หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้นกรุงเทพเมืองซอมบี้ ตอนที่ 8 เหยื่อ

โพสท์โดย yongyee

ตอนที่ 8 เหยื่อ

กรุงเทพฯ 3 เดือนหลังจากเหตุการณ์โรคระบาดที่เปลี่ยนคนกลายเป็นผีดิบ

 

ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความเงียบงัน ถนนทุกสายคราคล่ำไปด้วยรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดทิ้งไว้เป็นแถวแนวยาวตลอดถนนทุกสายในกรุงเทพ ศพมนุษย์ที่ตายคารถเพราะถูกไฟไหม้ยังคงนอนเน่าดำเป็นตอตะโกตายซากอยู่ตรงนั้น บนรถเมล์ที่ถูกไฟไหม้ยังมีซากศพผู้โดยสารที่หนีตายออกมาไม่ทัน นอนกองทับถมทิ้งเอาไว้แบบนั้น นอกจากศพไฟไหม้ยังมีศพที่เน่าเปื่อยตามท้องถนนให้เห็นตลอดทาง บ้านเรือนถูกทิ้งร้างตึกสูงไร้ผู้คนอยู่อาศัย รถไฟฟ้าใต้ดินกลายเป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างที่มืดสนิทมีเพียงหนูและแมลงสาปเท่านั้นที่วิ่งไปมา รถไฟฟ้าถูกจอดคาทิ้งไว้กลางรางพร้อมซากศพผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ตอนนี้เน่าจนหนอนขึ้นส่งกลิ่นเหม็นไกลเป็นกิโล

 

สิ่งเดียวที่ยังคงอาศัยอยู่บนโลกนี้ก็คือเหล่าศพคนตายที่ยังไม่ตาย พวกมันเหล่านี้ยังคงมีชีวิตอาศัยปะปนไปกับความเงียบงันของโลกที่สาบสูญ พวกมันในตอนนี้ร่างกายผอมแห้งกรังไปด้วยกล้ามเนื้อที่ขาวซีด เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งบ่งบอกถึงการเดินทางตากแดดตากลมมาตลอด 3 เดือน บางตัวแขนขาดขาขาดหรือขาดครึ่งท่อน ก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างไม่น่าเป็นไปได้ เพราะพวกมันคือคนตาย คือความตายที่ออกเดินอย่างไม่มีวันจบ เพื่อไล่ล่าคนเป็นที่ยังมีชีวิตเป็นอาหาร

 

"ปัง!!! ...โครม!!!! " เสียงดังโครมครามของสิ่งก่อสร้างข้าวของที่พังทลายเมื่อไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่แล้ว

 

"ก๊ากกกกกก ก๊ากกกก" แค่เพียงเสียงเล็กน้อยก็สามารถเรียกพวกศพที่ได้ยิน ส่งเสียงร้องเรียกพวกเดียวกันเองให้มารวมกันตรงจุดที่เกิดเสียงได้เป็นจำนวนมาก

 

"ดูนั่นพวกมันวิ่งไปทางนั้นกันแล้ว" เสือชายร่างใหญ่หัวโล้นผิวดำสักเสื้อเผ่นที่หัวไหล่ซ้ายบอกกับชายอีกสองคนที่แอบดูพวกศพที่วิ่งไปตามเสียงร้องอย่างรวดเร็ว

 

"แต่ข้าว่าตอนกลางวันพวกมันดูจะวิ่งไม่เหมือนตอนกลางคืนเลย แกคิดแบบนั้นไหมว่ะไอ้กระทิง" ชายร่างผอมสูงโปร่งหนังหุ้มกระดูกผมหยิกหยอยหันมาพูดกับชายร่างเล็กผิวดำร่างอ้วนกลมที่ยืนอยู่ข้างๆ

 

ทั้งสามคนยืนดูพวกศพหลายตัวที่กำลังวิ่งหกล้มหกลุก ชนนั่นชนนี่ระหว่างทางที่วิ่งตามเสียงที่ได้ยินไป

 

"แรดพูดถูก" กระทิงชายร่างเล็กผิวดำพูดขึ้นมา "พวกมันดูจะวิ่งชนไปชนมา แถมบางตัวยังวิ่งชนรถเหมือนจะมองไม่ชัด แต่พอกลางคืนพวกมันดูจะวิ่งเร็วไม่ชนนั่นนี่แบบนี้เลย"

 

"งั้นก็สรุปได้ว่ามันมองกลางวันไม่ชัดแต่มองกลางคืนชัด" แรดชายร่างผอมจดสิ่งที่พูดลงในสมุด

 

"ตอนนี้ที่เรารู้ก็คือหูพวกมันไวต่อเสียง มันร้องเรียกพวกเดียวกันเองได้เมื่อพบเหยื่อ และพวกมันก็มองกลางวันไม่ชัดแต่มองกลางคืนชัด" แรดชายร่างผอมอ่านสิ่งที่จดในสมุดให้เพื่อนทั้งสองคนฟัง

 

"พวกมันคาดเดาง่ายซะยิ่งกว่าปล้นร้านทองที่มียายซิ้มหนังเหี่ยวเฝ้าร้านซะอีก" กระทิงชายร่างเล็กผิวดำพูดยิ้มๆ

 

"ไปกันเถอะ ตรงนั้นมีร้านขายของอยู่ น่าจะมีเหล้าหลงเหลือสักขวดสองขวด ไม่ได้กินเหล้ามาหลายวันชักเปรี้ยวปาก" เสือชายร่างใหญ่หัวโล้นเอามือรูดปากระหว่างพูด

 

"ทำเป็นพูดดีไปเพิ่งจะกินไปเมื่อวันก่อนเองไม่ใช่หรอแก" แรดชายร่างผอมที่ยืนถือมีดดาบเล่มยาวพูดแซว

 

"ลืมไป ลืมไป" เสือที่ถือท่อนไม้ที่เปื้อนเลือดหัวเราะเบาๆ

 

ทั้งสามคนยืนอยู่ที่ชั้นสองของบ้านหลังหนึ่งที่ใช้เป็นแหล่งซ่อนตัวจากพวกศพ พวกเขาทั้งสามคนคือผู้รอดชีวิตจากวันสิ้นโลกเมื่อสามเดือนก่อน

 

"ไปกันเถอะ" กระทิงชายร่างเล็กผิวดำที่ถือปืนลูกซองบอกกับคนทั้งสองให้ลงมาที่หน้าบ้าน ที่มีรถหุ้มเกราะของทหาร REVA 4x4 ที่เป็นรถหุ้มเกราะแบบล้อยางขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นรถหุ้มเกราะของทหารที่ทั้งสามคนบังเอิญไปเจอมา

 

"ลุยกันเลยพี่น้อง!!! " เสือที่เป็นคนขับตะโกนออกมา ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิด รถหุ้มเกราะส่งเสียงดังกระหึ่มดังลั่นถนน สร้างความสนใจให้กับพวกศพที่ได้ยินเป็นจำนวนมาก

 

"จุดประทัดเลย" แรดชายร่างผอมตะโกนบอกกระทิงชายร่างเล็กผิวดำที่เปิดประตูด้านบนโยนประทัดที่จุดแล้วไปบนถนนระหว่างที่รถวิ่งไป เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกศพให้ไข้วเขวจนไม่สนใจตามรถ

 

"กรุงเทพนี่ดีจริงๆ เลยมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่นอยู่เป็นพันๆ สาขายังไงก็ไม่อดเหล้าตายถ้ายังหาร้านพวกนี้อยู่" เสือชายร่างใหญ่หัวโล้นตะโกนออกมาดังลั่นรถ ก่อนจะเหยียบคันเร่งอีกครั้งเพื่อชนรถที่จอดขวางถนนทุกคันตรงหน้าออกไปให้พ้นทาง

 

"ชนแล้วนะโว้ย!!! " เสือตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนจะเอารถพุ่งเข้าชนใส่ร้านสะดวกซื้อที่เป็นกระจกจนรถพุ่งเข้ามาด้านในของร้าน

 

"ลุยเลยสาวๆ " แรดชายร่างผอมกระโดดออกมาจากรถเป็นคนแรก และตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ทันทีเพราะที่นั่นมีเหล้าหลากหลายยี่ห้อวางโชว์อยู่

 

ทั้งสามหยิบฉวยทุกอย่างที่เอาไปได้ทั้งของกินของใช้ที่มีอยู่มากมาย แม้จะมีการปล้นสะดมอยู่ทั่วทุกที่ในกรุงเทพตอนเกิดเหตุเมื่อสามเดือนก่อน แต่ด้วยความวุ่นวายที่กระจัดกระจายกันไปโดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้ร้านสะดวกซื้อหลายร้านยังมีข้าวของหลงเหลืออยู่

 

"ไม่รับขนมจีบซาลาเปาด้วยหรอคะ ซื้อตอนนี้แถมหัวคนหนึ่งหัวด้วยนะคะ" เสือยืนที่หลังเค้าเตอร์คิดเงินพูดยิ้มๆ กับเพื่อนทั้งสอง เขาเอาหัวศพคนตายที่อยู่บนพื้นมาตั้งบนเคาน์เตอร์แคชเชียร์เป็นเชิงล้อเล่น

 

"ทำเป็นเล่นไปเดี๋ยวพวกมันก็แห่มาหรอก เร็วเข้าหยิบทุกอย่างที่เอาไปได้" กระทิงชายร่างเล็กตะโกนด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมกับโยนอาหารน้ำดื่มให้แรดที่ยืนอยู่ที่รถ

 

"ขอมันฝรั่งทอดด้วย เอารสสาหร่าย นั่นเลยเอามาให้หมด" เสือตะโกนบอกแรดที่ช่องขนม

 

ขณะที่ด้านนอกบนถนนตอนนี้พวกศพที่ได้ยินเสียงเอะอ่ะโวยวาย เริ่มเดินกึ่งวิ่งมาที่ร้านบ้างแล้ว

 

"พวกเอ็งเก็บของไป เดี๋ยวข้าขอไปซ้อมมือนอกร้านสักหน่อย" แรดชายร่างผอมควงมีดดาบขนาดยาวที่คล้ายดาบญี่ปุ่นออกไปนอกร้าน เมื่อเขาได้ยินเสียงร้องของพวกศพที่กำลังวิ่งมา

 

"มาเลย มาเลยไอ้พวกตายซาก" แรดกวัดแกว่งดาบไปมาฟันใส่ศพที่วิ่งมาจนคอขาดแขนขาดไปหลายตัวอย่างช่ำชอง "สะใจจริงๆ พี่น้อง!!! " แรดตะโกนเสียงดังนอกร้าน

 

และในระหว่างที่ทั้งสามกำลังเลือกปล้นสินค้ากันอย่างเมามัน จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มร่างผอมที่เป็นพนักงานเซเว่น อีเลฟเว่นออกมาจากหลังร้านด้วยท่าทางอิดโรยเนื้อตัวมอมแมมยืนมองคนทั้งสองรื้อข้าวของด้วยความแปลกใจ

 

"ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดผมก็เจอคนอื่นที่รอดชีวิต" พนักงานชายยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นชายทั้งสองคนที่กำลังเลือกสินค้ากันอยู่

 

"มีปลากระป๋องด้วย" ทั้งสองยืนเลือกสินค้าโดยที่ไม่สนใจชายหนุ่มที่ยืนยิ้มแม้แต่น้อย

 

"พวกคุณเองก็หนีตายเหมือนผมใช่ไหม....ผมแอบอยู่หลังร้านตั้งแต่เกิดเรื่อง มีแต่ความวุ่นวายรถชนกันคนไล่ฆ่ากัน ผมกลัวมากจนไม่กล้าไปไหน กลางคืนผมก็ต้องนอนฟังเสียงพวกมันร้องโหยหวน นึกว่าคงจะไม่เจอใครอีกแล้วที่รอดชีวิต คิดว่ามีผมเหลืออยู่คนเดียวเสียอีก ขอบคุณสวรรค์จริงที่พบพวกพี่" ชายหนุ่มวิ่งเข้ามาเกาะแขนเสือชายร่างใหญ่ที่สักเสือเผ่นบนไหล่

 

"อะไรของแก เกะกะคนจะหาของ" เสื้อชายร่างใหญ่ไม่สนใจชายหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อแม้แต่น้อย เขาทั้งสองคนดูไม่ยินดียินร้ายกับคนที่พบเลย

 

"เฮ้ย มีคนรอดด้วยหรอว่ะ" แรดที่เดินเข้ามาในร้านพบหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อ จึงทักขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

 

"พี่ครับผมขอไปกับพวกพี่สามคนด้วยได้ไหมครับ ผมไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน พี่พาผมไปด้วยนะครับขอร้อง" ชายหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อมาอ้อนวอนแรดชายร่างผอม

 

"เอาไงดี" แรดหันมาถามเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังเอาของกินขึ้นรถ

 

"แล้วแต่แก" กระทิงบอกกับแรดด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ

 

"ก็ได้ ไปเก็บข้าวของแกมา เราจะไปด้วยกัน" แรดพูดกับชายหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อ

 

"ขอบคุณครับพี่ขอบคุณ" ชายหนุ่มดีใจยิ้มน้ำตาไหลจับมือของแรดเขย่าแรงๆ หลายครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับไปเพื่อไปเก็บของ

 

"ฉึก!!! " เสียงของมีดดาบที่แทงจากด้านหลังทะลุด้านหน้าของชายหนุ่มที่หน้าอก โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวเมื่อหันหลัง

 

"กูโกหก ฮ่า ฮ่า ฮ่า" แรดถีบร่างชายหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อจนล้มลงไปนอนกองพื้นด้วยความสะใจ"เอาไปให้เกะกะรถเปล่าๆ ถ้าแกเป็นผู้หญิงล่ะก็ไม่แน่ข้าอาจจะพาไปด้วยก็ได้" แรดพูดจบก็เดินขึ้นรถพร้อมกับเพื่อนอีกสอง ทิ้งร่างของชายหนุ่มที่นอนสิ้นหวังอยู่ในร้านสะดวกซื้อ

 

"ปัง ปัง ปัง!!! " เสียงประทัดถูกจุดโยนเข้าไปในร้านสะดวกซื้อก่อนที่รถจะวิ่งไป เรียกพวกศพที่วิ่งมาตามมาให้เห็นร่างของชายหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อที่พยายามตะเกียดตะกายคลานเอาชีวิตรอด พวกศพจึงรุมกัดกินร่างของชายหนุ่มทั้งเป็นอย่างน่าอนาถใจยิ่งนัก

 

ทั้งสามหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเมื่อขึ้นรถพร้อมเหล้าและอาหารจำนวนมาก ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาทั้งสามทำแบบนี้เรื่อยมา เพราะโลกที่สาบสูญแห่งนี้ไม่มีกฎหมายไม่มีผิดชอบชั่วดีไม่มีอะไรทั้งสิ้น นอกจากความอยู่รอดของตนเองเท่านั้น

 

และคืนนั้นคนทั้งสามดื่มฉลองกันอย่างเมามายในรถหุ้มเกราะอย่างมีความสุข เหมือนดังกับว่าโลกใบนี้คือโลกที่น่าอยู่สำหรับพวกเขา

 

รุ่งเช้า เสือเดินออกมาจากรถด้วยสภาพเมาค้าง เขาเดินออกมายิงกระต่ายไม่ไกลจากรถหุ้มเกราะที่จอดอยู่

 

"กากกกก กากกกก" เสียงร้องของศพหญิงสาวที่นอนร่างขาดครึ่งท่อนไม่มีแขน สภาพใบหน้าตรงแก้มซ้ายแหว่งไปจนเห็นฟัน เธอเลือกตาที่มีเพียงข้างเดียวพร้อมกับส่งเสียงร้องเพื่อจะตะเกียกตะกายมาหาร่างของเสือที่ยืนยิงกระต่ายอยู่

 

"ว่าไงจ๊ะคนสวย มาแอบดูอนาคอนด้าของพี่แบบนี้ไม่งามเลยนะตัวเอง" เสือพูดยิ้มๆ กับร่างศพครึ่งท่อนด้วยอาการเมาค้าง ก่อนจะยิงกระต่ายใส่หน้าศพขาดครึ่งท่อนนั้นอย่างน่าทุเรศ

 

เมื่อส่างเมาทั้งสามก็ออกเดินทางกันต่ออย่างไร้จุดหมาย พวกเขาเดินทางไปเรื่อยๆ แวะเติมน้ำมันตามปั๊มที่ยังคงมีอยู่ตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพ เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างยังมีอยู่เหลือเฟือตราบเท่าที่ยังไม่เน่าเสีย พวกเขาก็ยังคงตักตวงได้อย่างไม่ขาดสาย

 

"เฮ้ยนั่นป้ายอะไรวะ" แรดที่เปลี่ยนมาเป็นคนขับอ่านป้ายผ้าตัวโตที่แขวนบนสะพานลอยตัวใหญ่ว่า "ที่นี่ยังมีผู้รอดชีวิตชายหญิงเหลืออยู่ ช่วยด้วย" พร้อมกับลูกศรชี้มายังทางเข้า

 

"มันเขียนว่ามีคนรอดชีวิตทั้งชายแล้วก็หญิง" แรดอ่านป้ายระหว่างที่รถวิ่งเข้าใกล้ "มีผู้หญิงเหลืออยู่" แรดอ่านป้ายซ้ำอีกครั้ง

 

ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างรู้ใจเมื่อพูดถึงสตรีเพศ

 

"จะรออะไรอีก ไปกันเถอะพี่น้อง" กระทิงตะโกนออกมาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย

 

ทั้งสามขับไปตามลูกศรที่ถูกพ่นด้วยสีสเปรย์ที่ชี้มาตามทางตลอด จนเข้ามาในซอยลึกถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า "หมู่บ้านหรรษาวิลล์ ที่หน้าหมู่บ้านมีประตูรั้วลูกกรงเหล็กขนาดใหญ่ปิดทับด้วยไม้กระดานอยู่หน้าหมู่บ้าน และบนถนนหน้าหมู่บ้านก็มีสีสเปรย์สีแดงเขียนตัวหนังสือตัวโตๆ บนถนนว่า "ช่วยด้วยเราอยู่ที่นี่ ช่วยเราด้วย"

 

ทั้งสามคนลงมาจากรถเดินตรงไปที่ประตูรั้วด้วยความสงสัย ก่อนที่ประตูรั้วจะเปิดออกมาเองท่ามกลางความแปลกใจของทั้งสามที่ยืนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว

 

เมื่อประตูเปิดออกมาทั้งสามก็พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงในชุดนักศึกษามหาลัยหลายคน ยืนถือไม้อยู่หน้าประตูที่เปิดออกมา

 

"พวกคุณเป็นมนุษย์ใช่ไหม" นักศึกษาชายคนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยสีหน้าท่าทางหวาดวิตก ขณะที่พวกผู้หญิงหลายคนต่างก็ยืนเกาะกลุ่มกันท่าทางหวาดกลัวอยู่ด้านหลังนักศึกษาชายคนนี้

 

"เราเป็นคนไม่ใช่พวกผีดิบ" กระทิงตะโกนออกไปเมื่อเห็นกลุ่มนักศึกษา ทั้งสามคนวางอาวุธพร้อมกันอย่างช้าๆ

 

"พวกเรามีอาหารมีน้ำมีเหล้ามีอาวุธ เราแค่อยากหาที่หลบภัยเท่านั้น พวกนายมีที่หลบภัยให้เราอยู่ด้วยได้ไหม เราเดินทางมาไกลจนไม่รู้จะไปที่ไหนแล้ว" แรดตะโกนออกไปด้วยท่าทางเป็นมิตร

 

"พวกคุณจะไม่ทำอะไรพวกเราใช่ไหม ที่นี่มีแค่พวกเราชายหญิงไม่กี่คนเท่านั้น" นักศึกษาชายตะโกนถาม

 

"พวกเราคือคนที่รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายในโลก เราควรอยู่ร่วมกันเอาไว้ดีกว่า" กระทิงตะโกนบอกไป

 

เหล่านักศึกษาชายหญิงกระซิบกระซาบกันเองอยู่นานสองนานเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ จนได้ข้อสรุปขึ้นมา

 

"เรายินดีต้อนรับทุกคนครับ" นักศึกษาชายตะโกนบอกก่อนจะเปิดประตูให้คนทั้งสามเข้าไปในหมู่บ้าน

 

"เข้าทาง" ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างรู้ใจเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

 

เมื่อขับรถเข้ามาประตูทางเข้าหมู่บ้านก็ถูกปิดลง ด้านในของหมู่บ้านเป็นหมูบ้านจัดสรรสำเร็จรูปที่ตอนนี้บ้านหลายหลังยังสร้างไม่เสร็จ ขณะที่บ้านหลายหลังสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกที่ตรงทางเข้าจะมีประตูเหล็กปิดทางเข้าออกเอาไว้

 

ที่นี่เหมือนปราการดีๆ เลยแกว่าไหม" แรดที่เป็นคนขับรถพูดกับเพื่อนทั้งสองระหว่างขับเข้ามาตามทางที่พวกนักศึกษาเดินนำ

 

"เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้ข้าสนใจแต่สาวๆ วะ มีแต่เด็กๆ นักศึกษาสวยๆ ทั้งนั้นเลย แบบนี้สวรรค์ชัดๆ เลย" เสือพูดด้วยท่าทางหื่นกระหายระหว่างมองนักศึกษาสาวที่เดินไปมาในหมู่บ้าน

 

"อย่ารีบหื่นออกไปเชียว ทำกระโตกกระตากไปเดี๋ยวไก่จะตื่นหมด ทำตามแผนที่วางเอาไว้ เมื่อมีโอกาสค่อยเก็บพวกผู้ชายให้หมด ส่วนผู้หญิงทั้งหมดจะได้เป็นของเราสามคน" แรดบอกกับเพื่อนทั้งสอง

 

"ฮาเร็มแท้ๆ เลย ไม่น่าเชื่อว่าโลกที่มีแต่พวกผีดิบแบบนี้จะมีแต่สิ่งดีๆ ที่พวกเราครอบครองได้" กระทิงยิ้มฟันเหลืองอย่างออกหน้าออกตา

 

รถหุ้มเกราะขับมาจอดที่บ้านหลังใหญ่ใจกลางหมู่บ้านที่มีสนามหญ้ากับบ่อน้ำพุตั้งอยู่หน้าทางเข้า ที่นั่นมีชายหญิงสามสี่คนยืนรอพวกเขาอยู่ ทั้งสามลงมาจากรถด้วยสีหน้าเข้มขรึม ขณะที่ชายหญิงทั้งสี่ก็เดินมาหาคนทั้งสามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแบบเป็นมิตร

 

"ยินดีต้อนรับทุกคนครับ ผมชื่อบอยเป็นหัวหน้านักศึกษาของที่นี่ครับ ส่วนน้องคนนี้ชื่อครีม อีกคนชื่อริน แล้วก็นี่ก้องครับ" นักศึกษาร่างอ้วนตี๋แนะนำตัวเองและเพื่อนๆ

 

"ของพี่ชื่อกระทิง คนนี้ชื่อแรด ส่วนไอ้อ้วนนี่ชื่อเสือ" กระทิงแนะนำตัว

 

นักศึกษาทั้งสี่คนกระซิบกันเบาๆ เมื่อรู้ชื่อของคนทั้งสาม โดยเฉพาะนักศึกษาสาวที่ชื่อครีมกับริน แอบมองมาทางคนทั้งสามก่อนจะรีบหันหน้ากลับทันที

 

"เอ่อ....พวกพี่ใช่แก๊งเสือสิงกระทิงแรดที่ปล้นธนาคารในข่าวเมื่อหลายเดือนก่อนใช่ไหมครับ" ก้องนักศึกษาชายร่างผอมถามคนทั้งสาม

 

"ใช่ พวกเราเอง พวกน้องกลัวพวกพี่ใช่ไหม" แรดพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

"..............." ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทุกคนมีสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อถูกถามแบบนี้

 

"ไม่ต้องกลัวไปหรอกน้องๆ " กระทิงยิ้มฟันเหลือง "ถึงพวกพี่จะเป็นโจรปล้นธนาคารแต่พวกพี่ก็ไม่ใช่คนเลวหรอก พวกพี่แค่พยายามหาเงินเอาไปให้พ่อกับแม่เพื่อปลดค่าจำนองที่ดินที่ถูกพวกนายหน้ายึดไปก็เท่านั้นเอง พวกน้องสบายใจได้" แรดกับเสือมองหน้ากันเมื่อฟังกระทิงพูดโกหกปั้นน้ำเป็นตัวอย่างหน้าตาย

 

"ใช่ๆ แทนที่น้องๆ จะกลัวพวกพี่ๆ น้องๆ ควรกลัวพวกผีดิบข้างนอกจะดีกว่า พวกมันทั้งวิ่งเร็วทั้งกินไม่เลือกหน้า พวกพี่กว่าจะรอดชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้เลือดตาแทบกระเด็นเลยนะ" แรดรับไม้ต่อทันทีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

 

"พวกพี่พูดถูก โลกข้างนอกหน้ากลัวกว่านี้มาก เราที่เป็นคนที่รอดชีวิตควรร่วมมือกันถึงจะถูก" บอยชายร่างอ้วนหน้าตี๋พูดยิ้มๆ

 

"ใช่ ใช่ ข้างนอกผีดุมากๆ ขนาดไอ้สิงยังถูกเราฆ่า เอ๊ยถูกพวกผีดิบเอาไปกินเลย" เสือพยักหน้ารับคำแบบงงๆ เมื่อถูกแรดสะกิดขาแรงๆ ตามภาษาคนโง่

 

"งั้นพวกพี่พักตามสบายเลยนะครับ มีคนเก่งๆ อย่างพวกพี่อยู่ด้วยเราก็สบายใจ" ก้องพูดยิ้มๆ

 

ทั้งสามคนมาพักกันที่บ้านพักรับรองหลังหนึ่ง ที่เป็นบ้านโชว์ซึ่งถูกสร้างเสร็จแล้วมีเฟอร์นิเจอร์ครบ

 

"นี่น้องที่นี่มีคนอยู่เท่าไหร่" แรดถามก้องนักศึกษาชายที่มาส่งทั้งสามที่บ้านพัก

 

"มีทั้งหมด 18 คนครับ มีผู้ชาย 5 ผู้หญิงหญิง 13 คน ก่อนหน้านี้มีอยู่ราวๆ 30 คน พวกเราหนีมาจากมหาลัยที่อยู่ใกล้ๆ นี้ครับ" ก้องนักศึกษาชายตอบ

 

"แล้วคนอื่นๆ หายไปไหนกันหมด" กระทิงถามต่อ

 

"พวกนั้นออกไปหาอาหารข้างนอกครับ แต่ออกไปก็ไม่เคยกลับมาครบเลย ล่าสุดก็ออกไปหาอาหาร8คน สามวันมาแล้วไม่มีใครกลับมาเลย" ก้องพูดเสียงสลด

 

"ไม่เป็นไร พวกพี่มีอาหารเยอะ เดี๋ยวน้องเอาไปแจกให้ทุกคนกินให้อิ่มเลยไม่ต้องเกรงใจ" แรดบอก

 

"ยกเว้นเหล้า โอ๊ย....เหล้าด้วยก็ได้" เสือพูดด้วยท่าทางไม่พอใจแต่ก็ต้องยอมเพราะถูกเหยียบเท้า

 

ทั้งสามยืนดูพวกนักศึกษาชายหญิงเดินมาเอาของกินออกจากรถหุ้มเกราะ นักศึกษาหญิงหลายคนหันมายิ้มให้คนทั้งสามอย่างเป็นมิตร

 

"ขอบคุณพวกพี่ๆ มากนะคะที่แบ่งอาหารให้พวกเรา" ครีมนักศึกษาสาวสวยเดินมายกมือไหว้คนทั้งสามด้วยรอยยิ้ม

 

"ไม่เป็นไร" กระทิงรับไหว้ด้วยรอยยิ้ม

 

"ครีม....!!!! มาช่วยทางนี้เร็ว" เสียงของพลนักศึกษาชายหน้าตาดีตะโกนเรียกครีมให้มาช่วยยกของด้วยสีหน้าไม่พอใจ

 

"ขอตัวก่อนนะคะ" ครีมรีบวิ่งไปหาแฟนหนุ่มเมื่อพูดจบ ทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันเบาๆ เมื่อครีมเดินมาหาพล ก่อนที่พลจะหันมามองทางคนทั้งสามด้วยสายตาไม่พอใจ

 

"แกเห็นไหม" กระทิงกระซิบกับแรด

 

"อืม" แรดรับคำโดยไม่พูดอะไร

 

ตกกลางคืนก็มีงานเลี้ยงรอบกองไฟเพื่อฉลองการมาของทั้งสาม อาหารและเหล้าที่ทั้งสามคนนำมาถูกเอามาใช้กินกันอย่างมีความสุข มีการร้องรำทำเพลงกันอย่างเมามายเพื่อลืมความทุกข์และความกลัวที่เคยผ่านมา ทั้งสามแอบมองเหล่านักศึกษาสาวที่กำลังนั่งดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ใจของทั้งสามคนคิดแต่เรื่องอกุศลตลอดเวลา

 

"ทนไม่ไหวและ ขอตัวไปยิงกระต่ายแป๊บ" กระทิงช่ายร่างเล็กบอกกับเพื่อนๆ ก่อนจะลุกขึ้นมาในห้องน้ำ ระหว่างที่แรดกำลังเดินไปห้องน้ำก็ได้ยินพวกนักศึกหลายคนแอบคุยกันที่บ้านหลังหนึ่ง

 

"พวกนี้เป็นโจรปล้นธนาคารโคตรน่ากลัวเลย" เสียงนักศึกษาชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา "ท่าทางก็ดูไม่น่าไว้วางใจ ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้างทั้งเหล้าทั้งยาเสพติด"

 

"แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคนพวกนี้แล้วนะ เราจำเป็นต้องมีพวกเขาไม่งั้นเราก็อดตาย" เสียงนักศึกษาสาวคนหนึ่งพูดแย้ง

 

"ใช่ แกก็รู้ว่าเราออกไปข้างนอกไม่ได้ กลุ่มสุดท้ายที่ออกไปหาอาหารก็ไม่กลับมาเป็นเดือนแล้ว ถ้าเราไม่มีพวกเขาเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร" เสียงนักศึกษาชายอีกคนพูดสนับสนุนนักศึกษาสาวคนนั้น

 

"เราเองไม่ชอบพวกนั้น ดูสกปรกยังไงไม่รู้" นักศึกษาสาวอีกคนพูดเสียงแหลม

 

"ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ยังไงเราก็ต้องมีคนพวกนี้เพื่อความอยู่รอด พวกเขาจะช่วยเราให้มีชีวิตอยู่ได้ไปอีกเป็นเดือน ใครไม่เห็นด้วยก็ตามใจแต่ข้าจะเอาพวกเขาให้อยู่ด้วย" เสียงชายคนหนึ่งพูดเป็นเด็ดขาดก่อนที่ทุกคนจะเลิกคุยกัน

 

"เป็นไปตามแผน" กระทิงคิดในใจเมื่อทุกอย่างไปได้ด้วยดี

 

ตกกลางคืนหลังงานฉลอง ทั้งสามคนก็วางแผนเพื่อที่จะกำจัดพวกผู้ชายให้หมด

 

“ข้ามีแผนดีๆ แล้ว พวกแกฟังนะ...." กระทิงบอกเพื่อนทั้งสามถึงแผนการอันชั่วร้ายของตน....

 

รุ่งขึ้นทั้งสามจึงเรียกนักศึกษาทั้งหมดมาประชุมกันที่บ้านพัก

 

"ในฐานะที่เราสามคนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการเอาตัวรอดจากชีวิตด้านนอกมา พวกเราสามคนจึงขอตั้งตนเองเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของที่นี่ เพื่อความสงบสุขโดยที่เราจะร่วมมือกับผู้ชายทุกคนที่นี่เพื่อจัดกลุ่มออกตรวจตราบริเวณโดยรอบที่แห่งนี้ และจัดกลุ่มออกไปหาอาหารกันเพื่อพวกเราทุกคนที่นี่จะได้มีกินกันอย่างอิ่มท้อง มีใครเห็นด้วยบ้าง" แรดบอกกับทุกคน

 

"เห็นด้วยค่ะ!!!! " ครีมนักศึกษาสาวสวยยกมือสนับสนุน ขณะที่นักศึกษาคนอื่นๆ ต่างก็เห็นด้วยกับสิ่งนี้อย่างพร้อมเพรียง ยกเว้นพลกับนักศึกษาสองสามคนที่ไม่ยกมือเห็นด้วย

 

"ดีงั้นเริ่มจากออกลาดตระเวนพื้นที่รอบๆ กันก่อน ไอ้เสือพาน้องผู้ชาย 3 ไปตรวจพื้นที่รอบๆ ด้วยรถเพื่อหาอาหารตามร้านขายของ แล้วก็ไปเติมน้ำมันด้วย" กระทิงบอกเสือ "ส่วนแกแรดพาน้องผู้ชายสองคนไปตรวจพื้นที่รอบกำแพงด้านในหมู่บ้านว่ามีช่องอะไรไหม จะได้ไม่มีพวกผีดิบแอบเล็ดลอดเข้ามาในนี้ได้"

 

"ได้" เสือกับแรดรับคำ

 

"ส่วนที่เหลือก็ทำตัวกันตามสบายนะจ๊ะสาวๆ เลิกประชุม" กระทิงพูดจบทุกคนก็แยกย้ายกันไปทั้งสามคนมองตากันอย่างรู้ใจถึงแผนที่วางเอาไว้เมื่อคืน....

 

"เสือ แกต้องพาพวกผู้ชายขับรถออกไปไกลๆ แล้วทิ้งพวกมันให้ถูกพวกผีดิบจับกินให้หมด ส่วนแกแรดพาพวกมันไปเดินสำรวจรอบๆ หมู่บ้านที่ลับหูลับตาแล้วก็จัดการซะ ถ้าจะให้เนียลๆ หน่อยแกก็หาผีดิบมาปล่อยสักตัวสองตัว จะได้มีข้ออ้างว่าพวกผู้ชายถูกฆ่ายังไง แล้วพอพวกผีเข้ามาพวกเราก็จะเป็นฮีโร่มาช่วยพวกสาวๆ ทีนี้พอไม่มีพวกผู้ชายพวกเราก็จะมีสาวๆ ให้กินเป็นฮาเร็มกันเลย" กระทิงบอกแผนกับคนทั้งสอง

 

"แล้วแกทำอะไรระหว่างที่พวกข้าออกไปทำงาน" เสือถาม

 

"ข้าก็จะเตรียมตัวรอจัดการผีดิบยังไงล่ะ" กระทิงบอกกับเสือ

 

ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เสือพานักศึกษาชาย 3 คนขับรถหุ้มเกราะออกไปข้างนอกหมู่บ้าน ขณะที่แรดก็พานักศึกษาชายสองคนไปตรวจรอบๆ ด้านหลังหมู่บ้านที่เป็นบ้านร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จ

 

กระทิงที่รอเพื่อนทั้งสองคนทำงาน เขาก็เดินสำรวจตามที่ต่างๆ ในหมู่บ้าน เพื่อดูสาวๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านกำลังทำงานกันอยู่

 

"ทำอะไรกันจ๊ะสาวๆ " กระทิงถามสาวๆ ที่กำลังเอาเนื้อแดดเดียวมาตาก

 

"กำลังตากเนื้อเค็มคะ พวกเราเรียนทางด้านเกษตรและอาหารมาค่ะ เลยรู้จักวิธีถนอมอาหารรูปแบบต่างๆ " รินนักศึกษาสาวบอกกับกระทิง

 

"เรามีผักด้วยนะคะ มันขึ้นตามรั้วถึงจะมีแค่ตำลึงกับกล้วยแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย" ครีมพูดยิ้มๆ กับกระทิง

 

"ดีแล้วที่น้องๆ รู้จักเอาตัวรอดแบบนี้" กระทิงแอบมองหน้าอกครีมเมื่อพูดกับเธอ

 

เวลาผ่านไปจนตกเย็นแรดก็กลับมาที่ใจกลางหมู่บ้านพร้อมนักศึกษา 2 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่เสือยังไม่กลับมาเลย

 

"ทำไมเอ็งไม่ทำตามแผน" กระทิงด่าแรดเมื่อเขากลับมาด้วยความไม่พอใจ

 

"ก็รอบๆ กำแพงไม่มีช่องอะไรเลย จะเอาผีดิบมาจากไหนกันวะ" แรดว่ากลับ

 

"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ แล้วไอ้เสือมันหายหัวไปไหนของมันวะ" กระทิงพูดด้วยท่าทางไม่พอใจเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

 

จนถึงมื้อเย็นกระทิงก็ยังไม่กลับมา ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเงียบงัน เพราะผู้ชายสามคนที่มีพลกับบอยอยู่ในกลุ่มที่ออกไปกับเสือยังไม่กลับมา

 

"ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวพวกนั้นก็กลับมาเชื่อพี่" แรดปลอบใจนักศึกษาทุกคนที่กำลังเสียขวัญ โดยเฉพาะครีมที่นั่งซึมเพราะเป็นห่วงพลแฟนหนุ่มที่ยังไม่กลับมา

 

ตกกลางคืนเมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปนอน แรดก็วางแผนใหม่ขึ้นมาได้

 

"กระทิงเดี๋ยวคืนนี้แกออกไปนอกหมู่บ้าน ไปล่อผีดิบมาสักสองสามตัวมาปล่อยในหมู่บ้าน เดี๋ยวข้าจะแง้มประตูเอาไว้ให้ พอแกมาถึงข้าจะไปชวนผู้ชายสองคนนั่นมาที่ประตูจะได้ให้พวกมันถูกผีดิบกิน" แรดออกความคิด

 

"ตกลงตามนี้" กระทิงรับคำ

 

ตกดึกทั้งคู่จึงทำตามแผนที่วางเอาไว้ แรดแอบเปิดประตูทางเข้าหมู่บ้านแล้วให้กระทิงรีบออกไปนอกหมู่บ้าน ขณะที่แรดเตรียมพร้อมรอสัญญาณอยู่หลังประตู กระทิงพร้อมกับไม้เบสบอลเหล็กเดินไปเดินมาแถวทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งซอยทางเข้าหมู่บ้านตอนนี้มีแต่พงหญ้าคารกทึบมืดสนิทตลอดทาง มีเพียงแสงจากไฟฉายเท่านั้นที่เป็นเครื่องนำทาง

 

"ทีต้องการตัวล่ะไม่มีสักตัว ผีจ๋าผี" กระทิงเดินไปบ่นไปในพุ่มหญ้ารกๆ จนมาเจอลานรอดรถแห่งหนึ่งข้างกำแพงหมู่บ้าน ที่ข้างกำแพงนี้มีรถหลายคันสภาพดีๆ ซึ่งพร้อมใช้งานจอดทิ้งเอาไว้เป็นสิบๆ คัน แต่ไร้ซึ่งคนขับหรือวี่แววคนแถวนั้นเลย

 

กระทิงเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนมาเจอรถหุ้มเกราะของตน จอดทิ้งเอาไว้ที่กำแพงหมู่บ้าน แต่ข้างในรถกลับไม่มีใครอยู่เลยและไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรืออะไรทั้งนั้นในรถ "ไอ้เสือไปไหนของมัน" กระทิงบ่นดังๆ เมื่อส่องไปในรถไม่เจอใคร จนกระทั่งเขาไปเห็นประตูเหล็กประตูหนึ่งที่กำแพงเขาจึงเปิดเข้าไปด้วยความสงสัย เมื่อเข้ามาเขาก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่ในส่วนของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่งที่สร้างเสร็จแล้ว กระทิงเดินจากประตูเข้ามาในส่วนของห้องๆ หนึ่ง เขาส่องไฟเข้าไปดูด้านในห้อง ที่เป็นเหมือนห้องครัวธรรมดา มีตู้เย็นขนาดใหญ่กับเครื่องครัวเช่นมีดกระทะหม้อ กระทิงส่องไฟดูรอบๆ ห้องก่อนจะไปสะดุดตากับโหลอะไรบางอย่างที่วางเอาไว้ที่ชั้นวางของ

 

"......!!!! " กระทิงส่องไฟดูโหลเหล่านั้นก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อโหลดองเหล้าขนาดใหญ่เหล่านั้นใส่ลูกตาคนเอาไว้หลายดวง ส่วนโหลอื่นๆ ก็ใส่อวัยวะพวกหัวใจตับปอดเอาไว้แยกเป็นโหลๆ เหมือนดองเค็ม และยังมีกองเสื้อผ้าชายหญิงที่อยู่ตรงมุมห้อง กระทิงแปลกใจและตกใจกับสิ่งที่เห็นมากๆ จนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าข้างในตู่เย็นจะมีอะไร "อุ๊บ!!! " กระทิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเปิดตู้เย็นออกมาก็พบกับกล่องอะไรบางอย่างหลายกล่องอยู่ในนั้น และที่ด้านล่างของตู้เย็นก็มีแขน 2 ข้างของคนอยู่ในนั้น และแขนข้างหนึ่งก็มีรอยสักรูปเสือเผ่นอยู่ที่หัวไหล่ ซึ่งเป็นรอยสักเดียวกับที่เสือสักเอาไว้

 

"อะไรว่ะเนี้ย!!!! " กระทิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ

 

"เห็นแล้วซินะครับความลับของพวกเรา" บอยที่ยืนอยู่ด้านหลังของกระทิงพูดยิ้มๆ ด้วยหน้าตาเป็นมิตร

 

"พะพวกแก!!! ..." กระทิงสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงของบอยที่ด้านหลัง "พะพวกแกกะกิน....!!! "

 

"ครับ เพื่อความอยู่รอดบนโลกที่โหดร้ายเราจึงต้องทำ...." บอยนักศึกษาชายพูดยิ้มๆ ในมือของเขามีมีดอีโต้ด้ามโต

 

"งะงั้นเนื้อแดดเดียวนั่นก็!!!! " กระทิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาจ้องไปที่มีดอีโต้ในมือของบอยนักศึกษาชาย "อย่านะ!!!! ไม่นะ....ไม่...!!!! " กระทิงดวงตาเบิกโพลงด้วยความกลัวสุดขีด

 

"ฉับ!!!! อ๊ากกกกก!!!! ฉับ!!! ฉับ!!! " เสียงของมีดอีโต้ฟันลงบนชิ้นเนื้อพร้อมเสียงร้องโหยหวนของใครบางคนดังกึกก้องท่ามกลางความเงียบงัน....

 

"เมื่อไหร่มันจะมาสักที รอจะเมื่อยแล้ว" แรดยืนบ่นคนเดียวที่หน้าประตูหมู่บ้าน โดยที่ไม่รู้ว่าด้านหลังของเขามีกลุ่มชายหญิงหลายคนกำลังยืนอยู่

 

"พี่คะ.." ครีมนักศึกษาสาวเรียกแรดให้หันมา "ขอบคุณที่กรุณาเรื่องอาหารแก่พวกเรานะคะ" ครีมนักศึกษาสาวสวยพูดยิ้มๆ พร้อมกับชูมีดเล่มยาวออกมาต่อหน้าแรด

 

"ไม่..........!!!!! " เสียงร้องของชายหนุ่มร่างผอมดังกึกก้องทั่วหมู่บ้าน ท่ามกลางความมืดมิด

 

และแล้วความสงบสุขที่กลับมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้อีกครั้ง....

 

                  "ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ" 

เนื้อหาโดย: yongyee
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
yongyee's profile


โพสท์โดย: yongyee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568คนดูยังท้อ!! หนุ่มทำคอนเทนต์ตามล่า “ ช็อกโกแลตดูไบ” ในเซเว่น หาทั้งจังหวัด 23 สาขา ก็ยังไม่มี แต่สุดท้ายได้ลองสมใจผลการออกรางวัลสลากกาชาด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประจำปี 2567🎉🎁น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น"เหมือนเป๊ะ! แตงโมจัดเต็มโคฟเวอร์ 'เจ๊มิ่ง' แซ่บเวอร์ทุกดีเทล"โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบBaby V.O.X เกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานของเกาหลี คัมแบ๊กในรอบ 14 ปี นำโดย 'ยุนอึนเฮ'เชน ธนา การเงินวิกฤตหนัก ตัดใจประกาศขายออฟฟิศ 3 ตึก ราคารวมเกือบร้อยล้านชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสียคลิปไวรัล คุณยายวัย 95 ปี หัวเราะจนหงายหลัง ชาวเน็ตเเห่ถามคุณยายเป็นอะไรชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮ! เงินไร่ละพันยังมาต่อเนื่อง! ชาวนารับเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. กันอยู่หรือเปล่า? มาอัปเดตกันหน่อย!รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!อย่าท้าทายระบบ! "สารวัตรแจ๊ะ" เผยสาเหตุที่ต้องใส่แมสก์ และสวมหมวกตลอดเวลาสั่งพักงานยกชุด! 18 ตำรวจจราจร ปมตั้งโต๊ะจับปรับ 'เจอจ่ายจบ'"ร่วมส่งใจ อาเป็ด เชิญยิ้ม แอดมิตด่วน เจอพิษ “โนโรไวรัส” ยังไม่มียา-วัคซีน ชวนป้องกัน กินสุกลดเสี่ยง ล้างมือบ่อย #ลดเสี่ยงโรค
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบโบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปียเขาพระวิหาร: สัญลักษณ์แห่งความงดงามและความขัดแย้งภาพสุดท้าย
ตั้งกระทู้ใหม่