จักรพรรดิผู่อี๋ จักรพรรดิองค์ที่ 12 ราชวงศ์ชิง(Ep.1)
จักรพรรดิผู่อี๋ จักรพรรดิองค์ที่ 12 ราชวงศ์ชิง
#มหากาพย์ราชวงศ์ชิงตอนที่12 (Ep.1)
📌ผมขอเเบ่งเป็น ตอนที่ 12 (Ep.1 กับ Ep.2) นะครับเนื่องจากข้อมูลของผู่อี๋ ค่อนข้างเยอะครับ❤️🙏
(ขออนุญาตเลี่ยงคำราชาศัพท์บางคำนะครับ เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายในเนื้อหากับเพื่อนๆทุกวัยครับ) พอดีมีเพื่อนๆทักมาขอครับ❤️🙂
🔸ผู่อี๋ เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1906 ในราชสกุล(อ้ายซินเจว๋หลัว) ณ ตำหนักฉุนชินหวัง กรุงปักกิ่ง จักรวรรดิชิง
พ่อคือ องค์ชายไจ้เฟิง
เเม่คือ กัวเอ่อร์เจีย โย่วหลัน
🐉เเบ่งสายของพ่อกับเเม่ของผู่อี๋ ครับ🐉
............... 🔸สายพ่อ:องค์ชายไจ้เฟิง🔸...............
🔹ปู่ทวดของผู่อี๋คือจักรพรรดิเต้ากวัง หลังจากนั้นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ของจักรพรรดิเต้ากวง คือจักรพรรดิเสียนเฟิง ก็ขึ้นสืบราชสมบัติ
🔹ปู่ของผู่อี๋ ฉุนชินหวังอี้เซฺวียน เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 7 ของจักรพรรดิเต้ากวัง และเป็นน้องรวมมารดากับจักรพรรดิเสียนเฟิง
🔹ภายหลังจากพระจักรพรรดิเสียนเฟิงสวรรคตแล้ว จักรพรรดิถงจื้อ พระราชโอรสพระองค์เดียวในพระจักรพรรดิเสียนเฟิงได้ขึ้นสืบราชสมบัติ
🔹จักรพรรดิถงจื้อสวรรคตเมื่อพระชนมายุ 18 พรรษา โดยไม่มีพระราชโอรส และผู้ที่มาสืบราชสมบัติต่อคือ จักรพรรดิกวังซวี่ โอรสในฉุนชินหวังอี้เซฺวียน และท่านผู้หญิงเย่เหอนาลา วานเจิน (น้องสาวซูสีไทเฮา) ต่อมาจักรพรรดิกวังซวี่สวรรคตโดยไม่มีพระราชโอรส
🔹ผู่อี๋ จึงสืบราชสมบัติต่อจากจักรพรรดิกวังซวี โดยผู่อี๋เป็นลูกคนโตของ (ฉุนชินหวังไจ้เฟิง ซึ่งเป็นโอรสของอี้เซฺวียน และท่านผู้หญิงหลิงกิยา พระสนมของพระองค์)
🔹เดิมท่านผู้หญิงหลิงกิยา เคยเป็นคนรับใช้ที่ตำหนักของอี้เซฺวียน พื้นเพเป็นชาวฮั่นแซ่หลิว (劉) และเมื่อเป็นสนมของฉุนชินหวังจึงเปลี่ยนเป็นชื่อแมนจูว่า หลิงกิยา ครับ
🔹เพราะฉะนั้นฉุนชินหวังไจ้เฟิง จึงเป็นพี่น้องร่วมพ่อเดียวกันกับจักรพรรดิกวังซวี่และเป็นทายาทสืบราชบัลลังก์ที่อยู่ในลำดับแรก
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเป็นไปตามที่ซูสีไทเฮาต้องการอยู่ดี เลยทำให้ ผู่อี๋ ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ (เด็กควบคุมง่ายกว่า)
............ 🔸สายเเม่: กัวเอ่อร์เจีย โย่วหลัน🔸...............
🔹เเม่ของผู่อี๋คือ โย่วหลัน เป็นลูกสาวของ หรงลู่ รัฐบุรุษและนายพลจากเผ่ากัวเอ่อร์เจีย โดยหรงลู่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำของสายอนุรักษนิยมในราชวงศ์ชิง
🔹และเป็นผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์ของซูสีไทเฮา เผ่ากัวเอ่อร์เจีย เป็นหนึ่งในเผ่าที่ทรงอำนาจเผ่าหนึ่งของชาวแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิง แม่ทัพเอ๋าไป้ ผู้บัญชาการทางทหารผู้ทรงอิทธิพลและรัฐบุรุษซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการระหว่างต้นรัชสมัยของจักรพรรดิคังซี ก็มาจากเผ่ากวาเอ่อร์เจีย ครับ
..............................................................................
🐉ประวัติของจักรพรรดิผู่อี๋🐉
🔹จักรพรรดิจีน ตั้งเเต่ปี ค.ศ. (1908–1912)🔹
🔸ผู่อี๋ ถูกซูสีไทเฮาเลือกให้เป็นจักรพรรดิในขณะที่พระนางประชวรหนักอยู่บนพระแท่นบรรทม
ขึ้นเป็นจักรพรรดิในขณะที่มีอายุ 2 ปี กับ 10 เดือน ในเดือน ธันวาคม ค.ศ. 1908 มีพระปรมาภิไธยว่า จักรพรรดิเซฺวียนถ่ง ครับ
🔸ซึ่งชีวิตในการเป็นจักรพรรดิของผู่อี๋ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักราชวังมายังตำหนักเจ้าชายฉุนเเละได้นำตัวผู่อี๋มาเป็นจักรพรรดิ โดยผู่อี๋ได้ทำการขัดขืนหรือกรีดร้องตอนที่เจ้าหน้าที่ของพระราชวังสั่งให้ขันทีอุ้มผู่อี๋ เลยต้องให้พ่อคอยปลอบอยู่ข้างๆ
🔸ในระหว่างพิธีราชาภิเษกที่พระที่นั่งไท่เหอ
พ่อได้อุ้มจักรพรรดิที่ยังทรงเยาว์ขึ้นไปยังนั่งบนบัลลังก์ ผู่อี๋ได้ตกใจฉากที่อยู่ต่อหน้าและเสียงอึกทึกของกลองและเสียงเพลงในพิธีราชาภิเษก
🔸และหลังจากนั้นผู่อี๋ก็เริ่มร้องไห้ พ่อไม่สามารถที่จะทำสิ่งใดได้นอกจากพูดปลอบพระองค์ด้วยวลีอมตะว่า
"อย่าร้องไห้ เดี๋ยวมันก็จบในอีกไม่ช้านี้" จนกระทั้งเสร็จพิธี
🔸แม่นมของผู่อี๋ เหวิน เฉาหว่าง เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถควบคุมผู่อี๋ได้ เธอจึงได้รับเลือกตามผู่อี๋ เข้าพระราชวังต้องห้าม เเต่ผู่อี๋ไม่ได้เจอแม่ผู้ให้กำเนิดพระองค์(โย่วหลัน) เป็นระยะเวลาถึง 7 ปี
🔸โดยผู่อี๋ได้ผูกพันกับ เหวิน เฉาหว่าง และยอมรับว่าเธอเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถควบคุมผู่อี๋ได้ แต่เธอก็ได้ออกจากพระราชวังต้องห้ามเมื่อผู่อี๋ มีอายุได้ 8 ปี
เเค่ก็จะมาหา ในบางโอกาสที่สำคัญๆเท่านั้นครับ
................................................................................
🐉ในช่วงที่สละราชสมบัติ🐉
🔸ฉุนชินหวัง(ไจ้เฟิง) พ่อของจักรพรรดิผู่อี๋ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการถึงวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1911
เมื่อพระนางหลงยฺวี่ (หลานของซูสีไทเฮา) เข้าควบคุมอำนาจเเทนเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์การปฏิวัติซินไฮ่
🔸เมื่อหลงยฺวี่ได้รับการยอมรับในพระยศพระพันปี โดยในทางทฤษฎีพระนาง มีความมุ่งมั่นที่สำคัญในการตัดสินใจ แต่ในภาคปฏิบัติพระนางทรงไม่มีความรู้ด้านการเมืองการปกครองไม่เหมือนซูสีไทเฮา
🔸ทำให้ยินยอมตามคำแนะนำ ที่กล่าวออกมาจากปาก ของหยวน ซื่อไข่ ด้วยน้ำตา ปี ค.ศ. 1911
พระพันปีหลงยฺวี่จำต้องลงพระนามาภิไธยประกาศการสละราชสมบัติของจักรพรรดิผู่อี๋ ด้วยอายุ 6 ปี ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912
🔸ทำให้ผู่อี๋เหลือเพียงตำแหน่งในราชวงศ์และได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลของสาธารณรัฐจากพิธีสารซึ่งจะถือว่าจะปฏิบัติพระองค์ให้เท่าเทียบกับกษัตริย์ของต่างประเทศ
🔸ผู่อี๋และสมาชิกราชวงศ์ยังได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ได้ในส่วนเหนือของพระราชวังต้องห้าม (พระตำหนักส่วนพระองค์) และในพระราชวังฤดูร้อนอี๋เหอหยวน
🔸เเละเงินช่วยเหลือสนับสนุนราชวงศ์มีจำนวน 4 ล้านเหรียญ ซึ่งจ่ายโดยรัฐบาลสาธารณรัฐให้แก่สมาชิกราชวงศ์ แต่ว่าเงินจำนวนนี้ทางวังไม่เคยได้รับเต็มจำนวนและถูกยกเลิกในเวลาต่อมาไม่กี่ปีหลังจากนั้น
..............................................................................
🐉การฟื้นฟูราชวงศ์ชิง (1917)🐉
🔸จาง ซวิน ได้เข้ายึดครองนานจิงในปี ค.ศ. 1913 ถึงแม้ว่าการบุกยึดเมืองครั้งนั้นกองทัพของ จาง ซวิน จะได้ปล้นสะดม ราษฎรในเมืองอย่างโหดร้ายแต่ก็ทำให้เขาได้รับตำแหน่งนายพลจากประธานาธิบดี หยวน ซื่อไข่ (จาง ซวินเป็นนายทหารผู้คุ้มกันพระนางซูสีไทเฮา มาก่อนครับ)
🔸ซึ่ง จาง ซวิน เดิมทีจงรักภักดีต่อราชวงศ์ชิง เเละเป็นผู้ซึ่งพยายามที่จะฟื้นฟูอำนาจของราชวงศ์ชิงหลังจากที่ราชวงศ์ชิงได้ล่มสลายไปแล้ว
🔸โดยในปี ค.ศ.1917 จาง ซวิน ก็ได้ทำรัฐประหารที่ปักกิ่ง เเล้วได้นำ ผู่อี๋กลับขึ้นมาเป็นจักรพรรดิที่มีอำนาจอีกครั้งระหว่างวันที่ 1 ถึง 12 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1917
🔸จาง ซวิน จงรักภักดีต่อราชวงศ์ชิงถึงขนาดว่า ออกคำสั่งให้ทหารในกองทัพของเขาทุกคน ไว้หางเปียเพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พระจักรพรรดิ
🔸เเต่ในช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูราชวงศ์ชิง ได้มีระเบิดขนาดเล็กหล่นลงมายังพระราชวังต้องห้าม โดยเป็นเครื่องบินของสาธารณรัฐ ก่อให้เกิดความเสียหายเล็กน้อย
🔸ทำให้การฟื้นฟูนสิ้นสุด เเค่วันที่ 12 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1917 แล้วยังทำให้ก่อให้เกิดการต่อต้านไปทั่วประเทศอีกด้วยครับ เเต่ผู่อี๋ก็ยังคงอยู่ในวังตามเดิมได้ตามปกติ ในนาจักรพรรดิผู่อี๋(พระยศแต่ในนามเท้านั้นครับ)ไม่มีอำนาจสั่งการสู่ภายนอก
📌เรื่องราวของจักรพรรดิผู่อี๋ยังมีอีกนะครับ ติดตามใน Ep.2 นะครับ🙂❤️
#jarnmooChannel
#history