจอัปรีย์ลอบวางยาพิษหมายเอาชีวิตเอ็งให้ตายกระนั้นหรือ
หรืออาจเป็นเพราะว่าพวกมันอาจจะล่วงรู้ว่าเอ็งกำลังดื่มยาบำรุงครรภ์ เตรียมจะมีทายาทให้กับเศรษฐีเปลว
มันจึงหวังตัดไฟเสียแต่ต้นลม ลอบวางยาฆ่าเอ็งให้ตาย...
ละเมียดพอเดาออกว่าเป็นฝีมือของผู้ใดทว่าไม่อาจเอ่ยปากพูดออกไปได้ ต้องมีหลักฐาน หรือไม่ก็ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา ไอ้อัปรีย์ผู้นั้นมันถึงจะยอมรับ
เจ้าตัวนั่งตาแดงก่ำนึกสาปแช่งคนที่มันลงมือทำร้ายลูกสาว ขอให้พวกมันได้รับผลกรรม มือคอยปาดน้ำหูน้ำตาทิ้ง สลับสับเปลี่ยนกับการลูบคลำใบหน้าซีดขาดของลูกสาวในไส้อย่างนึกเวทนาในโชคชะตาอาภัพ
เศรษฐีเปลวหลุบสายตามองแม่ของเมียเพียงครู่ จึงชักสายตากลับมามองเมียรัก ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษไร้หมึกแต่งแต้มนอนหายใจรวยริน กลีบปากแตกระแห้งคล้ายกับคนขาดน้ำยิ่งดูน่าเวทนาสงสาร
“ข้าจะส่งนังลำดวนไปรักษาตัวในเมือง...เอ็งเตรียมตัวไปกับมันด้วยแล้วกัน...”
เปลวสั่งความไว้เสียงเข้ม เขาตัดใจผละห่างออกจากเตียงของคนป่วยอาการใกล้ตาย ต่อให้ใจรักลำดวนมากแค่ไหน บัดนี้เจ้าหล่อนก็ไม่อาจลุกขึ้นมาบำรุงบำเรอความสุขให้เขาได้
เศรษฐีเปลวลงจากเรือนของเมียคนที่สาม มุ่งตรงมายังเรือนของเมียคนสุดท้อง แม่หญิงเรไรคนงามเป็นถึงลูกสาวคหบดี มีเชื้อสายผู้ดีเก่า ทว่าหญิงสาวดันมีแม่ติดการพนันจนทำให้เรือนนั้นล่มจม จำต้องบากหน้ามาแร่ขายให้กับเขาเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ในบ่อน
เรไรยังเป็นสาวน้อยลีลารักจึงยังไม่ถูกอกถูกใจคนมักมากในกามอย่างเปลว เขาจึงไม่ค่อยมาหาหญิงสาว ได้ไม่กี่ครั้งก็นึกเบื่อกลับไปกินของเก่าอย่างลำดวน
เรไรก็หาใช่ว่าต้องเดือดร้อน เธอไม่คิดนึกรักผู้ชายแก่คราวพ่อ จำใจต้องทอดกายเพื่อให้แม่มีเงินไปใช้หนี้และรักษาบ้านที่คุณพ่อทั้งรักทั้งหวงแหน
“แม่หญิงเรไรเจ้าขา...ท่านเศรษฐีมาหาเจ้าค่ะ” สีคำบ่าวรับใช้คลานเข้ามารายงานเสียงระรื่น
“อย่างนั้นหรือ...” น้ำเสียงเย็นชาจนบ่าวตัวดำจับได้
“แม่หญิงเรไรไม่ดีใจหรือเจ้าคะ...นานๆที ท่านเศรษฐีจะมาหาแม่หญิงถึงเรือนสักครั้ง” สีคำขนลุกซู่ ยามหวนนึกถึงเสียงคร่ำครวญตอนแม่หญิงเรไรถูกท่านเศรษฐีจับกินตับไตไส้พุง เสียงร้องโหยหวนนั้นดังลั่น ดังไปทั่วทั้งเรือนนี้กระมัง ทำเอาคนร้างห่างผัวอย่างสีคำต้องนั่งขมิบรู ปั่นป่วนในช่องท้องจนต้องเผ่นแน่บแอบมาให้ไอ้ดงคนสวนมันกระทุ้งลำดุ้นให้หายปั่นป่วน
เรไรเบือนใบหน้ามองไปยังประตูห้อง มองจนแน่ใจบานประตูยังไม่มีใครมายืนแอบฟังอยู่ตรงนั้น เธอจึงโน้มหน้าไปหาบ่าวรับใช้ ส่งเสียงกระซิบกระซาบ
“ฉันเบื่อจะแย่ ไม่เห็นอยากให้มันมาหาสักหน่อย”
สีคำยกนิ้วจุ๊ปาก สั่นหน้าห้ามไม่ให้นายสาวพูดประโยคไม่งามออกมาอีก ยังไงซะเศรษฐีเปลวท่านก็มีจิตใจกว้างขวาง เลี้ยงดูบ่าวไพร่ในเรือนให้อยู่ดีกินดีทุกชีวิตก็ว่าได้
พอบานประตูถูกผลักเข้ามา สีคำก็คลานหนีออกมาจากห้องนอนของนายสาวคนงามอย่างรู้หน้าที่...
-------------------------------------
ปรัก ปรัก ปรัก
“โก้งโค้งแอ่นก้นให้ข้ากระทุ้งดุ้นลำเข้าใส่อีก...อ๊า...ซีด...เร็ว อย่าได้ช้า”
เศรษฐีเปลวสั่งเสียงกระหืดกระหอบขณะสะโพกดันดุ้นเนื้อสวมสอดเข้าในโพรงคับแน่น เรไรกัดฟันสะบัดใบหน้าหนี ไม่อยากมองไอ้คนมักมากให้เสียอารมณ์
ทว่าคำสั่งก็คือคำสั่ง เรไรไม่อยากลองดี ด้วยเคยลองมาแล้วจึงรู้ถึงรสชาติความทรมานว่ามันหนักหน่วงแค่ไหน เธอจึงโก้งก้นให้สูงโด่งตามคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้าหวานซุกซ่อนเข้าใต้หมอนใบโต ปิดบังใบหน้าบิดเบี้ยวและไม่อยากเห็นหน้าสุขสมของไอ้แก่บ้ากาม
ปรัก ปรัก ปรัก เสียงจังหวะระรัวรุนแรง นำพาอารมณ์เสียดเสียวแล่นลิ่ว เรไรร้องครางหงิงๆโดยไม่ยอมดึงใบหน้าออกมาจากใต้หมอน ลำแขนเรียวเสลาจึงถูกกระชากจนตึง
เรไรรู้สึกเจ็บเสียวตรงหัวไหล่ในขณะถูกกระเด้าเข้าหาลำอวบ
“โอ๊ย!...ไอ้...” ใบหน้างามต้องยอมโผล่ออกมาจากเกาะกำบัง เหลียวลำคอระหง ตวัดสายตาขุ่นมองไปยังคนกระทำด้วยความรู้สึกโมโหเดือดจนเกือบจะหลุดคำด่าตามนิสัยเอาแต่ใจ สืบเนื่องจากเรไรเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ตอนบิดาเธอยังมีชีวิตอยู่ เรไรถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม มีข้าทาสบริวารคอยรับใช้เพียบพร้อมแทบจะไม่ต้องหยิบจับทำอะไรด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ เลยติดมาเป็นนิสัยแม้นในยามครอบครัวต้องมาแตกสลายเพียงเพราะพิษการพนันของผู้เป็นมารดา
เศรษฐีเปลวคลี่ริมฝีปากยิ้มเยาะ หรี่ตามองแม่สาวน้อยจอมพยศ ปล่อยมือจากลำแขนเล็กยื่นไปบีบใต้คางมนจนเรไรนิ่วหน้า
“อา...อา...เอ็งเสียวหรือไม่เรไร” บดขยี้สะโพกเน้นย้ำแรงขย่มจนทำเอาสาวน้อยหูอื้อตาลาย
“ว่าอย่างไร เอ็งเสียวรูหรือไม่ ถ้าชักช้าข้าจะอุ้มเอ็งไปเอาตรงประตูทางเข้า โชว์ไอ้พวกบ่าวไพร่มันดู...” เรไรรีบพยักหน้าว่าเสียวงึกๆ กลัวเศรษฐีเปลวจะทำตามที่ขู่ เธอคงได้อับอายขายขี้หน้าตายหากว่าเธอจะถูกเขาพาไปประจานต่อหน้าบ่าวไพร่
สาวน้อยยอมศิโรราบให้ชายแก่แต่โดยดี จนเรไรน้ำแตกอาบรดดุ้นเนื้อของเปลว ชายแก่จึงเพิ่มแรงขย่มโยกคลึงสะโพกนำพาตัวเองเดินทางมาถึงขอบสวรรค์ เขาทิ้งตัวนอนทาบไปบนแผ่นหลังนวลเนียนหอบหายใจกระชั้น
เรไรเองกระตุกรับแรงฉีดพ่นน้ำเชื้อ ดวงตางดงามถึงกับลอยคว้าง ซึมซับความสุขอย่างที่เธอไม่อยากจะยอมรับ...
------------------------------------
ในวันรุ่งขึ้นเศรษฐีเปลวต้องเร่งฝีเท้าลงจากเรือนเมียคนสุดท้อง เร่งจัดเตรียมบ่าวไพร่ให้ตั้งขบวนเพื่อนำลำดวนเดินทางไปรักษาตัวกับหมอฝรั่งในเมือง จำปีจำปาสองศรีพี่น้องส่งบ่าวในเรือนให้มาสืบข่าว
จึงได้ความว่าเศรษฐีจะเดินทางไปส่งนังเมียรักด้วยตัวเขาเอง โดยไม่บอกให้เธอสองคนในฐานะเมียรู้ด้วยซ้ำ
จำปีเม้มปากชักสีหน้าไม่พอใจ ท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่ปรารถนาให้ผัวรักเดินทางไกลในครั้งนี้อย่างเห็นได้ชัด ต่อให้เธอเป็นเมียเอก เมียแรกของเขาก็จริง หากก็ไร้สิทธิ์ไร้เสียงจะเอ่ยปากทักท้วงในความต้องการ
ก็ผัวไม่เคยสนใจไยดี ไม่เคยสนใจเมียคนนี้จะรู้สึกอย่างไรด้วยซ้ำ พอมีเมียคนใหม่คนเก่าก็ไม่ต่างจากหมาหัวเน่า ไม่เคยได้อยู่ในสายตาเขา
จำปีหญิงสาวในวัยสามสิบตอนต้นกระแทกก้นนั่งบนตั่งไม้ เจ้าหล่อน ตวัดค้อนส่งไปยังทิศทางที่ตั้งของเรือนหนามยอกอก
อีนังเมียรักของผัวตัวเอง ตั้งแต่ผัวได้มันมาเป็นเมียคนที่สาม เขาก็ห่างหายจากเรื่องบนเตียงกับเธอ ไม่ค่อยจะขึ้นมาหา
จำปานั่งเขยิบห่างมาเพียงเล็กน้อย โบกพัดในมือแรงๆ เธอก็เป็นเมียอีกคนที่ผัวไม่ไยดี
“น้องละเสียดายจังที่อีนังลำดวนมันไม่ตายโหงตายห่าไปซะที ดวงมันช่างแข็งนัก...น้องละ เสียด๊าย เสียดาย” จำปาลากเสียงสูง
“เบาเสียงลงหน่อยเถิดจำปา ประเดี๋ยวมีใครมาได้ยินจะคิดว่าเป็นฝีมือเธอวางยาพิษนังลำดวนมันนะ” จำปีเอ็ดน้องสาว ดีที่เธอไล่ให้พวกบ่าวลงไปทำงานกันด้านล่าง
“เรื่องนี้ก็อีก...น้องอยากจะรู้นักว่าเป็นฝีมือใครทำ”
“คงไม่ใช่ฝีมือคนของนังเมียใหม่ของคุณพี่เปลวหรอกนะ...เห็นหน้ามันยังเด็กนัก คงจะไม่มีพิษสงให้ต้องกังวล...”
“ว่ากันได้หรือคะพี่จำปี เห็นหน้าตาเด็กก็จริงแต่นิสัยมันไม่เด็กเลยสักนิด วันก่อนน้องเดินผ่านเรือนของมัน เห็นมันอาละวาดเขวี้ยงปาข้าวของใส่บ่าวรับใช้หนีกันจ้าระหวั่น น้องเห็นกิริยาทรามของมันแล้วอดขนลุกขนพองไม่ได้เลยค่ะ...”
“เอ้า!ก็ไหนว่าเป็นถึงบุตรสาวพวกคหบดีเก่า พ่อแม่มีเชื้อสายมาจากผู้ดีทางฝั่งเหนือ กิริยามารยาทไม่เรียบร้อยงดงามอย่างที่ได้ยินกันมาหรอกหรือ...”
จำปาถึงกับทำหน้าสยดสยองจากความบังเอิญผ่านไปเห็น
“ถ้าจะบอกเป็นลูกเมียบ่าว น้องว่าน่าเชื่อถือกว่าเป็นไหนๆ”
จำปีกับจำปาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกของเมียบ่าว ดีที่เธอสองพี่น้องมีหน้าตาสะสวยค่อนไปทางแม่ผู้ให้กำเนิด ผู้เป็นพ่อเลยเอ็นดูถึงขั้นยกเธอทั้งสองให้เป็นเมียของเศรษฐีมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเปลว จนมีชีวิตสุขสบาย
พอหลุดปากพูดถึงชาติกำเนิด จำปาก็ถึงกับนิ่วหน้า เร่งโบกลมเข้าหาตัวแรงขึ้นอีก นึกตัดอะไรก็ตัดได้แต่คงไม่ใช่สถานะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ส่วนจำปีเมินใบหน้ามองไปยังใต้ต้นมะลิ เหมือนจะเห็นหลังใครไวไว เธอจึงผุดลุกขึ้นจากตั่งไม้เดินมายังริมหน้าต่าง กวาดสายตามองหาชายคนดังกล่าวทว่าก็ไม่เจอใคร...
“มีอะไรหรือพี่จำปี...”
“พี่เห็นหลังของผู้ชายยืนทำอะไรอยู่ใต้ต้นมะลิ...”
“ก็คงเป็นพวกบ่าวมาบำรุงรักษาต้นไม้ตามหน้าที่...” จำปาไม่เห็นว่ามันน่าสงสัยตรงไหน เลยไม่คิดจะลุกเดินมาดู
“คงจะเป็นเช่นนั้น...” จำปีเห็นตามน้องสาวแม้จะยังติดใจสงสัย เพราะถ้าเป็นบ่าวมาบำรุงรักษาต้นไม้จริง ไยเธอถึงไม่เห็นสิ่งใดบนพื้นดินเปลี่ยนแปลง
---------------------------------------
อามันต์ทำทีเป็นเดินเซ่อซ่าแกล้งชนเข้ากับร่างอรชรที่เดินหน้าบูดบึ้งมาทางสวนดอกไม้ เขาในร่างของไอ้ร่วมคนบำรุงต้นไม้เล็งแม่สาวงามผู้นี้ไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า อีกสองสาวก็สวย แต่ไม่เย้ายวนใจเท่ากับเจ้าหล่อนผู้นี้ อายุยังน้อยเนื้อคงหวานน่าดู
“ว้าย!...” เรไรร้องอุทาน
เจ้าป่าหนุ่มที่หาเรื่องสนุกทำรีบคว้าเอาร่างนุ่มนิ่มรัดไว้เต็มอ้อมแขน เรไรหลับตาปี๋รอให้ร่างร่วงกระทบกับพื้นดิน ระหว่างนั้นความรู้สึกอึดอัดทำให้เจ้าหล่อนลืมตาโพลง ใบหน้าหล่อเหลาลอยเด่นในปัจเจกสายตา
เรไรหัวใจกระตุก เริ่มเสียอาการโดยไม่รู้ตัว เธอไม่เคยเห็นชายใดที่มีใบหน้าชวนมองเท่าบ่าวชายตรงหน้านี้มาก่อน แม้แต่เศรษฐีเปลวที่ใครต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ายิ่งแก่ยิ่งหล่อเหล่าก็เถอะ ยังเทียบไม่ได้เท่าครึ่งของไอ้บ่าวหนุ่มผู้นี้ด้วยซ้ำ
เรไรเกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้ม มือหนึ่งเธอยกค้างไว้บนหน้าอกหนั่นแน่น
“กระผมต้องขออภัยที่เดินไม่ระวัง จนเกือบจะทำให้คุณเรไรล้มกระแทกพื้น...” อามันต์หรือไอ้ร่วมบ่าวคอยบำรุงต้นไม้ในเรือนเศรษฐีเอ่ยน้ำคำนบน้อม มันค่อยๆประคองร่างงามให้ยืนมั่นคง ไม่ให้ทะยานร่วงลงพื้น
เรไรจึงได้สติรีบสะบัดตัวถอยห่าง ถึงกระนั้นดวงตากลมโตสุกสกาวก็ไม่อาจละห่างจากใบหน้าคมคายของบ่าวชายตรงหน้าได้ดั่งใจ ครั้นพอเลื่อนสายตาลงมาอีกเล็กน้อย จะเห็นผิวกายสีทองแดง ผ่านไหปลาล้ามาจนถึงแผ่นหน้าอกกว้าง ประดับด้วยจุกสีน้ำตาลอ่อนสองจุก กล้ามเนื้อหน้าบริเวณหน้าท้องขึ้นเป็นมัดลอนจนอยากยื่นมือไปลูบไล้สัมผัส ร่างกายกำยำของเขาชวนทำให้หัวใจสาวเต้นโครมครามซะเหลือเกิน
เมียคนสุดท้องของเศรษฐีเปลวกลืนน้ำลายเหนียวหนืด รู้สึกได้ว่ากลีบกายสาวเธอเปียกแฉะ
“คุณเรไรเจ็บต้องไหนหรือเปล่าขอรับ” มือหยาบยื่นมาหาร่องรอยบนเรือนร่างขาวลออโดยเรไรเองก็ไม่คิดจะหลบหลีก มิหนำซ้ำใบหน้าหวานกลับโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าคมคาย กวาดสายตาสำรวจเครื่องหน้าอย่างไม่คิดปิดบัง
“ว่าแต่แกเป็นใคร...มีชื่อว่ากระไรหรือ?”
“กระผมมีชื่อว่าไอ้ร่วมขอรับ เป็นบ่าวคอยบำรุงต้นไม้ให้ท่านเศรษฐีเปลว”
“เพิ่งมาอยู่สิท่า ฉันไม่เคยเห็นหน้า..อะ!...”
เรไรอุทานรีบก้มมองปลายนิ้วมือยาวที่กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวทรวงงามอย่างอุกอาจ แทนที่หญิงสาวจะห้ามปราม หรือร้องโวยวายให้บ่าวคนอื่นได้ยิน เจ้าหล่อนทำเพียงมองซ้ายมองขวา ดูลาดเลาว่ามีบ่าวคนไหนเดินอยู่แถวนี้หรือไม่ พอเห็นว่าทางปลอดโปร่ง เจ้าหล่อนจึงดึงมือของบ่าวบำรุงต้นไม้ให้ผัวแก่ หลบมาทางหลังสวนต้นจำปีจำปา คงเป็นเมียคนใดของผัวมาปลูกทิ้งเอาไว้ โคนต้นของมันค่อนข้างหนา อีกทั้งยังมีเป็นสิบๆต้น ช่วยบดบังอำพรางไม่ให้บ่าวผู้ใดสังเกตเห็น
“ทำต่อสิ...” เรไรรีบเสนอ โดยการเอนกายเข้าหาโคนต้นไม้ ทิ้งลำแขนเรียวเสลาทั้งสองข้างไว้ข้างลำตัว แอ่นหน้าอกอะร้าอร่ามให้ลอยเด่น ใบหน้างามเชิดรั้นหมายยั่วยวนเต็มอารมณ์หวาม ทีกับผัวตัวเองเรไรกลับไม่เคยคิดอยากให้เขาแตะต้อง
ถึงเมื่อคืนตอนถูกผัวจับกระแทกเธอยอมรับว่ามีความสุข หากก็ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ ไม่เหมือนกับเวลานี้ที่เธอเกิดอารมณ์ปรารถนาบ่าวคนนี้รุนแรงโดยไม่รู้สาเหตุ
อามันต์หรือไอ้ร่วมแอบยิ้มกริ่ม ขยับเข้าหาทันที
“ขอรับ...” ไอ้ร่วมรับคำแววตาเรืองรอง มันรีบสอดมือผ่านเสื้อตัวสวยสัมผัสผิวเนื้อนุ่มเนียน มาจนสะดุดเข้ากับปลายถันที่ส่วนหัวจะงอยตั้งแข็งขึ้นเป็นยอดชูชัน
“คุณเรไรมิได้สวมผ้ารัดหน้าอกมาด้วยหรือขอรับ...” ไอ้ร่วมทำตาโตน้ำลายสอ มันหงายฝ่ามือแล้วช้อนเต้าขนาดมหึมากอบกุมไว้แทบไม่มิดฝ่ามือ
“ขย้ำสิ...อย่ามัวแต่สงสัย” ด้วยอาการร้อนใจเรไรจึงเร่งเร้าด้วยน้ำเสียงร้อนรน
ไอ้ร่วมบีบขยำฐานทรวงอย่างเมามันจนเนื้อนุ่มนิ่มปลิ้นรอดผ่านซอกนิ้ว ซาบซ่านไปถึงทรวงของเรไร เจ้าหล่อนเสียดเสียวส่งเสียงร้องครวญครางอื้ออึง ตวัดเรียวขาขึ้นเกี่ยวไปบนเอวสอบ ออกแรงดึงโยกให้ร่างหนาซวนซบมากระแทกกึ่งกลางลำตัว ปรึก!
นัยน์ตาพร่าเบลอจากแรงราคะเล็งเห็นกึ่งกลางโปร่งขยายขนาดไม่ธรรมดา เมียคนเล็กของเศรษฐีเปลวเขย่งปลายเท้าอีกข้างขึ้นสูงประกบกลีบปากหยักหนาทั้งเร่าร้อนรุนแรง
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ทั้งสองจูบปากปลดปล่อยอารมณ์ให้เดือดพล่าน ไอ้ร่วมเสยปลายลิ้นว่ายวนตวัดหยอกเย้าจนเรไรแทบจะหลุดลอย กลีบสวาทบิดเกร็งขับลาวาไหลซึมผ่านรอยแยกที่เพิ่งผ่านการใช้งานหนักหน่วงจากดุ้นของผัวมาตลอดทั้งคืน
ไอ้ร่วมลากไล้ริมฝีปากร้อนจูบซับเลื่อนผ่านมาจนถึงปลายคางมน เรไรเงยหน้าแอ่นลำตัวช่วย ร่วมส่งมือไม้ทั้งสองข้างพยายามดึงทึ้งชุดงามให้หลุดร่วงออกจากเรือนกายงดงามขาวผ่อง ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเรไรก็เหลือเพียงกายเปลือยเปล่าขาวลอออย่างหาจุดตำหนิแม้นเพียงเล็กน้อยก็ไม่เจอ
นี่มันวาสนาของไอ้เศรษฐีเปลวชัดๆ อามันต์นึกสบถในใจ
ก่อนที่ไอ้ร่วมทำเพียงกระตุกปมกางเกงชิ้นผ้าชิ้นเดียวบนร่างกำยำก็พร้อมใจร่วงหล่นลงมากองบนพื้นหญ้า
ดุ้นเนื้อชายชี้โด่ก็พุ่งทะยานออกมาโชว์หรา เรไรถึงกับตาโต ทำปากยื่น
“ใหญ่มาก...” เจ้าหล่อนส่ายหน้า กลืนน้ำลายเหนียวหนืด พลันนัยน์ตาหวานเหลือบขึ้นมองใบหน้าคมคาย
“น่ากลัว แล้วมันจะเข้ามาในตัวฉันได้อย่างไร?...”
“ให้เป็นหน้าที่ของกระผมขอรับ คุณเรไรแค่พร้อมใจรับความสุขก็พอ”
ภาพชายหญิงนัวเนียปล้ำกอดกันใต้ต้นจำปีจำปาอยู่ในสายตาของบ่าวคนสนิทของเรไร สีคำที่เดินตามหานายของตัวเองมาสักพักจนกระทั่งได้ยินเสียงคร่ำครวญชวนให้ขนลุกดังมาจากบริเวณนี้ เลยเดินมาดูให้กระจ่างชัด
และสิ่งที่สีคำเห็นตำตา ทำเอาหัวใจทั้งก้อนตกกระดอนลงตาตุ่ม
อกอีแป้นจะแตก! นั่นมันใช่สาวน้อยที่ตนเคยเลี้ยงดูมาใช่หรือไม่?
----------------------------------
บ่าวของแม่หญิงเรไรคนงามชักเกิดอาการลังเล...จะปล่อยให้เหตุการณ์บัดสีนี้เลยเถิดไปจนถึงตอนจบหรือจะเข้าไปขัดขวางหยุดการกระทำต่ำช้าไว้แต่เพียงกลางคัน
ระหว่างตัดสินใจสีคำรู้สึกสะดุดใจกับสีหน้าสุขสมของนายสาวที่แสดงออกมา น้อยครั้งนักที่สีคำจะเห็นคุณหนูเรไรมีความสุขจนผ่านออกมาทางสีหน้าพร้อมด้วยแววตาเช่นนี้ แม้กระทั่งตอนเศรษฐีเปลวขึ้นมาหายังเรือน สีหน้าของคุณหนูเรไรยังไม่สว่างจ้าฉายให้เห็นถึงความดีใจสักนิด
ความสุขของนาย...บ่าวอย่างสีคำก็ไม่ปรารถนาจะทำลาย หากก็กลัวแสนกลัวจะถูกจับได้ นี่ถ้าหากบังเอิญมีบ่าวสักคนเดินผ่านมาเห็นเข้าล่ะ มีหวังทั้งตัวมันทั้งคุณหนูเรไรหัวคงได้หลุดออกจากบ่า ข้อหาคบชู้สู่ชายก็คราวนี้
สีคำกระวนกระวายใจ รีบเอี้ยวคอหมุนตัวคอยสาดสายตามองไปทั่วบริเวณสวนงดงาม ถ้าไม่อาจหักใจเข้าไปห้ามความสุขของผู้เป็นนายมันก็ต้องคอยระแวดระวังภัยไม่ให้ใครผ่านมาเจอ นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
บ่าวตัวดำนึกในใจ...ผีห่าซาตานตนใดหนอ สัปดนดลจิตดลใจให้คุณหนูคนงามของมันแอบมาเล่นชู้ในเรือนของผัว...
ในขณะที่บ่าวมีแต่ความกังวลใจกลัวจะมีคนมาเห็นแล้วน้ำความหายนะมาสู่ ต่างจากนายสาวคนงามโดยสิ้นเชิง เรไรกลับลิงโลดว่ายวนอยู่ในธาราแห่งราคะร้อนแรง ปล่อยให้บ่าวหนุ่มตัวโตควบคุมจังหวะแห่งพิศวาส ยอมถูกจูบลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กาย เนินโยคีถูกล่วงล้ำชำเรา ปลายนิ้วแหวกว่ายเวียนวนควักเอาน้ำคาวสวาทไหลรดเอ่อออกมา
“คุณเรไรของไอ้ร่วมช่างสวยหยาดฟ้ามาดินเสียเหลือเกินขอรับ นมก็ใหญ่โตราวกับผลมะละกอ ส่วนตรงนี้ก็...” ไอ้ร่วมควานปลายนิ้วในโพรง หรี่สายตาล้อเลียนในความโหนกนูน
“อา...ร่วมจ๋า ตรงนั้นดันแรงๆได้เลยจ๊ะ ฉันเสียว” เรไรทุรนทุรายเพียงแค่โดนปลายนิ้วยั่วแหย่ ร่องเหลือบที่โอบกระชับอยู่รอบนิ้วยาวฉ่ำแฉะ ปุ่มกระสันแข็งเป็นไตแดงก่ำ ก้นงามกระดกร่อนไปตามแรงกระทุ้งของนิ้วจนเรไรพบความสุขสม แผ่นหลังพิงโคนต้นเกร็งกระตุก
“อูย...แตกแล้วร่วมจ๋า น้ำฉันแตกแล้ว...”
ร่วมชักนิ้วอาบน้ำคาวออกจากรูสวาท น้ำขาวขุ่นพุ่งตามออกมาจนเอ่อล้นปากทางรู ร่างสูงลดตัวลงนั่งคุกเข่า จ่อใบหน้าคมคายหล่อเหลากดเข้าหาเนินโหนกแทนที่ของปลายนิ้วยาว ร่วมส่งสายตาหื่นกระหายมองโหนกอวบอัด ตวัดปลายลิ้นเลียน้ำคาวที่กำลังไหลทะลักออกมาจนแห้งเหือด แต่กระนั้นร่วมกลับยังไม่หายหิว มันกดกลีบปากหยักหนาออกแรงดูดในรูเล็กๆจนเรไรกรีดร้องดิ้นเร่าๆสองขาแทบทรุดฮวบ แล้วน้ำสาวก็แตกกระจายไปอีกครั้ง เรไรแทบจะหมดเรี่ยวแรง ไม่คิดว่าไอ้บ่าวหนุ่มหน้าหล่อตัวโตผู้นี้จะทำรักเก่งฉกาจ นี่ขนาดยังไม่สอดใส่มันก็รีดเอาเรี่ยวแรงเธอเกือบหมด
ไอ้ร่วมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดันกายสาวแสนงดงามให้เปลี่ยนเป็นนอนราบไปใต้โคนต้นจำปีจำปา เนินอกลูกโตกระเพื่อมไหวไปตามจังหวะหายใจ สายตาตื่นตระหนกของเรไรยังคงจับจ้องไปยังพวงดุ้นสวรรค์อันมหึมา
“ฉันกลัวว่ามันจะสอดเข้ามาไม่ได้ทั้งหมด...” เรไรพึมพำ กลีบสาวเธอบอบบาง จะรับไหวดุ้นอวบใหญ่ของนายร่วมได้หรือไม่ก็ไม่รู้
“กระผมบอกคุณเรไรแล้วว่าอย่าได้กังวลกับไอ้สิ่งนี้ของกระผม...รับรองได้ว่ามันจะดำผุดำว่ายในตัวคุณหนูได้อย่างสุขสบายจนถึงปลายโคน”
ไอ้ร่วมโน้มตัวลงมาจูบกลีบปากสีสด บอกให้สาวเจ้าคลายความกังวลในความยิ่งใหญ่อลังการ มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบไล้ผิวกายเลียบลื่น อามันต์ในร่างของไอ้ร่วมแทบบ้าไปกับเรือนกายขาวโพลน
คิดไม่ผิดจริงๆที่แวะมาเล่นสนุกยังเรือนของไอ้เศรษฐีเปลว
มือหยาบลากมานวดเคล้นฐานทรวงงาม ปลายนิ้วบี้บดไปบนยอดจะงอยสีหวาน มันแข็งตัวแข่งกับปลายนิ้ว ร่วมเลยเปลี่ยนจากนวดเคล้นเป็นขยำแรงๆ บี้หัวจุกนมจนมันบุ๋มหายติดไปกับเนื้อนุ่ม สร้างอารมณ์รัญจวนม้วนตัวอยู่ภายในช่องท้องของเรไร กลีบกลางร่างเธอจึงเร่งขับน้ำเชื้อออกมาเป็นสาย ปากหยักได้รูปยังคงวนเวียนอ้อยอิ่งอยู่กับกลีบปากหวานละมุน ปลายลิ้นทั้งสอดตวัดรัดลึงกัดกินอย่างตะกละตะกลาม
“อื้อ...ร่วมจ๋า ฉันจะไม่ไหว...ใส่เข้ามาเถอะ” เรไรดึงปากอิ่มออกห่างเพื่อร้องขอในสิ่งที่ทำให้เธอนั้นทุรนทุราย ลำดุ้นหัวบานแดงกำลังดุนดันอยู่ติดกับร่องสวาทหากก็ยังไม่มีทีท่าจะมุดเข้ามา อีกอย่างมันล้อเล่นอยู่ไม่ห่างจากปุ่มกระสัน เรไรเลยทนไม่ไหว
ปากร้อนของไอ้ร่วมวกลงมาซุกไซ้ลำคอระหง ก่อนจะวกเข้าหาเต้าสล้าง อ้าปากกลืนกินนมไปเกือบครึ่งเต้าโดยปลายลิ้นละเลงไล้วนตรงจุกจะงอยระรัว ย้ำๆ ถี่ๆ
“ร่วมจ๋า ได้ยินฉันไหม...อ๊า...ซีด” สะโพกงามส่ายระริก หมายจะดันร่องสาวอ้าอมดุ้นชิ้นโตด้วยตัวเอง ไอ้ร่วมถอยบั้นท้ายหนี เรไรทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ
ได้ยินสิแต่จะยังไม่ตามใจ รออีกนิดนะคุณหนูคนงาม
ไอ้ร่วมยังคงเล่นสนุกอยู่กับสองเต้าลูกโต ลำดุ้นมันเลื่อมวกกลับมาถูไถแสร้งเป็นจดจ่อหัวปักแต่ยังไม่สอดใส่
“ร่วมจ๋า...อย่าแกล้งฉันสิจ๊ะ...”
เรไรที่ต้องอดทนต่อความรู้สึกทรมานแทบไม่ไหวร่ำร้อง ร่างงามโหยหาจนน้ำตาคลอเบ้า สองมือตะปบเกาะกุมไปบนสะโพกหนั่นแน่น ฉีกเรียวขาตัวเองออกจนกว้าง กัดฟันพร้อมออกแรงกระชากตัวบ่าวหนุ่มให้กระโจนเข้าใส่มาในร่างตัวเองโดยหลงลืมถึงขนาดมหึมา
สวบ! ดุ้นเนื้อถูกกระชากปักลงมาจนสุดปลายโคน
ไอ้ร่วมกัดฟันกรอด เสียวสยิวจนเกือบล่มปากอ่าว ไม่คิดว่าคุณหนูคนงามจะใจเด็ดถึงขั้นบุกทะยานเข้ามาหามันซะเอง
“โอ๊ย! เจ็บ....“ ร่างงามร้องลั่น สั่นเกร็งเจ็บปวดรวดร้าวไม่ต่างกับร่างกายของเธอถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เรไรหลับตาปี๋ข่มอาการเจ็บหน่วง ผ่อนลมหายใจออกทีละน้อย ลดทอนความรู้สึกใกล้จะตายนี้ให้บางเบา
“โอ้ว...คุณเรไร เจ็บมากไหมขอรับ...” น้ำเสียงถามครางกระเส่า ไอ้ร่วมยังคงตึงสะโพกตัวเองไว้คงเดิม หักห้ามไม่ให้บุ่มบ่ามกระทุ้งสะโพกเข้าใส่
เรไรพยักหน้าทั้งน้ำตาไหลเอ่อ ไอ้ร่วมจำต้องจูบซับน้ำตาให้ด้วยท่าทางอ่อนโยน เรไรสะดุดใจต่อท่าทางบ่าวหนุ่ม ผุดความรู้สึกบางอย่างที่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้เป็นผัว อิ่มเอมใจกระนั้นหรือ...ไม่แน่ว่าเธออาจจะตกหลุมรักบ่าวหนุ่มผู้นี้เข้าให้แล้ว
เรไรยังไม่รู้คำตอบ เสียงทุ้มนุ่มลอยวนผลุดเข้ามาใสห้วงแห่งความสุข
“ทนเจ็บอีกนิด ประเดี๋ยวคูณเรไรจะมีแต่ความสุข”
“ฉันเชื่อร่วมจ้ะ...” เสียงหวานตอบรับ เขาพูดอะไรเธอก็เชื่อหมดนั่นแหละ เรไรคนงามกำลังลุ่มหลงในกลิ่นคาวโลกีย์จากชายชู้ ลืมคำนึงถึงอนาคตภายภาคหน้าถ้าเกิดถูกจับได้ ชีวิตนี้คงจะต้องดับสูญ
“กระผมจะขยับแล้วนะขอรับ...”
“ขยับเถอะ...ฉันจะได้เจอความสุขเร็วๆ “
ความสุขที่ว่าเปรียบได้ดั่งปีกของผีเสื้อแสนงาม บินวนลอยละลิ่วอยู่บนเหนือท้องนภาล่องลอยตามหากลิ่นอวลของมวลดอกไม้ ร่วมดันขาเรียวแนบลงกับพื้นโหย่งก้นโด่งกดย้ำเข้าแนบสนิทเนินโหนกอวบอูมระรัว ยิ่งภายในตอดรัดร่วมยิ่งส่งแรงกระแทกกระทั้นราวกับคนอดอยากมานาน
“อะ...อะ...อะ...อ้า...” เรไรเปล่งเสียงครางระโหยไม่หยุดพัก พอใกล้จะพานพบความสุขสม ร่วมยิ่งออกแรงกระชากร่างงามขึ้นไปพร้อมกับแรงตอกอัดจนร่องสวาทปลอกปลิ้น
น้ำสวาทแตกซ่านผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า สีคำที่ยืนกระสับกระส่ายคอยเฝ้าต้นทาง เอาแต่เฝ้าภาวนาให้นายสาวคนงามหยุดร่วมประเวณีกับไอ้บ่าวชั้นต่ำสักสี หากก็ดูจะยากยิ่ง
จากตะวันตรงหัวค่อยๆคล้อยต่ำขนาบใกล้กับท้องนภา นกกาหลากหลายตัวเตรียมจะพากันบินกลับรัง ทว่าชายหญิงที่ตั้งหน้าตั้งตาห้ำหั่นสายสวาทใส่กัน ยังไม่มีทีท่าจะผละห่าง...
แล้วทีนี้อีสีคำจะทำเยี่ยงไรเล่า จะเข้าไปบอกให้คุณเรไรหยุดร่วมรักกับไอ้บ่าวผู้นั้นดีหรือไม่?...
---------------------------
เรไรกลับขึ้นเรือนมาตอนฟ้ามืดสนิท บนเรือนจุดตะเกียงไว้โดยรอบให้แสงสว่างไสว สีคำเดินตามมาไม่ห่างมันมีสีหน้าหนักใจ
เพราะสีคำได้ยินว่าพรุ่งนี้นายสาวจะนัดแนะให้บ่าวคนชั่วมาเจอกันที่เดิมอีก คงหนีไม่พ้นเรื่องระยำตำบอน
ยังไงมันก็ต้องห้ามปราม กันเอาไว้ก่อนจะเป็นเรื่อง หูตาของเศรษฐียิ่งกลับสับปะรด หนนี้รอดไปได้ถือว่านายสาวของมันยังมีบุญคุ้มหัว ขืนยังมีต่อหนสองหนสามเห็นทีคงจะไม่รอดพ้น
“แม่หญิงเรไรเจ้าคะ...” สีคำสาวเท้ามาดักหน้า ขวางให้นายสาวหยุดเดิน เรไรนิ่วหน้าหรี่สายตาเพ้อฝันถึงบ่าวหนุ่มสุดหล่อมองบ่าวสาวประจำตัว
“อะไรของเอ็งฮะนังสีคำ ดูทำหน้าเข้าสิ อย่างกับม้าหมากรุก”
อารมณ์ของเรไรดีจนไม่ถือสาอาละวาด
“หยุดแค่นี้เถอะนะเจ้าค่ะ ขืนคุณเรไรถลำตัวลึกไปมากกว่านี้แล้วท่านเศรษฐีเกิดจับได้ จะถึงแก่ชีวิตเอานะเจ้าค่ะ บ่าวเป็นห่วงคุณเรไร” สีคำคันปากหากก็ไม่กล้าเอ่ยคำห้ามออกมาโดยตรง หวังว่าคำพูดนี้จะช่วยเตือนสติไม่ให้นายสาวของมันหลงผิดจนกู่ไม่กลับ
เรไรเท้าสะเอวจ้องบ่าวที่ไม่ต่างจากเพื่อนเล่นดวงตาวาวโรจน์
“อีสีคำ นี่เอ็งเห็นข้ากับนายร่วมอย่างนั้นหรือ?”
“บ่าวเห็นเจ้าค่ะ เห็นชัดเต็มสองลูกตาเลย”
เพลี๊ยะ!
จู่ๆสีคำก็รู้สึกชารวดร้าวไปทั่วผิวแก้ม ความรู้สึกนั้นร้อนผ่าวรามเลียไปจนถึงกระบอกตา บ่าวผู้จงรักภักดีกะพริบตาปริบๆขับไล่ละอองน้ำ ไม่คิดว่าคูณหนูของมันจะฟาดหน้ามันตอบแทนความห่วงใย
“คุณเรไร...ตบบ่าวทำไมเจ้าคะ?”
เรไรชี้หน้า หอบหายใจถี่ แววตาเรืองรองฉุนเฉียวอย่างคนเอาแต่ใจ
“มึงเป็นแค่บ่าวชั้นต่ำ ทีหลังอย่ามาสะเออะทำตัวเป็นแม่บังเกิดเกล้า เที่ยวมาสั่งสอนกูอีกเป็นเด็ดขาด กูจะอ้าขาให้ชายคนใดเอา นั่นมันก็เรื่องของกู...จงจำใส่กะลาหัวโง่ๆของมึงเอาไว้”
“โธ่!แม่หญิงเจ้าขา บ่าวเตือนเพราะความเป็นห่วง หาได้คิดหมายอาจเอื้อมไปสั่งสอนสักนิด...” สีคำทรุดตัวลงนั่งแทบเท้า เกาะลำขาพร้อมร่ำไห้ ต่อให้ตัวถูกตีถูกด่าสีคำก็ไม่คิดเคืองโกรธนายสาว
เรไรที่ยังอารมณ์เสีย ไม่ชอบถูกห้ามปราม ออกแรงสะบัดจนบ่าวคู่กายหลุดล้มระเนระนาด พอหลุดพ้นจากพันธนาการเรไรก็เร่งฝีเท้าเดินจ้ำอ้าวกลับเข้าห้องนอนปิดประตูลงกลอนไม่ยอมให้สีคำตามเข้ามา...
-------------------------
สามวันแล้วที่เศรษฐีเปลวไม่ส่งข่าวกลับมาหาผู้เป็นเมียเอก จำปีจึงนอนไม่หลับด้วยหัวใจมันเอาแต่ร้อนรุ่มริษยา คงจะคอยเอาอกเอาใจอีลำดวนจนไม่เหลือใจคิดเผื่อแผ่มาหาเมียที่รอคอยอยู่ที่เรือน ไม่รู้บ้างหรือไร เธอเองก็มีอารมณ์ไม่ต่างจากหญิงสาวคนอื่น
จำปีเดินใบหน้าอมทุกข์โดยหัวสมองเอาแต่คบคิดถึงเรื่องราวของผัวเพลินจนกระทั่งมาถึงสวนจำปีจำปา กลิ่นหอมระรื่นทำให้เจ้าตัวหยุดชะงักเท้า
“เอ๊ะ! นี่ฉันเดินมาไกลจนถึงในสวนเชียวหรือ?”
จำปีถอนหายใจ นึกระอาตัวเอง เธอเตรียมจะหมุนร่างเดินกลับเรือน เพราะเห็นว่าเส้นทางเดินกว่าจะมาถึงในตรงสวนจำปีจำปานั้น ค่อนข้างจะเปลี่ยว
ถึงวันนี้เดือนจะหงาย มีแสงสว่างส่องทางเดินไม่ให้ดูน่ากลัว หากก็ประมาทหรือไว้ใจพวกบ่าวหน้าซื่อใจคดเสียมิได้ ไม่รู้หรอกสันดานของแต่ละคนนั้นเป็นมาอย่างไรบ้าง ผัวของเธอยิ่งเป็นคนจิตใจกว้างขวาง อ้าแขนรับทุกคนที่มาขอพึ่งใบบุญ จะไว้ใจได้หมดหรือเปล่าจำปีนึกหวาดหวั่น เท้าที่เดินจึงเร็วขึ้น
“จะรีบไปไหนเสียเล่า อีคุณจำปีคนสวย...”
จู่ๆก็มีร่างสูงใหญ่โผล่พรวดออกมาจากหลังต้นไม้ ดักหน้าไม่ให้จำปีเดินต่อ เมียเอกของเศรษฐีเปลวสะดุ้งใจหายวาบไม่คิดว่าเธอจะเจอดีเข้าจริงๆ
ตัวของมันสูงใหญ่ใบหน้าถูกคุมไว้ด้วยผ้าขาวม้า เห็นเพียงตาดวงตาจำปีจึงไม่รู้ว่ามันเป็นใคร พอเตรียมจะอ้าปากร้องให้คนช่วย มือหยาบก็พุ่งเข้ามาตะปบปิดทันควัน ดวงตาจำปีเบิกโพลงหัวใจกระเด็นกระดอนร้องลั่น พยายามดิ้นรนไม่ยอมให้ถูกลากไปยังกระท่อมท้ายสวน
จำปีจำได้ ถัดห่างจากตรงนี้จะมีกระท่อมหลังเล็กปลูกทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งาน
“อ่อย...อูอะ...ไอ้อั่ว...อือ อือ”
จำปีทั้งด่าทอทั้งยกมือยกเท้าฟาดสะเปะสะปะไปทั่ว แสงของดวงจันทร์ส่งกระทบให้เห็นมัดกล้ามของไอ้บ่าวใจกล้า ด้วยตัวของมันสูงใหญ่ลำกายจึงดูแข็งแกร่งไม่บอบบางเหมือนของผัว จำปีหรี่ตามอง ใจคอสาวจึงชักหวั่นไหวไปกับเรือนกายกำยำไอ้บ่าวคนชั่ว
อารมณ์เร้นลับตีปีกกระพือด้วยความที่ห่างหายจากรสชาติของผัวมานาน แรงต่อต้านจึงเบาบางไปตามกระแสการเสียดสีกันระหว่างรางหญิงและชาย
“มึงสวยถูกใจกูมานาน กูเฝ้ารอคอยวันนี้มาตลอด ไม่คิดสักนิด...มึงจะลงมาให้กูเอาถึงปาก”
จำปีถูกปิดปากจึงไม่สามารถเปล่งเสียงถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย ไอ้บ่าวชั่วคนนี้เป็นใคร และทำหน้าที่อะไรในเรือน
เมียเอกของเศรษฐีถูกลากมาจนถึงกระท่อม ไอ้ร่วมที่เป็นตัวตนของมันแท้จริงออกแรงถีบบานประตูให้เปิด กลิ่นอับภายในกระท่อมถูกทิ้ง ทำเอาจำปีมีสีหน้าบิดเบ้
“ขอกูเอาสักครั้งเถอะอีคนสวย...รับรองกูจะพามึงขึ้นสวรรค์ไม่ต่างจากไอ้เปลว...”
ไอ้ร่วมเหวี่ยงร่างงามของจำปีไปกระแทกแคร่ไม้ ตัวมันกระโจนตามลงมาโดยไม่รอให้จำปีตั้งตัวได้ทัน สองมือหยาบกระชากเสื้อผ้าจนขาดวิ่น เปิดเผยเนื้อหนังขาวลออนวลตาสมกับเกิดมาเป็นเมียคนมีเงินเสียจริง
ทำเอาไอ้ร่วมถึงกับไข่สั่น อยากทะลวงรูของอีคุณจำปีโดยไว
ไอ้ร่วมปาดน้ำลายทิ้ง ดวงตาหื่นจัดจ้องมองไปยังเนินโยคี
“ทั้งสวย เนินโหนกมึงใหญ่ฉิบหาย...กูอยากจับมึงกระแทกใจแทบขาดแล้วอีคุณจำปี...”
จำปีกระเถิบหนี หนีบเรียวขาป้องปิดสิ่งหวงแหน
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ถ้าแกอยากได้เงินทองกี่บาทบอกฉันมา ฉันจะขนมาให้ ขออย่างเดียวปล่อยฉันไปเถอะจ้ะ...” ส่งเสียงร้องห้ามปรามทั้งที่ใจชักเริ่มโอนเอียงอยากลองให้ไอ้บ่าวจับกระแทกสักครั้ง ความที่ตัวเองมีฐานะเป็นถึงเมียเอกมันค้ำคอ อย่างไรจำปีต้องขัดขืนให้เต็มกำลัง
“แต่กูอยากได้ทั้งสองอย่าง ทั้งเงินของผัวมึง แล้วก็ตัวของมึงด้วย...”
ไอ้ร่วมประกาศลั่น ผลักร่างงามของเมียเศรษฐีให้นอนหงาย
“ว้าย!อย่า...”
“หมายถึงว่าอย่าช้าหรือเปล่า อีคุณจำปี”
ไอ้ร่วมเห็นหรอกนะแววตาหิวกระหายของอีคุณจำปีตอนมองดุ้นเนื้อของมัน คงจะอดอยากปากแห้งจากผัวมานานสิท่า ไอ้ร่วมได้ยินพวกบ่าวมันพูดกันว่า วันๆไอ้เศรษฐีหน้าโง่นั่นมักจะคลุกตัวอยู่แต่เรือนของอีลำดวนหรือไม่ก็อีคุณหนูเรไรคนสวย นานครั้งถึงจำขึ้นเรือนเมียเอกกับเมียรองสักที
วันนี้พ่อจะจัดให้ชุดใหญ่ๆ ให้อีคุณจำปีร้องครางไม่หยุด
ไอ้บ่าวหัวสูงอยากได้เมียนาย กระชากเรียวขาเพรียวให้คร่อมร่างมันไว้ ออกแรงลากเข้าหาลำตัวอีกเล็กน้อยกลีบอูมก็เข้ามาทักทายดุ้นเนื้อที่ตั้งเป็นลำโด่ ไอ้ร่วมกระดกเอวสอบดุนดันดุ้นเนื้อร้อนบดคลึงไปตามรอยแยกที่ปิดสนิท จำปีร้องครวญคราง ร่างสั่นสะท้านรัญจวนขับน้ำเชื้อไหลซึมออกมาประจานถึงความร่านร้อนของตัวเอง
อารมณ์วาบหวามเช่นนี้เธอห่างหายมันมานาน ก็ผัวไม่เคยสนใจไยดี จะให้เธอไปมีอารมณ์เช่นนี้กับใคร? จำปีเหลือบสายตามองบ่าวร่างกำยำ ใบหน้ายังคงถูกปกปิดไว้ด้วยผ้าขาวม้า
“เอ็งมีชื่อว่าอะไร?...” จำปีพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ไล้ฝ่ามือนุ่มไปบนหน้าอกที่อุดมด้วยมัดกล้ามลูกโต ไอ้ร่วมหรี่ตามองการกระทำของสาวเจ้า มือนุ่มค่อยๆเลื่อนต่ำลงมา มันจึงเกร็งหน้าท้องรับ ดันสะโพกหนั่นแน่นมอบดุ้นเนื้อชิ้นโตให้อีเมียเอกของเจ้านายได้สัมผัส
“อ๊า...จำเป็นต้องรู้ด้วยหรืออีคุณจำปี...” สีหน้าภายใต้ผ้าคลุมบิดเบี้ยว ดุ้นเนื้อถูกรูดขึ้นรูดลง ส่วนหัวบานหยักถูกขยี้จนมีน้ำซึม
“ใหญ่ดีจัง หนหลังฉันจะได้เรียกใช้ได้ถูกคนไง...” จำปีอ้อมแอ้มบอกในขณะสายตาไม่ถอยห่างจากความอลังการ ถ้าวันนี้มันทำให้เธอพบความสุขสมได้ แน่นอนว่าเธอจะต้องเรียกใช้มันภายหลัง
“กูมีชื่อว่าร่วม มีหน้าที่ดูแลบำรุงต้นไม้ให้ผัวของมึง...”
จำปีเงยหน้าขึ้นมองตาปริบๆ นึกถึงเด็กหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ที่แท้ก็ไอ้หนุ่มท่าทางสำรวมเรียบร้อยคนนั้นนั่นเอง ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์วันนี้ ใครเลยจะรู้ถึงธาตุแท้ของมันจะเป็นเยี่ยงนี้ กินบนเรือนขี้บนหลังคา
พอรู้ว่าเป็นใครจำปีรู้สึกโล่งใจ จำได้ว่าหน้าตาไอ้หนุ่มผู้นั้นหล่อเหลาเอาการไม่ใช่น้อย หรือถ้าจะให้พูดกันตามตรงแม้แต่ผัวตัวเองยังเทียบไม่ติดฝุ่น
เมียเอกเศรษฐียืดตัวขึ้นสูง มือหนึ่งส่งขึ้นไปดึงผ้าคลุมหน้าของบ่าวชั้นเลว เผยให้เห็นใบหน้าหล่อคมคายอย่างที่คิดไว้ เจ้าหล่อนเลยคลี่ยิ้มสมใจ
“ทุกอย่างจะเป็นความลับใช่ไหม?...”
“ขึ้นอยู่กับมึงไม่ใช่กู...” ร่วมหมายถึงเงินทองกับลีลาของอีคุณจำปี
จำปีแลบลิ้นเลียริมฝีปากอวบอิ่มสีหวาน มือที่ยังคงรูดดุ้นเนื้อถูกปล่อยโดยที่ตัวเองขยับถอยห่างกะให้ใบหน้าสวยตรงกับอาวุธคู่กายของไอ้ร่วม บ่าวชั่วก้มมองตามการกระทำของเมียนายขนกายลุกซู่
“ขนาดใหญ่กว่าของคุณพี่เปลว...”
เมียเอกพึมพำขณะแลบลิ้นยาวตวัดเลียดุ้นเนื้ออวบยาวตั้งแต่ส่วนโคนจรดปลาย ให้ความรู้สึกเหมือนตอนกินไส้กรอกอาหารที่คุณพี่เปลวซื้อหามาฝากจากในตัวเมือง รูปร่างหน้าตาก็คล้าย จะมีต่างกันก็แค่ขนาดกับสีผิวไม่ขรุขระ ส่วนของรสชาตินะหรือ อร่อยเหมือนกัน...
จำปีผู้หลงใหลในรสชาติอาหารต่างเมืองครอบปากอมเอาดุ้นเนื้อชิ้นโตไว้จนมุมปากเกือบฉีก น้ำตาเธอเล็ดเพราะโดนส่วนบานกระทุ้งถูกคอหอย เธอเกือบสำรอกดีที่เคยผ่านประสบการณ์กับผัวมาอย่างช่ำชอง จำปีรีบคายชิ้นเนื้อยาวใหญ่ ยังไม่พ้นกลีบปากดี เจ้าหล่อนก็สวนปลายนิ้วเรียวพรหมลงมาชักดุ้นเนื้อรูดแทน
ไอ้ร่วมครางโหยไม่คิดจะโดนดีด้วยลีลาเด็ดจัด มือทั้งสองข้างขยุ้มไปบนเส้นผมสลวย ขยับโยกสะโพกตอกเข้าปากอิ่มไปตามจังหวะดูดรัด
อ๊อก อ๊อก อ๊อก เสียงดูดชิ้นเนื้อสลับกับดูดไข่แฝดสร้างอารมณ์พลุ่งพล่านจนร่วมย้ายมือข้างหนึ่งจากศีรษะสาวบีบขย้ำเข้ากับก้อนเนื้อแน่นไม่หย่อนยาน จำปีดูดลำดุ้นเพียงไม่นาน ไอ้ร่วมก็ขมิบตูดเกร็งสะโพกพ่นน้ำเชื้อราดรดใบหน้าขาวลออ น้ำแรกแตกเร็วจนไอ้ร่วมรู้สึกราวกับโดนอีคุณจำปีท้าทาย มันคว้าต้นคอระหงบังคับให้สาวเจ้าเงยหน้า ลาวาร้อนยังเปรอะเปื้อนเกลื่อนไปทั่วผิวแก้มใส่ ไอ้ร่วมยกลำดุ้นที่ยังแข็งขันไม่อ่อนตัวเกลือกกลิ้งบนน้ำเชื้อแล้วพรวดใส่เข้าริมฝีปากอิ่มให้อีคุณจำปีได้รูดเลียทำความสะอาด
“น้ำของมึงอร่อยหรือไม่...” เอวสอบขับเคลื่อนลำอวบเข้าออกในโพรงปากนุ่ม จำปีตาเหลือกเพราะหายใจไม่ทัน สองมือยกดันหน้าขา ไอ้ร่วมจึงยอมปล่อย จำปีสำลักไอน้ำหูน้ำตาไหลพราก
“มาเถอะ...มาให้กูเอาสักที”
ครานี้มันจับร่างงามพลิกคว่ำ สองมือยันไว้บนพื้นแคร่ รวบเอวเข้ามาใกล้พลางสั่งให้เมียเอกไอ้เศรษฐีกระดกก้นงอนงามขาวจั๊วะให้ลอยเด่น ลำดุ้นจดจ่อโดยจำปีเหลียวหลังมามอง สองตาเบิกโพลงกลั้นหายใจยามดุ้นเนื้อค่อยๆสอดแทรกผ่านรอยแยกกลีบสวาทของตัวเองเข้ามาจนมิดด้าม
“อูย...ซีด...คับแน่นเต็มร่องฉันไปหมดแล้วพ่อร่วมจ๋า...”
สรรพนามถูกเปลี่ยนขานตามอารมณ์เสี้ยนสวาทครอบงำ จำปีสีหน้าเหยเกสุขสมกับขนาดไม่ธรรมดาของบ่าวหนุ่ม ไอ้ร่วมเริ่มโยกกระทุ้งกระแทกบั้นท้าย บีบนมอีคุณจำปีไปพร้อมแรงหวดเข้าใส่ไม่ออมแรง
ทั้งสองร่วมสวาทกันจนฟ้าใกล้สว่าง จำปีตัวอ่อนระโหยโรยแรงทว่ายังต้องจำใจลากสองเท้าย่องกลับขึ้นเรือน โดยไม่มีผู้ใดร่วงรู้...
มีหนแรกก็ย่อมมีหนสองและสาม ผ่านมาสองอาทิตย์เศรษฐีเปลวยังไม่กลับเรือน จำปาได้ข่าวว่าตอนนี้ลำดวนอาการดีวันดีคืน ผัวรักเลยกะจะพากันไปท่องเที่ยวยังเมืองอื่นกันต่อ จำปียิ้มย่อง เรไรก็สีหน้าชื่นบาน เห็นจะมีเพียงจำปาที่ดูเป็นทุกข์กับข่าวนี้มากที่สุด
---------------------------------
เรไรคอยวนเวียนมาหาไอ้ร่วมยังสวนจำปีจำปาเกือบทุกวัน ได้ร่วมสวาทกันจนหนำใจเรไรก็กลับขึ้นเรือน สีคำอ่อนจะห้ามปรามจึงปล่อยเลยตามเลย พอเห็นนายสาวลงจากเรือนคราใด สีคำมีหน้าที่วิ่งตามเพื่อไปคอยดูต้นทางให้เสมอ
วันนี้ก็เช่นกัน เรไรเดินมาทางสวนจำปีจำปา หมายจะได้ร่วมสวาทกับบ่าวหนุ่มรูปหล่อลำใหญ่ หากสิ่งที่ตาเธอเห็น ทำเอาเรไรกระทืบเท้าเร่าๆ
“นั่นมันอีจำปี มันมากระซิบกระซาบอะไรกับผัวกู”
สีคำหยุดเท้าตามนายสาว เพ่งสายตามองไปยังโคนต้นจำปี เห็นเมียเอกของท่านเศรษฐีโน้มตัวเข้าหาบ่าวหนุ่ม สองมือลูบคลำอยู่ตรงบ่าเนื้อแน่น
ท่าทาง กิริยาแบบนั้น ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ สองคนนี้คงเคยจูงมือกันไปแตะขอบสวรรค์
เอ...มันชักจะยังไง สีคำยกมือเกาหัวแกรก ไอ้บ่าวหนุ่มผู้นี้มันมีดีอะไรหนอ นายหญิงของเรือนนี้ถึงต่างหมายปองมอบกายถวายพานให้ถึงที่
“แล้วคุณเรไร จะทำอย่างไรเจ้าคะ?”
“กูก็จะเอาเรื่องบัดสีนี้ไปฟ้องไอ้เศรษฐี จะบอกมันว่า เมียเอกมันกำลังเล่นชู้ สวมเขาให้อยู่ไง”
สีคำอดจะเหลือบสายตามองนายสาวไม่ได้ ไอ้ที่พูดออกมานั่นไม่คิดว่ามันจะเข้าตัวเองบ้างหรือไง สีคำได้เพียงแค่คิดแต่ก็ไม่กล้าพูด มันพยักหน้าเออออ เห็นทีคนที่ดูน่าสงสารที่สุดจะหนีไม่พ้นท่านเศรษฐีเปลวแล้วกระมัง
ทั้งเมียเอก เมียสุดท้อง ดันจะมามีชู้ชายคนเดียวกันเสียด้วยสิ...
ส่วนคุณจำปาเมียสอง รายนั้นก็มักวนเวียนไปเรือนหมอยา...
เรไรยืนรอจนจำปีเดินกลับเรือน หญิงสาวจึงเดินออกจากจุดซ่อน เร่งฝีเท้าให้ทันไอ้ร่วม เดินไปดักหน้าผัวรักของตัวเองด้วยสีหน้าหักงอ
“มีฉันคนเดียวยังไม่พอหรืออีกพี่ร่วม...” ไม่กล้าอาละวาด บีบน้ำตาเรียกความสงสาร สีคำเดินแอบมายืนอีกมุมทำหน้าที่ดูต้นทางตามเดิม
ร่วมชะงักเท้า เงยหน้ามองเมียเล็กสุดของเจ้านายด้วยสายตางงงัน ด้วยความที่วันนี้อามันต์ไม่ได้สิงร่าง ไอ้ร่วมเป็นตัวของตัวเองมันจึงไม่รู้ถึงความหมายในคำพูดของสาวเจ้าตรงหน้า
อะไร?ของอีคุณเรไรมันวะ!...
ต่อหน้าคนอื่นร่วมมักทำตัวเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่มีหรอกกิริยาต่ำทรามเหมือนที่เคยทำกับจำปี
“กระผมทำอะไรผิดหรือขอรับ...”
“เมื่อสักครู่ฉันเห็นพี่ร่วมกับอีจำปี...”
“อ้อ...คุณจำปีเพียงแค่ลงมาสั่งงานกระผมเท่านั้นขอรับ...” รับเงินอีจำปีมาแล้วไอ้ร่วมก็ไม่คิดจะเปิดโปงความลับต่ำช้าบอกใครให้รู้ เก็บไว้กินนานๆให้ตัวเองสุขสบายไปตลอดทั้งปีทั้งชาติไม่ดีกว่าเหรอ
สีหน้าของเรไรสว่างจ้าขึ้นทันตา ที่แท้เธอก็หลงเข้าใจผิด คิดมาคิดไปมีหรือคนเจ้ายศเจ้าอย่าง อย่างอีจำปีมันจะลดตัวมาเกลือกกลั้ว เล่นรักกับพวกบ่าวชั้นต่ำ ความคิดของตัวเองกลับไม่สะท้อนเข้าหาตัวเองสักนิด
เรไรลืมไปหรือเปล่าเธอเองกำลังลดตัวลงต่ำกลืนกินอยู่กับสิ่งอาจม
ร่างงามกระโจนเข้าหาชายคนรัก กอดรัดร่างหนาไว้อย่างเต็มรัก ยกตัวขึ้นสูง หอมแก้มซ้ายแก้มขวา
“พี่ไม่คิดทรยศฉันแน่นะ...ฉันรักพี่ร่วมที่สุดเลย”
ไอ้ร่วมนิ่วหน้าตกใจกับกิริยาของเมียเด็กท่านเศรษฐี หากก็ยอมเล่นตามน้ำ ดีเหมือนกันจะได้เปลี่ยนรสชาติจากอีคุณจำปี
ร่วมมองซ้ายมองขวาว่าปลอดคน มันจึงอุ้มร่างอรชรเดินลับมายังหลังต้นจำปีจำปาจุดเดิม สีคำถอนหายใจหนัก เร่งเท้ามายังทางเข้าสวนทำหน้าหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด ยังไงก็ถือเป็นความสุขของคุณเรไร นายน้อยที่มันจงรักภักดี
เสียงโหนกเนื้อฟาดฟัน สลับสับเปลี่ยนกับเสียงร้องโอดโอยครวญครางยังคงดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิง ไอ้ร่วมนั้นหวานปาก จู่ๆก็มีขนมหวานยื่นส่งป้อนมาให้ถึงปากโดยที่ตัวมันไม่ต้องออกแรงเหมือนคราวอีจำปี
สำหรับเรไร ขอเพียงชีวิตนี้เธอมีบ่าวหนุ่มผู้นี้คอยบำรุงบำเรอ ให้ความสุขกับเธอ ก็ไม่คิดหวังหรือปรารถนาสิ่งใดอีกแล้ว แม้แต่ความรักจากผัวอย่างไอ้เศรษฐีเปลว
ทั้งสองควบขี่ กระแทกกระทั้นกันจนกระทั่งขอบฟ้าเริ่มกลายเป็นสีมืดจาง เรไรจูบลาชายชู้ สวมชุดสวยกลับคืนเก่า พรางเดินใบหน้าเปี่ยมสุขออกมาจากโคนต้นจำปีจำปา หันไปบอกลาผัวชู้ด้วยน้ำคำหวานหยด แล้วเดินยิ้มหวานกลับขึ้นเรือนเหมือนเช่นทุกวัน โดยมีบ่าวสาวตัวดำคอยเดินตามด้วยสายตาเป็นห่วงเช่นเดิม...
---------------------------------
...จบ...
*(ฝากติดตาม อามันต์(เจ้าแห่งป่า) เล่มหลักด้วยนะคะ) *
ลิงค์สำหรับ นิยายเรื่องอามันต์(เจ้าแห่งป่า เล่มหลัก