หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้นหลอนหักมุม ตอน นักสืบผู้ไขคดีฆาตกรรม

เนื้อหาโดย yongyee

นักสืบผู้ไขคดีฆาตกรรม

บนโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่รู้และคิดไม่ถึงอยู่ หนึ่งในนั้นคือคำว่าอัจฉริยะที่คนประเภทนี้จะเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น พวกเขาจะมีสติปัญญาความคิดหรือการกระทำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่น ซึ่งคำว่าอัจฉริยะก็มีหลายแบบหนึ่งในนั้นคืออัจฉริยะในด้านการใช้ความคิดที่มุมมองของเขาหรือเธอเหล่านั้นจะต่างไปจากคนทั่วไปโดยสิ้นเชิง หนึ่งในนั้นก็คือยูริหญิงสาวอัจฉริยะที่มีความสามารถในการสืบสวน ในอพาร์ทเม้นท์ชั้นที่2ห้องที่21ชั้นบีนายตำรวจสองคนที่ลงมาจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งคู่เดินตรงเข้าไปในห้องดังกล่าวโดยที่ไม่เคาะประตูหรือตรวจสอบเลยว่าประตูล็อครึไม่ “คิดอยู่แล้วว่าคุณต้องมาคุณตำรวจโมริ” เสียงหญิงสาวที่นั่งบนโซฟาสีน้ำตาลตัวใหญ่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ขณะที่โต๊ะข้างโซฟาก็มีคอมพิวเตอร์ที่กำลังรายงานข่าวอาญากรรมบางอย่างอยู่ “คุณเพิ่งกลับมาจากที่เกิดเหตุ เมื่อเช้าคุณรีบมากแต่ก็ไม่ลืมที่จะทานกาแฟนที่ภรรยาชงให้ พร้อมกัดขนมปังไปหนึ่งคำก่อนจะมาที่เกิดเหตุ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ส่วนคุณที่เป็นนายตำรวจใหม่คุณคือคนโสดมีพ่อที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน คุณจึงมาเป็นตำรวจเหมือนท่าน ส่วนอาหารเช้าคุณทานราเม็งที่หน้าสถานีก่อนจะรีบตามคุณโมโร่ไปที่เกิดเหตุ และถูกลากมาที่นี่โดยที่คุณก็ไม่รู้ว่าชั้นคือใครและทำไมชั้นถึงทายทุกอย่างถูกต้องทั้งหมด” นายตำรวจหนุ่มที่ตามนายตำรวจโมริมายืนงงเมื่อสิ่งที่หญิงสาวคนนี้พูดถูกต้องทุกอย่าง “ตอนนี้คุณกำลังจะกระซิบถามนายตำรวจโมริว่าชั้นคือใครและรู้ได้อย่างไรว่าคุณจะพูดแบบนี้” หญิงสาวมองมาทางนายตำรวจหนุ่ม “ชั้นไม่ได้มีพลังจิตอ่านใจคน ชั้นแค่อ่านสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันคืองานของชั้น” หญิงสาวพูดจบเธอก็แบบมือรับเอกสารที่นายตำรวจโมริส่งมา

หญิงสาวอ่านเอกสารที่มีอยู่หลายแผ่นอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งคืนให้ “คนร้ายในคดีนี้คือแม่สามีของผู้ตายเธอฆ่าลูกสาวตัวเอง” หญิงสาวพูดจบเธอก็มองไปยังคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่กำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับการฆาตกรรมหญิงสาว ที่คนร้ายในที่เกิดเหตุคือสามีของผู้ตายเพราะมีคราบเลือดและหลักฐานทุกอย่างอยู่ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมรับสารภาพว่าฆ่าภรรยาตัวเองแต่อ้างว่าแฟนของเธอนั้นฆ่าตัวตายเองด้วยการแทงตัวเองต่อหน้าเขา นายตำรวจกับนายตำรวจโมริยืนนิ่งไม่พูดอะไร “แม่ของผู้ตายเกี่ยวอะไรด้วย เธอคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้เลย แถมตอนเกิดเหตุเธอก็อยู่บ้านตัวเองที่ห่างจากนี่หลายสิบกิโลจะเป็นคนร้ายได้ไง ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุก็ชี้ชัดแล้วว่าสามีคือคนร้ายทั้งลายนิ้วมือคราบเลือด” นายตำรวจใหม่เถียง “นั่นคือทริกที่คนร้ายใช้เท่านั้น จากเอกสารบอกว่าสามีผู้ตายเข้ามาในห้องก็พบภรรยากำลังแทงตัวเองก่อนที่เขาจะเข้าไปห้ามจนยื้อแย่งมีดกัน ก่อนที่เขาจะพลาดท่าล้มลงหัวฟาดพื้นจนสลบ” หญิงสาวเอื้อมไปหยิบไม้คั้มข้างๆ โซฟาขึ้นมาเพื่อพยุงตัวเองมานั่งที่รถเข็น “ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองไปตรวจสอบที่เกิดเหตุดีๆ คุณจะผมเส้นผมเทียมในที่เกิดเหตุตกอยู่ และช่วยเอาเลือดที่เปื้อนตัวของผู้ต้องหาไปตรวจอย่างละเอียดว่าเลือดนั้นเป็นเลือดจริงรึเปล่า เพราะคนร้ายที่เป็นแม่สามีเธออาจจะปลอมตัวเป็นลูกสาวตัวเองทั้งที่ตอนนั้นเธอได้ฆ่าลูกสาวไปแล้วโดยไม่ตั้งใจ จนเธอรอให้ลูกเขยกลับมาเธอจึงแกล้งทำเป็นฆ่าตัวตาย โดยการใส่วิกที่ไปซื้อมาสวมเพื่อปลอมตัวเป็นลูกตัวเอง ก่อนจะทำแกล้งแทงตัวเองและหาโอกาสผลักลูกเขยจนสลบซึ่งถ้าเขาไม่สลบเธอก็คงจะใช้วิธีรุนแรงทำให้เขาสลบ หลังจากนั้นเธอก็สลับเอาร่างลูกสาวมานอน ส่วนตัวเองก็รีบกลับบ้านและทิ้งหลักฐานเอาไว้ ลองไปตรวจครบเลือดที่มือเธอด้วยน้ำยาลูมินอลที่ตำรวจใช้ตรวจหาคราบเลือดดูแล้วคุณจะรู้” หญิงสาวเข็นรถตัวเองไปเทน้ำชายที่มุมห้องเมื่อพูดจบ “ขอบคุณมาก ทางตำรวจติดหนี้คุณอีกครั้ง” นายตำรวจโมริโค้งคำนับก่อนจะเดินจากมา

“คุณนายตำรวจใหม่” หญิงสาวตะโกนเรียกนายตำรวจหนุ่ม “ที่ชั้นรู้ว่านายตำรวจโมริทานกาแฟนและขนมปังเพราะชั้นเห็นคราบกาแฟที่คอเสื้อกับคราบซอสมะเขือเทศที่หนวดเขา ส่วนคุณชั้นก็เห็นคราบราเม็งที่เลอะเป็นดวงที่เสื้อแปลว่าคุณต้องรีบกินมากๆ จนเส้นสะบัดน้ำกระเด็นใส่ และที่ชั้นรู้ว่าพ่อคุณเป็นตำรวจก็ดูจากนาฬิกาที่เก่ากับการแต่งตัวที่เรียบร้อย เลยเดาว่าพ่อคุณต้องเป็นคนสอนเรื่องความมีระเบียบตรงต่อเวลา และเมื่อดูจากสายตาที่มองนายตำรวจโมริที่ก็เลยเดาว่าพ่อคุณต้องเป็นตำรวจ และคุณก็นับถือนายตำรวจโมริเหมือนที่คุณนับถือพ่อของคุณ ชั้นทายถูกไม๊” หญิงสาวดื่มชาเมื่อพูดจบ “ถะถูกต้อง” นายตำรวจคนนั้นตอบก่อนจะโค้งคำนับและเดินตามนายตำรวจโมริไป ระหว่างเดินลงบันไดนายตำรวจโมริก็ถอยหายใจเบาๆ “น่าเสียดายที่เป็นถึงอัจฉริยะที่สามารถไขคดีต่างๆ ได้ แต่ตัวเองดันเป็นอำมพาตจนเดินไม่ได้เสียอย่างนั้น ความเป็นอัจฉริยะก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนซินะ” นายตำรวจโมริพูดกับนายตำรวจใหม่ระหว่างเดินขึ้นรถจากไป โดยที่หญิงสาวมองลงมาจากหน้าต่างอพาร์ทเม้นท์ชั้น2

หนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้นมา ผู้ตายทั้งหมดจะเป็นพวกที่เที่ยวกลางคืนซึ่งส่วนมากจะเป็นพนักงานบริษัทที่มาดื่มหลังเลิกงาน โดยสภาพศพคนเหล่านั้นจะถูกกรีดท้องเป็นรูปกากบาทจนไส้ไหลออกมากองพื้น จนสื่อตั้งฉายาให้กับฆาตกรนี้ว่าด็อกเตอร์เอ็กซ์เพราะมีดที่ใช้ก่อคดีนั้นคือมีผ่าตัดที่คมจนสามารถฟันได้อย่างรวดเร็ว นายตำรวจโมริและนายตำรวจใหม่คนเดิมก็มาหายูริที่เธอกำลังนั่งสีไวโอรินอยู่ในห้อง ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกองหนังสือที่เกี่ยวกับการแพทย์เมื่อทั้งสองคนเข้ามาในห้อง “รับน้ำชาไม๊คะ” หญิงแก่แม่บ้านที่เป็นคนดูแลห้องถามทั้งสองคนที่เดินมานั่งตรงโซฟา “ครับ” นายตำรวจโมริตอบขณะที่หญิงสาวก็สีไวโอรินต่อไปจนจบเพลง “ฝีมือเยี่ยมไม่เปลี่ยนเลย” นายตำรวจโมริตบมือเบาๆ “ขอบคุณ พอดีชั้นจำเป็นต้องใช้ความคิดเลยต้องสีไวโอรินช่วย ขอบคุณที่คุณเข้าใจและทนรนจนชั้นเล่นจบ ถ้าไม่อย่างนั้นชั้นคงจะคิดค้างจนไขปริศนาไม่ออกแน่ๆ” หญิงสาวยิ้มก่อนรับน้ำชามาจากหญิงแก่ “หลังจากที่ตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างที่คุณให้มา ชั้นว่าคนร้ายไม่ใช่หมอแบบที่ฝ่ายชันสูตรเข้าใจ แต่คนร้ายน่าจะเป็นคนแลเนื้อ เพราะถ้าคุณเคยดูการแลเนื้อจะเห็นว่ามีดปังตอนั้นคมไม่ต่างอะไรกับมีดหมอ แถมคมมีดยังอาบคราบเลือดเป็นประจำต่อให้ตำรวจหรือใครมาตรวจสอบก็ไม่สามารถแยกได้” ยูริเปิดวิดีโอชายคนนึงที่สามารถและเนื้อได้อย่างรวดเร็ว และคนที่คุณควรตามหาคือชายร่างเล็กที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ อาจจะเป็นพวกหน้าตาไม่สมประกอบและเรียนอยู่ที่โรงเรียนHในจังหวัดMลองหาดูน่าจะไม่ยาก” ยูริพับโน้ตบุ๊คเมื่อพูดจบ “ที่ชั้นรู้เพราะผู้ตายทุกคนเกิดหรือเคยอาศัยอยู่ที่เมืองNในที่โรงเรียนHในจังหวัดMมาก่อน เลยเดาว่าคนร้ายอาจจะมีปมความแค้นเกี่ยวกับคนเหล่านี้เลยมาแก้แค้น” เมื่อได้ข้อมูลมานายตำรวจทั้งสองคนก็รีบไปที่เกิดเหตุและจับตัวคนร้ายได้ในที่สุด

“จบไปอีกหนึ่งคดีขอบคุณที่ช่วยทางตำรวจเอาไว้ เราจะโอนเงินค่าตอบแทนไปให้เหมือนเคย” นายตำรวจโมริโทรหายูริที่กำลังจับคนร้ายร่างเล็กหน้าตาไม่สมประกอบตามที่เธอบอกทุกอย่าง “มันคือหน้าที่ของชั้นเหมือนกัน ยินดีช่วย” ยูริว่าสายโทรศัพท์ขณะที่หญิงแก่ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังก็ตบมือเบาๆ “เก่งมากเลยนะคะคุณหนูที่สามารถไขคดีได้อีกแล้ว ไม่คิดเลยว่าคุณจะเก่งขนาดนี้” หญิงแก่พูดระหว่างเดินมาหายูริที่ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนจากร่างหญิงแก่เป็นปีศาจมีปีกค้างคาวตัวสีแดงและมีเขาหน้าตาน่ากลัว “ชั้นจะไม่ยอมให้แกหลอกล่อให้คนขายวิญญาณเพื่อดึงไปนรกหรอก” ยูริยิ้มระหว่างมองปีศาจที่กำลังยืนดูเธอท่ามกลางแสงจันทร์ที่หน้าต่าง “ตราบเท่าที่ชั้นสามารถจับคนร้ายได้ก่อนที่แกจะไปทำสัญญา แกก็ไม่มีวันได้ดวงวิญญาณดวงนั้นไป” ยูริพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่เยือกเย็น “ก็ต้องรอดู วันนึงเธออาจจะพลาดไขคดีไม่ได้จนคนร้ายสามารถลอยนวลไปได้ จนจิตใจของคนๆ นั้นดำมืดเมื่อนั้นข้าก็จะไปเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้พวกมันมีชีวิตรอดไม่ถูกจับ และพอมันตาย คนๆ นั้นก็จะเสียวิญญาณให้ข้า” ปีศาจบอกกับยูริ “ไม่วันนั้นหรอก” ยูริพูดจบเธอก็สยายปีกนกสีขาวออกมาทั้งที่นั่งบนรถเข็น....จบ

 

เธอผู้นำพาความตาย

คุณเชื่อเรื่องผู้นำพาความตายไม๊ ชั้นหมายถึงคนๆ นึงที่สามารถทำให้ใครบางคนตายได้โดยที่ไม่ตั้งใจ มันเหมือนคนๆ นั้นมียมทูตสิงในตัวหรืออาจจะเป็นปีศาจที่เกิดมาก็ได้ ฟังดูมันเหมือนเรื่องแปลกแต่มันก็มีอยู่จริง ชั้นชื่อฮานะเป็นสาวน้อยวัย16ปีเศษ ชีวิตของชั้นก็เหมือนคนทั่วไปที่เกิดและเติบโตมาในครอบครัวธรรมดาเหมือนคนอื่น แต่ตัวของชั้นนั้นเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก จนชั้นต้องย้ายมาอยู่กับญาติแต่ญาติก็มาเสียชีวิตอีกด้วยอาการป่วยแบบแปลกๆ ที่หมอก็หาสามเหตุไม่ได้จนทำให้หลายคนคิดไปว่ามันต้องเป็นโรคประจำตระกูล ไม่ก็ชั้นนี่ละที่เป็นตัวซวยไปอยู่กับใครครอบครัวไหนคนนั้นก็ตาย จนสุดท้ายก็ได้มาอยู่ร่วมกับญาติห่างๆ ที่เรียกว่าห่างจนแทบไม่รู้จักกันเลย แต่ทุกคนที่นี่ก็ยินดีรับชั้นและไม่เคยคิดว่าชั้นเป็นตัวซวยเหมือนญาติคนอื่นๆ และที่นี่ชั้นก็มีเพื่อนที่เป็นลูกสาวของน้าที่เป็นคนรุ่นเดียวกันชื่อเคียวโกะ “ฮานะจังตื่นได้แล้วเดี๋ยวไปโรงเรียนสายหรอก” เคียวโกะปลุกชั้นที่กำลังหลับสบาย “ตื่นแล้วๆ” ชั้นงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอน ขณะที่เคียวโกะนั้นสวมชุดนักเรียนแล้ว ซึ่งถึงเราจะอายุเท่ากันก็เถอะแต่เคียวโกะก็ทำตัวเหมือนเป็นพี่สาวยังไงก็ไม่รู้ “แต่งตัวเร็วเข้าแม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว” เคียวโกะพูดจบก็รีบออกไปจากห้อง “จ้าจ้าคุณพี่สาว” ชั้นบ่นเบาๆ เพราะเคียวโกะเป็นผู้มีพลังเต็มเปี่ยมในการใช้ชีวิต เธอมักจะจริงจังกับทุกเรื่องที่เข้ามาตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่

“ตื่นแล้วหรอฮานะจัง” คุณน้ายิ้มทักทายชั้นด้วยรอยยิ้มที่สดใส “นี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นรู้สึกมีความสุขเพราะตั้งแต่ที่ย้ายบ้านไปมานั้น ชั้นต้องทนใช้ชีวิตเหมือนคนใช้ที่ต้องกวาดบ้านถูบ้านบางทีก็ทำอาหารให้คนที่บ้านนั้นๆ กินทุกวัน คงเพราะพ่อแม่ชั้นท่านเป็นเชฟเก่าท่านเลยสอนชั้นทำอาหารหลายเมนู พอมาอยู่ที่บ้านญาติๆ เหล่านั้นชั้นก็ถูกสั่งให้ทำอาหารให้กิน แต่สำหรับที่นี่ชั้นไม่ต้องทำอีกแล้วเพราะคุณน้าคนสวยแม่ของเคียวโกะเป็นคนทำ

“นี่ ฮานะจังเธอรู้ไม๊วันนี้ก็จะครบ 1 ปีที่เธอมาอยู่กับเราแล้ว เร็วดีเนอะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ญาติๆ ทุกคนต่างก็กลัวเธอ คิดว่าเธอคือตัวซวยที่อยู่กับใครคนนั้นก็ตาย แต่มาอยู่กับพวกเราเธอก็ปกติดี พวกคนแก่หัวโบราณไปเอง” เคียวโกะจังพูดกับชั้นระหว่างเดินไปโรงเรียน “ไงสาวๆ” ซาจิคุงขี่จักรยานทักเราสองคนด้วยรอยยิ้ม เกือบลืมคนสำคัญไปอีกหนึ่งคนนั้นคือซาจิคุงแฟนของเคียวโกะ ที่ตั้งแต่ย้ายมาซาจิคุงก็ดีกับชั้นมากๆ ชั้นรักทั้งสองคนเหมือนพี่สาวและพี่ชายตัวเองจริงๆ

“เออใช่เห็นซาจิคุงแล้วนึกได้ ฮานะจังชั้นมีอะไรจะขอร้อง” ระหว่างที่เดินอยู่เคียวโกะผู้จริงจังจับไหล่ชั้นทั้งสองข้างและต้องตาด้วยแววตาสีหน้าจริงจัง จนชั้นแอบกลืนน้ำลายลงคอ “มะมีอะไรหรอ” ชั้นถามด้วยเสียงที่สั่นเพราะคนที่จริงจังขนาดเรื่องการซื้อรองเท้าหรือปากกาที่ต้องดูการใช้งานดูคู่สีดูความเหมาะสม อย่างเคียวโกะจะมาขอร้องคนที่มีขั้วตรงข้ามแบบนี้มันเลยรู้สึกกลัว “ช่วยสอนชั้นทำอาหารทีเถอะ” เคียวโกะกลั้นใจพูดออกมาจนชั้นที่เตรียมตัวรับระเบิดอารมณ์ของเคียวโกะต้องยืนเซ็งและพูดเบาๆ ว่าเอ๋ เท่านั้น เคียวโกะหน้าแดงเมื่อชั้นงงกับสิ่งที่เธอขอ “คือแบบนี้นะ วันก่อนซาจิคุงพูดกับชั้นว่าอยากทานอาหารฝีมือของชั้นดู แต่ชั้นมันไม่มีฝีมือการทำอาหารเลย ต้องเรียกว่าห่วยถึงห่วยสุดๆ แม้จะให้คุณแม่ช่วยสอนแต่ก็ทำไม่อร่อย  พอดีชั้นรู้มาว่าพ่อแม่เธอคือเชฟทำอาหารเธอน่าจะเรียนรู้จากท่านมาใช่ไม๊ ช่วยสอนชั้นทำอาหารทีเถอะ” เคียวโกะผู้จริงจังและสมบูรณ์แบบก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน “โอเคชั้นจะสอนเธอเอง” เคียวโกะกอดชั้นแน่นด้วยความดีใจ

หลังเลิกเรียนชั้นกับเคียวโกะก็เริ่มวิชาปรุงอาหาร ชั้นสอนวิธีต่างๆ ให้เคียวโกะที่ในตอนแรกชั้นก็เป็นคนทำให้ดูก่อนที่เคียวโกะจะทำตาม ซึ่งเอาจริงๆ ชั้นเองก็ไม่ได้ทำอาหารอร่อยอะไรเลยเท่าที่ชิมฝีมือตัวเองมาหลายครั้ง แต่ทุกคนที่ได้ทานฝีมือชั้นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชั้นทำอาหารอร่อย “ไม่ได้เธอต้องหั่นผักแบบนี้ จะทำแกงกะหรี่ให้อร่อยต้องทำด้วยตัวเอง เริ่มจากหั่นเนื้อผักและใส่เครื่องปรุงลงไปเขี้ยวให้เข้ากันแบบนี้” ชั้นทำให้เคียวโกะดูสลับกับที่เคียวกะเป็นคนทำด้วย ชั้นสอนอยู่นานจนสุดท้ายก็ได้ข้าวแกงกะหรี่ที่แสนอร่อยจากฝีมือของชั้นและของเคียวโกะ “ฮานะจังถ้าไม่ได้เธอช่วยชั้นคงแย่แน่ๆ”

รุ่งขึ้นเคียวโกะก็เอาข้าวแกงกะหรี่ใส่กล่องเตรียมให้ซาจิคุง “แหมๆ ทำกับข้าวกล่องให้ซาจิคุงไม่ทำเพื่อแม่บ้างเลยนะ” คุณแม่ของเคียวโกะพูดเสียงน้อยใจ “อย่างว่าแต่คุณน้าเลยหนูก็ไม่ได้กิน” ชั้นบอกกับคุณน้าก่อนที่เคียวโกะจะเอาข้าวกล่องไปให้ซาจิคุงกินกันสองคน โดยมีชั้นแอบดูอยู่ห่างๆ “อื๊มอร่อยมากๆ ฝีมือเคียวโกะจังหรอเนี้ย” ซาจิคุงกินข้าวแกงกะหรี่หมดกล่องจนข้าวไม่เหลือซักเม็ด ขณะที่เคียวโกะก็หันมาแอบส่งนิ้วโป้งให้ชั้น ซึ่งหลังจากวันนั้นชั้นก็สอนเคียวโกะทำอีกหลายเมนูที่เน้นความน่ารักสดใสของเธอจนข้าวกล่องของเคียวโกะเป็นที่พูดถึงในโรงเรียน โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าชั้นอยู่เบื้องหลัง ซึ่งวันไหนที่ชั้นไม่ได้ลงมือช่วยอาหารก็จะไม่ค่อยอร่อยถูกปากซาจิคุง จนชั้นต้องมาเป็นคนปรุงและแนะนำทุกครั้ง ซึ่งถึงแม้ชั้นจะเกลียดการทำอาหารขนาดไหนก็ตามแต่เพื่อเคียวโกะชั้นสามารถทำได้

“เคียวโกะจังวันนี้ทำอะไรมากินหรอ” ซาจิคุงที่น่าจะดูอ้วนท้วมกับกลายเป็นคนผอมที่ปกติก็เป็นคนผอมอยู่แล้วนี่กลับผอมมากขึ้น “วันนี้มี” เคียวโกะพูดไม่ทันจบซาจิคุงก็แย่งกล่องข่าวจากมือเคียวโกะมากินอย่างคนหิวโหย “ขอโทษทีชั้นไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานที่กินข้าวของเคียวโกะ คือตั้งแต่ที่ชั้นได้กินอาหารฝีมือเคียวโกะชั้นก็ไม่อยากกินอะไรอีก มันอยากกินแค่อาหารของเคียวโกะเท่านั้น” ซาจิบอกกับเคียวโกะจนเธอมาปรึกษาชั้นเรื่องนี้ “เธอแอบใส่ยาเสน่ห์ลงไปในกับข้าวรึเปล่าซาจิคุงถึงดูผอมขนาดนี้” เคียวโกะผู้จริงจังถามชั้น “เปล่านะชั้นจะทำแบบนั้นทำไม” เคียวโกะจังไม่เชื่อชั้น รุ่งขึ้นเธอก็ไปสารภาพความจริงกับซาจิคุงว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำอาหารแต่เป็นชั้น หลังจากวันนั้นซาจิคุงกับเคียวโกะก็เลิกกัน และดูเหมือนซาจิจะมาชอบชั้นเสียอย่างนั้น ซึ่งแน่นอนว่าเคียวโกะต้องไม่พอใจแน่ๆ ชั้นจึงบอกปัดไปแบบไม่สนใจใยดีเพราะชั้นก็ไม่ได้คิดอะไรกับซาจิคุงอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากที่ชั้นบอกปัดซาจิไปเขาก็หายหน้าไม่มาโรงเรียนหลายวัน ขณะที่เคียวโกะเองก็ไม่คุยกับชั้น เราสองคนกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน

หลายวันผ่านไปซาจิคุงก็กลับมาเรียนได้ปกติ คราวนี้เขามาขอโทษชั้นที่ทำเรื่องแย่ๆ ลงไป “ขอโทษเรื่องเมื่อตอนนั้นด้วยนะ พอดีชั้นเป็นพวกถ้าชอบกินหรือถ้าได้กินอะไรที่ถูกปากจะกินแต่แบบนั้นจนไม่สนใจอย่างอื่น และชั้นก็มาเจออาหารฝีมือฮานะจังเลยติดใจอาการกำเริบ นี่ก็ให้แม่พาไปหาหมอตอนนี้หายแล้ว” ซาจิบอกกับชั้นก่อนจะไปบอกเรื่องนี้กับเคียวโกะจนเธอรู้ว่าไม่ใช่ฝีมือชั้นที่เป็นคนทำเราทั้งคู่จึงกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม

“นี่ฮานะจังคอนเสิร์ตทักกี้คุงจะจัดแล้วนะเอาไงดี” ระหว่างที่ชั้นกำลังนั่งทำรายงานเคียวโกะจังก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องด้วยน้ำเสียงตกใจ “จริงหรอ” ชั้นที่เป็นแฟนทักกี้คุงก็ดีใจมากๆ “นี่เป็นคอนเสิร์ตแรกหลังจากที่แยกจากวงมิดไนท์เลยแบบนี้ต้องไม่พลาด” ชั้นดีใจลันล๊าก่อนจะดูเงินในกระเป๋าที่แทบจะมีลมพุ่งออกมา “คงต้องหางานพิเศษทำแล้วแต่จะทำอะไรดีคอนเสิร์ตจะเริ่มเดือนหน้าแล้วด้วย” ชั้นลงไปนอนดิ้นไปมาด้วยความเจ็บใจ “เอางี้ไม๊ พอดีชั้นได้ข่าวว่าคุณป้าแม่ครั้งที่โรงเรียนเขาต้องการผู้ช่วยเธอไปสมัครดูไม๊” ชั้นตกลงรับทันทีเพราะถ้าเป็นอย่างอื่นชั้นคงไม่ถนัด รุ่งขึ้นชั้นจึงไปสมัครซึ่งด้วยเครดิตที่ซาจิคุงกับเคียวโกะจังช่วยรับรองชั้นจึงได้มาทำงานในครัวเป็นผู้ช่วย ซึ่งเคียวโกะและซาจิคุงเป็นเพียงคู่เดียวที่ไม่ขอทานอาหารของชั้น เคียวโกะให้เหตุผลว่าเธอต้องไม่กินเป็นเพื่อซาจิ เพราะเดี๋ยวถ้าอาการเขากลับมาเป็นอีกจะงานเข้า พออธิบายมาแบบนี้ถึงจะน้อยใจแต่ชั้นก็เข้าใจ หลังจากนั้นชั้นก็เริ่มงานแม่ครั้วซึ่งเอาจริงๆ งานผู้ช่วยก็ไม่ได้มีอะไรเท่าไหร่ ซึ่งชั้นก็แค่ช่วยหยิบจังนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น จนวันนึงป้าแม่บ้านที่เป็นแม่ครัวหลักป่วยกระทันหัน ชั้นเลยต้องรับหน้าที่ทำอาหารเองทุกอย่างตั้งแต่ต้นเพียงคนเดียว เพราะเหตุนี้ชั้นจึงรู้ว่าการทำงานนั้นไม่ง่ายเลย แถมปกติชั้นจะทำแค่จานเดียวแต่นี่คือทำทั้งหม้อและหลายอย่างเพื่อให้คนทั้งโรงเรียน ชั้นจึงลุยแบบสุดฝีมือเพื่อทำอาหารให้ดีที่สุด เสียงกริ่งบอกเวลาพักอาหารจึงถูกแจกจ่ายออกไปทั้งโรงเรียน ทุกคนต่างกินอาหารฝีมือชั้นอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งมีชั้นเคียวโกะและซาจิคุงที่ยืนดูด้วยความภาคภูมิใจ

“เอ๋” เคียวโกะจังอุทานออกมาเมื่อจู่ๆ เพื่อนๆ ในโรงอาหารหลายคนก็เริ่มทะเลาะกันอย่างรุนแรง ที่เริ่มจากคนไม่กี่คนจนกลายมาเป็นทั้งโรงเรียนที่ตอนนี้ต่างแย่งกันกินอาหารของชั้นเหมือนคนบ้าที่หิวโหย ทุกคนต่อสู้กันอย่างรุนจนถึงกับฆ่ากันเองก็มี ขณะที่บางคนก็ล้มลงไปชักนอนบนพื้นเหมือนถูกยาพิษ “เกิดอะไรขึ้น” ชั้นกับเคียวโกะและซาจิคุงต่างตกใจในสิ่งที่เห็น และมองมาทางชั้นเหมือนชั้นเป็นปีศาจจนพยายามเดินหนีชั้น และเมื่อทุกอย่างสงบลงตำรวจก็ตรวจสารพิษในอาหารกับเลือดทุกคนก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ รวมถึงตัวชั้นด้วย ชั้นพยายามหาคำตอบจนคิดถึงวันเวลาเก่าๆ ที่อยู่กับพ่อแม่ชั้นตั้งใจทำอาหารให้พวกท่านทาน พอมาอยู่กับญาติๆ ชั้นหงุดหงิดไม่เต็มใจทำอาหารให้ทุกคนกินทุกวัน ส่วนวันนี้ชั้นตั้งใจทำอาหารอย่างสุดกำลัง เอ หรือว่าความตั้งใจของชั้นจะเป็นพิษกัน....จบ

 

เธอคนนั้นที่หน้าต่าง

“ทาอิชิแกเชื่อเรื่องตัวตายตัวแทนไม๊” มิชิโกะเพื่อนสาวสมัยเด็กถามผมระหว่างที่เรากำลังทำรายงานในห้องของผม “ชั้นเคยได้ยินมานะที่ถนนเส้นนึงเขาว่าตรงนั้นมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยๆ ทั้งที่ตรงนั้นเป็นทางตรงธรรมดา แต่มักจะมีอุบัติเหตุไม่ก็รถชนเกิดขึ้นเสมอ จนมีคนแอบไปทำศาลเจ้าเพื่อให้วิญญาณมาอยู่ด้วย นี่ดูซิขนลุกเลย” มิชิโกะโชว์โทรศัพท์มือถือที่มีรูปศาลไม้เก่าๆ ที่อยู่ในป่าข้างถนนให้ผมดู “เค้าว่าเคยมีคนไปถ่ายคิดวิญญาณมาด้วยนะเห็นแล้วขนลุกมากๆ เป็นชั้นคงไม่กล้าผ่านถนนเส้นนั้นแน่ๆ นี่ทาอิชินายฟังชั้นอยู่รึเปล่าเนี้ย” มิชิโกะถามผมด้วยความไม่พอใจ “ฟัง แต่เราควรรีบทำรายงานให้เสร็จ เธอเองไม่ใช่หรอที่ขอจับคู่กับชั้นเพราะเราอยู่อพาร์ทเม้นท์เดียวกันเลยไม่ต้องไปหากันไกลแบบคู่อื่น รีบทำรีบไปได้แล้วชั้นไม่มีเวลามาฟังเรื่องผีของเธอหรอกนะ” ผมรีบตัดบทเพราะไม่อยากยุ่งกับยัยนี่มากนัก เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมายัยนี่ก็ชอบแวะมาเล่าเรื่องผีไม่ก็ส่งรูปแปลกๆ มาให้ดูจนผมถูกเพื่อนๆ มองว่าเป็นพวกเชื่อเรื่องผีแบบยัยนั่นไปด้วย “ก็ได้ๆ “ มิชิโกะบ่นออกมาก่อนจะทำรายงานต่อ

เราสองคนทำรายงานจนเย็นมิชิโกะก็กลับห้องของตัวเองไป ผมที่ส่งยัยมิชิโกะเรียบร้อยก็มาที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่บนชั้น24ของอพาร์ทเม้นท์ย่านชาญเมือง ซึ่งในห้องของผมก็เหมือนห้องเด็กผู้ชายทั่วไปแต่ที่แปลกไปกว่าคนอื่นก็คือห้องของผมจะปิดผ่านม่านเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อจะได้ซ่อนกล้องดูดาวที่ผมไม่ได้เอาไว้ดูดาว แต่เอาไว้แอบส่องดูผู้คนในตึกต่างๆ ซึ่งเป็นงานอดิเรกของผม เพราะการได้แอบส่องดูชีวิตผู้คนมันคือความสนุกที่แปลกใหม่ เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าวันนี้เราจะได้เจอกับอะไรในอพาร์ทเม้นท์ตามตึกต่างๆ อย่างวันนี้ผมเห็นสาวสวยออกมารดน้ำต้นไม้ที่ระเบียง ที่ตึกถัดไปไอ้เด็กชายติดเกมก็ยังคงนั่นที่อยู่ที่เดิม ส่วนครอบครัวที่ห้องนั้นก็มีความสุขมากๆ ทุกที่ทุกห้องล้วนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง แต่ก็มีอยู่ห้องหนึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษที่อพาร์ทเม้นท์ตึกHฝั่งตรงข้ามไม่ไกลจากตึกผม “วันนี้ก็มายืนอีกแล้ว“ ผมพูดกับตัวเองเมื่อเห็นหญิงสาวสวยมายืนที่หน้าต่างอพาร์ทเม้นท์ เธอมักจะสวมเสื้อซ้ำๆ กันบางวันก็ชุดกระโปรงบางวันก็เสื้อยืดกางเกงขาสั้นบางทีก็มัดผมบางทีก็ปล่อยผมยาว แต่สิ่งที่แปลกก็คือเธอคนนั้นจะยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนอยู่แบบนั้นเป็นชั่วโมง การยืนของเธอนั้นเหมือนกำลังส่ายสายขยับหัวมองไปยังที่ต่างๆ เหมือนที่ผมกำลังแอบมองผู้คน แต่ทางผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ใช้กล้องดูดาวแบบผม และทุกวันเมื่อผมมีเวลาว่างก็มักจะเห็นเธอมายืนอยู่ จนบางครั้งก็เคยตั้งกล้องมือถือถ่ายดูว่าเธอคนนั้นจะยืนอยู่นานแค่ไหน ซึ่งก็ปรากฏว่าเธอนั้นยืนอยู่นานมากๆ ก่อนจะเดินหายไปในห้อง ซึ่งสำหรับคนทั่วไปคงไม่มีใครสนใจจะมายืนดูผู้หญิงที่ยืนที่หน้าต่างแบบผมหรอก

แต่แล้ววันนึงมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อจู่ๆ เธอคนนั้นที่ยืนตรงหน้าต่างก็หันมาทางผมเหมือนเธอจะรู้ว่าผมกำลังดูเธออยู่ สายตาของเธอที่มองผมในตอนนั้นเลนเอาผมตกใจแอบล้มลงหงายท้อง เพราะแววตาที่เธอคนนั้นมองมามันช่างดูน่ากลัวเหมือนสายตานั้นจะบอกผมว่ามายุ่งอะไรกับเรื่องของชั้นอะไรแบบนั้นอยู่เลย ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นผมก็สะบัดภาพของเธอคนนั้นไปไม่ได้  สายตาของเธอคนนั้นแม้จะดูแข็งกร้าวแต่ในส่วนลึกในแววตาของเธอนั้นมันกลับมีความเศร้าแอบแฝงอยู่ “นี่ทาอิชิวันนี้ชั้นมีเรื่องผีมาเล่าสนใจฟังไม๊” ยัยมิชิโกะมากวนผมอีกแล้ว เพราะผมเป็นคนเดียวที่ทนฟังเธอเล่าเรื่องไร้สาระได้ ยัยนั่นเลยมาคุยกับผมมากว่าเพื่อนคนอื่น “ชั้นมีเรื่องเล่าสยองเกี่ยวกับอพาร์ทเม้นท์ที่ตึกHด้วยละสนใจฟังไม๊” สิ่งที่ยัยมิชิโกะพูดมันไปสะดุดความคิดผม “ตึกHที่ว่าคือตกที่อยู่ตรงข้ามตึกเราใช่ป่ะ” ผมถามด้วยความสนใจ “ชะใช่ ทำไมนายสนใจหรอ เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟัง” ยัยมิชิโกะมีท่าทางดีใจเมื่อเห็นผมสนใจในสิ่งที่เธอพูด “ที่ตึกHชั้น13ห้อง0313เค้าว่าพอมีใครไปอยู่ที่นั่นตะต้องมีคนตายเสมอ แต่ไม่ได้ตายในห้องหรอกนะ แต่ทั้งหมดจะตายที่อื่นแต่เขาก็เล่ากันว่าดวงวิญญาณจะมาอยู่กันที่นั่น ตอนกลางคืนก็จะเห็นคนมายืนตรงหน้าต่างเค้าว่าเป็นวิญญาณของคนที่เคยอยู่ที่นั่นแต่ถูกกักวิญญาณเอาไว้” ผมฟังยัยมิชิโกะเล่าอย่างตั้งใจและพยายามคิดว่าห้องที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่จะเป็นชั้นที่เท่าไหร่ แต่ยิ่งนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก “เย็นนี้เราไปดูกันไม๊” ผมชวนยัยมิชิโกะ “เอาดี๊น่าสนใจ”

หลังเลิกเรียนเราสองคนก็มาที่อพาร์ทเม้นท์ตึกHที่อยู่ตรงข้ามตึกของเรา ที่นี่แม้จะมียามเฝ้าทางเข้าออก แต่เราก็สามารถเข้ามาได้เพราะยามที่ดูแลที่นี่ก็รู้จักพวกเราเป็นอย่างดีเพราะทั้งสองตึกนั้นคือโครงการเดียวกัน “นี่ก่อนจะเข้าไปที่นั่นถามลุงยามก่อนไม๊ว่าห้อง0313มีจริงรึเปล่า” ยัยมิชิโกะพูดกับผม ก่อนที่ผมจะไปถามลุงยามที่เฝ้าอพาร์ทเม้นท์ “อ๋อเรื่องเล่าชั้น13ห้อง0313อีกแล้วหรอ”  ลุงยามหัวเราะออกมา “มันมีที่ไหนเรื่องเล่าแบบนั้น นั่นมันแค่นิยายในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น นั่นเป็นแค่ห้องเปล่าๆ ไม่มีใครไปอยู่หรอก เธอก็รู้ว่าเลข13มันเลขไม่ดีขนาดชั้นที่13ทางอพาร์ทเม้นท์ยังใช้คำว่า12Aแทนเลขชั้น13เลย” ลุงยามพูดกับผม ขณะที่ตอนนั้นเองก็มีหญิงสาวคนนึงเดินผ่านพวกเราไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่เราอยู่ ซึ่งเธอคนนั้นช่างเหมือนหญิงสาวที่หน้าต่างมากๆ “สวัสดีครับคุณมิโดริ” ลุงยามตะโกนทักทายขณะที่หญิงสาวก็ยิ้มและโค้งคำนับให้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก จนเมื่อแยกย้ายกับยัยมิชิโกะผมก็รีบมาใช้กล้องส่องดูเธอคนนั้นทันที ซึ่งตอนนี้เธอคนนั้นก็สวมชุดเดียวกันไม่ซิเธอคนนั้นเหมือนกับคุณมิโดริมากๆ และเธอก็กำลังยืนที่หน้าต่างที่เดิมแต่คราวนี้เธอไม่ได้มองมาทางผม แล้ว และคราวนี้ผมก็ไม่พลาดที่จะนับชั้นที่หญิงสาวอยู่ซึ่งก็คือชั้น13แต่ห้องที่เท่าไหร่ไม่รู้แต่ก็เดาว่าน่าจะเป็นห้อง0313อย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็ตีได้สองสามความหมาย นั่นคือหนึ่งห้องนั้นเป็นห้องผีสิงแต่ลุงยามโกหกพวกเรา หรือสองนั่นอาจจะไม่ใช่ห้อง0313ก็ได้แต่ทำไมเธอคนนั้นถึงหน้าเหมือนกันชุดเหมือนกันนั่นกับคุณมิโดรินั่นคือสิ่งที่ผมสงสัยและพยายามหาคำตอบ

เย็นวันอาทิตย์ผมที่เดินกลับมาจากร้านสะดวกซื้อก็ถูกยัยมิชิโกะเรียกที่สวนสาธารณะ “นี่ทาอิชิชั้นมีเรื่องแปลกๆ มาเล่าละ นายจำคุณมิโดริที่เจอเมื่อวันนั้นได้ป่ะ เมื่อวานตอนชั้นพาน้องชายไปเล่นที่สวนสาธารณะชั้นได้ยินป้าๆ แถวนั้นพูดกันว่าคุณมิโดริมีท่าทางแปลกๆ เมื่อก่อนเธอจะเป็นคนร่าเริงดูเป็นมิตร แต่ตอนนี้เธอแทบไม่คุยกับใครเลย วันๆ เอาแต่อยู่ในห้องนานๆ จะออกมาข้างนอก พอไปเคาะประตูเรียกเพื่อรับจดหมายเวียนหรือแจ้งเอกสารก็ไม่ยอมออกมา ทุกคนเลยไม่ค่อยชอบเธอเลย นายคิดว่ามันเกี่ยวกับห้อง0313ไม๊” ยัยมิชิโกะพยายามจะโยงไปที่เรื่องลี้ลับ และตอนที่เรากำลังยืนคุยกันคุณมิโดริก็เดินผ่านมาพอดีจนเราสองคนต้องรีบหยุดพูด เธอคนนั้นมองมาทางผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ต่างกับแววตาที่ผมเห็นที่หน้าต่างซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกอยากรู้คำตอบจริงๆ ว่ามันคืออะไร

“นี่ทาอิชินายจะไปไหน” ผมที่เก็บความอยากรู้และสงสัยไม่ไหวจึงรีบไปที่ตึกHเพื่อหาคำตอบ ซึ่งชั้นที่ผมจะไปนั่นคือชั้นที่13ห้อง0313โดยการแอบลุงยามเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งที่ก็มีคนอยู่อาศัยตามปกติ ผมขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น13และหาของ0313จนเจอ ผมกลั้นใจเล็กน้อยก่อนจะบิดกลอนประตูแต่มันกลับล็อคจากข้างใน แปลว่าต้องมีคนอยู่ที่นี่แน่ๆ เมื่อเป็นแบบนั้นผมจึงจะเดินกลับมา แต่เพียงไม่กี่ก้าวที่ผมเดินออกมาประตูห้องนั้นก็เปิดออกมา ซึ่งคนที่เปิดออกมานั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่มันคือตัวผมเอง ไม่ซิคนที่เหมือนผมมากกว่าทั้งการแต่งตัวหน้าตาความสูง ผมยืนงงอยู่นานว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่นายคนนั้นที่เหมือนผมก็จับผมผลักเข้าไปในห้อง0313และปิดประตูใส่ “เฮ้ยเปิดประตูนะ” ผมพยายามทุบประตูแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ “อย่าพยายามเลยค่ะมันเปิดไม่ได้หรอก” เสียงหญิงสาวคนนึงบอกกับผมเธอคนนี้คือคุณมิโดริ “ชั้นเองก็ถูกขังเหมือนคุณ ตอนที่ชั้นเห็นตัวเองที่หน้าต่างห้องนี้ พอชั้นมาถึงที่นี่ชั้นก็ถูกตัวเองดึงเข้ามาในนี้ ส่วนตัวชั้นที่อยู่ในนี้ก็ใช้ชีวิตเป็นชั้นแทน” คุณมิโดริพาผมมาดูตัวเธอที่อพาร์ทเม้นท์ฝั่งตรงข้ามที่เห็นตัวคุณมิโดริกำลังเต้นท่าแปลกๆ เหมือนคนไม่มีกระดูกที่หน้าต่าง ขณะที่ห้องของผมตอนนี้ผ้าม่านได้เปิดออกและเห็นตัวผมที่ยืนมองมาจากอพาร์ทเม้นท์ และในห้องผมก็มียัยมิชิโกะที่เข้ามาหาคนที่เหมือนผม ขณะที่หมอนั่นก็ชี้มาทางผมกับคุณมิโดริที่ตึกH ก่อนที่ยัยนั่นจะทำท่าตกใจกลัวชายคนนั้นและวิ่งหนีมา “รึว่ายัยมิชิโกะจะมาที่นี่” ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ ขณะที่หน้าประตูห้อง0131ก็กำลังก่อร่างของยัยมิชิโกะขึ้นมาเพื่อเตรียมเอาเธอมาอยู่ในนี้และมันจะออกไปใช้ชีวิตแทน.....จบ

เนื้อหาโดย: yongyee
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
yongyee's profile


โพสท์โดย: yongyee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568หนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นแสงปริศนาโผล่เหนือท้องฟ้าทั่วไทย ไม่ใช่ต่างดาว!..เฉลยแล้วคืออะไร ?คนดูยังท้อ!! หนุ่มทำคอนเทนต์ตามล่า “ ช็อกโกแลตดูไบ” ในเซเว่น หาทั้งจังหวัด 23 สาขา ก็ยังไม่มี แต่สุดท้ายได้ลองสมใจThe Bloop เสียงลึกลับใต้ทะเลที่ไม่สามารถอธิบายได้วิธีล้างผักให้สะอาดปราศจากสารพิษตกค้างเตโอตีวากาน (Teotihuacan) กับตำนาน วันสิ้นโลก เมืองโบราณที่ไม่รู้ใครสร้างเลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 2 มกราคม 68 มาแล้ว!..อยากรวย มาส่องกันเลย!!สัมภาษณ์ "ลูกนัท" ยูทูปเบอร์รุ่นแรกๆสุดอลังการ! งานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทดัง จัดเต็มกว่า 1,500 โต๊ะ พร้อมโชว์สุดปังจากศิลปินดังสาวประเภทสอง ถูกแฟนเก่าทิ้ง ไปมีหญิงใหม่ ยัดเยียดลูกให้เลี้ยงไม่งั้นฟ้อง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โอ้ยตูจะบ้า!! หนุ่ม grab car ไปส่งลูกค้าสาวที่บ้าน เจอแม่ของลูกค้าวีนฉ่ำถาม “มึงเป็นอะไรกับลูกกู”หนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นสาวประเภทสอง ถูกแฟนเก่าทิ้ง ไปมีหญิงใหม่ ยัดเยียดลูกให้เลี้ยงไม่งั้นฟ้องสุดอลังการ! งานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทดัง จัดเต็มกว่า 1,500 โต๊ะ พร้อมโชว์สุดปังจากศิลปินดัง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบโบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปียเขาพระวิหาร: สัญลักษณ์แห่งความงดงามและความขัดแย้งภาพสุดท้าย
ตั้งกระทู้ใหม่