หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้นกรุงเทพเมืองซอมบี้ ตอนที่ 14 เด็กหญิงผู้รอดชีวิต

เนื้อหาโดย yongyee

           บนถนนสายเปลี่ยวท่ามกลางแสงแดดอันร้องระอุของช่วงเที่ยงวัน ช่วยหนุ่มวัย25สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเขียวมีหมวกฟางเก่าๆอยู่บนหัวไว้กันแดด สวมแว่นตาดำกางเกงขายาวขาดๆ สะพายกระเป๋าเป้ที่มีด้ามมีดสีดำโผล่ออกมาทางด้านข้าง

 

           เขากำลังก้มหน้าก้มตาเดินอยู่คนเดียวกลางถนน สองข้างทางที่เขาเดินไปนั้นมีแต่ความว่างเปล่าของทุ่งนาที่ถูกทิ้งร้าง ต้นข้าวที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยงกำลังแห้งตายคาต้นเป็นสีเหลืองกรอบเต็มท้องทุ่งนา

 

           ชายหนุ่มเดินผ่านศพชายคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นศพชาวนา ที่นอนขาดครึ่งท่อนแห้งตายอยู่ข้างถนน โดยที่เขาไม่ใส่หรือหวาดกลัวศพที่นอนอยู่นั่นแม้แต่น้อย

 

           "ในความคิดของคุณ โลกใบนี้เป็นอย่าง....???? สำหรับผมมันก็แค่ก้อนดินกลมๆที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ นั่นคือการตอบแบบสร้างภาพให้ดูดีถ้ามีคนมาถาม เพราะถ้าเราตอบไปแบบนี้ เราจะดูเป็นคนทีมีความรู้และมีแง่คิดขึ้นมาทันที แต่ถ้าให้ตอบแบบไม่สร้างภาพผมก็จะบอกว่า โลกใบนี้นั้นโคตรจะงี่เง่า!!! สังคมมนุษย์ก็โคตรงี่เง่า!!! ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูงี่เง่าไปหมด....!!!! แม้แต่ตอนนี้ที่มีแต่พวกซากศพเดินได้ มันก็ยังดูงี่เง่าอยู่ดี!!!!" ชายหนุ่มเดินผ่านซากรถรถสปอร์ต เฟอร์ร่ารี่สีแดงสุดหรู ที่จอดทิ้งเอาไว้ข้างทางในสภาพถูกไฟไหมครึ่งคัน พร้อมกับเจ้าของรถที่นั่งตัวดำเป็นตอตะโกตายคารถ2ศพ

 

          "อาจจะฟังดูรุนแรงไปที่ผมพูดออกไปแบบนั้น แต่มันคือความจริงที่เราไม่อาจจะหลีกหนีไปได้ ทั้งสภาพแวดล้อมและสภาพสังคมที่เราอยู่ ล้วนแล้วแต่งี่เง่าและเต็มไปด้วยการแข่งขันทั้งนั้น ผมเองก่อนหน้าที่โลกใบนี้จะเต็มไปด้วยผีดิบซอมบี้ไล่กินคน ผมก็เคยเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ต้องแข่งขันเพื่อที่จะเอาตัวรอดในสังคม" ชายหนุ่มเจอรถกระบะเก่าๆคันหนึ่งจอดทิ้งอยู่ในภาพดี เขาจึงรีบเดินไปดูว่ามันยังใช้ได้ไหม แต่เมื่อไปถึงเขากลับพบศพนอนไส้ทะลักแมลงวันตอมหึ่งหนอนขึ้นเต็มรถ จนเขาต้องรีบเดินออกมาเพราะกลิ่นเหม็นสุดทน

 

            "เราต้องแข่งขันกันเรียนเพื่อเกรดสูงๆ อนาคตจะได้มีงานที่ดีรายได้ที่มั่นคง จะได้มีเงินซื้อเสื้อผ้าดีๆรถหรูๆนาฬิกาแบรนด์เนมและมีหน้ามีตาในสังคม พ่อแม่เองก็จะภูมิใจเอาไปพูดอวดคนอื่นได้ แถมไปจีบสาวก็ติดง่ายๆโดยไม่ต้องพึ่งหน้าตา ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ต้องแข่งขันแย่งชิงเพื่อที่จะได้สิ่งเหล่านี้" ชายหนุ่มเดินผ่านเป๋าเงินที่ตกอยู่บนพื้นโดยไม่สนใจแม้แต่จะหยิบดู

 

            "ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นหลงไปกับกระแสเหล่านั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะกว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นพนักงานออฟฟิศ นั่งหาวจ้องนาฬิการอเวลาเลิกงานไปเสียไปแล้ว" ชายหนุ่มหยิบน้ำที่อยู่ในกระเป๋าเป้ออกมาดื่มระหว่างเดิน "ต้องนั่งทำงานจ้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์วันล่ะ6ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ทำงานพลาดส่งงานช้าก็ถูกด่า ไม่เคยก้าวหน้าไปกว่าพนักงานกินเดือนทั่วไป ส่วนเงินในแต่ล่ะเดือนก็หมดไปกับค่าเช่าห้องและค่ากินจนแทบไม่เหลือเก็บ ยิ่งเรื่องสาวๆยิ่งไม่ต้องคิด เพราะไม่ใช่เป็นคนหน้าตาดีจึงไม่มีสาวๆคนไหนมาสนใจ ต้องเป็นระดับผู้จัดการเท่านั้นสาวออฟฟิศถึงจะสน"

 

           ชายหนุ่มเดินต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายบนถนน โดยที่ไม่เจอใครเลยนอกจากศพคนตาย

 

           "แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบลง เมื่อจู่ๆก็มีซอมบี้จากไหนไม่รู้ วิ่งเข้ามาในออฟฟิศกัดคนนั้นคนนี้จนกลายเป็นพวกเดียวกับมัน ไอ้เราที่ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไรก็ได้แต่หนี หนี หนี แล้วก็หนี จนมารู้สึกตัวอีกทีก็เดินอยู่บนถนนสายนี้เสียแล้ว ระหว่างทางก็เก็บของกินเท่าที่หาได้ตามร้านขายของ ต้องฆ่าซอมบี้ที่จะเข้ามากินไปหลายตัว ต้องวิ่งหนีต้องซ่อนต้องแอบเพื่อเอาตัวรอดมาตลอด และตั้งแต่หนีมายังไม่เจอใครเลยแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะไปที่ไหนต่อ" ชายหนุ่มเดินอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งเห็นปั๊มน้ำมันเชลล์อยู่ไกลๆ

 

             "หวังว่าจะมีรถกับของที่กินได้อยู่นะ" ชายหนุ่มบ่นออกมาดังๆด้วยความเหนื่อยและหิวกระหาย

 

             ระหว่างทางก่อนเดินไปถึงปั๊มน้ำมัน ชายหนุ่มก็เดินผ่านรถหลายสิบคันที่จอดทิ้งเอาไว้ในสภาพที่ไหม้ไฟอยู่บนถนน

 

             "ตอนที่เกิดเรื่องที่นี่คงจะวุ่นวายพอดู" ชายหนุ่มนึกในใจระหว่างเดินผ่านซากรถที่จอดทิ้งเอาไว้ และด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาจึงหยิบมีดพร้าเล่มยาวสีดำที่ใช้ตัดต้นไม้ มาไว้ในมือเพื่อเตรียมพร้อม

 

             เมื่อเดินเข้ามาถึงในปั๊มเขากลับพบแต่ร่องรอยของความเสียหาย ที่เกิดจากการระเบิดของปั๊มแห่งนี้เมื่อหลายวันก่อน ที่แห่งนี้แต่แต่ความเสียหายและซากศพที่นอนชิ้นส่วนกระจัดกระจายและเน่าเหม็นเพราะแรงระเบิด

 

             "คงจะมีคนมาหาน้ำมันในนี้ แล้วคงถูกซอมบี้ไล่กัดจนเมื่อไม่มีทางรอด ก็เลยระเบิดตัวเองตายไปพร้อมๆกัน คิดแล้วสยอง" ชายหนุ่มบ่นออกมาเบาๆระหว่างเดินสำรวจที่มินิมาร์ทเพื่อหาอาหาร และที่หน้าร้านมีรถเก๋งยี่ห้อวีออสสีขาวจอดอยู่ สภาพของรถนั้นดูใหม่และไม่ร่องรอยของการระเบิด คิดว่าคงจะมาจอดหลังจากการระเบิดไปแล้ว

 

              ชายหนุ่มเดินดูภายในรถที่ยังมีกุญแจเสียบเอาไว้ แต่รถถูกล๊อคจากด้านในไม่สามารถเปิดได้ แต่โชคยังดีที่กระจกรถนั้นเปิดออกมาเล็กน้อย พอที่จะเอื้อมมือลงไปกดตัวล๊อคได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

 

              "อีกนิดเดียว.....อีกนิดเดียว!!!" ชายหนุ่มบอกกับตัวเองระหว่างกำลังเอื้อมือลงไปกดปุ่มเพื่อล๊อครถ จนสามารถเปิดได้ในที่สุด

 

              "ต้องแบบนั้นซิ!!!" ชายหนุ่มอุทานออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบเข้าไปนั่งในรถและรีบบิดกุญแจสตาร์ทรถทันที

 

             เสียงเครื่องยนต์ทำงานได้เป็นปกติ สร้างความดีใจให้กับชายหนุ่มเป็นอย่างมาก เขาเช็คเกจ์น้ำมันว่ามีอยู่เท่าใดเพื่อความแน่ใจ โดยลืมที่จะเช็คดูที่ด้านหลังว่ามีอะไรรึเปล่า

 

             ระหว่างนั้นเองที่เบาะหลังก็มีความเคลื่อนไหวอยู่โดยที่เขาไม่รู้ตัว....

 

             "กึกกัก...!!!" ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังดีใจนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างอยู่ที่เบาะด้านหลัง

 

             ชายหนุ่มกลืนน้้ำลายเล็กน้อย เขากำมีดพร้าในมือจนแน่นเพื่อเตรียมพร้อมรับสิ่งที่จะอยู่ข้างหลังอย่างไม่รอรี

 

             "1 2 3!!!" ชายหนุ่มนับในใจก่อนจะรีบหันไปที่ด้านหลังทันที

 

             "!!!!" ชายหนุ่มที่หันไปรู้สึกใจหายสุดขีด เมื่อเขาเห็นเด็กผู้หญิงผมยาวในชุดกระโปรง อายุราวๆ7ขวบกำลังนั่งจ้องหน้าเขาอยู่ที่หน้ารถด้วยแววตาที่ไร้เดียงสา

 

            "เอ่อ....หนูมากับใครหรอ" ชายหนุ่มถามเด็กหญิงที่นั่งจ้องหน้าเขา

 

            "......." เด็กหญิงไม่ตอบ เธอเอาแต่มองหน้าเขา

 

            "หนูชื่ออะไรจ๊ะ!!!" ชายหนุ่มพยายามสื่อสารกับเธอ

 

            "..........." เด็กหญิงไม่ตอบเธอเอาแต่จ้องหน้าเขา

 

            "หนูมากับแม่ใช่ไหม???" เขาถามต่อ

 

            เด็กหญิงพยักหน้า ดูเหมือนเธอจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

 

            "แล้วแม่ไปไหน" ชายหนุ่มถามอีกครั้ง

 

            เด็กหญิงชี้ไปที่มินิมาร์ทแทนคำตอบ

 

            "งั้นหรอ แม่หนูอยู่ที่นั่น งั้นเดี๋ยวพี่ไปตามให้นะ" ชายหนุ่มรู้สึกทั้งดีใจและทุกข์ใจไปพร้อมๆกันอย่างบอกไม่ถูก ใจหนึ่งของเขาก็ดีใจที่ได้พบรถที่สามารถขับได้ แต่อีกใจหนึ่งก็คือความหนักใจที่เจ้าของรถเป็นผู้หญิงกับเด็กน้อย ลำพังตัวเขาเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอดบนโลกที่มีแต่ซอมบี้ แต่ตอนนี้เขาต้องดูแลผู้หญิงกับเด็กอีกสองชีวิต ซึ่งเป็นภาระที่หนักพอดูในความคิดของเขา

 

             ชายหนุ่มมองหน้าเด็กสาวที่กำลังนั่งกินขนมอยู่ในรถ โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรที่มีคนแปลกหน้าอย่างเขาอยู่ในรถ

 

            "เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน!!!" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงๆก่อนจะเดินออกมาจากรถ เขาตัดสินใจที่จะขอร่วมทางไปกับสองแม่ลูก ดีกว่าจะต้องมาเดินอยู่คนเดียวแบบนี้

 

            "รออยู่ในนี้อย่าออกไปไหน เดี๋ยวพี่ไปตามแม่ของหนูก่อนนะ" ชายหนุ่มบอกกับเด็กน้อยในรถก่อนจะปิดประตูรถและเดินเข้าไปในนิมิมาร์ท

 

            "มีใครอยู่ไหม!!!" ชายหนุ่มถือมีดพร้าเดินเข้าไปในร้านมินิมาร์ทอย่างช้าๆ ในนี้มีร่องรอยของการระเบิดและความเสียหายจนกระจกหน้าร้านแตก และมีซากศพหลายศพนอนตายเน่าอยู่ในนี้

 

             ชายหนุ่มดูตามชั้นวางของที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรที่พอจะกินได้เลย แม้แต่ในตู้แช่ก็ไม่มีน้ำสักขวดในนั้น และในนี้ก็ไม่พบใครเลยนอกจากศพคนตายจากแรงระเบิด

 

           "อาจจะอยู่ด้านใน" ชายหนุ่มพูดกับตัวเองก่อนจะหยิบไฟฉายออกมาจากกระเป๋า และเดินไปที่หลังร้านอย่างช้าๆ

 

          "ก๊อกๆ!!!มีใครอยู่ไหม ตอบด้วย!!!" ชายหนุ่มพูดขึ้นมาระหว่างเปิดประตูและส่องไฟฉายเข้าไปหลังร้าน

 

          "มี....!!! อยู่ทางนี้คะ ช่วยด้วย!!!" เมื่อชายหนุ่มพูดไปก็มีเสียงหญิงสาวตอบกลับมา แต่เป็นเสียงที่ค่อนข้างอ่อนแรง

 

          ชายหนุ่มส่องไฟฉายไปมาในนี้อย่างรีบร้อน เมื่อได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ จนพบหญิงสาววัย30ปลายๆในมือของเธอมีปืนและแผลถูกกัดที่แขน ไม่ไกลจากเธอก็มีศพของซอมบี้นอนตายอยู่สองตัว

 

         "คุณเป็นแม่ของเด็กในรถใช่ไหมครับ!!!" ชายหนุ่มรีบเดินมาถามหญิงสาวทันทีด้วยความเป็นห่วง

 

         "แค่ก!!! แค่ก!!! ขอบคุณสวรรค์ที่มีคนผ่านมาพอดี" หญิงสาวยิ้มออกมาระหว่างไอเมื่อพูดกับชายหนุ่ม

 

        "คุณบาดเจ็บ!!! ผมต้องพาคุณออกไปจากตรงนี้!!!" ชายหนุ่มพยายามจะพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นแต่เธอฝืนเอาไว้

 

        "อย่าดีกว่าคะ ฉันถูกพวกมันกัดตอนที่เข้ามาในนี้ ไม่นานฉันก็คงจะเป็นแบบพวกนั้น " หญิงสาวโชว์รอยแผลที่ถูกกัดให้ชายหนุ่มดู "ยังไงฉันก็คงไม่รอดแล้ว โชคดีที่มีคุณผ่านมาพอดี อาจจะดูเป็นการสร้างภาระให้ แต่ฉันขอฝากลูกสาวไว้กับคุณได้ไหมคะ ถือว่าเป็นการสั่งเสียครั้งสุดท้ายของคนใกล้ตาย แค่ก แค่ก!!!" หญิงสาวไออย่างรุนแรง "อีกไม่นานฉันก็คงจะกลายเป็นซอมบี้ ตอนนั้นฉันอาจจะทำร้ายลูกสาวตัวเองก็เป็นได้ และฉันก็คงไม่อยากจะทำแบบนั้นแม้ตัวเองจะไม่มีสติแล้วก็ตาม!!!" หญิงสาวน้ำตาไหลเมื่อพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

 

       ชายหนุ่มอ่ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก เขารู้สึกเหมือนถูกมัดมือชก ซึ่งเขาแทบไม่มีทางที่จะปฎิเสธได้เลยแม้แต่น้อย

 

        "ครับผมสัญญา" ชายหนุ่มรับคำแม้จะไม่เต็มใจ

 

        "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเธอสามารถฝากชีวิตลูกสาวไว้กับคนอื่นที่ไม่รู้จัก ซึ่งอย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยเด็กน้อยที่ช่วยตัวเองไม่ได้ต้องอยู่คนเดียว

 

        หญิงสาวส่งถุงอาหารที่หามาได้ให้ชายหนุ่ม พร้อมกับปืนที่ยังพอมีกระสุนอยู่

 

        "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้คุณขับรถออกไปจากที่นี่แล้วไม่ต้องกลับมาอีก คุณทำได้ไหมคะ..." หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยน้ำตา

 

        "แต่...." ชายหนุ่มจะพูดบางอย่างแต่หญิงสาวกลับไอรุนแรงมากขึ้นจนน่าเป็นห่วง

 

        "ไม่มีเวลาแล้ว คุณรีบไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยน ฉันไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเห็นฉันในสภาพน่ากลัว ฉันอยากให้ลูกจำฉันอย่างที่ฉันเป็น ฝากลูกสาวของฉันด้วยนะคะคุณ...ชื่ออะไรคะ" หญิงสาวถามชายหนุ่ม

 

          "อาร์มครับ" ชายหนุ่มตอบ

 

         "ขอบคุณค่ะคุณอาร์ม ฝากเชลล์ด้วยนะคะ บอกแกว่าฉันรักแก ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แค๊ก แค๊ก!!! ไปได้แล้วคะ ไป!!!" หญิงสาวไอรุนแรงจนพูดไม่ได้ เธอผลักชายหนุ่มให้ออกจากตน "ไป!!!"

 

        อาร์มรีบคว้าข้าวของที่มีแล้วรีบวิ่งมาที่รถทันที ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป....

 

        อาร์มรีบเปิดประตูรถและขับออกไปทันทีท่ามกลางความแปลกใจของเด็กหญิงที่นั่งอยู่ในรถ

 

        "แม่!!!! แม่!!! แม่อยู่ไหน!!!???" เด็กน้อยตะโกนหาแม่เมื่อรถขับออกมาจากปั๊มอย่างเร่งรีบ

 

        "เอ่อ แม่!!!" อาร์มไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเมื่อถูกเด็กน้อยถามถึงแม่

 

        "แม่จ๋า!!! หนูจะหาแม่!!! แม่อยู่ที่ไหน!!!" เด็กน้อยร้องไห้ด้วยความเสียใจระหว่างที่รถขับออกมาบนถนน

 

        แม้จะหนวกหูจนน่ารำคาญแต่กับเสียงร้องของเด็กหญิงที่ร้องไห้หาแม่ แต่อาร์มก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขับรถต่อไปบนถนนเท่านั้น....

 

        เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่ทั้งสองออกมาจากปั๊มน้ำมัน เสียงของเด็กน้อยก็เบาลงเรื่อยๆด้วยความอ่อนเพลีย จนกระทั่งเธอหลับไปในที่สุดที่ด้านหลังรถ อาร์มที่รู้สึกเหนื่อยไม่ต่างกันก็จอดรถและเปิดกระจกเอาไว้เพื่อระบายอากาศ ก่อนจะเอนตัวนอนไปเหมือนกัน

 

        ในความฝันภาพของผู้หญิงคนนั้นยังคงตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ไม่เลิก สีหน้าและแววตาที่สิ้นหวังของเธอที่จ้องมาทางเขา มันคือสิ่งที่มนุษย์เราในชีวิตนี้คงจะไม่อยากได้รับความรู้สึกแบบนี้ ทั้งเป็นผู้ให้และผู้รับทั้งสองอย่าง....

 

       "เฮือก!!!" อาร์มสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขารู้สึกขวัญผวาเมื่อนึกสิ่งที่ผ่านมาเกี่ยวกับผู้หญิงคนั้น แม้สิ่งต่างๆที่เคยเกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านี้มันอาจจะดูเลวร้าย แต่สิ่งที่เขาเจอกับผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่ความน่ากลัว แต่มันคือความสิ้นหวัง ซึ่งสักวันเขาก็คงต้องเจออย่างแน่นอน

 

        "แม่....แม่จ๋า" อาร์มหันไปดูเด็กน้อยที่นอนอยู่ด้านหลัง เธอนอนคุดคู้ดูดนิ้วโป้งด้วยความอ่อนล้า คราบน้ำตาที่แก้มยังไหลออกมาไม่หยุดแม้ยามหลับ สิ่งที่เด็กน้อยเชลล์เจอมันคงเป็นความสูญเสียที่เรียกว่าความสิ้นหวัง ที่แม้ผู้ใหญ่อย่างเขายังยากที่จะเข้าใจในสิ่งนี้

 

        "ผมจะดูแลลูกสาวคุณเอง ผมให้สัญญา" อาร์มพูดกับเด็กน้อยที่นอนคุดคู้อยู่ด้านหลังรถ

 

         "สัญญานะคะ" เมื่ออาร์มพูดจบ ก็มีเสียงผู้หญิงแม่ของเด็กน้อยดังขึ้นที่ด้านข้างของเขาที่เบาะรถฝั่งคนขับ ในสภาพเป็นซอมบี้หน้าตาหน้ากลัวเลือดอาบหน้ามองมาทางเขา

 

         "บ้าเอ๊ย!!!" อาร์มสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาหลับฝันซ้อนฝันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อได้สติเขาก็หันมาดูเด็กน้อยเชลล์ที่อยู่ด้านหลัง แต่เมื่อหันไปกลับพบว่าเธอไม่อยู่แล้ว....!!!!

 

         "ไปไหนแล้วล่ะ!!!" อาร์มตกใจสุดขีดเมื่อไม่เห็นเด็กหญิงอยู่ในรถอย่างที่ควรจะเป็น

 

         เขารีบลงมาจากรถและตามหาเด็กน้อยทันที รอบๆที่เขาอยู่เป็นถนนสายยาวที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบ ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าเด็กน้อยไปทางไหน....

 

         "เชลล์!!! เชลล์!!!" อาร์มตะโกนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย วินาทีนี้เขารู้สึกสับสนอ่อนล้าและเครียดเป็นอย่างมาก

 

         "กรี๊ดดดดด!!!" และตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงร้องของเชลล์ดังขึ้นมาที่ด้านหนึ่งของป่า อาร์มจึงไม่รอช้ารีบคว้ามีดพร้าของตนวิ่งไปทางเสียงร้องทันที

 

          "เชลล์!!!" อาร์มรีบวิ่งเข้าไปในป่าอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อวิ่งมาได้ซักระยะ เขาก็พบเด็กน้อยกำลังวิ่งมาทางตนเช่นกัน

 

          "ก๊ากกกกกก!!!" มีซอมบี้ตัวหนึ่งวิ่งตามเด็กน้อยมา เป็นซอมบี้เด็กชายตัวเล็กที่มีรอยแผลถูกกัดที่แขน กำลังวิ่งร้องมาทางคนทั้งสองด้วยความหิวกระหายในเนื้อมนุษย์

 

         "!!!" อาร์มใช้มีดพร้าฟันลงไปอย่างแรงที่คอจนหัวของซอมบี้เด็กชายหลุดกระเด็นนอนจมกองเลือด

 

         "ไม่เป็นไรนะ!!!" อาร์มถามเด็กน้อยด้วยความตกใจ เขาตรวจตราร่างกายของเธอตามแขนขาว่าถูกกัดรึเปล่า

 

         เด็กน้อยส่ายหน้าเบาๆด้วยความตกใจ....

 

         "มาทำอะไรที่นี่มันอันตรายรู้ไหม!!!" อาร์มต่อว่าเด็กน้อยด้วยความตกใจและดีใจที่เธอไม่เป็นอะไร

 

         "หนูมาชิ้งฉ่อง" เด็กน้อยพูดเบาๆด้วยความอาย

 

         "งั้นหรอ ตอนแรกพี่คิดว่าเธอจะ....ช่างเถอะไปที่รถกัน ได้เวลากินแล้ว" อาร์มจูงมือเด็กหญิงมาที่รถ เขาพยายามค้นหาอาหารที่อยู่ท้ายรถเพื่อนำมาให้เด็กน้อยทาน

 

         "ขอบคุณค่ะ" เด็กน้อยขอบคุณก่อนจะรับขนมมาทาน นี่คืออาหารเช้าที่พอจะหาได้จากในรถ

 

         "ไม่เป็นไร" อาร์มรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆเด็กหญิงกลับนิ่งเฉยไม่ร้องโวยวายหาแม่ ทั้งที่เมื่อวานยังร้องจะเป็นจะตาย แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าประเด็นในเรื่องนี้ เพราะกลัวจะกลายเป็นเรื่องราวให้ต้องปวดหัวอีก

 

         "หนูจะเข้มแข็งค่ะ" จู่ๆเด็กน้อยก็พูดขึ้นมา ระหว่างที่อาร์มหาอาหารด้านท้ายรถ

 

         "!!!!????" อาร์มหันมามองเด็กหญิงที่จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมา

 

        "แม่บอกว่า ให้หนูจงเข้มแข็ง สักวันแม่อาจจะไปจากหนู เมื่อไม่มีแม่แล้วหนูต้องเข้มแข็งและอยู่ต่อไป แม่พูดแบบนี้ตลอดตั้งแต่วันที่พ่อทิ้ง" เด็กน้อยพูดไปทานขนมไปโดยไม่มองมาทางอาร์มที่กำลังยืนอึ้งอยู่

 

        "แล้วเธอไม่คิดถึงแม่หรอ" อาร์มถาม

 

        เด็กหญิงพยักหน้าแทนคำตอบ "แม่บอกว่าถึงแม่จะตายไป แต่แม่ก็จะยังมีชีวิตอยู่ในหัวใจหนู แม่จะกลายเป็นวิญญาณมาปกป้องอยู่ข้างๆหนูตลอดไป" เด็กน้อยหันมามองชายหนุ่ม

 

        "ใช่ แม่ของพี่ก็พูดกับพี่แบบนั้น" ชายหนุ่มโกหกเพื่อให้กำลังใจเด็กน้อย

 

        "งั้นเราสองคนก็มีวิญญาณคุณแม่คอยดูแล ดังนั้นหนูจะเข็มแข็งและไม่ร้องไห้อีก เพราะตอนนี้วิญญาณของคุณแม่คงกำลังอยู่ข้างๆหนูอย่างแน่นอน ถึงหนูจะไม่เห็นท่านก็ตาม" เด็กน้อยพูดยิ้มๆ

 

        "ใช่พี่ก็คิดแบบนั้น" อาร์มรู้สึกโล่งอกที่จู่ๆเด็กน้อยก็คิดได้ คงต้องขอบคุณแม่ของเธอ ที่สอนเธอให้ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นล่วงหน้า ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นการโกหกเด็ก แต่มันก็ดีกว่าให้เธอเจอโลกแห่งความจริงอันโหดร้าย ซึ่งในตอนนี้โลกใบนี้มันก็โหดร้ายจริงๆอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด

 

       "พี่ชื่ออาร์ม เธอชื่อเชลล์ใช่ไหม" อาร์มแนะนำตัว

 

       "ค่ะ ปกติคุณแม่จะเรียกหนูว่าหอยน้อย" เด็กน้อยพูดยิ้มๆกับเขา คงเพราะความไร้เดียงสากับสิ่งที่แม่ของเธอสอน จึงทำให้เด็กน้อยกลับมาสดใสได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

         "ก๊ากกกกกกก!!!!" ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันก็มีเสียงร้องของซอมบี้ดังมาไกลๆในป่าที่ทั้งสองคนเพิ่งจะออกมา

 

         "รีบไปจากที่นี่กันเถอะ!!" ทั้งคู่จึงรีบขึ้นรถและขับออกไปทันทีอย่างไม่รอช้า

 

        "เราจะไปไหนกันค่ะ" เชลล์ถามอาร์มระหว่างที่รถกำลังขับไปอย่างช้าๆบนถนนที่เต็มไปด้วยรถที่จอดทิ้งเอาไว้กับซากศพคนตายที่เห็นจนชินตา

 

        "ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอที่ปลอดภัย" ชายหนุ่มตอบในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเจอเด็กน้อย เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป เขาแค่เดินทางต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย

 

        "พูดเหมือนแม่ของหนูเลย แต่เราก็ไม่เคยเจอที่ไหนที่ปลอดภัยเลย" เด็กน้อยพูดเสียงเศร้าเมื่อนึกถึงแม่

 

       "สักวันเราจะเจอเชื่อพี่" อาร์มหันมาพูดให้กำลังใจเด็กน้อย ก่อนจะดูเกจ์น้ำมันที่กำลังตกลงถึงขีดแดง

 

       "ต้องหาน้ำมันมาเติม ไม่งั้นเราสองคนได้เดินแน่ๆ" อาร์มบ่นดังๆระหว่างมองข้างทางเพื่อหาปั๊มน้ำมัน

 

       "หนูว่าพี่ต้องใช้ไอ้นี่" เชลล์เอาสายยางดูดน้ำมันแบบบีมให้เขาระหว่างขับรถ

 

       "แม่ดูดน้ำมันจากรถที่จอดทิ้งไว้ด้วยไอ้นี่ แค่พี่บีบที่ตรงแดงๆนี่มันก็จะดูดน้ำมันขึ้นมาเอง" เด็กน้อยส่งตัวดูดน้ำมันที่เป็นแท่งยางพลาสติกแบบแข็งใช้เป็นตัวดูดน้ำมัน ซึ่งด้านบนจะเป็นพลาสติกแบบนิ่มเพื่อใช้บีบเรียกลมดูด และมีสายยางอีกเส้นที่ต่อกันเพื่อส่งน้ำมันลงไปในถัง ซึ่งเจ้าสิ่งนี้เป็นอุปกรณ์ที่ไว้ถ่ายน้ำมันลงถังของเด็กปั๊ม

 

 "ทำไมเราไม่คิดเรื่องนี้นะ" อาร์มบ่นดังๆกับตัวเอง

 

       อาร์มหาจังหวะจอดรถเมื่อเขาเห็นรถที่จอดอยู่ในสภาพดีๆข้างถนน เขาจึงรีบเปิดช่องถังน้ำมันรถคันนั้นและดูดน้ำมันในมาใส่ขวดทันที

 

       "พี่อาร์ม!!! พี่อาร์มมาฟังอะไรนี่เร็ว!!!" เชลล์ตะโกนเรียกอาร์มให้มาหาจากในรถ      

 

        "เดี๋ยวก่อน!!! ใกล้เสร็จแล้ว!!!" เมื่อดูดน้ำมันได้ตามที่ต้องการ เขาก็รีบวิ่งกลับมาที่รถทันที แต่เมื่อมาถึงเขาก็ได้ยินเสียงวิทยุดังออกมาจากในรถ

 

        "เมื่อกี้หนูเอามือไปกดมันก็มีเสียงคนดังออกมาจากที่นี่ ฟังซิ" เชลล์บอกกับอาร์ม

 

        "ผู้รอดชีวิตทุกท่านโปรทราบ ผู้รอดชีวิตโปรดทราบ เราคือหน่วยป้องกันตนเองภาคพื้นตะวันออก เราสามารถบุกยึดสถานีวิทยุมาเป็นแหล่งที่มั่นได้สำเร็จ ที่นี่มีอาหารและน้ำพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลทุกท่าน ถ้าคุณได้ยินเสียงนี้ให้วิ่งมาตามทางถนนสาย48เลี้ยวมาตามป้ายบอกทางแล้วคุณจะปอดภัย" เสียงวิทยุเป็นเสียงผู้ชายดังซ้ำไปซ้ำมาเกี่ยวกับข้อความนี้

 

       "เรารอดแล้ว!!!" อาร์มดีใจที่พบชุมชนที่สามารถใช้ชีวิตได้

 

      ทั้งสองมุ่งหน้าไปที่ดังกล่าวตามคำชวนในวิทยุอย่างไม่รอช้า

 

       "ไม่รู้ว่าที่นั่นจะเจออะไรบ้างนะ แต่ก็คงจะมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเชลล์อยู่แน่ๆ คราวนี้เชลล์จะได้มีเพื่อนเล่นไง" อาร์มพูดกับเชลล์ระหว่างนั่งรถไปตามถนนอันมืดมิด มีเพียงรถของเขาเพียงคันเดียวที่วิ่งอยู่

 

        "หนูไม่อยากมีเพื่อนหนูแค่อยากอยู่กับพี่อาร์ม หนูไม่ต้องการคนอื่นอีกแล้ว" เด็กน้อยที่นั่งอยู่เบาะหลังหันมายิ้มให้อาร์ม

 

         "พี่ไม่ทิ้งเธอหรอกสบายใจได้" อาร์มยิ้มให้เด็กน้อย

 

         "สัญญานะค่ะว่าจะอยู่กับหนูตลอดไป" เด็กน้อยส่งนิ้วก้อยให้อาร์มเพื่อทำการสัญญา

 

         "จ้าสัญญายัยหอยน้อย!!!" อาร์มพูดยิ้มๆแต่ไม่ได้เกี่ยวก้อยสัญญาเพราะเขาขับรถอยู่

 

        ระหว่างนั้นเองจู่ๆที่บนถนนอันมืดสนิท ก็มีเสียงปืนและเสียงร้องตะโกนของคนหลายคนที่ข้างทางไกลออกไป

 

        "ได้ยินเสียงไหม!!" อาร์มบอกกับเชลล์ระหว่างมองหาต้นเสียงว่ามาจากทางไหน

 

        "นั่น!!!" เชลล์ชี้ไปทางถนนไกลออกไป ที่นั่นเขาเห็นเงาไฟฉายที่โบกไปมาบนถนนและกองไฟที่ข้างทาง

 

        "พี่ว่าเราควรไปต่อดีกว่า พวกนั้นอาจจะมาทำร้ายเราเพื่อแย่งรถก็ได้" อาร์มรู้สึกไม่ไว้วางใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

         "แม่สอนว่าเราต้องช่วยเหลือกันยามที่เราลำบาก" เชลล์มองหน้าอาร์ม

 

         "ก็ได้ ก็ได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นพี่จะโทษแม่เธอเรื่องนี้" อาร์มบ่นออกมาดังๆด้วยความไม่พอใจ

 

         และเมื่อเขาขับรถไปใกล้จุดที่คนเรียก พวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ปะปนไปกับเสียงร้องของพวกซอมบี้ที่มาตามเสียงปืนที่ดังเรียกเขาในตอนแรก แต่ตอนนี้พวกเขาต้องยิงเพื่อป้องกันตนเองระหว่างรออาร์มไปหา

 

         "ขึ้นรถเร็วเข้า!!!" เมื่อขับมาใกล้แสงไฟ อาร์มก็รีบจอดรถตะโกนบอกคนที่ยิงซอมบี้ให้รีบขึ้นรถมาทันที

 

         "บอกแล้วไงว่าเสียงเรียกพวกมันมาไม่ใช่ไฟ!!!" ชายร่างอ้วนสวมแว่นที่ขึ้นรถเป็นคนแรกที่เบาะหลัง ตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจใส่ชายแก่ที่วิ่งขึ้นตามมา

 

         "เออรู้แล้ว!!! อุ่นขึ้นรถเร็วเข้า!!!" ชายแก่ตะโกนเรียกหญิงสาวที่ยิงซอมบี้ยื้อเวลาอยู่รั้งท้าย

 

          "ออกรถเร็ว!!!" หญิงสาวในชุดสีขาวที่เปื้อนเลือดกระโดดขึ้นมาบนรถที่เบาะหน้าเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่อาร์มจะรีบขับหนีไปอย่างรีบร้อน โดยมีเหล่าซอมบี้ร้องตะโกนอยู่ข้างหลัง

 

         "นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว ขอบคุณที่ช่วยเราไว้นะ" หญิงสาวสวยผมยาวพูดถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อรอดชีวิตมาได้

 

         "พอดีผมได้เสียงปืนกับไฟเลยรีบมารับพวกคุณ" อาร์มบอกกับหญิงสาวที่นั่งข้างๆ "แต่พวกคุณไม่น่าจะยิงปืน เพราะถึงยังไงผมก็เห็นพวกคุณอยู่ดีเมื่อขับไปถึงตรงนั้น เสียงดึงดูดพวกมันพวกคุณไม่รู้เรื่องนี้หรือไง!!!"

 

         "เห็นไหมบอกแล้วว่าเสียงเรียกมันมาก็ไม่เคยเชื่อ!!!" ชายร่างอ้วนสวมแว่นตะโกนว่าชายแก่ร่างผอมที่นั่งหน้าบึ้ง

 

         "ปกติข้าก็รอดชีวิตมาตั้งนานไม่เคยเห็นมันวิ่งมาตามเสียงเลยสักครั้ง!!!" ชายแก่เถียงกลับไปอย่างอารมณ์เสีย

 

         "หยุดเถียงกันได้แล้ว!!!" หญิงสาวหันมาตะโกนว่าทั้งคู่ก่อนจะเห็นเชลล์ที่นั่งมองคนทั้งสามโดยไม่พูดอะไร

 

          "มีเด็กมาด้วยหรอเนี้ย!!!" ชายแก่พูดขึ้นมาด้วยท่าทางแปลกใจเมื่อเห็นเชลล์

 

          "หนูชื่ออะไรจ๊ะ พี่ชื่ออุ่น พี่คนอ้วนคนนี้ชื่อเดี่ยวส่วนคุณลุงชื่อตาหมายินดีที่รู้จัก" หญิงสาวพูดยิ้มๆอย่างเป็นมิตรกับเชลล์

 

       "ชื่อเชลล์คะ" เด็กน้อยตอบด้วยท่าทางอายๆ

 

       "แล้วคุณล่ะชื่ออะไรคะ" เธอถามอาร์มระหว่างขับรถ

 

       "ชื่ออาร์มครับ" อาร์มตอบ "พวกคุณจะไปที่ไหนกันครับ ถ้าไม่รังเกลียดไปที่นี่กับเราไหม" อาร์มหันหางตามามองหญิงสาวเป็นระยะระหว่างพูดกับเธอ เขาเปิดวิทยุให้ทุกคนฟังในสิ่งที่ได้ยินมา

 

        "อ๋อ เราเองก็จะไปที่นั่นเหมือนกัน แต่พอดีรถเราน้ำมันหมดเลยต้องก่อกองไฟข้างทางรอรถคันอื่นที่อาจจะผ่านมาทางนี้ เพราะฉันคิดว่าคงไม่มีแค่เราที่ได้ยินเสียงวิทยุ จนกระทั่งคุณขับมา" หญิงสาวหันมายิ้มให้อาร์ม

 

        "แถมตาลุงนั่นก็ดีใจเกินเหตุ ยิงปืนขึ้นฟ้าจนเรียกพวกซอมบี้มาหา จนทำให้เราเกือบตายกันทั้งหมด" เดี่ยวชายร่างอ้วนสวมแว่นพูดว่ากระแทกชายแก่

 

        "แล้วใครกันที่ช่วยตะโกนแข่งกับเสียงปืนว่ะ!!!" ลุงหมาชายแก่พูดว่ากระแทกกลับ

 

        "พอเลยทั้งคู่!!! รอดมาได้ก็น่าดีใจพอแล้ว!!!" อุ่นหญิงสาวสวยพูดดุคนทั้งสอง

 

        "ชิ....!!! หวังว่าที่นั่นคงจะปลอดภัย" ลุงหมาชายแก่บ่นออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่า "ฉันเบื่อการหนีไปวันๆแบบนี้แล้ว อยากใช่ชีวิตบั้นปลายในที่สงบๆเสียที"

 

        "ผมก็คิดแบบนั้น" เดี่ยวชายร่างอ้วนถอนหายใจแรงๆ "จะได้ไม่ต้องมานั่งฟังตาแก่ขี้บ่นจนเบื่อตายไปเสียก่อน"

 

        "แก่ว่าใครนะไอ้อ้วนสี่ตา!!!" ชายแก่ตะโกนด่าชายร่างอ้วนดังลั่นรถ

 

        "พอเลยทั้งสองคน!!! ทะเลาะกันอยู่ได้อายเด็กบ้างไหม!!!" อุ่นหญิงสาวสวยพูดเสียงดังจนทั้งสองหยุดเถียง

 

        "ว่าไงว่าตามเลยจ๊ะ!!!" เดี่ยวชายอ้วนพูดเสียงอ่อนเมื่อพูดกับอุ่น

 

        "ไอ้โรคจิต!!!" ชายแก่พูดเบาๆด้วยความไม่พอใจแต่ชายอ้วนไม่ได้ยิน

 

       หลังจากนั้นในรถก็มีแต่ความเงียบงันและเสียงแอร์ ขณะที่เชลล์เอนหลังพิงเดี่ยวชายร่างอ้วนหลับในที่สุด

 

       "นั่นลูกสาวคุณหรือคะอาร์ม" อุ่นหญิงสาวสวยถามอาร์ม

 

       "อ๋อเปล่าครับ ไม่ใช่!!!! เราบังเอิญเจอกันที่ปั๊มน้ำมันเมื่อหลายวันก่อน แม่ของเธอฝากผมดูแลก่อนที่เธอจะเสีย" อาร์มพูดเสียงสลดเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนนั้น

 

        "เสียใจด้วยนะคะ" อุ่นพูดเสียงเบาๆ

 

        "เห็นแบบนี้ก็เถอะ แต่สาวน้อยคนนี้กำลังใจเต็มร้อยเลยนะครับ" อาร์มพูดยิ้มๆ "แล้วพวกคุณล่ะครับมาจากไหนกันถึงมารวมกลุ่มกันที่นี่" อาร์มเปลี่ยนเรื่องพูด

 

        "ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องบ้าๆนี่ขึ้น ฉันก็เป็นแค่ดาราตัวประกอบตามกองถ่ายละคร พอดีวันนั้นกำลังจะไปทดสอบบทตัวประกอบที่มีบทพูดครั้งแรก แต่ก็เจอเรื่องบ้าๆขึ้นมาก่อน ส่วนเดี่ยวก็เป็นนักศึกษาปริญญาโททางด้านกฏหมาย ส่วนลุงหมาก็เป็นคนขับรถเมล์ วันนั้นถ้าลุงหมาไม่ขับพาพวกเราออกมาจากนรกตรงนั้นพวกเราคงตายไปแล้ว" อุ่นถอนหายใจแรงๆเมื่อพูดถึงตรงนี้ "ก่อนหน้านี้เรามีคนอยู่13คนที่ขึ้นรถเมล์ พวกเราสูญเสียอะไรไปมากกว่าจะถึงตอนนี้"

 

        "พวกเราต่างก็สูญเสียครับ" อาร์มพูดยิ้มๆกับหญิงสาว ขณะที่เธอก็ยิ้มตอบ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้เดี่ยวที่นั่งฟังอยู่เงียบๆเป็นอย่างมาก

 

        อาร์มขับรถคนเดียวตลอดทั้งคืน โดยมีอุ่นหญิงสาวสวยนั่งคุยเป็นเพื่อนตลอดทาง อาร์มรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ได้เพื่อนร่วมทางสาวสวยมาคุยเป็นเพื่อน ทำให้การเดินทางครั้งนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

 

        "พอไปถึงที่นั่นแล้วคุณจะทำอะไรต่อไป" อาร์มถามอุ่นเมื่อเริ่มคุยกันถูกคอและคุ้นเคยกันมากขึ้น

 

        "คงจะหาใครสักคนมาเป็นแฟน คนที่เข้าใจในสิ่งที่ฉันเป็น" สายตาของเธอดูเหงาๆเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ "ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องบ้าๆชีวิตของฉันก็เอาแต่ดิ้นรนมาตลอด ดิ้นรนเพื่อชื่อเสียงเงินทองอยากเป็นนางเอก จนมาเกิดเรื่องชีวิตก็ยังต้องดิ้นรนต่อไปอีก แต่มันกลับกลายเป็นดิ้นรนอีกแบบ งี่เง่าที่สุดเลยนายว่าไหม"

 

       "ต่างกับผมเลย ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องพวกนี้ชีวิตผมแทบจะไร้ความหมาย ใช้ชีวิตไปวันๆ ทำงานเลิกงานทำงาน ชีวิตมีอยู่แค่นี้ จนมาเกิดเรื่องผมจึงต้องเอาตัวรอดจนมาเจอกับเชลล์ เธอเหมือนน้องสาวผมเหมือนส่วนที่ขาดไป เธอมาเติมเต็มให้ผม" อาร์มพูดยิ้มๆก่อนจะมองกระจกหลังเพื่อดูเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับ แต่ก็ดันไปเห็นสายตาไม่พอใจของเดี่ยวที่กำลังจ้องมาทางเขา

 

        "มาเปลี่ยนกันขับบ้างดีกว่า ระยะทางยังอีกไกลนายควรนอนพัก เสร็จแล้วค่อยเปลี่ยนให้เดี่ยวกับลุงหมาขับ ฉันดีใจจนอยากจะไปให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด ไม่อยากแวะพักกลางทางเลย" หญิงสาวพูดยิ้มๆกับอาร์ม

 

        "ผมก็เหมือนกัน" อาร์มยิ้มตอบก่อนจะจอดรถเปลี่ยนกันขับ

 

        ทั้ง5ใช้เวลาร่วมกันหลายวันอยู่ในรถ ทุกคนต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตและแง่คิดต่างๆ ระหว่างขับรถบนถนนเพื่อไปให้ถึงสถานีวิทยุ ซึ่งแม้จะใช้เวลาอยู่ร่วมกันไม่นาน แต่ด้วยความรู้สึกของคนที่หนีตายจากโลกภายนอก และต้องการหาที่ปลอดภัยจึงไม่แปลกที่ทุกคนจะสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว

 

        "ผมอยากเรียนกฏหมายก็เพราะพ่อกับแม่สั่ง ผมต้องทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่าง เมื่อจบออกมาก็จะได้เป็นทนายตามที่ท่านสองคนหวัง แต่สุดท้ายโลกก็มาแตกเพราะซอมบี้คนตายที่ลุกขึ้นมาจากหลุม" เดี่ยวบ่นให้อาร์มฟังระหว่างที่เขาเป็นคนขับในช่วงเช้า "เชื่อไหมผมไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่จะอยู่รึตาย ผมกลับรู้สึกปลอดปล่อยด้วยซ้ำ ที่ได้ออกจากกฏบ้าๆบอพวกนี้ของท่าน...."

 

        "ป่านี้ลูกกับเมียลุงคงจะตายไปแล้วล่ะ เพราะถ้าสองคนนี้ยังมีชีวิตอยู่คงจะโทรมาด่าลุงแล้ว" ลุงหมาพูดยิ้มๆเหมือนเป็นมุขตลกที่เขาขำอยู่คนเดียวระหว่างขับรถช่วงดึก "ดีเสียอีกที่เป็นแบบนี้ เพราะถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ก็คงจะต้องมาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ มาคิดๆดูอีกทีความตายก็ไม่น่ากลัวเท่ากับการมีชีวิตอยู่ตอนนี้เท่าไหร่...." ลุงหมาพูดไปยิ้มไปเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มี

 

         "ก่อนหน้านี้หนูอยู่กับแม่เพียงสองคน ส่วนพ่อก็ไปๆมาๆที่ห้องพักไม่ค่อยมาหาเท่าไหร่" เชลล์พูดเสียงเบาๆเมื่อกล่าวถึงพ่อ "จนกระทั่งเกิดเรื่องตอนนั้นแม่กำลังพาหนูไปส่งที่โรงเรียนพอดี พอแม่เจอคนบ้าที่ไล่กินคนท่านก็ขับพาหนูหนีออกมาจากกรุงเทพ เร่ร่อนไปทั่วจนมาเจอพี่อาร์ม พี่อาร์มดูแลปกป้องหนูมาตลอดหนูขอแค่มีพี่อาร์มอยู่ด้วยหนูต้องการแค่นั้น หนูไม่อยากมีเพื่อนเลย ปกติตอนอยู่ที่โรงเรียนเพื่อนๆก็ชอบแกล้งหนู ล้อหนูว่าไอ้ลูกเมียน้อย ไอ้ลูกไม่มีพ่ออยู่เป็นประจำ แต่แม่ก็บอกให้หนูอดทนคะ แม่จะอยู่ข้างหนูเสมอแม่บอกแบบนั้น" เชลล์เล่าเรื่องราวของตัวเองให้ทุกคนฟัง เมื่ออุ่นเป็นคนขับ

 

         "ไม่ต้องกลัวไปหรอก พี่จะปกป้องเธอเอง พี่สัญญา" อาร์มพูดยิ้มๆกับเชลล์

 

         การเดินทางผ่านไปหลายวันจนกระทั่งทั้งหมดไปถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด....

 

         "ถึงแล้ว" อุ่นที่เป็นคนขับบอกกับทุกคนเมื่อเธอชะลอความเร็วรถเมื่อมาถึงหน้าสถานีวิทยุที่มีประตูเหล็กปิดอยู่ ตลอดสองข้างทางบนถนนนั้นเป็นป่ารกทึบ และไม่มีพวกซอมบี้อยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว

 

         "ทำไมมันดูเงียบจริงๆ หวังว่าเราคงมาไม่ผิดที่" ลุงหมาบ่นออกมาเบาๆ

 

         "ก็ขับมาตามที่ป้ายบอกไม่น่าจะผิด" อุ่นบอกกับลุงหมา

 

       ตอนนี้ทุกคนในรถต่างพากันลุ้นว่าสิ่งที่ตนไปหานั้นจะเป็นเช่นไร

 

       "นั่นมีคนเดินมาแล้ว!!!" อาร์มที่นั่งอยู่ที่หน้ารถพูดขึ้นมา เมื่อเห็นชายร่างใหญ่สวมเสื้อรัดรูปสีเขียว กางเกงลายพรางและรองเท้าบูตแบบทหาร กำลังเดินมาที่ประตูรั้วคนเดียว

 

      "น่าจะเป็นทหาร" เดี่ยวพูดขึ้นมา

 

      "ดูท่าทางไม่ค่อยน่าไว้วางใจเลย" อุ่นออกความเห็น

 

      "แต่เขาเป็นทหาร น่าจะปกป้องเราได้" อาร์มพูดขึ้นมา

 

      "จะนั่งคุยกันอีกนานไหม เรามาถึงที่นี่แล้วจะให้ย้อนกลับไปเร่ร่อนอีกหรือไง" ลุงหมาพูดในสิ่งที่ทุกคนคิด

 

       "แต่หนูรู้สึกไม่ค่อยดีเลย มันดูเงียบๆแปลกๆ ถ้าที่นี่เป็นที่หลบภัยจริงๆก็น่าจะแบบว่า....หนูก็บอกไม่ถูก เอาไงก็เอา" อุ่นรู้สึกสับสน แต่ด้วยคำพูดของลุงหมาที่พูดเมื่อกี้ จึงทำให้อุ่นไม่กล้าจะค้านอะไร

 

       "ยินดีต้อนรับผู้รอดชีวิตทุกคน!!! ที่นี่ปลอดภัยมีทั้งที่พักและอาหาร" ชายร่างใหญ่ในชุดทหารพูดยิ้มๆด้านหลังประตูรั้วแบบตาข่ายทางเข้าสถานีวิทยุ

 

        "พวกแกคิดมากกันไปเอง!!!" ลุงหมาบ่นออกมาดังๆ ก่อนจะลงไปจากรถ

 

        "เราได้ยินเสียงเรียกในวิทยุว่าที่นี่ปลอดภัย เรามีผู้หญิงกับเด็กมาด้วย" ลุงหมาเดินมาคุยกับชายคนนั้นด้วยท่าทางเป็นมิตร

 

        "ไม่มีปัญหา....ยินดีต้อนรับ" ชายในชุดทหารพูดยิ้มๆ แต่เราต้องรับเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นผู้ชายเราไม่เอา!!!" ชายในชุดทหารพูดจบ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าจากพูดยิ้มๆมาเป็นบึ้งตึง และเอาปืนพกที่ซ่อนในกางเกงออกมา ยิงใส่ลุงหมากลางแซกหน้าจนเขาล้มทั้งยืน

 

        "บ้าเอ๊ย!!!! ถอยๆๆๆๆ!!!" อาร์มตะโกนบอกอุ่นให้รีบขับรถถอยหลังออกไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

 

        แต่ไม่ทันที่รถจะถอยหลังไปได้ไกล จู่ๆรถก็ถูกตะปูเรือใบที่แอบมาโรยตอนที่คนบนรถไม่รู้ตัว จนรถที่ถอยมาด้วยความเร็วเกิดเสียหลัก พลิกค่ำหลายตลบลงบนข้างทาง.....!!!!

 

        อาร์มหมดสติไปตั้งแต่นั้น....!!!

 

       "ช่วยด้วย!!! พี่อาร์มช่วยหนูด้วย!!!" เสียงของเชลล์ดังก้องอยู่ในหูระหว่างที่เขากำลังหมดสติ พร้อมกับภาพแว๊บๆของเชลล์กับอุ่นที่ถูกชายหลายคนจับตัวออกไปจากรถ....โดยที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรทั้งคู่ได้เลย

 

       "เชลล์!!!!" อาร์มตะโกนออกมาดังๆเมื่อได้สติและรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น....!!!

 

       อาร์มได้สติขึ้นมาในรถที่นอนหงายท้องอยู่ที่ข้างทางในป่ารกทึบ ที่ด้านหลังคนขับมีศพของเดี่ยวนอนแน่นิ่งคอหักบิดไปด้านหลัง ข้างนอกตอนนี้นั้นฝนตกอย่างหนัก โชคดีที่เขารัดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้จึงไม่เป็นอะไรมาก

 

       "เชลล์ อุ่น!!!!" อาร์มที่ได้สติพยายามตะเกียดตะกายออกมาจากเข็มขัดนิรภัยที่รัดตัวเอาไว้อยู่ จนเมื่อเขาปลอดเข็มขัดออกมาได้ อาร์มก็ได้ยินเสียงคนคุยกันดังแซกเสียงฝนอยู่ที่ด้านท้ายรถ

 

        "พวกนี้มีอาหารกรระป๋องกับขนมด้วยว่ะ ไม่เหมือนกลุ่มก่อนหน้านี้ไม่มีอาหารเลย ไม่เสียทีที่ลงมาดูที่รถ" เสียงชายในชุดกันฝนแบบทหารพูดกับเพื่อนที่กำลังรื้อของอยู่ที่ด้านหลังรถ

 

        "แถมคราวนี้มีผู้หญิงสาวสวยเสียด้วย ไม่เสียเที่ยวที่หนีออกมาจากกองทัพตอนที่เกิดเรื่อง จนมาเจอที่นี่แล้วก็กระจายเสียงเรียกคนให้มาหา คราวนี้จะได้หายอยากเสียที ตั้งแต่ที่นังผู้หญิงคนก่อนหนีไปก็อดมานานจนแทบจะตุยกันเองอยู่แล้ว" ชายอีกคนพูดยิ้มๆกับเพื่อน

 

        "นั่นซิ....เอ แล้วเด็กผู้หญิงจะทำยังไงว่ะ!!!" ชายคนที่ลื้อของในรถพูดขึ้นมา

 

        "ถึงจะเป็นเด็กแต่ก็เป็นผู้หญิงคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฮา ฮ่า" ชายที่ยืนคุยหัวเราะออกมา จนอาร์มรู้เลยว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไรกับเชลล์

 

         "บ้าที่สุด!!!" อาร์มที่แอบฟังอยู่อุทานออกมาด้วยความเจ็บใจ

 

         "เฮ้ยๆดูนั่นซิ จำนังนั่นได้รึเปล่า คนที่แกพูดถึงเมื่อกี้นี้ไง!!!" ชายคนที่ยืนคุยถามชายคนที่กำลังลื้อของ เมื่อเห็นซอมบี้หญิงสาวกำลังเดินอยู่ในป่า สภาพของเธอนั้นไม่สวมเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว...

 

         "จำได้ซิ ถึงจะแก่ไปหน่อยแต่ก็สนุกพอใช้ได้ เสียดายที่ดันแอบหนีตอนเราเผลอ ที่แท้ก็ถูกกัดกลายเป็นผีดิบอยู่ที่นี่นี่เอง สมน้ำหน้าอยู่กับพวกเราป่านี้ก็สบายไปแล้ว" ชายที่ลื้อของบ่นออกมาดังๆ

 

         "ปัง!!!" ชายที่ยืนคุยใช้ปืนในมือยิงใส่ซอมบี้สาวที่แก้ผ้าคนนั้นที่หัว จนเธอล้มลงตายคาที่ท่ามกลางเสียงหัวเราะ กับสภาพการตายอันน่าสมเพชของเธอ ที่ไม่น่าขำเลยแม้แต่น้อย

 

         "ไปกันเถอะ เสียงปืนจะเรียกพวกมันมา เดี๋ยวผู้กองจะด่าเราอีกถ้าพวกมันมาเกาะรั้วแบบคราวก่อน เดี๋ยวพวกเหยื่อมาเห็นเข้าจะไม่ยอมมาติดกับแบบคราวก่อน" ชายที่ยืนคุยบอกกับชายที่ลื้อของ

 

          "เดี๋ยวขอดูในรถก่อนว่ามีอะไรอีกบ้าง เมื่อกี้ตอนจับผู้หญิงไม่ทันได้ตรวจดูให้แน่ใจ" ชายที่ลื้อของบอกกับชายที่ยืนคุย

 

           "บ้าเอ๊ย!!!" อาร์มที่แอบอยู่ในรถรู้สึกกลัวจนทำอะไรไม่ถูก

 

         "ก๊ากกกกก!!! ก๊ากกกก" แต่ไม่ทันที่ชายคนที่ลื้อของจะพูดจบ จู่ๆก็มีเสียงร้องดังขึ้นมาในป่า พร้อมกับร่างของซอมบี้หลายสิบตัวที่วิ่งมากับสายฝนเมื่อได้ยินเสียงปืน

 

          "ซวยแล้ว!!!" นายทหารทั้งสองคนยิงปืนใส่ซอมบี้ที่วิ่งมา ก่อนจะวิ่งหนีไปจากตรงนั้นด้วยความรีบร้อนโดยไม่สนใจดูในรถ

 

         "ปัง ปัง ปัง!!!" เสียงปืนดังเป็นระยะห่างออกไปจากรถจนอาร์มรู้สึกได้ เขาจงใจแอบอยู่ในรถเพื่อรอจังหวะที่คิดว่าพวกซอมบี้คงจะไปหมดแล้วจึงค่อยๆคลานออกมาจากรถ

 

         "ก๊ากกกก!!!" แต่เขาคิดผิดไปอย่าง!! เพราะเดี่ยวที่ตายไปแล้วจู่ๆก็กลายเป็นผีดิบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และกัดที่แขนของอาร์มโดยไม่ทันตั้งตัว

 

          "บ้าเอ๊ย!!!" อาร์มรีบคลานออกมาจากรถก่อนจะเจอมีดพร้าของตัวเองตกอยู่บนพื้น เขาจึงใช้มันจามหัวของเดียวที่คลานออกมาทันทีจนตายคาที่

 

         "ถูกกัดแบบนี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน" อาร์มดูแผลถูกกัดที่แขนด้วยความรู้สึกหมดหวัง เขามองมีดพร้าในมือหวังจะใช้มันปลิดชีวิตตัวเอง เพราะถึงยังไงเขาก็คงไม่มีชีวิตรอดอยู่

 

         แต่วินาทีที่เขาจะทำแบบนั้น ชั่ววูบหนึ่งเขากลับนึกถึงเชลล์ เด็กหญิงที่เป็นเหมือนเป็นน้องสาวของตน ที่ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจากน้ำมือของคนด้วยกันเอง

 

        "เอาว่ะ!!!! ยังไงก็ขอทำในสิ่งที่ถูกก่อนแล้วกัน" แม้จะเสียใจและรู้ว่าตนเองนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เขาจึงคิดใช้ช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลืออยู่ทำในสิ่งที่สมควรทำ คือไปช่วยอุ่นกับเชลล์ที่ถูกจับอยู่ในสถานีวิทยุ 

 

          อาร์มเดินกึ่งวิ่งไปบนถนนท่ามกลายสายฝน พร้อมมีดพร้าและปืนที่ได้มาจากแม่ของเชลล์ ตรงหน้าไม่ไกลคือเหล่าซอมบี้หลายสิบตัว กำลังรุมกินร่างของชายสองคนที่คุยกันก่อนหน้านี้โดยที่ไม่มีตัวไหนเลยสนใจเขา

 

         "ก๊ากกกกก!!!" แต่ระหว่างที่อาร์มกำลังยืนดูอยู่ไกลๆ ก็มีซอมบี้ตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหลังเขา มันร้องเสียงดังและวิ่งมาทางอาร์มทางด้านหลัง โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวเพราะเสียงฝนดังกลบเสียงร้องจนหมด

 

          "!!!!" อาร์มที่ตกใจสุดขีดได้แต่ยืนรอความตายตรงหน้าโดยที่เขาไม่ทันจะตั้งตัวสู้เสียด้วยซ้ำ

 

         "ฟุด ฟิด!!!" ผิดคาด!!!??? แทนที่เขาจะถูกซอมบี้ตัวนั้นทำร้าย แต่มันกลับยืนดมกลิ่นของอาร์มตรงหน้าเขา ก่อนจะเดินไปโดยที่ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย

 

        "คงอีกเดี๋ยวเราก็จะกลายเป็นพวกมันแน่ๆ มันเลยไม่สนใจจะกินเรา" อาร์มดูแขนที่ถูกกัดของตัวเอง เขาเดาเรื่องราวไปเองอย่างมีหวัง จนเมื่อเป็นแบบนั้นเขาจึงคิดแผนขึ้นมาได้ทันที

 

        ที่ด้านในตึกสถานีวิทยุ อุ่นกับเชลล์ถูกจับขังอยู่ในห้องๆหนึ่งหลังจากที่ถูกพาตัวออกมาจากรถ ทั้งสองคนอยู่ในสภาพที่หวาดกลัว เมื่อจู่ๆความหวังที่ควรจะเป็นกลับกลายเป็นนรกไปได้

 

        "ไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่ที่นี่แล้ว!!! พี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเชลล์ได้พี่สัญญา" อุ่นกอดเชลล์เพื่อปลอบใจเด็กน้อยที่กำลังกลัว เธอโกหกปลอบใจเด็กน้อยทั้งที่เธอเองนั้นก็กลัวจับใจ

 

         "พี่อาร์มต้องมาช่วยเราอย่างแน่นอน พี่เขาสัญญาแล้วว่าจะปกป้องหนู พี่อาร์มต้องมา" เชลล์ร้องไห้ในอ้อมกอดของอุ่น แม้จะหวาดกลัว แต่เด็กน้อยก็ยังมีความหวัง

 

         "ตูมมมมมม!!!" และตอนนั้นเองก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาที่ด้านนอกสถานีวิทยุ ท่ามกลางความตกใจของทั้งคู่

 

         "ก๊ากกกกก!!! ก๊ากกกกก!!!"

 

          "ปัง ปัง ปัง ปัง!!!"

 

          "มันเข้ามาได้ยังไงว่ะ!!! ยิงมัน ยิงมันซิว่ะ!!! อย่าให้มันเข้ามาได้!!!" เสียงร้องของพวกซอมบี้กับเสียงระเบิดและเสียงปืนปะปนไปกับเสียงพวกผู้ชายที่ด้านนอกดังอย่างต่อเนื่อง โดยที่อุ่นกับเชลล์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

         ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาบนถนนหน้าสถานีวิทยุ มีร่างของชายหนุ่มที่เดินถือปืนด้วยท่าทางมาดมั่น เขามาพร้อมกับเหล่าซอมบี้ชายหญิงที่วิ่งตามเขามาบนถนน ตรงเข้าสู่สถานีวิทยุตามเสียงปืนที่เขายิงขึ้นฟ้าเพื่อเรียกพวกมัน

 

        "เสียงดึงดูดพวกมัน งั้นก็จัดให้ดังสนั่นไปเลย" อาร์มยิงปืนใส่รถที่จอดอยู่ในที่จอดรถหน้าสถานีจนระเบิดไปหลายคัน เพื่อเรียกซอมบี้ที่อยู่แถวนั้นที่ได้ยินเสียงให้มากันที่นี่

 

        "บ้าเอ๊ย!!! ไอ้บ้านั่นพาพวกผีดิบมา!!!" ชายหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกใจเมื่อเห็นอาร์มเดินมาพร้อมกับซอมบี้ตัวอื่นๆโดยไม่ถูกทำร้าย

 

       ความโกลาหนและความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที เมื่อประตูรั้วถูกเปิดอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของอาร์มและเหล่าซอมบี้ที่กรูกันเข้าไปในสถานี

 

      แม้พวกผู้ชายเหล่านี้จะเป็นทหารและมีอาวุทครบมือ แต่ด้วยจำนวนที่มีมากกว่าของเหล่าซอมบี้ที่กรูกันเข้ามาในสถานี จึงทำให้พวกนี้ต้านเอาไว้ไม่ไหว จนต้องวิ่งหนีเป็นหนูติดกับดักในสถานีเสียเอง....

 

      อาร์มเดินผ่านเหล่าซอมบี้ที่รุมกินร่างนายทหารหลายคนที่หนีไม่พ้นตามทางเดิน เขาตามหาอุ่นกับเชลล์ที่น่าจะอยู่ใดซักที่ในสถานีนี้

 

      "บ้าเอ๊ย!!! แค๊ก แค๊ก!!!" ระหว่างเดินหา อาร์มก็เริ่มมีอาการไอออกมาอย่างรุนแรงมากขึ้น เขาหน้าซีดเหงื่อที่ไหลไม่หยุด เวลาของเขาเหลืออีกไม่มากแล้วเขารู้ตัวดี

 

       อาร์มเดินโซเซไปตามทางเดินด้วยสติที่ยังเหลืออยู่ไม่มาก จนกระทั่งไปเจอชายหนึ่งที่หนีมาทางที่เขาเดินอยู่พอดี อาร์มจึงไม่รอช้ารีบวิ่งไปคว้าตัวชายคนนั้นมาชกไม่ยั้ง

 

        "แกเอาเด็กกับผู้หญิงไปซ่อนไว้ที่ไหน!!!" อาร์มพูดเสียงแหบพร่าดวงตาแดงกล่ำและไอไม่หยุด

 

       "ยะอยู่ที่.....!!!" ชายคนนั้นรีบตอบด้วยความกลัว

 

       "แค่ก...แค่ก!!!" อาร์มไอรุนแรงมากขึ้นจนยืนแทบไม่อยู่ ซึ่งเมื่อมีจังหวะชายคนนั้นจึงพลักอาร์มออกไปจากตัว และวิ่งหนีไปทันทีก่อนจะถูกเหล่าซอมบี้ที่ดักอยู่ตรงทางเดินจับกิน

 

        อาร์มรวบรวมสติที่มีอยู่อย่างน้อยนิด เดินมาจนถึงห้องที่ขังทั้งสองคนอยู่

 

        "พี่อาร์ม!!!" เชลล์ที่เห็นอาร์มที่หน้าประตูก็ดีใจจะวิ่งไปกอดเขาทันที

 

        "อย่าเข้ามา!!!" อาร์มพูดเสียงดุใส่เชลล์

 

        "หรือว่านาย" อุ่นถามอาร์มด้วยสีหน้าเศร้าหมองและตกใจ

 

        "ใช่....ผมถูกกัด อีกไม่นานผมก็คงจะกลายเป็นแบบพวกนั้น แค่ก แค่ก....ระรีบหนีไป...!!! ไปที่รถด้านหลังสถานี ตามมา!!! แค่ก!!! แค่ก!!!" อาร์มบอกกับอุ่นก่อนจะเดินนำออกไปจากประตู

 

         "พี่อาร์ม!!!" เชลล์ยืนร้องไห้ตรงหน้าอาร์ม

 

         "ตามมาไม่มีเวลาแล้ว!!! แค่ก แค่ก!!!" อาร์มเดินนำอุ่นที่อุ้มเชลล์ตามหลังมาติดๆ ระหว่างทางที่เมื่อเจอซอมบี้ อาร์มก็ใช้มีดพร้าจามทีหัวทีละตัวจนสามารถผ่านมาจนถึงที่ด้านหลังสถานีที่เป็นโรงจอดรถได้ในที่สุด

 

         อาร์มให้อุ่นกับเชลล์ขึ้นไปบนรถ ขณะที่เขาเริ่มจะหมดสติความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกขณะ

 

         "ขอบคุณนะ" อุ่นพูดกับอาร์มทั้งน้ำตา

 

         "ฝากดูแลเชลล์ด้วย เธอคือน้องสาวที่ผมรักยิ่งกว่าชีวิต" อาร์มพูดกับอุ่นก่อนจะมองมาทางเชลล์

 

         "พี่อาร์ม....!!!" เชลล์ร้องไห้น้ำตาไหลไม่หยุด วินาทีนี้อาร์มเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกที่แม่ของเชลล์ได้รับแล้วว่าเธอรู้สึกอย่างไร เมื่อต้องจากคนที่เรารักไปอย่างไม่มีวันกลับ

 

         "เห็นไหมพี่สัญญาแล้วไงว่าจะปกป้องเธอ" อาร์มฝืนยิ้มกับเชลล์เพื่อให้เธอสบายใจ "จากนี้ไปดูแลตัวเองนะ ไม่มีพี่อย่าดื้อกับพี่อุ่นเขาล่ะรู้ไหม" อาร์มพูดยิ้มๆ เขากลั้นน้ำตาเอาไว้เมื่อต้องกล่าวคำอำลา

 

         "หนูไม่ไปหนูจะอยู่กับพี่อาร์ม!!!" เชลล์ร้องไห้ออกมา

 

         "พี่ไม่ได้ไปไหน พี่จะอยู่ข้างเชลล์เสมอ อยู่ในใจของเชลล์ตลอดไป จะอยู่ข้างๆเชลล์แบบที่แม่ของเชลล์อยู่ จากนี้และตลอดไป" อาร์มยิ้มทั้งน้ำตา

 

          "คะ....พี่จะอยู่กับหนูตลอดไปจริงๆนะคะ พี่สัญญาแล้วนะ" เชลล์ส่งนิ้วก้อยสัญญาให้อาร์ม

 

          "พี่สัญญา" อาร์มเกี่ยวก้อยสัญญากับเชลล์เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

 

          "ก๊ากกกกก!!!!" เสียงของซอมบี้ดังมาทางด้านหลังระหว่างที่อาร์มคุยกับเชลล์

 

          "ไปได้แล้ว ดูแลตัวเองนะ ลาก่อน!!!" อาร์มบอกกับอุ่น ก่อนที่เธอจะขับรถออกไปจากสถานีอย่างปลอดภัย ทิ้งอาร์มให้ยืนอยู่คนเดียวที่โรงจอดรถ โดยมีเหล่าซอมบี้วิ่งผ่านเขาไปโดยไม่สนใจ

 

          และเมื่อรถของอุ่นกับเชลล์จากไปแล้ว อาร์มก็เดินมานั่งที่ห้องออกอากาศ เขาลบข้อความเสียงที่มีออกไปจนหมด และเปิดเพลงที่มีในคอมพิวเตอร์ เสียงเพลงแห่งความรักดังท่ามกลางเหล่าซอมบี้ที่กำลังรุมกินร่างทหารตามทางเดิน แม้แต่ชายที่ยิงลุงหมาก็ถูกรุมกินโต๊ะนอนตายอยู่ในห้องน้ำ ท่ามกลางเหล่าซอมบี้ที่กำลังรุมฉีกร่างเขาอยู่

 

         "ชอบเพลงนี้จริงๆ ไม่ได้ฟังมานานแค่ไหนแล้วนะ" อาร์มพูดกับตัวเองก่อนที่สติสุดท้ายจะหลุดลอยไป เขาเหนี่ยวไกยิงหัวตัวเองตายคาที่ก่อนจะกลายเป็นซอมบี้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

 

        "จะคอยเป็นกำลังใจให้เธอหายเหนื่อย จะเป็นดั่งสายลมพัดมาห่วงใย และเธอจะได้รู้ทุกวินาทีหัวใจ ว่ายังมีฉันเข้าใจเสมอ...." 

 

        รถกระบะขับอยู่บนถนนมุ่งหน้าอย่างไร้จุดหมาย พร้อมกับเสียงเพลงทุกวินาทีที่อาร์มเปิดเป็นเพลงสุดท้ายดังอยู่ในรถ ที่เด็กน้อยเชลล์กำลังฟังไปพร้อมกับอาร์มเป็นเพลงสุดท้าย....

เนื้อหาโดย: yongyee
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
yongyee's profile


โพสท์โดย: yongyee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568"เหมือนเป๊ะ! แตงโมจัดเต็มโคฟเวอร์ 'เจ๊มิ่ง' แซ่บเวอร์ทุกดีเทล"คลิปไวรัล คุณยายวัย 95 ปี หัวเราะจนหงายหลัง ชาวเน็ตเเห่ถามคุณยายเป็นอะไรผลการออกรางวัลสลากกาชาด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประจำปี 2567🎉🎁ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสียคนดูยังท้อ!! หนุ่มทำคอนเทนต์ตามล่า “ ช็อกโกแลตดูไบ” ในเซเว่น หาทั้งจังหวัด 23 สาขา ก็ยังไม่มี แต่สุดท้ายได้ลองสมใจBaby V.O.X เกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานของเกาหลี คัมแบ๊กในรอบ 14 ปี นำโดย 'ยุนอึนเฮ'น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่นชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบเชน ธนา การเงินวิกฤตหนัก ตัดใจประกาศขายออฟฟิศ 3 ตึก ราคารวมเกือบร้อยล้าน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮ! เงินไร่ละพันยังมาต่อเนื่อง! ชาวนารับเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. กันอยู่หรือเปล่า? มาอัปเดตกันหน่อย!รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!อย่าท้าทายระบบ! "สารวัตรแจ๊ะ" เผยสาเหตุที่ต้องใส่แมสก์ และสวมหมวกตลอดเวลาสั่งพักงานยกชุด! 18 ตำรวจจราจร ปมตั้งโต๊ะจับปรับ 'เจอจ่ายจบ'"ร่วมส่งใจ อาเป็ด เชิญยิ้ม แอดมิตด่วน เจอพิษ “โนโรไวรัส” ยังไม่มียา-วัคซีน ชวนป้องกัน กินสุกลดเสี่ยง ล้างมือบ่อย #ลดเสี่ยงโรค
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบโบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปียเขาพระวิหาร: สัญลักษณ์แห่งความงดงามและความขัดแย้งภาพสุดท้าย
ตั้งกระทู้ใหม่