ประโยชน์ของลูกเกด
ลูกเกด (Raisin) คือ ผลองุ่นที่นำไปตากแห้ง ด้วยวิธีการผึ่งแดด การผึ่งลม หรือ อบแห้งด้วยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ลักษณะของลูกเกดจะเป็นวงรีเล็ก ๆ มีทั้งลูกเกดสีเหลืองทอง หรือ ลูกเกดสีดำ รสชาติหวาน ซึ่งเกิดจากน้ำตาลฟรักโทสทีเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว สามารถดูดซึมในร่างกายได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย
คุณค่าทางโภชนาการ
ลูกเกดประกอบด้วยน้ำตาลมากถึง 72% ของน้ำหนักซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำตาล ฟรุกโตส และ กลูโคส มีโปรตีนประมาณ 3% ใยอาหาร 3.7– 6.8% ลูกเกดก็เหมือนพรุน และ แอปริคอท อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แต่มีวิตามิน C น้อยกว่าองุ่นสด ลูกเกดมีโซเดียมต่ำ และ ไม่มีคลอเลสเตอรอล
ประโยชน์ของลูกเกด
1.ช่วยย่อยอาหาร มีไฟเบอร์ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เป็นยาระบายอ่อน ๆ
2.ป้องกันโรคโลหิตจาง ธาตุเหล็ก ทองแดง และ วิตามิน ในลูกเกดมีคุณสมบัติช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
3.ป้องกันโรคมะเร็ง ลูกเกดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้สดบางชนิด ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเซลล์ในร่างกาย เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ และ ระบบ DNA ในร่างกายถูกทำลาย ลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ
4.บำรุงสายตา ช่วยปกป้องเซลล์ในดวงตาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ เช่น จอประสาทตาเสื่อม
5.เสริมภูมิคุ้มกัน ลูกเกดมีแคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซี และ สารต้านอนุมูลอิสระอย่าง โพลีฟีนอล ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ ต้านการอักเสบ เชื้อแบคทีเรีย และ ยังป้องกันความเสียหายของเซลล์เม็ดเลือดขาว อันมีหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกาย
6.ลูกเกดมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ มีคุณสมบัติช่วยรักษาเซลล์ผิวให้อ่อนเยาว์ ช่วยยับยังการเกิดโรคความเสื่อมทั้งหลาย รวมทั้งชะลอความแก่ได้ เสริมผิวให้แข็งแรง เปล่งปลั่ง
7.ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ การศึกษาใน Postgraduate MedicineTrusted Source ระบุว่า การกินลูกเกดเป็นประจำอาจช่วยลดปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ และ หลอดเลือด เช่น อัตราความดันโลหิต เนื่องจากลูกเกดมรโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยให้หลอดเลือดผ่อนคลาย
8.ลูกเกดมีน้ำตาลฟรักโทส สามารถดูดซึมได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยทางเดินอาหาร เบาหวาน และ คนทุกวัย ที่สำคัญยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มมากเท่ากับแป้ง และ น้ำตาล
9.ลูกเกดช่วยป้องกันฟันผุ ลูกเกดจะมีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นตัวการทำให้เกิดฟันผุ และ โรคเหงือก เพราะน้ำตาลฟรักโทสที่อยู่ในลูกเกดไม่เหมือนกับน้ำตาลทราย ที่เมื่อรวมตัวกับแบคทีเรียในช่องปาก จะทำให้เกิดกรดแลกติกที่ทำให้เกิดโรคฟันผุได้
อย่างไรก็ดีประโยชน์จากการกินลูกเกดเพียงมีส่วนช่วยบางส่วนเท่านั้น การที่จะมีสุขภาพที่ดี ควรกินลูกเกดในปริมาณที่พอเหมาะ กินอาหารให้ครบห้าหมู่เป็นหลัก และ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ