ผัดกะเพรา เมนูสิ้นคิด อายุ 337 ปี
ผัดกะเพรา เมนูสิ้นคิด อายุ 337 ปี
ผัดกะเพรา เป็นอาหารจานเดียวของไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจานหนึ่ง เป็นอาหารริมทาง อาหารตามสั่งที่มีทั่วไปในประเทศไทย บางครั้งเรียกว่า เมนูสิ้นคิด เนื่องจากเมื่อจะสั่งอาหารแล้วไม่รู้ว่าจะรับประทานอะไรก็มักจะสั่งผัดกะเพรา
วัตถุดิบประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ใบกะเพรา พริก กระเทียม บ้างใส่ผักชนิดอื่นลงไปด้วย เช่น ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน แคร์รอต หอมหัวใหญ่ เนื้อสัตว์ที่ใช้ในการทำผัดกะเพรา ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง ปลาหมึก หรือแม้แต่ปลา หอยแมลงภู่ เนื้อปู วิธีการปรุง ใช้วิธีการผัดวัตถุดิบเข้าไปด้วยกัน มีการปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล บ้างใส่ผงชูรส ซีอิ๊วดำ พริกไทยป่น เติมน้ำสต๊อกพอให้ขลุกขลิก รับประทานกับข้าวสวย อาจกินด้วยกับไข่ดาว มีน้ำปลาพริกเป็นเครื่องปรุงให้รสหอมและเผ็ดขึ้น
จากหลักฐานจดหมายเหตุลาลูแบร์ (พ.ศ. 2230) ได้ระบุถึงใบกะเพราไว้ในบันทึกเกี่ยวกับน้ำพริกของชาวไทยว่า “…ผักลางชนิดที่มีกลิ่นดี เช่น กะเพรา…” มีข้อสันนิษฐานน่าจะรับเอาต้นกะเพรามาจากศาสนาพราหมณ์ เพราะพราหมณ์ มักจะใช้กะเพราสำหรับบูชาเทพเจ้า ส่วนที่บันทึกไว้ใน อักขราภิธานศรับท์ ของหมอบรัดเล พ.ศ. 2416 ให้ความหมายว่า "ผักอย่างหนึ่งต้นเล็ก ๆ ใบกลิ่นหอม ใช้แกงกินบ้าง ทำยาบ้าง"
ผัดกะเพราน่าจะเกิดขึ้นราวสมัยรัชกาลที่ 7 เพราะคนจีนนำเอามาขายในร้านอาหารตามสั่ง และพบโฆษณาเครื่องแกงสำเร็จ พ.ศ. 2476 ตรา หม้อพานทอง ระบุว่า "พริกแกงที่มีจำหน่าย ประกอบด้วยเครื่องแกงไก่ เนื้อ ... มัสหมั่น ปลาดุก ปลาไหล ห่อหมก จ๋วน ผัดกะเพรา"
อย่างไรก็ดี ผัดกะเพราน่าจะเพิ่งนิยมราว พ.ศ. 2500 ซึ่งประยูร อุลุชาฎะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ก็กล่าวไว้ว่ากะเพราผัดพริกเป็นของที่เพิ่งนิยมกันเมื่อ 30 กว่าปีมานี้ (นับจาก พ.ศ. 2531 ปีที่ตีพิมพ์หนังสือเรื่อง อาหารรสวิเศษของคนโบราณ) โดยน่าจะดัดแปลงจากอาหารจีน ที่ตำรับจีน เอาเต้าเจี้ยวดำผัดกับกระเทียมเจียวให้หอม แล้วจึงเอาเนื้อสับหรือไก่หั่นเป็นชิ้น ๆ ลงไปผัดกับน้ำปลาและซีอิ๊วดำ บ้างก็ว่าเลียนแบบมาจากเนื้อผัดใบยี่หร่า สำหรับผัดกะเพราที่ปรากฏในตำรากับข้าวยุคปลายทศวรรษ 2520 อย่างใน ตำราอาหารชุดจัดสำรับ (ชุด 2) ระบุว่า ผัดกะเพราเนื้อจะปรุงด้วยน้ำปลาและผงชูรสเท่านั้น แล้วเอาข้าวลงผัดคลุกเป็นข้าวผัด กินกับถั่วฝักยาวสด ส่วนใน กับแกล้มเหล้า ประมวลกับแกล้มเหล้า–เบียร์ทันยุค ของ “แม่ครัวเอก” (พ.ศ. 2541) ระบุว่า จะหมักเนื้อสับกับเหล้าก่อน แล้วปรุงเพียงน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ในระยะหลัง ๆ จึงค่อยใส่ซอสปรุงรสชนิดต่าง ๆ น้ำตาลทราย น้ำมันหอย รสดี น้ำพริกเผา ฯลฯ
ผัดกะเพราในญี่ปุ่น
ศูนย์วิจัย เจเอ็มเอ รีเสิร์ซ ของญี่ปุ่น ได้สำรวจแนวโน้มอาหารในครอบครัวญี่ปุ่นปี 2559 พบว่าเมนูอาหารต่างชาติ เริ่มกลายเป็นเมนูอาหารในบ้านของชาวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยมีอาหารไทยติดอยู่หนึ่งใน 15 อันดับ คือ ข้าวผัดกะเพรา และข้าวมันไก่ และจากข้อมูลปี 2561 ในเซเว่น อีเลฟเว่นที่ญี่ปุ่น มีจำหน่ายข้าวกล่องเมนูผัดกะเพรา แต่ส่วนผสมกลับไม่มีการใช้ใบกระเพราเป็นวัตถุดิบเลยแม้แต่น้อย วิธีรับประทานคือคลุกผัดกะเพราเข้ากับยำวุ้นเส้นแล้วราดด้วยซอสผักชี แล้วรับประทานกับข้าว
คุณค่าทางอาหาร
ผัดกะเพราไก่ราดข้าว มีส่วนประกอบหลักในอาหาร 5 หมู่ ปริมาณอาหารกะเพราไก่ราดข้าว 1 จาน มีน้ำหนักประมาณ 3 ขีด หรือ 300 กรัม ให้พลังงาน ทั้งหมด 554 กิโลแคลอรี คิดเป็นร้อยละ 28 ของพลังงานที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน ประกอบด้วยโปรตีน 16.3 กรัม คิดเป็นร้อยละ 30 ของปริมาณโปรตีนที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน ส่วนไขมันซึ่งมีอยู่ในปริมาณ 21.2 กรัม ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะเช่นกัน คือ คิดเป็นร้อยละ 33 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน ขณะที่คาร์โบไฮเดรตมีอยู่ในปริมาณ 74.3 กรัม
เหตุผล เมนูผัดกะเพรา ทำไมถึงเป็นเมนูยอดฮิต
เหตุใดกะเพราเป็นเมนูฮิตของคนไทย เนื่องจากเวลาผัดจะได้กลิ่นกะเพราซึ่งกระตุ้นการอยาก คนได้กลิ่นก็อยากกิน อีกทั้งราคาไม่แพง ทำง่าย ได้กินเร็ว คุณค่าโภชนาการครบ และได้ว่าถือเป็น เมนูสุขภาพ โดยต้องอย่าผัดกะเพราโดยใช้น้ำมันมาก และกินคู่กับข้าวในปริมาณพอเหมาะ กรณีคนมีไขมันในเลือดสูงสามารถกินได้ แต่อาจต้องลดหมึก กุ้ง ส่วนผู้เป็นโรคภูมิแพ้การกินผัดกะเพรา ใบกะเพราและพริกช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ แต่ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์
อ้างอิงจาก: ผัดกะเพราะ อาหารจานด่วน เมนูสิ้นคิด