หนังตาตก ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
หนังตาตก (Ptosis, Drooping Eyelids) คือ อาการที่เปลือกตามีความหย่อน หรือ ยืดตัวมากเกินไป เปลือกตาด้านบนจึงตกลงมาต่ำกว่าปกติ อาจตกมาแบบเล็กน้อยไปจนถึงปิดม่านตา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ความรุนแรงจะแตกต่างกัน ไม่ได้มีอาการเจ็บปวด แต่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น เช่น ในเวลาที่ต้องใช้สายตามอง จะต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อให้สายตาพ้นจากหนังตาที่ตกลงมา อาการนี้บางคนเป็นมาตั้งแต่เกิด แต่บางคนก็เกิดในตอนที่อายุมากขึ้น
หนังตาตกเกิดจากสาเหตุ
1.หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด ภาวะที่กล้ามเนื้อหนังตาทำงานผิดปกติตั้งแต่เกิด โดยร้อยละ 70 มักจะเกิดขึ้นกับตาเพียงข้างเดียว ทำให้เด็กลืมตาได้ไม่เต็มที่ หรือ ลูกตาทั้ง 2 ข้างโตไม่เท่ากัน ทำให้ไม่สามารถเปิดเปลือกตาได้ จึงมองเห็นไม่ชัด หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดอาการ “ตาขี้เกียจ”
3.อายุที่เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อยกตาของผู้สูงอายุมีการยืดตัว หรือ หลุดออกมา เนื่องจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน
4.เกิดความผิดปกติของระบบเส้นประสาท มีก้อนเนื้อโต หรือ สิ่งผิดปกติในดวงตา เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบริเวณดวงตา หนังตา หรือ เปลือกตาฉีกขาด
อาการหนังตาตกเป็นอย่างไร
- เปลือกตาด้านบนตกลงมาต่ำกว่าปกติ อาจเกิดขึ้นข้างเดียว หรือ ทั้งสองข้าง
- หนังตาตกไม่ได้มีอาการที่เจ็บปวด แต่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ซึ่งรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
- หากมีภาวะหนังตาตก ถ้าผู้ป่วยมองผ่านกระจก จะไม่สามารถมองเห็นตาดำได้ทั้งหมด
หนังตาตกแบบนี้ควรไปพบแพทย์
- หนังตาตกแล้วมองเห็นไม่ชัดเหมือนเดิม
- หนังตาตกจนเกือบปิดสนิท
- หนังตาตกพร้อมกับเห็นภาพซ้อน
- หนังตาตกระหว่างวันไม่เท่ากัน เช่น ช่วงเย็น หรือ ช่วงพักผ่อนน้อย หนังตาตกมากขึ้น
- มีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกร่วมด้วย
- หนังตาตกกระทันหัน
- ตาอักเสบ เป็นไข้ กลอกตาลำบาก
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง
วิธีการรักษา
1.การใช้ยาตามอาการ ในกรณีที่ตาแห้ง ให้ใช้น้ำตาเทียมหยอด ส่วนโรคกล้ามเนื้อบางชนิด สามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ สวมแว่นตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกโดยเฉพาะ
2.การผ่าตัด แพทย์จะทำการดึงกล้ามเนื้อส่วนลูกตาขึ้นมา และ สร้างแรงกล้ามเนื้อที่เปลือกตา เพื่อไม่ให้บังดวงตา ทำให้ผู้ป่วยสามารถลืมตาได้ มองเห็นได้ดี ชัดเจนมากยิ่งขึ้น