เรื่องสั้นหลอนหักมุม ตอน เธอคนนั้นที่หน้าต่าง
เธอคนนั้นที่หน้าต่าง
“ทาอิชิแกเชื่อเรื่องตัวตายตัวแทนไม๊” มิชิโกะเพื่อนสาวสมัยเด็กถามผมระหว่างที่เรากำลังทำรายงานในห้องของผม “ชั้นเคยได้ยินมานะที่ถนนเส้นนึงเขาว่าตรงนั้นมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยๆ ทั้งที่ตรงนั้นเป็นทางตรงธรรมดา แต่มักจะมีอุบัติเหตุไม่ก็รถชนเกิดขึ้นเสมอ จนมีคนแอบไปทำศาลเจ้าเพื่อให้วิญญาณมาอยู่ด้วย นี่ดูซิขนลุกเลย” มิชิโกะโชว์โทรศัพท์มือถือที่มีรูปศาลไม้เก่าๆ ที่อยู่ในป่าข้างถนนให้ผมดู “เค้าว่าเคยมีคนไปถ่ายคิดวิญญาณมาด้วยนะเห็นแล้วขนลุกมากๆ เป็นชั้นคงไม่กล้าผ่านถนนเส้นนั้นแน่ๆ นี่ทาอิชินายฟังชั้นอยู่รึเปล่าเนี้ย” มิชิโกะถามผมด้วยความไม่พอใจ “ฟัง แต่เราควรรีบทำรายงานให้เสร็จ เธอเองไม่ใช่หรอที่ขอจับคู่กับชั้นเพราะเราอยู่อพาร์ทเม้นท์เดียวกันเลยไม่ต้องไปหากันไกลแบบคู่อื่น รีบทำรีบไปได้แล้วชั้นไม่มีเวลามาฟังเรื่องผีของเธอหรอกนะ” ผมรีบตัดบทเพราะไม่อยากยุ่งกับยัยนี่มากนัก เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมายัยนี่ก็ชอบแวะมาเล่าเรื่องผีไม่ก็ส่งรูปแปลกๆ มาให้ดูจนผมถูกเพื่อนๆ มองว่าเป็นพวกเชื่อเรื่องผีแบบยัยนั่นไปด้วย “ก็ได้ๆ “ มิชิโกะบ่นออกมาก่อนจะทำรายงานต่อ
เราสองคนทำรายงานจนเย็นมิชิโกะก็กลับห้องของตัวเองไป ผมที่ส่งยัยมิชิโกะเรียบร้อยก็มาที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่บนชั้น24ของอพาร์ทเม้นท์ย่านชาญเมือง ซึ่งในห้องของผมก็เหมือนห้องเด็กผู้ชายทั่วไปแต่ที่แปลกไปกว่าคนอื่นก็คือห้องของผมจะปิดผ่านม่านเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อจะได้ซ่อนกล้องดูดาวที่ผมไม่ได้เอาไว้ดูดาว แต่เอาไว้แอบส่องดูผู้คนในตึกต่างๆ ซึ่งเป็นงานอดิเรกของผม เพราะการได้แอบส่องดูชีวิตผู้คนมันคือความสนุกที่แปลกใหม่ เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าวันนี้เราจะได้เจอกับอะไรในอพาร์ทเม้นท์ตามตึกต่างๆ อย่างวันนี้ผมเห็นสาวสวยออกมารดน้ำต้นไม้ที่ระเบียง ที่ตึกถัดไปไอ้เด็กชายติดเกมก็ยังคงนั่นที่อยู่ที่เดิม ส่วนครอบครัวที่ห้องนั้นก็มีความสุขมากๆ ทุกที่ทุกห้องล้วนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง แต่ก็มีอยู่ห้องหนึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษที่อพาร์ทเม้นท์ตึกHฝั่งตรงข้ามไม่ไกลจากตึกผม “วันนี้ก็มายืนอีกแล้ว“ ผมพูดกับตัวเองเมื่อเห็นหญิงสาวสวยมายืนที่หน้าต่างอพาร์ทเม้นท์ เธอมักจะสวมเสื้อซ้ำๆ กันบางวันก็ชุดกระโปรงบางวันก็เสื้อยืดกางเกงขาสั้นบางทีก็มัดผมบางทีก็ปล่อยผมยาว แต่สิ่งที่แปลกก็คือเธอคนนั้นจะยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนอยู่แบบนั้นเป็นชั่วโมง การยืนของเธอนั้นเหมือนกำลังส่ายสายขยับหัวมองไปยังที่ต่างๆ เหมือนที่ผมกำลังแอบมองผู้คน แต่ทางผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ใช้กล้องดูดาวแบบผม และทุกวันเมื่อผมมีเวลาว่างก็มักจะเห็นเธอมายืนอยู่ จนบางครั้งก็เคยตั้งกล้องมือถือถ่ายดูว่าเธอคนนั้นจะยืนอยู่นานแค่ไหน ซึ่งก็ปรากฏว่าเธอนั้นยืนอยู่นานมากๆ ก่อนจะเดินหายไปในห้อง ซึ่งสำหรับคนทั่วไปคงไม่มีใครสนใจจะมายืนดูผู้หญิงที่ยืนที่หน้าต่างแบบผมหรอก
แต่แล้ววันนึงมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อจู่ๆ เธอคนนั้นที่ยืนตรงหน้าต่างก็หันมาทางผมเหมือนเธอจะรู้ว่าผมกำลังดูเธออยู่ สายตาของเธอที่มองผมในตอนนั้นเลนเอาผมตกใจแอบล้มลงหงายท้อง เพราะแววตาที่เธอคนนั้นมองมามันช่างดูน่ากลัวเหมือนสายตานั้นจะบอกผมว่ามายุ่งอะไรกับเรื่องของชั้นอะไรแบบนั้นอยู่เลย ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นผมก็สะบัดภาพของเธอคนนั้นไปไม่ได้ สายตาของเธอคนนั้นแม้จะดูแข็งกร้าวแต่ในส่วนลึกในแววตาของเธอนั้นมันกลับมีความเศร้าแอบแฝงอยู่ “นี่ทาอิชิวันนี้ชั้นมีเรื่องผีมาเล่าสนใจฟังไม๊” ยัยมิชิโกะมากวนผมอีกแล้ว เพราะผมเป็นคนเดียวที่ทนฟังเธอเล่าเรื่องไร้สาระได้ ยัยนั่นเลยมาคุยกับผมมากว่าเพื่อนคนอื่น “ชั้นมีเรื่องเล่าสยองเกี่ยวกับอพาร์ทเม้นท์ที่ตึกHด้วยละสนใจฟังไม๊” สิ่งที่ยัยมิชิโกะพูดมันไปสะดุดความคิดผม “ตึกHที่ว่าคือตกที่อยู่ตรงข้ามตึกเราใช่ป่ะ” ผมถามด้วยความสนใจ “ชะใช่ ทำไมนายสนใจหรอ เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟัง” ยัยมิชิโกะมีท่าทางดีใจเมื่อเห็นผมสนใจในสิ่งที่เธอพูด “ที่ตึกHชั้น13ห้อง0313เค้าว่าพอมีใครไปอยู่ที่นั่นตะต้องมีคนตายเสมอ แต่ไม่ได้ตายในห้องหรอกนะ แต่ทั้งหมดจะตายที่อื่นแต่เขาก็เล่ากันว่าดวงวิญญาณจะมาอยู่กันที่นั่น ตอนกลางคืนก็จะเห็นคนมายืนตรงหน้าต่างเค้าว่าเป็นวิญญาณของคนที่เคยอยู่ที่นั่นแต่ถูกกักวิญญาณเอาไว้” ผมฟังยัยมิชิโกะเล่าอย่างตั้งใจและพยายามคิดว่าห้องที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่จะเป็นชั้นที่เท่าไหร่ แต่ยิ่งนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก “เย็นนี้เราไปดูกันไม๊” ผมชวนยัยมิชิโกะ “เอาดี๊น่าสนใจ”
หลังเลิกเรียนเราสองคนก็มาที่อพาร์ทเม้นท์ตึกHที่อยู่ตรงข้ามตึกของเรา ที่นี่แม้จะมียามเฝ้าทางเข้าออก แต่เราก็สามารถเข้ามาได้เพราะยามที่ดูแลที่นี่ก็รู้จักพวกเราเป็นอย่างดีเพราะทั้งสองตึกนั้นคือโครงการเดียวกัน “นี่ก่อนจะเข้าไปที่นั่นถามลุงยามก่อนไม๊ว่าห้อง0313มีจริงรึเปล่า” ยัยมิชิโกะพูดกับผม ก่อนที่ผมจะไปถามลุงยามที่เฝ้าอพาร์ทเม้นท์ “อ๋อเรื่องเล่าชั้น13ห้อง0313อีกแล้วหรอ” ลุงยามหัวเราะออกมา “มันมีที่ไหนเรื่องเล่าแบบนั้น นั่นมันแค่นิยายในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น นั่นเป็นแค่ห้องเปล่าๆ ไม่มีใครไปอยู่หรอก เธอก็รู้ว่าเลข13มันเลขไม่ดีขนาดชั้นที่13ทางอพาร์ทเม้นท์ยังใช้คำว่า12Aแทนเลขชั้น13เลย” ลุงยามพูดกับผม ขณะที่ตอนนั้นเองก็มีหญิงสาวคนนึงเดินผ่านพวกเราไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่เราอยู่ ซึ่งเธอคนนั้นช่างเหมือนหญิงสาวที่หน้าต่างมากๆ “สวัสดีครับคุณมิโดริ” ลุงยามตะโกนทักทายขณะที่หญิงสาวก็ยิ้มและโค้งคำนับให้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก จนเมื่อแยกย้ายกับยัยมิชิโกะผมก็รีบมาใช้กล้องส่องดูเธอคนนั้นทันที ซึ่งตอนนี้เธอคนนั้นก็สวมชุดเดียวกันไม่ซิเธอคนนั้นเหมือนกับคุณมิโดริมากๆ และเธอก็กำลังยืนที่หน้าต่างที่เดิมแต่คราวนี้เธอไม่ได้มองมาทางผม แล้ว และคราวนี้ผมก็ไม่พลาดที่จะนับชั้นที่หญิงสาวอยู่ซึ่งก็คือชั้น13แต่ห้องที่เท่าไหร่ไม่รู้แต่ก็เดาว่าน่าจะเป็นห้อง0313อย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็ตีได้สองสามความหมาย นั่นคือหนึ่งห้องนั้นเป็นห้องผีสิงแต่ลุงยามโกหกพวกเรา หรือสองนั่นอาจจะไม่ใช่ห้อง0313ก็ได้แต่ทำไมเธอคนนั้นถึงหน้าเหมือนกันชุดเหมือนกันนั่นกับคุณมิโดรินั่นคือสิ่งที่ผมสงสัยและพยายามหาคำตอบ
เย็นวันอาทิตย์ผมที่เดินกลับมาจากร้านสะดวกซื้อก็ถูกยัยมิชิโกะเรียกที่สวนสาธารณะ “นี่ทาอิชิชั้นมีเรื่องแปลกๆ มาเล่าละ นายจำคุณมิโดริที่เจอเมื่อวันนั้นได้ป่ะ เมื่อวานตอนชั้นพาน้องชายไปเล่นที่สวนสาธารณะชั้นได้ยินป้าๆ แถวนั้นพูดกันว่าคุณมิโดริมีท่าทางแปลกๆ เมื่อก่อนเธอจะเป็นคนร่าเริงดูเป็นมิตร แต่ตอนนี้เธอแทบไม่คุยกับใครเลย วันๆ เอาแต่อยู่ในห้องนานๆ จะออกมาข้างนอก พอไปเคาะประตูเรียกเพื่อรับจดหมายเวียนหรือแจ้งเอกสารก็ไม่ยอมออกมา ทุกคนเลยไม่ค่อยชอบเธอเลย นายคิดว่ามันเกี่ยวกับห้อง0313ไม๊” ยัยมิชิโกะพยายามจะโยงไปที่เรื่องลี้ลับ และตอนที่เรากำลังยืนคุยกันคุณมิโดริก็เดินผ่านมาพอดีจนเราสองคนต้องรีบหยุดพูด เธอคนนั้นมองมาทางผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ต่างกับแววตาที่ผมเห็นที่หน้าต่างซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกอยากรู้คำตอบจริงๆ ว่ามันคืออะไร
“นี่ทาอิชินายจะไปไหน” ผมที่เก็บความอยากรู้และสงสัยไม่ไหวจึงรีบไปที่ตึกHเพื่อหาคำตอบ ซึ่งชั้นที่ผมจะไปนั่นคือชั้นที่13ห้อง0313โดยการแอบลุงยามเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งที่ก็มีคนอยู่อาศัยตามปกติ ผมขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น13และหาของ0313จนเจอ ผมกลั้นใจเล็กน้อยก่อนจะบิดกลอนประตูแต่มันกลับล็อคจากข้างใน แปลว่าต้องมีคนอยู่ที่นี่แน่ๆ เมื่อเป็นแบบนั้นผมจึงจะเดินกลับมา แต่เพียงไม่กี่ก้าวที่ผมเดินออกมาประตูห้องนั้นก็เปิดออกมา ซึ่งคนที่เปิดออกมานั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่มันคือตัวผมเอง ไม่ซิคนที่เหมือนผมมากกว่าทั้งการแต่งตัวหน้าตาความสูง ผมยืนงงอยู่นานว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่นายคนนั้นที่เหมือนผมก็จับผมผลักเข้าไปในห้อง0313และปิดประตูใส่ “เฮ้ยเปิดประตูนะ” ผมพยายามทุบประตูแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ “อย่าพยายามเลยค่ะมันเปิดไม่ได้หรอก” เสียงหญิงสาวคนนึงบอกกับผมเธอคนนี้คือคุณมิโดริ “ชั้นเองก็ถูกขังเหมือนคุณ ตอนที่ชั้นเห็นตัวเองที่หน้าต่างห้องนี้ พอชั้นมาถึงที่นี่ชั้นก็ถูกตัวเองดึงเข้ามาในนี้ ส่วนตัวชั้นที่อยู่ในนี้ก็ใช้ชีวิตเป็นชั้นแทน” คุณมิโดริพาผมมาดูตัวเธอที่อพาร์ทเม้นท์ฝั่งตรงข้ามที่เห็นตัวคุณมิโดริกำลังเต้นท่าแปลกๆ เหมือนคนไม่มีกระดูกที่หน้าต่าง ขณะที่ห้องของผมตอนนี้ผ้าม่านได้เปิดออกและเห็นตัวผมที่ยืนมองมาจากอพาร์ทเม้นท์ และในห้องผมก็มียัยมิชิโกะที่เข้ามาหาคนที่เหมือนผม ขณะที่หมอนั่นก็ชี้มาทางผมกับคุณมิโดริที่ตึกH ก่อนที่ยัยนั่นจะทำท่าตกใจกลัวชายคนนั้นและวิ่งหนีมา “รึว่ายัยมิชิโกะจะมาที่นี่” ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ ขณะที่หน้าประตูห้อง0131ก็กำลังก่อร่างของยัยมิชิโกะขึ้นมาเพื่อเตรียมเอาเธอมาอยู่ในนี้และมันจะออกไปใช้ชีวิตแทน.....จบ