ไดอารี่ปริศนาเล่มที่ 5 โรงแรมร้าง
พริ้งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมาพักผ่อนในชนบทกับเพื่อนๆ กลับจะนำไปสู่ประสบการณ์ที่น่าขนลุกเช่นนี้ เมื่อเราตัดสินใจเดินทางไปยังโรงแรมที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งไม่มีใครรู้จัก เพียงแค่เพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อแอนที่บอกเล่าว่าโรงแรมนี้เคยเป็นโรงแรมหรูหราในอดีต
เราออกเดินทางในบ่ายวันศุกร์ที่อากาศร้อน แต่เมื่อมาถึงโรงแรมกลับพบว่าบรรยากาศรอบๆ ชวนให้รู้สึกเย็นสบายผิดปกติ ทั้งที่ยังเป็นช่วงกลางวัน แอนเริ่มบอกว่าเธอรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ ในอากาศ แต่เพื่อนๆ ทุกคนกลับหัวเราะและพากันไปเปิดห้องพัก
คืนแรกที่เราเข้าพัก ฉันหลับไม่ค่อยสนิท ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เหมือนคนเดินขึ้นลงบันไดตลอดเวลา แต่เมื่อเปิดประตูออกมากลับไม่พบใคร เพียงแค่เห็นเงาในความมืดเคลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว
เช้าวันนี้ฉันเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง แต่พวกเขาบอกว่าอาจจะเป็นเพียงแค่ความเครียดจากการเดินทางที่ทำให้ฉันหลอน แต่เมื่อถึงช่วงเย็น พวกเราทั้งหมดกลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแอบมองเราอยู่จากหน้าต่างที่มืดสนิทของห้องที่อยู่ชั้นบนสุด
ฉันกับแอนตัดสินใจขึ้นไปสำรวจชั้นบนสุดซึ่งเป็นที่พักเก่าของเจ้าของโรงแรม พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยฝุ่นและเครื่องเรือนที่เก่าแก่ แต่สิ่งที่ทำให้เราสะดุดตาคือภาพถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกวางไว้ในกรอบรูปที่ทำจากไม้เก่าๆ แอนบอกว่าผู้หญิงในภาพดูเหมือนเธออย่างมาก มันทำให้เรารู้สึกอึดอัดมากขึ้น
พอตกดึก เราก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังออกมาจากห้องที่เราเห็นในรูป ฉันกับแอนรีบไปดูแต่พบว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น เสียงนั้นกลับหยุดลงเมื่อเรามาถึง
เราเริ่มรู้สึกว่าไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันฝันเห็นหญิงสาวในภาพที่เราพบ เธอมีหน้าตาที่เศร้าโศกและพูดบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกที่ได้จากฝันนั้นชัดเจนว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ตอนเช้าเราตัดสินใจที่จะออกจากโรงแรม แต่เมื่อเก็บของเสร็จ เราพบว่ารถของเราทั้งหมดสตาร์ทไม่ติด โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณ เราต้องรอจนถึงค่ำเพื่อให้ใครบางคนขับรถผ่านมาช่วย แต่ค่ำคืนนั้นกลับเงียบเชียบ ไม่มีใครเลย
เราเริ่มนั่งล้อมวงกันและเล่าเรื่องราวสยองขวัญเพื่อให้ลืมความกลัว แต่ยิ่งเล่า ความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างจับตาดูเราอยู่ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น
เช้าวันนี้ พวกเราตื่นขึ้นมาและพบว่าแอนหายไป ฉันรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก พวกเราพยายามหาตัวเธอไปทั่วทั้งโรงแรม แต่ไม่พบอะไรเลย นอกจากรอยเลือดจางๆ ที่พื้น
ในตอนบ่าย แอนกลับมาอย่างไม่คาดฝัน แต่เธอดูแปลกไป ดวงตาของเธอว่างเปล่าและเธอพูดจาไม่รู้เรื่อง เพื่อนคนหนึ่งพูดเล่นว่าแอนอาจจะถูกผีเข้าสิง ทำให้เธอหัวเราะเสียงดังแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน มันเป็นเสียงหัวเราะที่ทำให้เราทุกคนขนลุก
คืนนั้นเราได้ยินเสียงเดิมอีกครั้ง คราวนี้มันดังมาจากห้องใต้ดินที่พวกเราไม่เคยไปสำรวจ แอนจู่ๆ ก็ลุกขึ้นและเดินลงไปที่นั่นโดยไม่พูดอะไร พวกเราตัดสินใจตามเธอลงไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่พบคือประตูห้องใต้ดินถูกล็อกจากด้านใน เราได้แต่ยืนฟังเสียงหัวเราะของแอนและเสียงร้องไห้ของผู้หญิงปริศนาที่ดังอยู่ในความมืดนั้น...
ฉันไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดีแล้ว แอนยังไม่กลับขึ้นมา เราทุกคนเริ่มสติแตกกันไปหมด ทุกคนเริ่มเห็นเงาแปลกๆ และได้ยินเสียงที่ไม่สามารถอธิบายได้ เมื่อคืนหนึ่งในเพื่อนของเราเห็นผู้หญิงในภาพยืนอยู่ปลายเตียงของเขา เธอเพียงแค่ยิ้มและกระซิบว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
เช้าวันนี้ ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเอง ฉันเริ่มจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หรือเพียงแค่ฝันไป พวกเราทุกคนเริ่มพูดถึงการหนีออกจากที่นี่ แต่ก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างยึดเราไว้ ไม่ยอมให้เราไป
ทุกอย่างดูเลือนลางลงเรื่อยๆ จนฉันไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างความจริงกับความฝันอีกต่อไป พวกเราทั้งหมดเริ่มพูดเหมือนกับว่าเราจะไม่มีวันได้ออกจากที่นี่ ความรู้สึกเหมือนติดอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
แล้วสุดท้าย แอนก็กลับมา แต่ครั้งนี้เธอมาพร้อมกับผู้หญิงในภาพที่เราพบ เธอบอกให้เราทุกคนตามเธอไป "กลับบ้าน" ซึ่งเธออ้างว่าเป็นโรงแรมร้างนี้
ฉันเขียนบันทึกนี้ไว้เผื่อว่ามีใครเจอเรา ถ้าคุณพบสิ่งนี้ได้ โปรดจำไว้ว่าอย่าเข้ามาในโรงแรมนี้ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอยากเข้ามาแค่ไหนก็ตาม เพราะคุณอาจจะไม่ได้ออกไปอีกเลย...
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ🥰