หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้นกรุงเทพเมืองซอมบี้ ตอนที่ 16 กลุ่มเด็กที่เอาชีวิตรอดในโลกซอมบี้

เนื้อหาโดย yongyee

ตอนที่16. kid gang

 

          เช้าอันสดใส่ของวันที่14กุมภาพันธ์ เด็กชายวัย12ปี ผมสั้นตาโตรูปร่างสมส่วนมีพาสเตอร์แปะที่แก้มซ้ายรีบกระโดดขึ้นจากบนที่นอนก่อนเสียงนาฬิกาปลุกดังหลายนาที เขารีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพละด้วยความดีใจ

 

         "เสียงดังแต่เช้าเลย" น้องชายวัย10ปีร่างเล็กตัดผมทรงกะลาครอบ ลุกขึ้นนั่งขยีตาด้วยความงัวเงีย เมื่อได้ยินเสียงพี่ชายที่นอนห้องเดียวกันเสียงดังตึงตังระหว่างเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

         "วันนี้วันที่14โย....วันที่14กุมภาวันแห่งความรัก...!!!" เด็กชายตะโกนบอกน้องชายด้วยความดีใจ

 

         "แล้วไง ก็แค่วันพุธเหลืออีกตั้ง20นาทีกว่านาฬิกาจะปลุก ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ" โยน้องชายผมทรงกะลาครอบพูดจบเขาก็ล้มตัวลงนอนต่อด้วยความอ่อนเพลีย

 

         "ไม่ได้เชียวนะ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!!!" เด็กชายที่มีพาสเตอร์ที่แก้มซ้ายกระโดดขึ้นไปบนเตียงนอนน้องชาย แล้วเขย่าเขาอย่างแรงเพื่อปลุกให้ตื่น

 

         "รู้แล้วๆ ยอมแพ้" โยถอนหายใจแรงๆเมื่อต้องตามใจพี่ชายที่เอาแต่ใจ

 

        "อ้าว....ตื่นแล้วหรอจ๊ะลูกๆ วันนี้ตื่นกันแต่เช้าเลย" แม่ของเด็กชายทั้งสองทักทายลูกชายของตนที่ลงมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงียขณะที่อีกคนท่าทางสดใส

 

       "วันนี้วันที่14กุมภาครับแม่!!!" ชัยเด็กชายที่มีพาสเตอร์ที่แก้มซ้ายบอกกับแม่ด้วยท่าทางร่าเริงระหว่างทานอาหาร

 

        "รึว่าวันนี้จะรีบไปเอาดอกไม้จากสาวๆใช่ไหม พ่อรู้ทันนะจะบอกให้" พ่อของเด็กชายพูดยิ้มๆแซวลูกชายตน

 

        "มะไม่ใช่เสียหน่อย พ่อก็....!!!!" ชัยหน้าแดงด้วยความเขิลอายเมื่อถูกจับไต๋ได้

 

         "แบบนี้นี่เอง มิน่าถึงรีบตื่นแต่เช้า" โยน้องชายบ่นเบาๆด้วยท่าทางงัวเงีย "ใครจะเอาดอกไม้มาให้ลิงไฮเปอร์แบบพี่กันล่ะ" เด็กชายบ่นดังๆแซวพี่ชาย

 

        "คอยดูเถอะ แล้วนายจะตกใจเมื่อเห็นดอกกุหลาบเต็มมือฉัน ฮ่า ฮ่า" เด็กชายพูดเสียงดังด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

 

        "ไปแล้วนะครับพ่อแม่ สวัสดีครับ" เด็กชายทั้งสองยกมือไหวพ่อแม่ด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินทางไปโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก

 

        ระหว่างทางที่สองพี่น้องเดินไปโรงเรียนนั้น ผู้คนส่วนมากที่เดินไปมาก็มีอาการไอแบบแปลกๆเกิดขึ้นมาอย่างผิดปกติ

 

        "ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบ" ชัยเด็กชายที่พาสเตอร์แปะที่แก้มซ้ายเดินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข โดยที่เขาไม่ได้สนใจสิ่งผิดปกติรอบตัวที่เปลี่ยนไป

 

        ".................." โยน้องชายสังเกตุมองสิ่งต่างๆรอบตัวโดยไม่พูดอะไร เขาเดินตามพี่ชายไปเงียบๆมองผู้คนข้างทางที่หลายคนที่ตนรู้จักและไม่รู้จักแถวบ้าน มีอาการไออย่างรุนแรงอย่างไม่ได้นัดหมาย

 

         "ไงเพื่อน!!!" ระหว่างที่สองคนพี่น้องเดินอยู่บนถนน ก็มีเด็กชายร่างผอมสวมนาฬิการาคาแพงกระเป๋าแบรนด์เนมเสื้อผ้าเรียบกริบปั่นจักรยานไฟฟ้าราคาแพงทักทายเด็กทั้งสอง "วันนี้ฉันจะเอาดอกไม้จากสาวๆมาอวดนะ" เด็กชายอวดรวยพูดยิ้มๆเห็นเหล็กดัดฟันราคาแพงใส่เด็กชายทั้งสองคน

 

        "ก็คอยดูไป!!!" ชัยยิ้มทักทายเพื่อนสุดรวยของตนเมื่อเขาขี่จักรยานไฟฟ้าผ่านไป

 

        "ซูเนโอะชัดๆ.....!!!" โยพูดแซวฉายาของซูที่เป็นเด็กบ้านรวยชอบเอาของเล่นมาอวดแบบซูเนโอะ

 

        "พูดอีกก็ถูกอีกนั่นล่ะไอ้น้อง นั่นไงสาวคนแรกที่จะให้ดอกไม้มาแล้ว" ชัยพูดยิ้มๆเมื่อเห็นเด็กหญิงผมยาวร่างเล็กผมปัดข้าง กำลังยืนซื้อขนมที่ร้านขายของก่อนไปโรงเรียนอยู่คนเดียว

 

          "ปาล์ม!!!!" ชัยตะโกนเรียกเด็กหญิงผมยาวที่กำลังรับเงินทอนจากป้าเจ้าของร้านที่กำลังไออย่างรุนแรง

 

         "ว่าไง" เด็กหญิงพูดยิ้มๆกับเด็กชายทั้งสองเมื่อเห็นทั้งคู่

 

         ชัยเด็กชายที่มีพาสเตอร์แปะที่แก้มซ้ายแบมือด้วยรอยยิ้มโดยไม่พูดอะไร

 

        "...........????" เด็กหญิงมองมือเด็กชายด้วยความสงสัย

 

          "ดอกไม้ไงพี่ปาล์ม พี่ชัยเขาขอดอกไม้ วันนี้วันวาเลนไทน์" โยพูดแทนพี่ชายตนที่กำลังแบมือยืนยิ้ม

 

        "เสียใจจ๊ะ ฉันไม่มีให้หรอก" ปาล์มเด็กหญิงผมยาวพูดจบก็เดินเชิดหน้าจากไป ทิ้งชัยยืนกินแห้วตกกระป๋องด้วยความผิดหวังอยู่คนเดียว

 

         "ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพี่ปาล์มเขาเป็นคนยังไง พี่ที่รู้จักเขามาตั้งแต่จำความได้น่าจะรู้ใจพี่เขาที่สุด" โยตบไหล่พี่ชายเพื่อปลอบใจแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย

 

        "แค่ยัยนั่นไม่ให้คนเดียว ใช่ว่าคนอื่นๆจะไม่ให้นี่นา เดินหน้าต่อไป....!!!" แทนที่ชัยจะสลดเพราะถูกเมินตรงข้ามเขากลับร่างเริงและฮึดสู้มากกว่าเดิมไปเสียอบ่างนั้น

 

        "ให้ได้แบบนี้ซิพี่ชายเรา" โยพูดยิ้มด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นพี่ชายรีบวิ่งไปโรงเรียนทิ้งตนยืนอยู่คนเดียว

 

        "แค่ก....แค่ก...แค่ก!!!!" เสียงไอ้จากคนอื่นๆรอบตัวของโยดังอย่างน่าประหลาด เมื่อเขาหันไปก็พบแต่ผู้คนที่กำลังยืนไอนั่งไออย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นป้าที่ขายกับข้าว พี่สาวที่ร้านสะดวกซื้อหรือแม้แต่เพื่อนร่วมโรงเรียนหลายคนก็มีอาการไอแบบนี้กันแทบทั้งนั้น

 

         "ทุกคนดูแปลกๆ" เด็กชายผมทรงกะลาครอบบ่นออกมาเบาๆด้วยความสงสัย เขายืนดูนักเรียนหลายคนที่มาโรงเรียนมีสภาพไออย่างรุนแรงเช่นกัน

 

       "แล้วตอนเย็นเจอกันนะ!!!" ชัยตะโกนบอกโยน้องชายที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน ก่อนที่ตนเองจะวิ่งเข้าไปที่อาคารเรียนที่ห้องของตน

 

       "คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก" โยปัดความคิดเรื่องนี้ออกไปจากหัวก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนไป

 

       ชัยที่วิ่งอย่างร่าเริงขึ้นไปบนอาคารเรียนด้วยท่าทางร่าเริง เขาวิ่งผ่านเพื่อนๆในอาคารที่เรียนชั้นเดียวกันที่มีอาการไอไปหลายคน แต่เขากลับไม่ได้หยุดสังเกตุเลยแม้แต่น้อย

 

       "ถึงเสียที...!!!" ชัยตะโกนเสียงดังก่อนจะโยนกระเป๋าหนังสือลงบนโต๊ะเรียนของตน แล้วหันมาดูเพื่อนๆในห้องที่ไม่มีใครสนใจเขาเลย ทุกคนต่างนั่งไอเสียงดังระงมแทนคำพูดคุยที่เคยได้ยินทุกวัน

 

       "หยุดโวยวายเสียทีได้ไหม....!!!" ปาล์มที่มาถึงห้องเรียนทีหลังตะโกนว่าชัยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนที่ทั้งสองคนจะสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่แปลกไปในห้อง

 

       "ทุกคนดูแปลกๆไปนายว่าไหม" ปาล์มพูดกับชัยเบาๆระหว่างเดินมาวางกระเป๋าที่โต๊ะเรียน

 

       "ทุกคนดูเหมือนจะไม่สบาย" ชัยยืนดูเพื่อนๆในห้องหลายคนที่กำลังนั่งไออยู่ที่โต๊ะของตน ไม่มีใครพูดอะไรกันนอกจากไออย่างเดียว "สงสัยจะคอแห้งกัน แค่กินน้ำเปล่ามากๆเดี๋ยวก็หายเองเชื่อฉันสิ!!!" ชัยพูดเสียงดังด้วยท่าทางสดใสโดยไม่สนสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

 

       "ใครจะมาคอแห้งพร้อมกันแบบนี้ล่ะ!!! อีกตาบ้า!!!" ปาล์มตะคอกใส่ชัยที่ยืนเอามืออุดหูเพราะตกใจเสียงตะโกน

 

       "อิจฉานายสองคนจริงๆที่ไม่เป็นอะไร แค่กๆ" เพื่อนชายในห้องคนหนึ่งพูดไปไอไปกับคนทั้งสอง

 

       "เฮ้ย!!!! ชัยไปเล่นบอลกัน!!!" เด็กชายร่างใหญ่ตัวดำเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับซูเด็กชายบ้านรวย เรียกชัยด้วยท่าทางสดใสต่างกับคนอื่นๆที่ไอเหมือนจะเป็นไข้

 

       "วันนี้ของด เพราะฉันกำลังจะไปรับดอกกุหลาบจากสาวๆ" ชัยยืนกอดอกเชิดหน้าพูดอวดเบ่งเพื่อนทั้งสอง โดยที่ไม่สนใจเพื่อนๆที่กำลังไออยู่เลย

 

        "แล้วแกได้ดอกไม้รึยัง" เด็กชายร่างใหญ่ที่ชื่อแจ๊คถามชัย เขายักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กชายเหมือนเป็นการดูถูกในสิ่งที่เขาพูด

 

        "ต้องมีอยู่แล้ว....!!!" ชัยพูดเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนความอาย

 

        "ดูซิขนาดปาล์มที่เป็นเพื่อนข้างบ้านแกที่รู้จักมาแต่เด็กยังไม่ให้ดอกไม้แกเลย" ซูหันมายิ้มกับแจ๊คเมื่อพูดจบ

 

         "เอ่อ.....ก็ยัยนั่นไม่ใช่ผู้หญิง ยัยนั่นไม่นับ!!!" ชัยพูดเสียงดังด้วยหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความอายเมื่อถูกดูหมิ่น

 

         "หมอนั่นกำลังว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแนะปาล์ม แค่ก แค่ก" เพื่อนร่วมห้องที่นั่งโต๊ะข้างๆปาล์มบอกกับเธอ

 

         "ช่างเถอะอย่าสนเลย เธอล่ะเกตุเป็นอย่างไรบ้าง ดูซิหน้าซีดเชียวแถมตัวก็เย็นเฉียบเลย" ปาล์มเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

 

         ระหว่างที่เด็กทั้งสามคนกำลังยืนคุยกันเสียงดังท่ามกลางเสียงไอของคนในห้อง นิดเด็กหญิงร่างเล็กผมสั้นสวมแว่นท่าทางขี้อายก็เดินมาที่ด้านหลังของชัยพร้อมกับดอกไม้

 

         "เอ่อ...." เด็กหญิงหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเมื่อเอ่ยเสียงเรียกชัยให้หันมา

 

         "หา....????" ชัยหันมาด้วยความสงสัย

 

         "นี่จ๊ะ....!!!" เด็กหญิงส่งดอกกุหลาบสีแดงให้1ดอก ก่อนจะรีบวิ่งหนีไปทันทีด้วยความอายท่ามกลางสายตาของแจ๊คเด็กร่างอ้วนกับซูเด็กบ้านรวยที่พูดอะไรไม่ออก

 

         "ฮ่า เป็นไงล่ะ ฉันนำพวกนายไปแล้ว1ดอก" ชัยชูดอกไม้เยอะเย้ยเพื่อนทั้งสองคนด้วยความดีใจ

 

         "โป๊กกกก!!!" เสียงของวัตถุที่แข็งกระทบกับวัตถุอีกชิ้นที่แข็งพอกันมากระทบกันจนเกิดเสียง ซึ่งก็คือกำปั้นของปาล์มทุบลงบนหัวของชัยนั่นเอง

 

          "นี่พวกนายจะมาพูดเล่นอะไรกันอีก เห็นไหมเพื่อนๆในห้องไม่ซิในโรงเรียนหลายคนกำลังป่วย แทนที่จะช่วยกันดูแล พวกนายกลับมาพูดโอ้อวดแต่เรื่องไร้สาระ สู้เอาเวลานี้ไปดูแลเพื่อนๆดีกว่าไหม!!!" ปาล์มยืนเท้าเอวพูดดุใส่เด็กทั้งสามที่ยืนจ๋อยพูดอะไรไม่ออก

 

         "จ้า.....แม่" แจ๊คกับซูพูดยิ้มๆก่อนจะค่อยๆวิ่งหนีไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งชัยยืนเกาหัวด้วยความเจ็บปวดอยู่คนเดียว

 

        "ชิ...พวกขี้แพ้" ชัยแลบลิ้นใส่เพื่อนชายทั้งสองที่วิ่งหนีไปด้วยรอยยิ้ม

 

        "นายล่ะตัวดีเลย หัดใส่ใจรอบๆตัวบ้างซิ....." ปาล์มขมวดคิ้วพูดกับชัยด้วยสีหน้าจริงจังจนชัยเริ่มหันมามองเพื่อนในห้อง

 

        "....................." ชัยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจสิ่งต่างๆรอบตัวเลย ตอนนี้เขากลับเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเพื่อนๆในห้องกว่าครึ่งไม่มาโรงเรียน และอีกกว่ากว่าครึ่งห้องก็ไอเหมือนคนป่วย ขณะที่คนที่ไม่เป็นอะไรในห้องมีจำนวนที่น้อยมากๆอย่างน่าประหลาด

 

        "ปิ๊ง...ป่อง...!!! ประกาศ....ประกาศ...." เสียงจากลำโพงเป็นเสียงอาจารย์ผู้หญิงดังขึ้นมาทั่วโรงเรียนระหว่างที่ชัยพูดกับปาล์ม "ประกาศนักเรียนทุกคนโปรดทราบ ขณะที่ทางโรงเรียนขอหยุดทำการเรียนการสอน1วัน เนื่องมาจากนักเรียนหลายคนรวมทั้งอาจารย์หลายท่านเกิดอาการป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ" นักเรียนที่ไม่ได้ป่วยหลายคนกำลังยืนฟังเสียงตามสายที่กำลังประกาศอย่างตั้งใจ "จึงขอให้นักเรียนที่มีอาการป่วยมารวมตัวกันที่หน้าโรงเรียน ทางโรงเรียนจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลและแจ้งให้ทางผู้ปกครองให้ทราบ ประกาศอีกครั้ง...."

 

          "มันเกิดอะไรขึ้น...!!???" ชัยหันมาถามปาล์มด้วยความสงสัย

 

         "ถามฉันแล้วฉันจะรู้ไหมล่ะ เอามาช่วยกันหน่อย!!!" ปาล์มบอกกับชัยให้มาช่วยพยุงเกตุเพื่อนที่ไม่สบายให้ลุกขึ้นจากโต๊ะ ขณะที่คนอื่นๆที่ป่วยแต่ยังพอมีแรงก็กำลังเดินไปเองที่หน้าโรงเรียนตามเสียงประกาศ

 

         "เราเดินไหวแค่ก...แค่ก... ขอบใจนะปาล์มแค่ก..." เกตุพูดยิ้มๆกับเด็กสาวผมยาว

 

         "ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวเราช่วยพยุงไปเอง" ปาล์มพูดยิ้มๆ

 

         "หมดกันวันวาเลนไทน์ของฉัน...." ชัยเด็กชายที่มีพาสเตอร์ปิดที่แก้มซ้ายถอนหายใจแรงๆ เมื่อวันแห่งความรักที่เขาหวังกลับกลายเป็นวันที่ทุกคนป่วยด้วยโรคประหลาด

 

        "เฮ้ย!!!ชัย....!!! วันนี้ว่างไปเล่นเกมที่บ้านเจ้าซูกันเถอะ" แจ๊คเด็กชายร่างอ้วนเดินกอดคอมากับซูเด็กชายบ้านรวยที่ทำหน้าจ๋อยๆเมื่อถูกบังคับให้ต้องไปเล่นเกมที่บ้านเขา

 

         "ไปสิ....ถึงไงวันนี้ก็คงไม่มีใครให้ดอกไม้แล้ว" ชัยมองดอกกุหลาบในมือด้วยท่าทางซึมเศร้า

 

         "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!" และในระหว่างที่เด็กทั้งสามคนกำลังคุยกัน ก็มีเสียงร้องดังขึ้นมาที่อาคารเรียนตรงบันไดขึ้นลง

 

         "เกิดอะไรขึ้น!!!" ชัยหันไปมองทางต้นเสียงด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนชายหญิงวิ่งมาทางตนด้วยสีหน้าแตกตื่น หนึ่งในนั้นมีปาล์มรวมอยู่ด้วย

 

         "หนีเร็วเข้า....!!!" ปาล์มตะโกนด้วยสีหน้าแตกตื่น บอกชัยที่ยืนสงสัยอยู่ตรงหน้าห้องเรียนกับเพื่อนอีก2คน

 

         ปาล์มวิ่งมาคว้าแขนของชัยขณะที่ชัยเองก็คว้าแขนของแจ๊คส่วนแจ๊คก็คว้าแขนของซูอีกทีเพื่อเข้ามาในห้องเรียน ก่อนที่เด็กหญิงจะรีบปิดประตูห้องเรียนด้วยความรวดเร็ว

 

         "กรี๊ดดดดดดด!!! อ๊ากกกกกก!!! ช่วยด้วยยยยย!!! ก๊ากกกกก!!" เสียงร้องหลายเสียงของนักเรียนชายหญิงหลายคนที่ดังอยู่นอกประตูห้อง สร้างความแปลกใจและสงสัยให้เด็กชายทั้งสามคนเป็นอย่างมาก

 

        "มันคืออะไร....!!!" แจ๊คถามปาล์มเมื่อได้ยินเสียงร้องที่นอกห้อง

 

        "พวกนายคงไม่อยากรู้หรอกว่ามันคืออะไร!!!" ปาล์มเหงื่อแตกเต็มหน้าเนื้อตัวสั่นเทา แววตาของเด็กสาวยังฉายแววความตกใจกลัวสุดขีดอยู่จนชัยรู้สึกได้

 

       "นะนั่นละเลือดใช่ไหม...!!!" ซูชี้มาที่เสื้อของปาล์มที่ชุดนักเรียนสีขาวถูกแต้มสีแดงคล้ายเลือดเต็มตัว

 

       "มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเธอต้องบอกพวกเรานะ!!!" ชัยจับไหล่ปาล์มเขย่าด้วยสีหน้าจริงจัง เขาตะโกนใส่หน้าเด็กหญิงที่ยังคงหวาดกลัว

 

       "ก๊ากกกกกก!!! ก๊ากกกก!!!" ไม่ทันที่ปาล์มจะตอบคำถาม เสียงร้องด้านนอกห้องก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงทุบประตูของบางสิ่งที่อยากจะพังเข้าด้านในห้อง

 

        "อย่าให้มันเข้ามา อย่าเปิดประตูเด็ดขาด!!!" ปาล์มตะโกนบอกแจ๊คที่กำลังจะเดินไปที่ประตู

 

        "ฉันเห็นด้วย!!! รีบหาอะไรมากั้นประตูเถอะ" ซูบอกกับแจ๊ค

 

       "นี่มันบ้าอะไรกันเนี้ย!!!" แจ๊ครีบไปหาโต๊ะเก้าอี้มาดันประตูด้วยความตกใจ

 

       "ปาล์ม....ตั้งสติหน่อย!!!" ชัยตบหน้าปาล์มเรียกสติของเธอให้กลับมา

 

        เด็กหญิงร้องไห้โผเข้ากอดชัยโดยไม่พูดอะไร

 

        "มันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกปาล์ม" ชัยถามปาล์มแต่เด็กหญิงยังคงร้องไห้ไม่ตอบอะไร

 

        "ฉันว่าพวกนายมาดูเองดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก" ซูพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เขาชี้ไปที่ด้านนอกหน้าต่างของชั้น2 บอกเพื่อนๆให้มาดูสิ่งที่เกิดขึ้น

 

       ".................." เด็กทั้ง4ยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน

 

       สิ่งที่เด็กทั้งสี่คนเห็นมันคือภาพแห่งความหายนะความตายและความวุ่นวาย เป็นสิ่งที่เด็กๆไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ทุกคนต่างยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก เด็กสาวทำได้แค่เอาหน้าซุกหนีในอ้อมกอดของเพื่อนชายด้วยความหวาดกลัวในสิ่งที่เธอเห็น ขณะที่เด็กชายที่เหลือทั้งสามคนก็ทำได้แค่ยืนมองด้วยความตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก

 

       "ปะเป็นไปไม่ได้!!!???" เด็กชายอุทานออกมาเบาๆด้วยความตกใจ เขาแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเห็นว่ามันจะเป็นความจริง

 

        ด้านล่างที่เด็กๆเห็นคือภาพของเหล่านักเรียนชายหญิงทั้งเด็กเล็กเด็กโต ต่างพากันวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตจากเหล่าผีดิบซอมบี้ ที่เกิดจากเหล่านักเรียนที่ป่วยด้วยโรคประหลาด พวกเขาเปลี่ยนแปลงตนเองจากคนธรรมดากลายเป็นผีดิบที่กระหายเลือดเนื้อสดๆของมนุษย์ หลายคนไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมมือของเหล่าผีดิบได้ เพราะจำนวนกับความเร็วที่พวกผีดิบมี บวกกับความตกใจและหวาดกลัวของคนที่ไม่เคยเจอสิ่งเหล่านี้มาก่อน จึงทำให้คนเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อพวกมันได้ง่ายๆ

 

         "ก๊ากกกกกกก!!!" เสียงร้องของเหล่าผีดิบที่เหมือนเป็นภาษาใหม่ที่พวกมันใช้สื่อสารเรียกพวกเดียวกันเมื่อพบเหยื่อที่ยังรอดชีวิต ขณะที่บนถนนหน้าอาคารเรียนตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพของเหล่านักเรียนชายหญิงที่ถูกกิน หลายศพมีสภาพไม่ต่างจากก้อนเนื้อสีแดงที่จมอยู่ในกองเลือด และอีกหลายศพที่ถูกกินทิ้งร่องรอยแค่ส่วนหัวหรือแขนทิ้งเอาไว้ดูต่างหน้า

 

         "พวกนี้เหมือนพวกซอมบี้ในเกมที่เราเล่นเลยแกว่าไหมชัยซู" แจ๊คพยายามรวบรวมสติพูดบางอย่างออกมา

     

         "จะว่าไปก็ใช่อย่างที่นายพูด จะวิ่งช้าวิ่งเร็วเราก็เจอมาหมดแล้วในเกม" ซูรับคำเด็กชายร่างอ้วนโดยไม่มองมาทางเขา

 

         "นี่พวกเธอเพี้ยนไปแล้วรึไง...!!! นี่มันเรื่องจริงๆไม่ใช่เกม!!!" ปาล์มคิ้วขมวดต่อว่าเด็กชายที่กำลังพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ เธอหันมาหาชัยเพื่อหาคนสนับสนุนสิ่งที่เธอพูด

 

        "ฉันว่าสิ่งที่สองคนนี้พูดก็ถูก มันเหมือนในเกมจริงๆ" ชัยที่ดูเหมือนที่อยู่ข้างปาล์มกลับพูดแบบเดียวกับเด็กชายทั้งสอง

 

        "พวกนายเป็นบ้าอะไรไปแล้ว" ปาล์มอุทานเบาๆ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังความสิ้นหวังเมื่อเห็นพวกเพื่อนๆที่น่าจะพึ่งพาได้กลายเป็นแบบนี้

 

       "เราไม่ได้เพี้ยนเสียหน่อยยัยบ๊อง!!!" ชัยหันมายิ้มให้ปาล์มด้วยสีหน้าแววตาที่บอกเด็กสาวว่ายังมีหวังในการมีชีวิตรอด "ฉันแค่จะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเหมือนในเกมที่เราเล่น นั่นก็แปลว่าพวกเรารู้จักการเอาตัวรอดจากพวกซอมบี้ดีกว่าคนที่ไม่เล่นเกมอย่างเธอยังไงล่ะ!!" เด็กชายมีพาสเตอร์ที่แก้มซ้ายยิ้มให้ปาล์ม

 

      "นายจำเกมนั้นได้ไหมเพื่อน เกมตายต่อเนื่องภาค2กับภาค3ที่พระเอกสามารถเอาอุปการณ์รอบๆตัวมาผสมๆกันจนกลายเป็นอาวุท นายจำได้ไหม" ซูพูดกับแจ๊คเพื่อเรียกความทรงจำเกี่ยวกับเกมออกมา

 

      "จำได้ๆ เกมนั้นเอง!!! งั้นเราก็ทำแบบนั้นบ้างซิ" แจ๊คยิ้มฟันขาวเมื่อนึกถึงสิ่งที่ซูเด็กชายบ้านรวยบอก

 

      "แต่ที่นี่ไม่มีอะไรที่พอจะใช้เป็นอาวุทได้เลย เอาไงดี" ซูหันซ้ายหันขวาบอกรอบๆตัวที่มีเพียงโต๊ะเก้าอี้เท่านั้น

 

      "ที่ห้องวิทยาศาสตร์น่าจะพอมีอะไรที่ใช้การได้ ลองไปที่นั่นดูดีไหม!!!" ชัยเสนอความคิด

 

      "เป็นความคิดที่ดี ห้องวิทยาศาสตร์อยู่ห่างจากนี่ไป3ห้องเอง แต่เราจะไปได้อย่างไรกันล่ะ" แจ๊คเกาหัวมองรอบๆตัวโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะออกไปจากห้องนี้เพื่อไปที่ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร

 

      "ทางประตูคงจะไม่ได้เพราะพวกมันอยู่กัยเต็มไปหมด ทางหน้าต่างก็คงจะปีนไปไม่ไหวแน่ๆ มีทางเดียวคือ...." ชัยเงยหน้าขึ้นไปบนเพดานที่เป็นฝ่าขนาดใหญ่

 

       พวกเด็กๆช่วยกันต่อโต๊ะเก้าอี้เป็นทางขึ้นไปบนเพดาน ขณะที่ประตูหน้าห้องเรียนที่ถูกกั้นเริ่มจะทนแรงพลักของเหล่าซอมบี้ไม่ไหว

 

       "ปีนขึ้นไปเร็วเข้า!!!" แจ๊คบอกกับเพื่อนๆเมื่อเห็นประตูเริ่มกันเอาไว้ไม่อยู่

 

        ปาล์มขึ้นไปเป็นคนแรกตามด้วยซูและชัยโดยที่แจ๊คตามมาเป็นคนสุดท้าย ซึ่งระหว่างที่แจ๊คกำลังปีนขึ้นไปเป็นคนสุดท้าย ประตูหน้าทางเข้าก็พังพอดีจนเหล่าซอมบี้นักเรียนกรูกันเข้ามาในห้องอย่างบ้าคลั่ง พวกซอมบี้นั้นวิ่งเร็วและเห็นแจ๊คที่กำลังปีนเป็นคนสุดท้าย หนึ่งในซอมบี้ที่เป็นเด็กชายในชุดพละก็วิ่งกระโดดมาจับขาของแจ๊คเอาไว้ก่อนจะขึ้นไปบนฝ่า

 

        "มันจับขาฉันอยู่...!!!" แจ๊คบอกกับเพื่อนๆด้วยสีหน้าตกใจกลัว เมือกำลังถูกดึงให้หล่นลงไปข้างล่างที่มีแต่ซอมบี้

 

        "จับไว้!!" เพื่อนๆทุกคนต่างพวกกันช่วยดึงเด็กชายร่างใหญ่ให้ขึ้นมา

 

        "ไม่ไหว!!! ฝ่าจะรับน้ำหนักไม่ได้แล้ว เราจะหล่นกันหมด" ปาล์มที่เห็นฝ่ากำลังขยับเพราะรับน้ำหนักที่มากเกินไปบอกกับเพื่อนอีกสองคนที่กำลังจับมือของเด็กชายร่างอ้วนเอาไว้

 

        "ปล่อยมือไม่งั้นพวกายจะตายกันหมด!!!" แจ๊คตะโกนบอกกับเพื่อนทั้งสองคน

 

        "ไม่เราจะไม่ปล่อย!!!" ชัยตะโกนตอบกลับ เขาใช้กำลังที่มีดึงเพื่อนขึ้นมา แต่แรงของซอมบี้ที่อยู่ข้างล่างมีมากกว่า และรวมกับน้ำหนักทั้งหมดที่มีบนฝ่า อีกไม่นานฝ่าคงจะถล่มลงมา

 

        "ไอ้พวกบ้า....!!!! ถ้าไม่ปล่อยเราจะตายกันหมด....!!! ปล่อยเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากถูกอัด!!" แจ๊คตะโกนออกมาเรียกสติชัยกับซูให้ตื่นมองดูเพื่อนที่กำลังจะเสียสละ "ฝากไปดูบ้านพ่อแม่ฉันด้วย ว่าพวกเขาปลอดภัยรึเปล่า สัญญานะพวกแก"

 

        "แจ๊คคคค.....!!!!" ไม่ทันที่ชัยกับซูจะพูดจบ แจ๊คก็ปล่อยมือทิ้งตัวเองลงไปด้านล่าง

 

        ทิ้งเพื่อนทั้ง3นั่งสิ้นหวังโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

 

        "...................." เด็กทั้งสามต่างนั่งนิ่งในความมืดไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย การเสียเพื่อนไปต่อหน้าคือสิ่งที่พวกเด็กๆไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต

 

        "ไปกันต่อเถอะ อย่าให้การเสียสละของหมอนั่นเสียเปล่า" ชัยบอกกับซูที่กำลังนั่งเสียใจ

 

        ซูเช็ดน้ำตาที่แก้มแล้วมองไปตรงรูที่เพื่อนรักจากไปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะคลานตามชัยและปาล์มไปที่ห้องวิทยาศาสตร์

 

       ระหว่างทางที่ทั้งสามค่อยๆคลานไปนั้น ที่ด้านล่างที่เป็นห้องเรียนก็มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาณของเพื่อนๆที่ถูกเหล่าซอมบี้ฆ่า ปะปนกับเสียงของซอมบี้ที่ร้องเสียงแหลมดังกึกก้องตลอดทางที่ทั้งสามคลานไป สร้างความสะเทือนใจและทำลายขวัญกำลังใจของทั้งสามเป็นอย่างมาก

 

      "ฉันไม่ไหวแล้ว....!!!" ปล์ามที่คลานเป็นคนสุดท้ายพูดเสียงสั่นด้วยความสิ้นหวัง เธอหยุดคลานหันมานั่งกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้น

 

    "ปาล์ม!!!" ชัยคลานมาหาเพื่อนสาว เขาสัมผัสไหล่เธอเบาๆด้วยความเป็นห่วง "อีกนิดเดียวก็จะถึงห้องวิทยาศาสตร์แล้ว ทนหน่อย!!!"

 

     แต่เด็กสาวกลับนั่งตัวสั่นกอดเข่าไม่ตอบอะไร "เรากลัว....ชัยเรากลัว....กลัวจนไปต่อไม่ไหวแล้ว....."

 

     "ปาล์ม" ชัยเข้าใจความรู้สึกสิ้นหวังนั้นดีจนเขาเองก็พูดอะไรไม่ออก

 

     "นี่...." ซูเอ่ยเสียงขึ้นมาเบาๆ "อย่าหาว่าฉันเห็นแก่ตัวเลยนะ แต่ฉันว่าสิ่งที่เราควรทำตอนนี้คือการมีชีวิตต่อไป อย่าให้การเสียสละของแจ็คต้องเสียเปล่า อีกอย่างไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะเป็นอย่างไรบ้าง พวกท่านยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันห่วงเรื่องนี้มากกว่าจะมานั่งกลัวนะ พวกนายสองคนเห็นด้วยไหม" ซูมองตาเพื่อนทั้งสองคนที่มองมาทางตนโดยไม่พูดอะไร

 

     "นายพูดถูก ป่านี้พ่อกับแม่คงเป็นห่วงพวกเรามากๆแน่ๆ เราต้องรีบไปหาพวกท่านดูว่าพวกเขายังปลอดภัยรึเปล่า" ปล์ามเช็ดน้ำตาด้วยเสียงที่แหบแห้ง เธอสั่งน้ำมูกด้วยผ้าเช็ดหน้าก่อนจะโยนมันทิ้งไปพร้อมกับความสิ้นหวัง สีหน้าแววตาของปาล์มตอนนี้มีแต่ความมุ่งมั่นเมื่อต้องปกป้องคนที่เธอรัก

 

    "ใช่ และอย่าให้การสูญเสียของแจ็คต้องสูญเปล่า เราจะตามหาพ่อแม่ของหมอนั่นแล้วบอกว่าลูกชายของเขาช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้" ชัยพูดปลุกใจเพื่อนทั้งสอง

 

    เด็กทั้งสามคนค่อยๆคลานจนมาถึงห้องวิทยาศาตร์ ชัยค่อยๆแง้มฝ้าเพดานออกมาเล็กน้อยเพื่อดูว่าด้านล่างมีพวกซอมบี้อยู่รึไม่

 

   "โอเค ประตูปิดอยู่ไม่มีใคร" ชัยบอกเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะค่อยๆปีนลงมาอย่างช้าๆทีล่ะคน

 

   "โชคดีที่ตอนเช้ายังไม่มีใครใช้ห้องนี้" ปาล์มถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อกระโดดลงมาแล้วไม่พบใครในนี้ ขณะที่ชัยกำลังล๊อคประตูทางเข้าเมื่อลงมาเป็นคนแรก

 

   "เอาไงต่อ ในนี้พอจะมีอะไรที่ใช้ทำเป็นอาวุทได้บ้าง" ชัยหันมาถามซูที่กำลังยืนกอดอกใช้ความคิด "ปาล์มในฐานะที่เธอเป็นหัวหน้าห้อง และเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งที่สุดในชั้น เธอคิดว่าที่นี่มีอะไรที่ใช้เป็นอาวุทได้"

 

   "สรุปแกไม่รู้ว่าอย่างงั้นเถอะ แล้วทำเป็นวางท่าว่ารู้" ชัยบ่นดังๆที่หน้าประตูด้วยความลืมตัว ก่อนที่ประตูจะถูกทุบอย่างแรงเพราะซอมบี้ด้านนอกได้ยินเสียงของชัย

 

   "จะรีบทำอะไรก็ทำเถอะ ตอนนี้ประตูจะกั้นไม่ไหวอยู่แล้ว!!!" ชัยตะโกนบอกปาล์มระหว่างดันประตู

 

    เด็กสาวยืนคิดอยู่หลายวินาที เธอหันไปมารอบๆห้องเพื่อหาวิธีแก้ไขจากสิ่งที่พอจะหาได้ในที่นี้

 

    "ซูดึงสายไฟจากทีวีนั่นมาให้ที!!!" ปาล์มตะโกนบอกซูให้ดึงสายไฟจากทีวีในห้องวิทยาศาสตร์ออกมาด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

 

    "ดะได้!!!" ซูดึงสายไฟออกมาจากทีวีโยนมาให้ปาล์ม

 

    "พวกนายจำเรื่องทางเดินของไฟฟ้าได้ไหม!!!" ปาล์มถามเพื่อนทั้งสองระหว่างกัดสายไฟออกจนเหลือแต่สายทองแดงเส้นยาว

 

    "ใครจะไปจำได้กันเล่า!!!" ชัยตะโกนเสียงดัง เขาดันประตูสุดแรงจนประตูแทบจะพังในอีกไม่ช้า

 

    "ซูขอน้ำเกลือมาที!!!" ปาล์มตะโกนบอกกับซู เมื่อเธอได้มาเด็กสาวก็ราดมันลงที่พื้นทันทีโดยสาดไปที่ช่องประตูที่เท้าของชัยให้เลยไปที่หน้าห้องที่พวกซอมบี้อยู่

 

    "เธอจะทำอะไร!!!???" ชัยตะโกนตะโกนถามปาล์มด้วยความสงสัย

 

    "ออกมาจากตรงนั้นเร็วเข้า!!!" ปาล์มตะโกนบอกชัยก่อนที่เธอจะเสียบปลั๊กไฟแล้วโยนด้านที่เป็นลวดทองแดงลงไปในน้ำเกลือ ช๊อตพวกซอมบี้ที่เท้าเปียกน้ำจนตายคาทีหน้าประตู

 

    "พรึบ!!!" เสียงไฟฟ้าในอาคารที่ดับลงเมื่อไฟฟ้าลัดวงจร

 

    ".................." ชัยกับซูยืนอึ้งเมื่อเห็นสิ่งที่เด็กสาวทำ

 

    "น้ำเกลือจะเพิ่มพลังไฟฟ้าได้มากกว่าน้ำเปล่าหลายเท่า กฏของไฟฟ้าเบื้องตน!!!" ปาล์มหันมาพูดกับเพื่อนทั้งสองที่ยังคงอึ้งอยู่

 

    "สุดยอด คิดไม่ถึงจริงๆ" ชัยชูนิ้วโป้งให้เพื่อนสาวที่สามารถคิดเรื่องการเอารอดครั้งนี้ออก

 

    "งั้นเราสองคนก็มาคิดอะไรแบบนี้บ้างเถอะ อย่าให้น้อยหน้าผู้หญิงได้!!!" ซูเริ่มมีกำลังใจเมื่อเห็นสิ่งที่ปาล์มทำ

 

    "ตู๊ดดด ตู๊ดดดด!!" ระหว่างนั้นเองโทรศัพท์ของชัยก็ดังขึ้นมา

 

    "โย..!!!" ชัยพูดเสียงดังด้วยความดีใจเมื่อชื่อที่ขึ้นมาหน้าจอเป็นชื่อน้องชายตน "ฮาโหล!!!" ชัยรีบรับสายทันทีด้วยความดีใจ

 

    "พี่ช่วยด้วย....!!!! ตอนนี้ผมติดอยู่ที่ห้องพละในห้องน้ำ ช่วยที!!!" โยพูดเสียงเบาๆเพราะกลัวซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกตู้จะได้ยิน น้ำเสียงของเด็กชายนั้นสั่นเทาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

    "รอก่อนนะเดี๋ยวพี่จะไปช่วย ฮาโหล ฮาโหล!!!" ชัยตะโกนใส่โทรศัพท์เมื่อสายถูกตัดไปก่อนที่เขาจะพูดจบ

 

   "เราต้องไปช่วยโยก่อนแล้วค่อยไปจากที่นี่!!!" ชัยบอกกับเพื่อนทั้งสองที่กำลังทำอาวุทกันอยู่

 

   "แล้วหลังจากที่ช่วยน้องนายแล้วเราจะออกจากโรงเรียนอย่างไรกัน ข้างนอกป่านี้ก็คงจะมีแต่ซอมบี้ไม่ต่างกับในโรงเรียนตอนนี้" ปาล์มถามชัย

 

   "เรื่องนั้นค่อยคิดทีหลัง เราต้องออกจากที่นี่ไปช่วยโยที่ห้องพละแล้วค่อยคิดแผนไปจากที่นี่ ค่อยๆคิดไปทีล่ะจุด" ชัยสรุปความเห็น

 

    "ใช่แล้วนายพูดถูก เอานี่ไปอาวุทป้องกันตัว" ซูโยนแผ่นสแตรเหลตที่อยู่ในห้องเก็บของซึ่งถูกตัดเป็นแผ่นแล้วโยนให้ชัยพร้อมเทปกาว

 

    "นี่อะไร..???" ชัยสงสัยว่าสิ่งนี้เอาไว้ทำอะไร

 

    "แผ่นสแตรเหลตเอามาพันแขนกับขาไว้เหมือนชุดเกราะกันถูกกัด" เด็กชายเอามาพันแขนตัวเองระหว่างบอกชัย

 

     "ส่วนนี่ก็อาวุท น้ำมันก๊าซกับผ้าแล้วก็ไฟแช๊ค ทำระเบิดเพลิงได้ แต่ควรใช้เปิดทางเท่านั้นนะ เรามีแค่3ขวดเท่านั้น" ปาล์มส่งขวดแก้วให้เพื่อนทั้งสอง

 

     ชัยที่รู้สึกน้อยหน้าเพราะตนเองไม่สามารถคิดอาวุทแบบคนอื่นได้ เขาจึงหันซ้ายหันขวาเพื่อคิดหาดัดแปลงอาวุทแบบเพื่อนๆ จนกระทั่งไปเจอหุ่นโครงกระดูกที่อยู่ในห้อง

 

    "เราเหลาให้แหลมแล้วใช้แทนหอกได้!!!" ชัยออกความคิด

 

    "นายจะบ้าหรอ พลาสติดแบบนั้นจะไปแทงใครได้ มันเปราะบางขนาดนั้นแทงทีเดียวก็พังแล้ว!!" ปาล์มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจกับไอเดียของชัย

 

    "ก็ได้ตามใจ ฉันคิดอะไรแบบพวกนายไม่ออก คิดอะไรได้ก็รีบๆทำเลยเรามีเวลาไม่มาก!!!" ชัยพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ

 

    "ชู่!!!!" อย่าเสียงดังไป พวกมันไวต่อเสียงเดี๋ยวก็เรียกพวกมันมาอีกหรอก!!!" ปาล์มเอานิ้วชี้จี้ปากบอกให้ชัยเบาเสียงพูด

 

    "ใช่แล้ว!!! ถ้าพวกมันไวต่อเสียง เราก็หาทางล่อพวกมันไปทางอื่นได้ง่ายๆ ฉันคิดวิธีออกแล้ว!!!" ชัยดีดนิ้วเสียงดังเขาคิดอะไรบางอย่างออกเมื่อพูดถึงเสียง

 

    "เอาแล้วไง พอนายทำท่านี้ทีไรแปลว่าพวกเราต้องเดือนร้อนอย่างแน่นอน" ปาล์มบ่นออกมาดังๆด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

 

    "ฉันต้องการดินประสิวน่าจะอยู่ในตู้เก็บของด้านหลัง การทดลองทำภูเขาไฟระเบิดคราวก่อนฉันเป็นคนเก็บไว้เอง แล้วก็ดินน้ำมัน ลูกปิงปอง สายชนวนหรือกระดาษก็ได้ ฉันจะทำเสียงดังๆล่อพวกมันเอง" ชัยบอกกับเพื่อนทั้งสองคน

 

    ทั้งสองไปรวบรวมอุปการณ์ตามที่ชัยต้องการมาจนครบในเวลาไม่นาน....

 

    "พวกนายต้องการระเบิดแบบไหน แบบเสียงดัง แบบทำลายกลอนประตูแบบในหนังหรือแบบทำลายล้าง" ชัยถามซูกับปาล์มด้วยสีหน้าจริงจัง

 

    "เอาทุกอย่างเท่าที่นายจะทำได้" ซูบอกกับชัย

 

    "ได้งั้นจัดไป" ไม่นานชัยก็ทำระเบิดปิงปองโดยใช้อุปกรณ์1.เจาะรูลูกปิงปอง2.ดินปืน3.ใส่ดินปืนไปครึ่งลูกปิงปองพอแล้วเอาดินน้ำมันมาปิดรู4.ใส่สายชนวนลงไปตรงดินเหนียวเสียบไปลึกๆ ไม่นานระเบิดปิงปองหลายลูกก็พร้อมใช้งาน พร้อมกับระเบิดอีกหลายรูปแบบอย่างระเบิดดินน้ำมันและระเบิดขวดชนิดพกพา

 

     "สุดยอด!!! ฉันขอตั้งฉายานายว่า เจ้าหนูดินระเบิดเลยเพื่อน!!!" ซูยอมรับในความสามารถของชัยในการสร้างระเบิดหลายรูปแบบได้อย่างน่าทึ่ง

 

     "ขอบใจที่ชม" ชัยยืดอกรับอย่างภาคภูมิ

 

     "นี่พวกนาย ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาชื่นชมกันหรอกนะ เราต้องรีบหนีไปจากที่นี่!!! จะทำอะไรก็รีบๆทำเถอะ!!!" ปาล์มตัดบทอารมณ์ชื่นชมยินดีของชัยด้วยความจริง

 

     "แล้วเรามีแผนไหม การจะไปห้องพละอีกฟากหนึ่งไม่ใช่ง่ายๆเลยนะพวกนาย!!" ซูบอกกับเพื่อนๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

    "ไม่มีปัญหา ถ้าพวกมันไวต่อการรับเสียงจริงอย่างที่เธอว่า เราก็สามารถล่อพวกมันไปอีกทางหนึ่งได้ด้วยเจ้านี่" ชัยพูดจบเขาก็เดินไปที่ประตูทางเข้าห้องวิทยาศาสตร์ที่อยู่หลังห้อง เขาแง้มประตูเล็กน้อยเพื่อดูแถวระเบียงว่ามีพวกซอมบี้อยู่ไหม ซึ่งนอกจากศพที่นอนตายหน้าประตูอีกด้านหนึ่งแล้ว บนระเบียงก็ไม่มีซอมบี้อยู่เลย

 

    "นายจะทำอะไร!!!" ปาล์กระซิบถามชัยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดด้วยความหวาดกลัว

 

   "เดี๋ยวฉันจะนับถึง3แล้วรีบวิ่งตามฉันมาเลยนะ" ชัยหันมาพูดกับเพื่อนทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาจุดระเบิดปิงปองในมือ แล้วโยนออกไปที่ระเบียงจนเกิดเสียงดังสนั่นลั่นอาคาร

 

   "ปัง!!!! ก๊ากกกกกก ก๊ากกกก!!!" พวกซอมบี้ที่ได้ยินเสียงต่างร้องเสียงดังและวิ่งผ่านห้องวิทยาศาสตร์ไปอย่างรวดเร็วหลายตัวตามเสียงที่ได้ยิน

 

    ปาล์มและซูสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงระเบิด ขณะที่ชัยมีท่าทางนิ่งเฉยแอบมองไปที่ระเบียงทางเดินโดยไม่พูดอะไร เขารอจังหวะบางอย่างก่อนจะจุดระเบิดปิงปองอีกรอบ แต่คราวนี้เขาเปิดประตูออกไปและยืนที่ระเบียง ก่อนจะขว้างระเบิดปิงปองในมือออกไปสุดแรง ข้ามหัวซอมบี้ที่ยืนฟังเสียงอยู่ที่สุดระเบียง

 

   "ปัง!!!" เสียงระเบิดดังอีกครั้ง ชัยหันมาหาเพื่อนทั้งสองที่ประตู

 

   "วิ่ง!!!" ชัยตะโกนบอกเพื่อนทั้งสองคนให้วิ่งตามตนออกไปจากห้องทันที พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังไกลออกไปตรงข้ามจากจุดที่เขาอยู่

 

   ทั้งสามวิ่งออกมาจากอาคารเรียน ลัดเลาะไปตามถนนผ่านซากศพของเหล่านักเรียนที่ถูกกินและคราบเลือดที่เปื้อนตามถนน พร้อมกับเศษแขนขากับหัวที่ถูกทิ้งไว้ตามทาง และเมื่อเจอซอมบี้ชัยก็ใช้ระเบิดปิงปองที่มีขว้างเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่น ก่อนที่พวกตนจะวิ่งต่อไป

 

  "กรี๊ดดดดด!!! ช่วยด้วย!!!" และระหว่างที่ทั้งสามกำลังจะวิ่งไปที่ห้องพละ ชัยก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากห้องๆหนึ่งในห้องน้ำหญิง

 

   "เราต้องไปช่วย!!! มีคนร้องขอความช่วยเหลือแถวนี้!!!" ชัยพูดจบเขาก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำหญิงทันที

 

    เมื่อมาถึงเขาก็พบซอมบี้อาจารย์สาวแก่หนังเหี่ยวผมหยิกฟูร่างอ้วนมะขามข้อเดียวกำลังกรีดร้องทุบประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เสียงในห้องน้ำที่เป็นเสียงเด็กสาวก็ดังแทรกออกมาเป็นระยะด้วยความหวาดกลัว

 

    "นั่นอาจารย์พวงนี่นา!!!" ชัยอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อพบอาจารย์สาวแก่ที่ชอบลงโทษตนในวิชาภาษาไทย

 

    "ก๊ากกกกกก!!!" เมื่อซอมบี้สาวแก่เห็นพวกชัย เธอก็ร้องเสียงดังและพุ่งเข้าหาเด็กทั้งสามคนทันที

 

    "มาแล้ว....!!! ทำไงดี ทำไงดี!!!" ชัยร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจกลัว เมื่ออาจารย์สาวแก่สภาพใบหน้าเปื้อนไปด้วยเลือดวิ่งตรงมาหาตนด้วยสภาพน่าสยองสุดขีด!!!

 

    เด็กทั้งสามคนไม่มีใครกล้าลงมือกับผู้ใหญ่แม้เธอจะกลายเป็นซอมบี้แล้วก็ตาม

 

    "เอาไงดี!!!" ปาล์มตะโกนถามชัย

 

    "ชะใช้ระเบิดดีไหม!!" ซูตะโกนถามชัย

 

    "ไม่ได้ เราต้องเลี่ยงการใช้เสียง!!!" ชัยตะโกนบอกซูด้วยความตกใจ เด็กทั้งสามไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในวินาทีเป็นวินาทีตาย ชัยกลับคิดหาหนทางไม่ออก เขาได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก

 

    "ก๊ากกกกก กั๊กกกก!!!" แต่ไม่ทันที่ชัยจะพูดจบ ซอมบี้อาจารย์ที่กำลังวิ่งมาดันสะดุดส้นสูงของตนเองจนหกล้ม หัวไปฟาดอ่างล้างหน้าอย่างจัง จนตัวเองตายคาที่โดยที่เด็กทั้งสามคนไม่ได้ทำอะไร

 

    "...................." ซอมบี้อาจารย์สาวแก่ชักกระตุกเลือดกองพื้นตาเหลือกดิ้นไปมาบนพื้นโดยที่ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้

 

    "คอยดูไว้ด้วย!!!" ชัยบอกกับซูและปาล์มระหว่างที่เขาค่อยๆเดินผ่านร่างอาจารย์ไปอย่างช้าๆเพื่อไปช่วยคนที่ติดอยู่ในห้องน้ำ

 

    "ระวังด้วย!!!" ปาล์มตะโกนบอกชัยด้วยความเป็นห่วง

 

    ชัยหันมาพยักหน้าให้ปาล์มก่อนจะค่อยๆเดินข้ามร่างอาจารย์สาวแก่ไปอย่างช้าๆระมัดระวัง จนกระทั่งไปถึงห้องน้ำห้องสุดท้ายที่มีคนอยู่

 

    "นี่เธอ!!! เรามาช่วยแล้วออกมาเถอะ!!!" ชัยตะโกนบอกคนในห้องน้ำ

 

    "เธอฆ่าอาจารย์พวงอย่างงั้นหรอ!!!" เสียงหญิงสาวในห้องน้ำตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวและตกใจ

 

    "เปล่า!!! เขาวิ่งหกล้มหัวฟาดอ่างน้ำตายเอง!!! อีกอย่างเธอก็กลายเป็นซอมบี้แล้วด้วยถึงจะถูกฆ่าก็คงไม่ผิดเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าเราไม่ฆ่าเขาเราก็จะถูกฆ่า!!!" ชัยหันมามองศพอาจารย์ที่นอนจมกองเลือดระหว่างพูด

 

    "เธอพูดก็ถูก!!!" สิ้นเสียงพูดหญิงสาวในห้องน้ำก็เปิดประตูออกมา เธอคือหญิงสาวผมสั้นสวมแว่นที่เคยให้ดอกไม้ชัยเมื่อตอนเช้านั่นเอง

 

    "เธอ!!!" ทั้งสองคนพูดพร้อมกันเมื่อต่างเห็นหน้ากัน

 

    "ขอบคุณนะสำหรับดอกไม้ เราชื่อชัยยืนดีที่รู้จัก" ชัยแนะนำตัวกับเด็กสาวน่ารักที่ยืนอยู่ในห้องน้ำ

 

    "เราชื่อนิดเพิ่มย้ายมาเข้าเรียนชั้นเดียวกับเธออาทิตย์ที่แล้ว ยินดีที่รู้จัก" เด็กสาวหน้าแดงไม่กล้าสบตาชายหนุ่มที่มาช่วยชีวิตตน

 

    "มิน่าถึงว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน!!" ชัยเกาหัวพูดยิ้มๆด้วยท่าทางเขิลเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะเขินมากกว่าชัยหลายเท่า

 

    "อ่ะฮึ่ม...!!! เสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ!!! นายต้องไปช่วยโยอีกนะ!!!" ปาล์มที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำบอกกับคนทั้งสองด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

    "ใช่ลืมเลย!!! เราไปจากที่นี่กันเถอะ!!!" ชัยจับมือนิดและค่อยๆพาเธอเดินผ่านร่างอาจารย์สาวแก่ที่นอนจมกองเลือดมาที่หน้าประตู

 

    "นี่มันเกิดอะไรขึ้นมีใครรู้บ้าง...!!" นิดขยับแว่นตาเล็กน้อยผ่านคิ้วที่ขมวดกันเป็นปมด้วยความเครียดและหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

    ทุกคนส่ายหน้าไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้

 

    "ตอนนี้ที่เราทำได้ก็คือมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ และกลับบ้านไปหาพ่อแม่ดูว่าพวกท่านยังปลอดภัยดีไหม" ปาล์มบอกกับนิด

 

     "ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณแม่จะเป็นอย่างไรบ้าง...." นิดทำหน้าเศร้าเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

 

     "ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราจะไปดูที่บ้านของทุกคนว่าปลอดภัยรึเปล่า บ้านเธอเราก็จะไปไม่ต้องห่วง" ชัยจับไหล่เด็กสาวและพูดกับเธอด้วยสีหน้าจริงจัง

 

     "ไปกันได้รึยัง ยืนอยู่ที่นี่นานๆแล้วไม่ค่อยสบายใจเลย" ซูพูดเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว

 

     "โอเค งั้นทุกคนค่อยๆตามมา ฉันรู้ทางลัดไปห้องพละ" ชัยบอกกับทุกคนให้ค่อยๆเดินตามเขามาเป็นแถวเรียงหนึ่งอย่างช้าๆ ทุกคนค่อยๆเดินผ่านพุ่มไม้ข้างกำแพงของโรงเรียนซึ่งพุ่มได้ถูกตัดไว้เป็นช่องอย่างดีสำหรับคนเดินลอดไปได้

 

     "นี่ซินะเส้นทางโดนเรียนของนายเวลาเขาโรงเรียนสาย" ปาล์มบ่นดังๆกับชัยที่กลางแถว

 

      "จะเรียกแบบนั้นก็ไม่เชิงเสียทีเดียวหรอกนะ เส้นทางนี้เป็นทางลัดที่ตัดตรงไปทั่วโรงเรียนโดยที่เราไม่ต้องเดินอ้อมอาคาร พวกรุ่นพี่ชั้นมัธยมปลายบอกเอาไว้ มันเป็นมรดกที่สืบทอดกันมาต่างหาก" ชัยพูดด้วยท่าทางขึงขัง เขาพาเพื่อนๆทั้ง3คนเดินผ่านหลังอาคารเรียนที่เธอไม่เคยรู้เลยว่ามีเส้นทางแบบนี้ในโรงเรียน

 

     "จะว่าไปเส้นทางแบบนี้ก็มีประโยชน์กว่าที่คิดเหมือนกันนะ" ซูชมชัยที่พามาเส้นทางที่ปลอดภัย

 

     "หยุดก่อน!!!!" ระหว่างนั้นเองชัยก็บอกเพื่อนๆให้หยุดเดิน เมื่อเขาเจออะไรบางอย่างข้างหน้าที่ด้านหลังอาคารเรียนที่เป็นพื้นที่ว่างสำหรับวางพัดลมแอร์นอกอาคาร

 

      "วะว๊าย!!!" นิดร้องอุทานออกมาดังๆด้วยความตกใจ เมื่อเห็นศพรุ่นพี่หลายคนนอนจมกองเลือดไส้ไหลออกมาจากตัว บางคนก็หัวขาด บางคนก็กลายเป็นเศษเนื้อ ที่นี่เต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้อย่างรุนแรง เมื่อดูจากสภาพศพของรุ่นพี่ที่มีอาวุทครบมือ และศพของเหล่าซอมบี้หลายตัวที่นอนตาย ซึ่งดูเหมือนผู้แพ้จะเป็นพวกรุ่นพี่ก่อนจะถูกรุมกินจนเป็นอย่างที่เห็น

 

      ปาล์มกับนิดกอดกันร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นสภาพศพที่เละจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร ขณะที่ซูถึงกับอ้วกแตกออกมาเต็มพื้นเพราะทนกลิ่นคาวกับภาพที่เห็นไม่ไหว

 

      "รีบไปกันเถอะ!!!" ชัยบอกกับเพื่อนๆก่อนจะค่อยๆเดินนำทุกคนค่อยๆผ่านศพที่นอนบนพื้นไปอย่างช้าๆด้วยความสลอดใจ

 

    ทั้ง4เดินมาจนถึงโรงพละซึ่งประกอบไปด้วยโรงยิมวอลเล่บอล ฟุตบอล เทนนีส บาสเก็ตบอล

 

    "แล้วน้องชายนายอยู่ที่โรงพละไหนกัน...!!!!" ซูหันมาถามชัยด้วยความร้อนรน

 

    "นั่นซิ เมื่อกี้ก็รีบเกินไปเลยไม่ได้ถาม แย่จริงๆเลยเรา" ชัยเกาหัวแรงๆด้วยความหงุดหงิด เขาพยายามโทรศัพท์ติดต่อกลับไปแต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำได้

 

    "ตอนนี้คู่สายคงจะเต็มจนโทรออกไม่ได้แน่ๆ" นิดบอกกับชัยระหว่างที่เธอก็เอามือถือของตนเองโทรแต่ก็ไม่ติด

 

    "กรี๊ดดดดดดด ว๊ายยยยย ช่วยด้วยยยยยย ก๊ากกกกก!!!" ระหว่างนั้นเองก็มีเสียงร้องดังขึ้นมาในโรงยิมแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล

 

     ทุกคนรีบวิ่งไปทางที่ได้ยินเสียงทันที ซึ่งทางนั้นเป็นโรงยิมของกีฬายิมนาสติกซึ่งมีแต่พวกผู้หญิงที่อยู่ในนั้น

 

     "อย่าไป!!!!" ปาล์มห้ามชัยเอาไว้ไม่ให้วิ่งไปที่หน้าโรงยิมที่ตอนนี้มีแต่พวกซอมบี้หลายสิบตัวกำลังจะพังประตูเข้าไปในนั้น ซึ่งเมื่อพวกเด็กไปถึงประตูที่กั้นก็พังออกพอดี จนซอมบี้หลายสิบตัวสามารถวิ่งเข้าไปในนั้นได้

 

     "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!! ช่วยด้วย!!!!" เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังลอยมามาอย่างโหยหวนโดยที่ทุกคนไม่สามารถทำอะไรได้

 

     "นายเข้าไปช่วยพวกเขาไม่ทันแล้ว" ปาล์มกอดชัยเอาไว้ด้วยน้ำตา

 

     "บ้าเอ๊ย!!! สุดท้ายฉันก็ช่วยเหลือใครไม่ได้เลยสักคน นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน!!!" ชัยต่อยกำแพงด้วยความโมโหเมื่อไม่สามารถช่วยเหลือใครได้เลย

 

    "เราไงที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้" นิดพูดยิ้มๆกับชัยท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของเด็กสาวที่กำลังถูกฆ่าตายในโรงยิม "ขอบคุณนะ" นิดยิ้มทั้งน้ำตา    

 

    "ระ เราขอโทษ!!!!" ชัยร้องไห้ออกมาก่อนจะวิ่งหนีไปจากตรงนั้น ทิ้งเสียงร้องโหยหวนที่เจ็บปวดเอาไว้เบื้องหลัง

 

     ทั้งหมดวิ่งมาตั้งหลักที่ด้านหลังโรงยิมบาสเก็ตบอลที่เงียบสนิท เมื่อไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปจากนี้

 

    "เอาไงต่อ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องนายอยู่ที่ไหน แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาตายไปรึยัง!!!" ซูพูดด้วยน้ำเสียงหวาดวิตก

 

    "แกว่าอย่างไรนะไอ้ปากแหลม!!!" ชัยกระชากคอเสื้อเด็กชายด้วยความโมโห

 

    "พอได้แล้ว!!!! นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทะเลาะกันนะ!!!" ปาล์มจับคนทั้งสองแยกกัน

 

    "ขอโทษ" ซูพูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด แต่ชัยกลับไม่พูดอะไร เขาเดินไปมาด้วยความร้อนรน

 

    "เอ่อ น้องชายของเธอเรียนอยู่ชั้นอะไรหรอ" นิดถามชัยที่กำลังเดินไปมา

 

    "น่าจะชั้นประถม4" ชัยบอก

 

    "ถ้าฉันจำไม่ผิดตอนประถม4ชั่วโมงแรกๆก็จะเรียนวิชาฟุตบอลโดยที่ไม่ต้องเข้าแถวในตอนเช้า" นิดบอกกับชัย

 

    "ใช่แล้ว!!! ลืมเรื่องนั้นไปเลย!!!" ปล์ามหันมายิ้มกับนิดก่อนจะรีบมาตบไหล่ชัยแรงๆเพื่อเรียกสติเขา

 

    "งั้นก็ไปที่โรงยิมฟุตบอลกัน ที่นั่นอาจจะมีคนอื่นนอกจากโยที่รอดชีวิตก็ได้" ชัยบอกกับทุกคน

 

    "ก็ดี แต่ที่นั่นอาจจะมีพวกมันหลายตัว เรามาสำรวจอาวุทกันก่อนดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง" ซูบอกกับเพื่อนๆ ทุกคนจึงเอาอาวุทที่มีออกมาวางบนพื้นเพื่อตรวจสอบ

 

    "ตอนนี้เรามีระเบิดปิงปอง5ลูก ระเบิดดินดำมัน2ก้อน ระเบิดขวด3ขวด นอกนั้นก็ไม้กระบอกล่ะล่ะอัน ระเบิดขวดชัยนายเก็บเอาไว้1ขวดส่วนที่เหลือฉันเก็บไว้เอง ส่วนระเบิดดินน้ำมันนายเก็บเอาไว้ พวกนี้ใช้ล่อพวกซอมบี้ได้มีนายคนเดียวที่ใช้มันเป็น ส่วนระเบิดปิงปองเราจะเก็บไว้คนล่ะลูกส่วนนายชัยเอาไป2ลูก" ปาล์มบอกกับทุกคนก่อนจะแบ่งอาวุทไปให้คนอื่นๆเก็บเอาไว้

 

   "แต่ฉันใช้ไม่เป็น" นิดพูดเสียงเบาๆ แววตาของเธอดูใส่ซื่อบ่งบอกให้ทุกคนรู้ว่าเธอไม่เคยเล่นของพวกนี้มาก่อน

 

   "แค่จุดแล้วโยนก็พอ เอานี่ไฟแช็ค เธออาจจะต้องใช้มันเพื่อสร้างเสียงดังๆ เสียงจะเรียกพวกมันให้ไปทางที่เราต้องการ"ชัยบอกกับนิดระหว่างแจกไฟแช๊คให้ทุกคน

 

   "จะ จะลองดูนะ" นิดพยักหน้าน้อยๆ เธอกำระเบิดกับไฟแช๊คจนแน่น

 

   "เอาล่ะพร้อมนะ นับสามแล้วตามฉันมา.....!!!! 3...!!!" ชัยพูดจบเขาก็รีบวิ่งนำทุกคนไปทันทีอย่างไม่รอช้า

 

    "แล้ว1กับ2ไปไหนล่ะ รอก่อน!!!!" ซูพูดเสียงดังเป็นเชิงประชดก่อนจะวิ่งตามเป็นคนสุดท้าย

 

    ทั้ง4มาจนถึงโรงยิมสนามฟุตบอล ที่นั่นประตูโรงยิมเปิดอ่าซ่าเอาไว้ ขณะที่ทั้ง4แอบอยู่ที่พุ่มไม้ไม่ไกลจากประตู

 

    "ข้างในต้องมีพวกมันอยู่อย่างแน่นอน เอาแบบนี้แล้วกัน..." ชัยบอกแผนกับเพื่อนๆก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้ารับคำที่ชัยบอกโดยที่ไม่มีใครเถียงอะไร

 

    เมื่อพูดแผนจบชัยก็รีบวิ่งไปที่ต้นไม้ริมอาคารไกลออกไปจากหน้าประตูโรงยิมฟุตบอล เขาแปะระเบิดดินน้ำมันไว้ที่อาคาร ก่อนจะส่งสัญญาณเป็นแสงกระพริบจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นสัญญาณบอกปาล์มที่แอบกับทุกคนที่พุ่มไม้

 

     "เอาล่ะนะ!!!!" ปาล์มพูดจบ เธอก็จุดระเบิดปิงปองในมือ แล้วโยนไปที่หน้าประตูทางเข้าโรงยิมฟุตบอล

 

     "ตูม!!!" เสียงระเบิดดังลั่นสนั่นกึกก้องที่หน้าโรงยิม

 

     "ก๊ากกกกกก!!! ก๊ากกกกกก!!!" ไม่นานก็มีเหล่าซอมบี้หลายสิบตัววิ่งออกมาจากในโรงยิม ซึ่งซอมบี้เหล่านั้นก็คือเหล่านักเรียนในชุดพละที่กำลังเรียนฟุตบอลที่วิ่งออกมาในสภาพชุดเปื้อนไปด้วยเลือด

 

      "เอาล่ะ!!!" เมื่อเห็นซอมบี้วิ่งออกมาชัยก็จุดระเบิดดินน้ำมันที่ประกอบไปด้วย 1.ปั้นดินน้ำมันให้กลม 2.เอาตูดปากกาจิ้มลงไปในดินน้ำมัน 3.เอาดินประสิวใส่ลงไปในรูแล้วเอาชวนมาเสียบ 4.เอาดินน้ำมันมาปิดรูที่ใส่ดินประสิว เขาแปะมันเอาไว้ที่อาคารไกลออกไปจากหน้าประตูโรงยิม เมื่อจุดชนวนเขาก็รีบวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที

 

     "ตูม....!!!!" เสียงระเบิดดังสั่นอีกครั้ง

 

     "จะได้ผลไหม" นิดพูดเบาๆด้วยความลุ้นระทึก ว่าเหล่าซอมบี้ที่กำลังหลงเสียงที่หน้าประตูโรงยิมจะวิ่งตามเสียงระเบิดอีกครั้งไปไหม

 

     "ก๊ากกกกกก ก๊ากกกกก!!!" เป็นผล!!!พวกซอมบี้รีบวิ่งหนีไปทางเสียงระเบิดทันทีเมื่อได้ยิน เป็นไปตามแผนที่ชัยวางเอาไว้

 

     "เอาล่ะเดี๋ยวฉันจะเข้าไป พวกนายรออยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรก็ให้ใช้ระเบิดเบี่ยงเบนความสนใจมัน แล้วฉันจะรีบออกมาทันที"ชัยบอกกับเพื่อนๆก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในอาคารโรงยิมฟุตบอลทันที

 

    เมื่อชัยเข้ามาด้านในโรงยิมเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ตอนนี้ภายในโรงยิมนั้นเหม็นไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจนเด็กชายแทบจะอ้วกออกมาเมื่อได้กลิ่น บวกกับสภาพศพที่กระจัดกระจายเละเต็มพื้นสนามฟุตบอล มันช่างดูน่าสยองชวนอ้วกยิ่งกว่าดูหนังสยองขวัญเรื่องไหนๆเสียอีก

 

    ชัยพยายามตั้งสติที่มี ก่อนนจะรีบวิ่งเข้าไปในโรงยิมผ่านซากศพที่นอนกองบนพื้นศพแล้วศพเล่า รวมถึงอวัยวะเศษชิ้นส่วนที่กระจัดกระจาย ทั้งแขนขาไส้ตับม้ามที่จมกองเลือดอยู่บนพื้น

 

     "โย....!!!! โยพี่มารับแล้วนายอยู่ที่ไหน!!!" ชัยตะโกนเรียกน้องชายตนเองแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ที่สนามไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลยนอกจากซากศพ ชัยจึงรีบวิ่งไปที่ห้องเปลี่ยนชุดและตะโกนเรียกน้องชายทันที

 

     "โย....!!!นายอยู่ไหม!!!" ชัยเริ่มจะหมดหวังเมื่อเปิดประตูห้องแทบทุกห้องก็ไม่พบน้องชายตนเองเลย

 

     เหลือแต่ห้องน้ำเท่านั้นที่เขายังไม่ได้ไป ชัยจึงพยายามรวบรวมความกล้าไปที่ห้องน้ำชาย...."โย...!!! นายอยู่ไหม!!!" ชัยตะโกนสุดเสียงแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากห้องน้ำห้องไหนเลย

 

     "ฉันอยู่ที่นี่พี่!!!" แต่จู่ๆชัยก็ได้ยินเสียงโยดังแว่วๆมาจากห้องน้ำอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องน้ำหญิงนั่นเอง

 

     "โย...!!!" ชัยวิ่งมากอดน้องชายด้วยความดีใจเมื่อเห็นเขาเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงด้วยสีหน้าจ๋อยๆไม่ดีใจที่พบหน้าพี่ชายเลย

 

     "ขอโทษที่มารับช้านะไอ้น้อง!!! นายเป็นอะไรรึเปล่า!!!" ชัยถามโยขณะที่เขาส่ายหน้า "งั้นไปกันเถอะ!!!" ชัยจะจูงโยให้หนีไปพร้อมกันแต่เด็กชายกับรั้งตัวเอาไว้ไม่ยอมไปกับพี่ชาย "นายเป็นบ้าอะไร!!! ทุกคนกำลังรออยู่ข้างนอก ฉันเองก็กลัวพอๆกับนายนั่นล่ะ แต่เราต้องรีบหนีไปจากที่นี่!!!" ชัยพูดเสียงดังใส่น้องชายด้วยความโมโห แต่เด็กชายกลับยืนเฉยไม่กล้าสบตาพี่ชาย

 

     "พี่ต้องสัญญากับฉันเรื่องหนึ่งก่อน" โยก้มหน้าพูดไม่สบตาพี่ชาย

 

     "เรื่องอะไร!!!" ชัยคิ้วขมวดถามน้องชาย

 

     "พี่ต้องไม่บอกใครเรื่องที่ฉันไปแอบในห้องน้ำหญิงอย่างเด็ดขาด พี่ต้องสัญญาก่อนฉันถึงจะยอมไป!!!" โยหน้าแดงเมื่อสบตาพี่ชาย

 

      "ไอ้น้องบ้า....!!! เออสัญญา รวมทั้งเรื่องที่นายอึแตกใส่กางเกงเมื่อตอนประถมสามด้วยฉันจะไม่บอกใคร!!!" ชัยทั้งโล่งอกและโมโหไปพร้อมกันเมื่อได้ยินที่โยพูด

 

      "เรื่องนั้นไม่นับ!!! แต่พี่สัญญาแล้วนะห้ามคืนคำ!!" โยหน้าแดง

 

      "เออไปกันได้แล้ว!!!" ชัยพูดจบที่หน้าประตูทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา1นัด

 

       "ตู๊ดดดดดตู๊ดดดด!!" เสียงโทรศัพท์ของชัยดังขึ้นมาเป็นชื่อของปาล์ม

 

       "โทรติดเสียที!!! นี่นายที่ประตูออกมาไม่ได้แล้วนะ พวกมันมาเต็มประตูเลยนายต้องหาทางออกทางอื่น!!! แล้วนายเจอโยรึยัง!!!" ปาล์มบอกกับชัยด้วยน้ำเสียงร้อนรน ดูเหมือนเธอกำลังวิ่งอยู่ระหว่างคุยโทรศัพย์

 

      "เจอแล้ว!!!! ตอนนี้พวกนายจะไปที่ไหนกัน!!!" ชัยถามปาล์มด้วยความเป็นห่วง

 

      "ฉันเองก็ยังไม่รู้!!! ตอนนี้ก็วิ่งๆแอบๆไปเรื่อยๆ เอาไว้หนีไปที่ปลอดภัยจะโทรบอกอีกทีแล้วกัน นายสองคนระวังตัวด้วย!!!" ปาล์มพูดไม่ทันจบสายก็ตัดไปเสียก่อน

 

     "รีบไปจากที่นี่กันเถอะ!!!" ชัยบอกกับโยก่อนที่ทั้งสองคนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำหญิง และออกทางช่องระบายอากาศด้านในจนสามารถออกมานอกอาคารโรงยิมสนามฟุตบอลสำเร็จ

 

    "สายตัดไปแล้ว" ปาล์มบอกกับนิดและซูที่กำลังยืนระวังภัยอยู่รอบๆ

 

    "เราจะเอาอย่างไรต่อไปดี หาที่แอบที่ปลอดภัยดีไหม ถ้าเราติดต่อสองคนนั้นได้แล้วค่อยว่ากันอีกที เธอสองคนคิดยังไงกับแผนนี้" ซูออกความคิด

 

     "แต่เราน่าจะออกตามหาพวกเขานะ มัวแต่แอบอยู่แบบนั้นไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก" นิดแย้งสิ่งที่ซูพูด

 

     ทั้งสองคนมองหน้าปาล์มเพื่อให้เธอตัดสินสิ่งที่ทั้งสองคนออกความคิด

 

    "ฉันว่า...." ปาล์มลังเลสิ่งที่เพื่อนทั้งสองคนพูด เพราะทั้งคู่นั้นต่างพูดในสิ่งที่ถูกต้อง

 

    "ประกาศ!!! ประกาศ!!!" ระหว่างที่ปาล์มกำลังลังเลอยู่นั้นเอง เสียงตามสายก็ดังขึ้นมาทั่วโรงเรียน เป็นเสียงชายหนุ่มที่เด็กๆคุ้นเคย "นี่คือเสียงของอาจารย์อุดร นักเรียนทุกคนโปรดทราบ ตอนนี้เหล่าอาจารย์และนักเรียนหลายสิบคนที่รอดชีวิตกำลังหลบอยู่ที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ที่อาคาร1 พวกเราจะหลบหนีไปจากที่นี่ด้วยรถบัสประจำโรงเรียน ถ้ามีนักเรียนคนไหนที่รอดชีวิตและต้องการไปจากที่นี่ ให้มาพบอาจารย์ที่ห้องประชาสัมพันธ์ตอนนี้เลย เราจะได้ร่วมมือกันไปเอารถจากที่นั่น หรือถ้าใครไม่พร้อมจะมาที่ห้องก็ไปเจอกันที่รถบัสของโรงเรียนหรือห้องพักอาจารย์ใหญ่ได้เลย!!!"

 

     "ยังมีคนรอดชีวิตอยู่จริงๆด้วย" ซูยิ้มด้วยความดีใจเมื่อยังรู้ว่ามีคนรอดชีวิต

 

     "จากที่นี่ไปห้องประชาสัมพันธ์ไม่ไกลนัก เราไปที่นั่นกันเถอะจะได้สมทบกับคนอื่นๆหนีไปจากที่นี่" ปาล์มออกความเห็น

 

     "แล้วสองคนนั้นล่ะ" นิดพูดเสียงเบาๆมองมาทางปาล์มที่ออกความคิดเรื่องนี้

 

     "วางใจเถอะ เดี๋ยวเราก็คงได้พบสองคนนั้นที่ไหนซักแห่ง ตอนนี้เราควรเอาชีวิตรอดให้ได้ก่อนจะดีกว่า" ซูบอกกับนิด

 

     "สองพี่นั้นนั่นหนังเหนียวไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกเชื่อฉันเถอะ" ปาล์มพูดยิ้มๆกับนิดเพื่อให้เธอสบายใจ

 

    ขณะเดียวกันทางด้านชัยกับโยที่ได้ยินเสียงตามสายก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที

 

    "ตอนนี้เราอยู่ที่โรงยิมเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างห้องประชาสัมพันธ์กับโรงจอดรถ เราจะไปที่ไหนกันดีล่ะพี่" โยถามชัยเมื่อฟังเสียงที่ได้ยินจากอาจารย์อุดร

 

     "เราน่าจะไปที่โรงจอดรถเลย ไม่แน่ตอนนี้พวกนั้นอาจจะออกมาจากห้องนั้นแล้ว ไปอาจจะสวนทางกันเปล่าๆ" ชัยออกความคิด

 

     "แต่ผมว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่เลยไม่ง่ายกว่าหรอ ดีกว่าเสี่ยงไปที่รถบัสแบบนั้น" โยพูดแย้งสิ่งที่ชัยบอก

 

     "แต่เส้นทางนั้นมันไกลกว่ากันมาก มันอันตรายเกินไปถ้าเราจะไปแบบนั้น สู้เราไปสบทบกับคนอื่นแล้วเรารถขับไปง่ายกว่าเยอะ" ชัยพูดตะโกนใส่โยด้วยความไม่พอใจ

 

     "แล้วถ้าเราไปไม่ทันล่ะ ถ้าพวกนั้นไปที่โรงจอดรถก่อนแล้วขับออกไปโดยไม่รอเราล่ะ เราจะขับรถหนีออกไปเองรึไง!!!!" โยตะโกนตอบด้วยความไม่พอใจเช่นกัน

 

     "ก็ถ้ามัวแต่มาเถียงกันแบบนี้เราจะไปถึงที่นั่นทันได้อย่างไรกันล่ะ!!!" ชัยตะโกนกลับ

 

     "..........." แต่แทนที่โยจะเถียงกลับตรงข้ามเขายืนนิ่งจ้องไปที่ด้านหลังพี่ชายโดยไม่พูดอะไร

 

     เมื่อชัยหันไปก็เห็นเด็กหญิงผมยาวในชุดนักเรียนที่เปื้อนไปด้วยเลือด ใบหน้าของเธอมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่แก้มซ้าย ดวงตาขาวโพลนไร้ซึ่งตาดำกำลังยืนมองคนทั้งสองโดยไม่พูดอะไร

 

     "พิมพ์....!!!" โยพูดเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวยืนอยู่ จากสีหน้าแววตาของเด็กชายนั้นบ่งบอกให้ชัยรู้เลยว่า น้องชายของตนนั้นเป็นห่วงและดีใจแค่ไหนเมื่อเจอเด็กผู้หญิงคนนี้

 

     "อย่าไป...!!!" ชัยรั้งน้องชายของตนไม่ให้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง

 

    "ปล่อย!!!นั่นพิมพ์นะ!!! เขาปลอดภัยอยู่ตรงนั้น!!!" โยพยายามดิ้นรนจากพี่ชายเพื่อไปหาเพื่อนสาว

 

    "นั่นมันซอมบี้ เธอกลายเป็นผีดิบไปแล้วไม่รู้รึไง!!!" ชัยตะโกนห้ามน้องชายที่พยายามดิ้นรนจากกับจับกุมของตน

 

    "ปล่อย!!! พิมพ์!!!" โยตะโกนหาเพื่อนสาวที่เปื้อนเลือด

 

    "ก๊ากกกกกก!!!" พิมพ์เพื่อนสาวของโยร้องเสียงแหลม ก่อนจะพุ่งมาหาคนทั้งสองด้วยความรวดเร็ว

 

    "บ้าจริง!!!" ชัยพลักโยออกไปให้พ้นทาง เพื่อตัวเองจะได้ตั้งหลักใช้ไม้ตีซอมบี้เด็กหญิงที่วิ่งเจ้ามา

 

    "อย่าทำพิมพ์นะ!!!" โยนกระโดดมากอดชัยเพื่อไม่ใช้เขาใช้ไม้ทำร้ายเพื่อนสาว

 

    "ปล่อย!!! เดี๋ยวเราก็ตายทั้งคู่หรอก!!" ชัยตะโกนว่าน้องชายตน แต่โยไม่ปล่อยมือออกแม้แต่น้อย

 

     "ก๊ากกกกกกก!!! พลั๊ก!!!" ระหว่างที่ซอมบี้เด็กหญิงกำลังวิ่งมานั้นเอง จู่ๆเธอก็ถูกอะไรบางอย่างพลักจะกระเด็นพ้นทางที่เข้าหาทั้งสองคนพี่น้อง

 

      "แกสองคนปลอดภัยนะ" เสียงของเด็กชายคนหนึ่งพูดกับสองพี่น้องด้วยน้ำเสียงสุขุม ขณะที่ชัยยืนอึ้งพูดอะไรเมื่อออกเมื่อเห็นชายคนนั้น

 

     "แจ๊ค!!! แกยังไม่ตายหรือเนี้ย!!!" ชัยตะโกนเรียกเพื่อนที่น่าจะตายไปแล้วด้วยความดีใจ

 

     "ข้ามันหนังเหนียวไม่ตายง่ายๆหรอก" แจ๊คพูดยิ้มๆ

 

     "ก๊ากกกกก!!!" ซอมบี้เด็กหญิงที่ล้มไปนอนบนพื้นร้องเสียงดังอยู่บนพื้น คอของเธอถูกบิดหันไปอยู่ด้านหลังแต่ก็ยังสามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่แม้หัวจะกลับด้านก็ตาม

 

     "พิมพ์...." โยพูดไม่ออกเมื่อเห็นสภาพเพื่อนสาวที่เปลี่ยนไป

 

     "ขอยืมนั่นหน่อย" แจ๊คแบบมือขอระเบิดปิงปองจากชัย เขาจุดชนวนระเบิดก่อนจะปาใส่ปากซอมบี้เด็กหญิงอย่างแม่นยำ

 

     "ตูม!!!!" ระเบิดปิงปองระเบิดปากซอมบี้เด็กหญิงจนหายไป ทิ้งเธอนอนชักอยู่บนพื้นต่อหน้าโยที่กำลังยืนช๊อคอยู่

 

     "ไปที่โรงจอดรถกันเถอะ ป่านี้พวกนั้นคงใกล้ไปถึงแล้ว" แจ๊คที่ได้ยินเสียงตามสายเหมือนกันบอกกับชัย

 

      ทางด้านของปาล์มที่เมื่อตกลงกันแล้วว่าจะไปรวมตัวกับคนอื่นๆที่ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งสามใช้เส้นทางรัดเลาะตามกำแพงโรงเรียนเดินกลับทางเก่าที่เคยผ่านมาเพื่อกลับไปยังใจกลางโรงเรียนที่เป็นจุดนัดหมาย

 

      "ตอนนี้เราเหลือระเบิดปิงปองแค่ลูกเดียว กับระเบิดขวดอีก2ลูก ต้องใช้อย่างระวัง" ปาล์มบอกกับเพื่อนทั้งสองคนเมื่อเห็นซอมบี้1ตัวในชุดเสื้อเชิตสีขาวผูกเน็คไทที่เปื้อนไปด้วยเลือด ใบหน้าของซอมบี้อาจารย์คนยังคงมีแว่นตาห้อยอยู่ที่หูด้านซ้าย ร่างกายที่ผอมซีดของซอมบี้อาจารย์คนนี้ดูไม่น่าจะมีพิษสงอะไรในความคิดของเด็กๆ เมื่อเห็นเขาเดินไปมาตรงกำแพงที่ทั้งสามเดินกลับมา

 

      "เอาไง....??" ซูถามปาล์มเพื่อให้เธอเป็นคนตัดสินใจ

 

     " เราต้องเก็บระเบิดไว้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้น ซูนายกับนิดไปล่อให้ซอมบี้มาทางนี้ ดูจากรูปร่างผอมแห้งคงไม่น่าจะมีแรงสู้อะไรมา เราน่าจะจัดการเองได้โดยไม่ต้องใช้ระเบิดล่อให้ไปทางอื่น เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง" ปาล์มพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น มือของเธอสั่นน้อยๆเมื่อต้องลงมือฆ่าคนด้วยไม้ที่มีเป็นครั้งแรก

 

    "ไหวแน่นะ" นิดถามปาล์มเมื่อเห็นสีหน้าของเธอซีดเผือก

 

    "วะไหว ไหว" ปาล์มพยักหน้าตอบ

 

     "พร้อมนะ" ซูบอกกับปาล์มที่แอบอยู่ในพุ่มไม้ ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งออกไปเพื่อเรียกซอมบี้อาจารย์คนนั้นให้หันมา

 

      "เฮ้....!!! มาทางนี้ซิทางนี้!!!" ซูร้องตะโกนเสียงดังเรียกซอมบี้อาจารย์ให้หันมาสนใจตน

 

      "ก๊ากกกกก!!!" เป็นผล ซอมบี้อาจารย์เห็นซูเขาก็ร้องเสียงแหลมและพุ่งมาทางซูอย่างรวดเร็ว ผิดกับที่ปาล์มคาดเอาไว้

 

      "ช่วยด้วย!!!" ซูที่เมื่อเห็นซอมบี้อาจารย์วิ่งมา เขาก็ตกใจกลัวสุดขีดวิ่งหนีไปทางอาคารอย่างไม่คิดชีวิต

 

      "บ้าจริง!!!" ปาล์มรีบวิ่งตามออกไปทันที แต่ก็มีซอมบี้เด็กชายคนหนึ่งที่มาจากไหนไม่รู้วิ่งมาชนและค่อมร่างปาล์มเอาไว้กับพื้น

 

      "ก๊ากกกกกก!!!" ซอมบี้เด็กชายคนนั้นพยายามจะกัดปาล์มแต่เธอเอาไว้กระบองกันเอาไว้ที่คอซอมบี้ แต่แรงของเด็กสาวคงทนแรงกดของซอมบี้เด็กชายได้ไม่นาน

 

      "ไปตายซ๊าาาาา.....พลั๊กกกกก!!!" เสียงร้องตะโกนของนิดดังออกมาพร้อมกับเสียงของก้อนหินก้อนโตถูกทุบลงบนหัวของซอมบี้เด็กชายคนนั้นอย่างแรง

 

      ปาล์มที่ได้จังหวะจึงรีบพลักร่างซอมบี้คนนั้นให้ออกไปจากตัว

 

      ร่างซอมบี้เด็กชายนอนชักตาเหลือกเลือดท่วมปากโดยที่ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก

 

      "ขอบคุณที่ช่วยเราไว้...!!!" ปาล์มพูดยิ้มๆกับนิด

 

      "ไม่เป็นไร" นิดพูดยิ้มๆตอบแม้จะเป็นยิ้มที่ไม่ค่อยน่าดีใจนักก็ตาม

 

     "ตูม!!!" เสียงระเบิดของระเบิดปิงปองดังขึ้นไม่ไกลจากจุดที่ปาล์มกับนิดอยู่ ทั้งคู่จีงรีบวิ่งตามเสียงระเบิดไปทันที

 

     "ออกไปนะ...!!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!! แม่จ๋าช่วยลูกด้วย!!" ซูที่ไปบนต้นไม้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเมื่อถูกซอมบี้อาจารย์และคนอื่นๆอีกหลายคนล้อมรอบโคนต้นไม้เอาไว้หวังจะกินเด็กชายที่อยู่บนนั้น

 

     "เราต้องช่วยเขา!!" นิดบอกกับปาล์มด้วยน้ำเสียงเร่งรีบตกใจ

 

     "รอเดี๋ยว!!" ปาล์มหยิบระเบิดขวดที่ทำมาออกมาจากกระเป๋า เธอจุดไฟและโยนใส่พวกซอมบี้ที่อยู่โคนต้นไม้ทันที2ลูก

 

     "ก๊ากกกกกก ก๊ากกกกก!!!" ซอมบี้4ตัวที่ถูกไฟคลอกต่างวิ่งหนีออกจากโคนต้นไม้ไปคนล่ะทางพร้อมกับควันไฟสีดำที่พวยพุ่งขึ้นฟ้า ก่อนที่ร่างเหล่านั้นจะล้มลงนอนแน่นิ่งเพราะถูกไฟเผา

 

     "ขอบใจเธอสองคนมากเลย" ซูรีบกระโดดลงมาจากต้นไม้ด้วยความโล่งอก

 

     "เรารีบไปต่อกันเถอะ ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกนั้นจะรอเราอยู่อีกไหม" ปาล์มบอกกับเพื่อนทั้งสอง

 

     "นั่น!!!" นิดชี้ไปทางด้านหลังของปาล์ม เธอเห็นกลุ่มนักเรียนชายหญิงหลายสิบคนที่มีอาวุทครบมือกำลังวิ่งมาทางที่พวกตนอยู่

 

     "เราได้ยินเสียงระเบิดกับกลุ่มควันเลยวิ่งมาดู พวกเธอปลอดภัยดีไหม!!!" อาจารย์ชายหนุ่มที่เป็นเสียงเดียวกับที่พูดเสียงตามสายถามกับทั้งสามด้วยความโล่งอก

 

    "ค่ะ!!! พวกเราปลอดภัยดี" ปาล์มพูดยิ้มๆด้วยความโล่งอกเมื่อเจอผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ

 

    ขณะเดียวกันทางด้านชัยที่กำลังแอบไปตามกำแพงมุ่งตรงไปทางตรงข้ามกับพวกปาล์มก็ได้ยินเสียงระเบิดปิงปองไกลๆจากจุดที่ตนอยู่

 

    "นั่นเสียงระเบิดปิงปองที่ฉันสร้าง แปลว่าพวกนั้นคงจะปลอดภัยดี" ชัยรู้สึกโล่งอกนิดๆเมื่อรู้ว่าเพื่อนๆยังคงปลอดภัย จะมีแค่โยเท่านั้นที่เดินตามพี่ชายทั้งสองคนโดยไม่พูดอะไร

 

    "น้องนายคงช๊อคที่เห็นเพื่อนสาวตายต่อหน้าต่อตาแบบนั้น" แจ๊คพูดกับชัยระหว่างเดิน

 

    "ไม่ใช่แค่นั้นหรอกที่มันเสียใจ แต่พิมพ์คือเพื่อนสนิทที่โตด้วยกันมาตั้งแต่โยมันจำความได้ ก็ไม่แปลกหรอกที่มันจะเศร้าแบบนั้น" ชัยอธิบายความรู้สึกที่น้องชายมีให้แจ๊คเข้าใจ

 

    "ฉันว่าฉันเข้าใจโยมันเหมือนกันนะ เพราะเมื่อกี้ก่อนเจอนายสองคน ฉันก็เพิ่งทุบกระโหลกรุ่นพี่ที่ฉันที่แอบชอบไปเหมือนกัน แกก็รู้ว่าฉันชอบพี่เขามากแค่ไหน" แจ๊คหันมาพูดยิ้มๆที่มุมปากแต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า

 

    "รู้ซิ ทุกเช้าเย็นแกจะไปแอบดูพี่เขาที่หน้าบ้าน แอบเดินตามแอบถ่ายรูปเหมือนพวกโรคจิตอย่างไงอย่างงั้นเลย" ชัยพูดแซวแต่มันกลับไม่ขำเลยแม้แต่น้อย

 

      "เพราะอย่างนั้นไงฉันถึงได้บอกไงว่าฉันเข้าใจความรู้ของโยมันดีว่ามันรู้สึกอย่างไร มันเป็นความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกที่เมื่อเห็นรุ่นพี่เขากลายเป็นซอมบี้ มันรู้สึกแน่นๆหักๆที่หน้าอก ตอนนั้นฉันพูดอะไรไม่ออก สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือการทุบหัวเธอให้เละเพื่อช่วยเธอให้ไปสบายกว่าสภาพที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้" แจ๊คน้ำตาไหลเมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น "พี่เขามีสภาพเดินไส้ไหลลากพื้น ข้อเท้าบิดไปอีกด้านหนึ่ง มือทั้งสองข้างเล็บถูกฉีกหลุดทั้งสิบนิ้ว ฉันเดาว่าพี่เขาคงจะต้องวิ่งหนีไปจนมุมที่ใดที่หนึ่งและถูกพวกมันรุมทำร้ายจนหนีมาได้ก่อนจะกลายเป็นแบบนั้นภายหลัง พี่เขาคงจะทรมาณอย่างสุดๆก่อนจะกลายเป็นแบบนั้น ฉันทนแทบไม่ได้ที่เห็นอย่างนั้น" แจ๊คทรุดลงนั่งร้องไห้ฟูฟายเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

 

     "พี่แจ๊ค" โยที่ได้ฟังทุกอย่างยืนนิ่งไม่พูดอะไร ความรู้สึกที่เขาเคยคิดว่าตนเองนั้นได้รับมาหนักหนา กลับเทียบไม่ได้กับสิ่งที่แจ๊คเจอมา

 

     "นายทำถูกแล้วเชื่อฉันเถอะ" ชัยตบไหล่เพื่อนชายแรงๆเพื่อเรียกสติ

 

     "ใช่นายพูดถูก เธอไปสบายแล้ว รวมทั้งพิมพ์เพื่อนสาวของนายด้วยไอ้น้อง" แจ๊คหันมาพูดกับโยที่กำลังยืนเศร้า

 

     "ครับ!!! ผมจะเข้มแข็ง" โยสบตาแจ๊คทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างรู้ใจถึงความรู้สึกที่ตนได้เจอ

 

     "เจอบทดราม่าแบบนี้เข้าไป ก็เล่นเอาจุกจนพูดไม่ออกเลยจริงๆ" ชัยพูดเป็นเชิงประชดเล่นมุกน้อยๆเมื่อทั้งสองคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยมีชัยคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสองคนรู้สึก

 

    ทั้งสามคนมุ่งหน้าเดินทางต่อทันที โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่ากลุ่มของอาจารย์และปาล์มก็กำลังตามหลังพวกตนไปไม่ไกล

 

     "เส้นทางของพวกเด็กนักเรียนที่ชอบโดดเรียนใช้กัน อาจารย์คิดไม่ถึงเลยนะว่าจะมีเส้นทางแบบนี้ในโรงเรียนด้วย" อาจารย์อุดรพูดยิ้มๆกับปาล์มระหว่างเดินเลาะกำแพงโรงเรียนตามหลังชัยไปไม่ไกล "พวกเธอ3คนเก่งมากๆเลยนะที่สามารถรอดชีวิตมาได้ถึงตอนนี้" เขาหันมายิ้มให้นิดกับซูที่เดินตามหลังมา

 

     "จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่พวกหนูหรอกคะที่รอดมาได้ ยังมีคนรอดชีวิตอีก2คนที่แยกกันที่โรงยิมฟุตบอล พวกเราใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางค่ะเลยไม่เจอพวกมันมากนัก" ปาล์มบอกกับอาจารย์อุดรระหว่างเดิน

 

     "ที่โรงยิมมันนรกชัดๆ มีแต่ซากศพกับพวกผีเน่าเต็มไปหมด พวกนายนี่โคตรดวงดีเลยที่รอดมาได้" เด็กสาวท่าทางทอมบอยพูดกับปล์าม

 

          "พวกนั้นไวต่อเสียงคะ เราเลยล่อพวกนั้นไปทางอื่นได้ด้วยระเบิด พวกเราเลยรอดจากตรงนั้นมาได้" นิดบอกเด็กสาวทอมบอย

 

      "แต่เราก็เสียเพื่อนไปคนหนึ่งระหว่างเดินทาง" ปาล์มพูดเสียงเศร้าเมื่อนึกถึงแจ๊คที่เธอคิดว่าเขาตายไปแล้ว

 

      "แจ๊ค ฉันจะมีชีวิแทนส่วนของนายเองเพื่อน" ซูพูดเบาๆด้วยท่าทางเศร้าสร้อยเมื่อพูดถึงเพื่อนสนิทที่จากไป

 

      "ระวัง!!" ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินไปนั้น กลุ่มที่เดินอยู่ตรงหน้าสุดก็บอกพวกปาล์มที่กำลังเดินตามมาเมื่อพบซอมบี้เด็กหญิงที่ปากถูกระเบิดหายไปกำลังนอนชักอยู่บนพื้น

 

       "ดูจากร่องรอยน่าจะโดนระเบิดใส่ปาก" เด็กนักเรียนชายท่าทางห้าวๆออกความเห็นกับสภาพซอมบี้ที่เจอ

 

     "พิมพ์" ปาล์มพูดออกมาเบาๆเมื่อเห็นซอมบี้ที่เป็นคนรู้จัก

 

     "ถ้าซอมบี้คนนี้โดยระเบิด ก็แปลว่าพวกชัยต้องผ่านมาทางนี้แน่ๆเลย" นิดสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มกับปาล์ม

 

      "เรารีบไปกันเถอะ" ปาล์มพูดอย่างมีความหวังเมื่อรู้ว่าชัยผ่านทางนี้ไปไม่นาน

 

       ทางด้านชัยโยแจ๊คทั้งสามคนมาถึงโรงจอดรถที่เป็นอาคาร2ชั้นด้านหลังโรงเรียน แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปข้างในได้เพราะมีพวกซอมบี้เดินไปมามากมายที่ทางเข้า

 

       "พวกมันเดินเต็มไปหมด เอาไงดี" โยถามพี่ชายเมื่อแอบที่ซุ้มขายขนมไม่ไกลจากทางเข้าโรงจอดรถ

 

       "ฉันมีระเบิดปิงปอง1ระเบิดดินน้ำมัน1แล้วก็ระเบิดขวด1 น่าจะพอทำอะไรได้บ้าง นายคิดว่าไง" ชัยหันมาปรึกษากับแจ๊ค

 

       "เราควรรอคนอื่นไหม ไม่แน่พวกเขาอาจจะใกล้มาถึงแล้วก็ได้" โยออกความคิดเห็น

 

       "หรืออาจจะออกไปแล้ว" แจ๊คแย้ง

 

      "เราไม่มีทางรู้หรอกว่าพวกนั้นยังมาไม่ถึงหรือไปแล้ว เอาเป็นว่าลองไปที่รถดูก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ฉันมีแผนแล้ว" ชัยหันมาพูดกับเพื่อนทั้งสอง

 

      "เกลียดคำนี้ของพี่ที่สุด" โยพูดประชดก่อนจะทำตามสิ่งที่ชัยบอก

 

      ทั้งสามคนมองหน้ากันเมื่อฟังสิ่งที่ชัยพูดจบ

 

      ชัยรีบวิ่งออกมาจากซุ้มขายของไปแอบที่ถังขยะอีกมุมหนึ่งของทางเข้าโรงจอดรถ

 

      "พร้อมแล้วเอาเลย" ชัยสงสัญญาณบอกโยที่แอบอยู่ที่ซุ้มขายของ เด็กชายจึงจุดระเบิดปิงปองแล้วโยนไปที่ทางเข้าโรงจอดรถที่มีพวกซอมบี้ยืนอยู่ทันที

 

     "ตูม!!! ก๊ากกกกก ก๊ากกกกก!!!" เสียงระเบิดเรียกพวกซอมบี้มารวมตัวกันที่ประตูอย่างมากมายตามที่ชัยคาดการณ์เอาไว้

 

      "เอาเลย!!" ชัยตะโกนบอกแจ๊คที่แอบอยู่ไม่ไกลจากซุ้มขายของ เขาจุดระเบิดขวดในมือแล้วโยนออกไปในใจกลางฝูงซอมบี้ที่กำลังยืนหาต้นเสียงของระเบิด

 

      "ก๊ากกกกก ก๊ากกกกก!!!" พวกซอมบี้แตกฮือเมื่อถูกไฟคลอกอย่างบ้าคลั่งตามแผนของชัยที่วางเอาไว้

 

      "เสียงระเบิด!!!" ซูพูดขึ้นมา

 

     "มันดังมาจากที่โรงจอดรถ!!! รีบไปกันเถอะ!!!" อาจารย์อุดรบอกกับนักเรียนทุกคนให้รีบวิ่งไปทันที

 

     "เอาเลย!!!" แจ๊คตะโกนบอกชัยระหว่างที่เขาวิ่งออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับไม้กระบอก เขาฟาดใส่ซอมบี้ที่ติดไฟอย่างไม่เกรงกลัวเพื่อปกป้องชัยให้วิ่งเข้าไปด้านในโรงจอดรถ

 

     "ขอบใจเพื่อน!!!" ชัยรีบวิ่งเข้าไปข้างในโรงจอดรถพร้อมกับวางระเบิดดินน้ำมันก้อนสุดท้าย เขาวิ่งไปที่ด้านในลึกเข้าไปและจุดชนวนระเบิดดินน้ำมันก้อนสุดท้ายที่รถเก๋งสุดหรูที่ฝั่งถังน้ำมันก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ผ่านซอมบี้หลายตัวที่วิ่งไล่ตามเขามาเมื่อเห็นชัย

 

     "ตูม!!!" เสียงระเบิดดังลั่นพร้อมเปลวไฟที่ลุกท่วมโรงจอดรถชั้น1เผาซอมบี้ที่อยู่ในนั้น ขณะที่เด็กชายวิ่งกระโดดออกมาจากโรงจอดรถได้ทันอย่างเฉียดฉิว

 

     "เป็นอะไรไหมพี่!!!" โยออกมาจากที่ซ่อนพยุงพี่ชายที่นอนคุดคู้อยู่บนพื้น ไม่ไกลแจ๊คที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นมาอย่างปลอดภัย

 

     "หานายว่าอะไรนะ หูฉันอื้อไปหมดไม่ได้ยินที่นายพูดเลย" ชัยที่หูอื้อตะโกนถามน้องชายที่เข้ามากอดพี่ชายด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าพี่ชายไม่เป็นอะไร

 

     "สุดยอดเลยเพื่อน" แจ๊คที่หูอื้อไม่แพ้กันตะโกนพูดกับชัยด้วยรอยยิ้ม

 

     "บอกแล้วว่าแผนฉันมันเจ๋ง" ชัยพูดยิ้มๆ

 

     ระหว่างนั้นเองกลุ่มของปาล์มที่ได้ยินเสียงระเบิดก็วิ่งมาถึงพวกชัยพอดี

 

     "ชัย!!!" ปาล์มตรงเข้ากอดชัยด้วยรอยยิ้มและน้ำตาเมื่อได้พบกันอีกครั้ง ขณะที่ซูเองก็ยืนร้องไห้เมื่อเห็นแจ๊คเพื่อนรักยังมีชีวิตอยู่

 

     "นายสามคนนี่สุดยอดแห่งการทำลายล้างจริงๆ เล่นระเบิดโรงจอดรถทั้งชั้นแบบนี้นับถือ นับถือ" หญิงสาวทอมบอยพูดกับชัย

 

     "อย่าเพิ่งมาดีใจตอนนี้ เสียงระเบิดเมื่อกี้คงเรียกพวกซอมบี้มาแน่ๆ รีบไปเอารถที่ชั้น2แล้วขับออกไปจากที่นี่กันเถอะ!!" อาจรย์อุดรบอกกับชัย ทุกคนจึงรีบวิ่งขึ้นไปที่โรงจอดรถชั้น2 และขับรถโรงเรียนออกมาจากที่นั่นได้อย่างปลอดภัย

 

     ระหว่างทางที่รถบัสวิ่งผ่านพวกเขาก็แวะรับนักเรียนที่รอดชีวิตที่ได้ยินเสียงตามสายขึ้นรถ ก่อนจะมาแวะรับคนอื่นๆที่ห้องอาจารย์ใหญ่

 

    ภายในรถมีผู้รอดชีวิตที่เป็นนักเรียนอาจารย์เกือบ30ชีวิต ทุกคนเริ่มมีความหวังเมื่อได้ขึ้นมาบนรถและขับออกไปจากที่โรงเรียน แม้จะไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อไปก็ตาม

 

    "ถึงเราจะรอดออกมาได้ เราก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อไปอยู่ดี" ปาล์มพูดกับชัยเมื่อทั้งสองคนนั่งกุมมือกันบนรถ

 

   "ก็ไปเรื่อยๆเท่าที่จะไปได้ ไม่แน่ป่านี้พวกพ่อแม่อาจจะยังรอพวกเราอยู่ก็ได้" ชัยปลอบใจปาล์มที่กำลังสิ้นหวัง

 

    "อาจารย์อุดรคะ" ระหว่างที่รถบัสกำลังขับออกไปจากโรงเรียน อาจารย์สาวสวยคนหนึ่งก็เดินมาหาอาจารย์อุดรที่กำลังขับรถ โดยมีพวกชัยนั่งอยู่แถวหน้า

 

    "มีอะไรครับอาจารย์เมขลา" อาจารย์อุดรถามอาจารย์สาวสวย

 

    "เมื่อตอนที่อาจารย์ออกไปเราได้รับโทรศัพท์จากแม่ของนักเรียนคนหนึ่งบอกว่าที่ป้อมทหารมีคนรอดชีวิตรวมตัวกันอยู่ที่นั่น เราน่าจะไปที่นั่นดูนะคะ คุณคิดว่ายังไงกับเรื่องนี้" อาจารย์สาวสวยถามอาจารย์อุดร

 

     "ดีเลยครับผมก็คิดว่าจะไปที่นั่นอยู่พอดี ไม่แน่พวกพ่อแม่เด็กๆอาจจะอยู่ที่นั่นก็เป็นได้" อาจารย์อุดรพูดกับอาจารย์เมขลา

 

      "ตู๊ดดดด ตู๊ดดดด" โยลองใช้โทรศัพท์โทรหาพ่อกับแม่ดูอย่างมีความหวัง

 

      "ฮาโหลพ่อกับแม่หรอ!!!" โยร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจเมื่อได้ยินเสียงแม่ของตน "พ่อกับแม่อยู่ที่ป้อมทหารหรอ!!! พวกเราก็กำลังไปที่นั่นครับ!! ตอนนี้พวกเราปลอดภัยดี พี่ชัยกับพี่ปาล์มก็ปลอดภัย พี่แจ๊คกับพี่ซูก็อยู่ที่นี่...." โยยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะหันมาทางทุกคน "พ่อแม่ของพวกพี่ๆก็ปลอดภัยครับ" โยบอกแจ๊คปาล์มซูให้พวกเขาสบายใจ ก่อนที่นักเรียนคนอื่นๆที่รู้ต่างก็มาถามโยเพื่อให้หาพ่อกับแม่ว่าอยู่ที่กรมทหารไหม

 

       "เชื่อฉันเถอะพ่อแม่ของเธอก็อยู่ที่นั่นด้วยอย่างแน่นอน" ชัยหันมาพูดกับนิดที่กำลังนั่งร้องไห้ด้วยความดีใจอย่างมีความหวัง

 

      "ใช่ ฉันก็หวังอย่างนั้น..." เด็กสาวสวมแว่นยิ้มให้เด็กชายทั้งน้ำตาด้วยความหวัง....

เนื้อหาโดย: yongyee
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
yongyee's profile


โพสท์โดย: yongyee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชายญี่ปุ่นเสียชีวิต หลังนำตัวส่งโรงพยาบาลไม่ทัน เพราะเจ้าหน้าที่เข้าใจผิดคิดว่าเขาเสียชีวิตแล้วนก จริยาจับโป๊ะสามีได้เพราะหนุ่ม กรรชัย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
#Rip เศร้าวงการอินฟลูเอนเซอร์ สูญเสีย "แม่บ้านมีหนวด" หรือ บิว อิษณัฐ ชลมูณีฟิล์ม อ้างคลิปเสียงตนจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ได้ตบทรัพย์อื้อหือ...จุลินทรีย์บนมือของเด็กวัย 8 ขวบหลังจากเล่นข้างนอก เรียกได้ว่าปริมาณฟูฟ่องมากๆเลยนะเนี่ย...แม่บ้านมีหนวด ตำนานอินฟลูสุดมั่น ผู้สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน เสียชีวิตลงแล้วในวันนี้เจาะสังคมเกาหลีสุดเครียด เปิดสถิติอัตราจบชีวิตสูงสุดในรอบ 9 ปี เกิดอะไรขึ้นกันแน่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ตำนานรัก เมืองฟ้าแดดสงยางตำนานเขาหินกลิ้ง เรื่องเล่าเมืองทวารวดีแถบ ไพศาลี - ท่าตะโก จ.นครสวรรค์“เงามืดแห่งอาณาจักรลม: ตำนานปราสาทร้างแห่งสายหมอก”“โกเบคลี เทเป” (Gobekli Tepe) วิหารแห่งแรกของโลก
ตั้งกระทู้ใหม่