หลายครั้งในชีวิตที่เยอรมัน ตอน2
อีกครั้งที่ต้องเดินทางไปประชุมที่ประเทศเยอรมัน จึงเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันครับ
การเดินทางเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย เท่ียวบินนี้จะออกเดินทางเวลาประมาณใกล้เที่ยงคืน จะบินไปเยอรมันตอนกลางคืนใช้เวลาบินโดยประมาณ 11 ชั่วโมง
เมื่อถึงเยอรมันแลัวก็เดินทางเข้าโรงแรมที่พัก
ช่วงที่เดินทางไปนั้นเป็นช่วงต้นปีเป็นช่วงที่หิมะตกพอดี ดังนั้นสถานที่ต่างๆจึงถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
มื้อค่ำของวันแรกไปกินกันที่ร้านอาหารในเมือง Marbach
มื้อนี้เพื่อน 2 คนนี้เป็นเจ้าภาพอีกเช่นเคย แกไม่เคยให้เราออกเงินเลย
เมื่อกินกันเสร็จแล้วก็เดินเท้ากลับโรงแรมที่พัก เพราะระยะทางจากร้านอาหารห่างจากโรงแรมประมาณ 1 กิโลเมตร คิดเอาเองว่าไม่ไกลเดินได้ อยากได้บรรยากาศ การเดินลุยหิมะดูหน่อยว่าจะรู้สึกอย่างไรบ้าง
ผลสรุปคือ รู้สึกหนาวมาก ปลายมือชาไปหมด พื้นถนนก็ลื่นมากๆเลย เดินลำบากมาก
เช้าวันรุ่งขึ้นเดินทางออกจากโรงแรมที่พักเพื่อไปประชุม จึงเชิญเพื่อนขับรถมารับเนื่องจากเข็ดแล้วไม่กล้าเดินแล้วกลัวหนาวตาย
ดูสภาพถนนสิ เต็มไปด้วยหิมะ
เมื่อถึงที่หมายแล้วหาอะไรกินนิดหน่อยก่อนเข้าห้องประชุม
เมื่อเสร็จจากการประชุมในช่วงเช้าแล้วก็ขับรถออกไปหาอะไรกินกัน
เพื่อน 2 คนนี้ไงครับที่พาพวกเราชาวเอเซียไปกินเลี้ยงในงานเทศกาลดื่มเบียร์ Octoberfest ที่เมือง Stuttgart ที่เคยได้เล่าไว้ชื่อตอน "หลายครั้งในชีวิตที่เยอรมัน ตอน1" และ 2 คนนี้แหละได้พาเราขับรถจาก Marbach ไปยังเมือง Munich ของเยอรมัน เอาไว้จะมาเล่าเรื่องราวของการไปเที่ยวเมือง Munich มาให้ฟังกันในตอนหน้าซึ่งจะมีชื่อเรื่องว่า "หลายครั้งในชีวิตที่เยอรมัน ตอน3" นะครับ
เมื่ออาหารมาถึงโต๊ะก็ลงมือกินกันได้เลย
มีการจิบเบียร์กันนิดหน่อย แก้วละ ครึ่งลิตรพอ ไม่เหมือนในงาน Octoberfest ที่นั่นดื่มกันทีนีง แก้วละ 1 ลิตรเลย
เมื่อกินอาหารเที่ยงกันเสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมที่พักกันเลย ไม่ต้องไปประชุมแล้วเนื่องจากไม่ได้แค่จิบเบียร์ครึ่งลิตรแค่ 1 แก้ว แต่จิบไปจิบมากลายเป็นหลายแก้ว ไม่อยากไปประชุมกันแล้ว เพื่อนชาวเยอรมันก็บอกว่าไม่เป็นไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
พอตกเย็นมีคนมาหาที่โรงแรม ออกไปดูเห็นเป็นเพื่อนผู้หญิงชาวเยอรมันที่เคยขับรถพาเราไปประชุมที่อิตาลี่ เขามาชวนไป Dinner ไปก็ไปกันครับ สู้ไม่เคยถอยอยู่แล้ว
มื้อนี้เจอไวน์เข้าไป เหมือนเดิมเมา กลางวันเมาเบียร์ กลางคืนเมาไวน์ คิดไปคิดมา นี่วันนี้เรายังไม่ได้งานการกันเลยนี่นา
เมื่อหมดไวน์ขวดนี้แล้วก็เดินทางกลับโรงแรมกัน
แต่ยังครับยังไม่จบ ประมาณ 3 ทุ่มมีคนมาหาอีก ออกไปดู อ้าวเพื่อน 2 คนที่กินข้าวด้วยกันตอนกลางวันนี่นา มาชวนออกไปดื่มกาแฟกันแก้หนาว เอ้า ไปก็ไป
แทนที่ระเป็นกาแฟ แต่มาจบงานที่เบียร์ ต้องไปให้สุด
งานนี้ต้องจบละครับ ดื่มไม่ไหวแล้ววววว
รุ่งเช้าไปประชุมต่ออีกนิดหน่อย จากนั้นก็ออกเที่ยวกันในเมือง Stuttgart
จากนั้นก็ไปต่อที่สถานีวิทยุแห่งแรกในเยอรมัน(เพื่อนบอกอย่างนั้นครับ)
จากนั้นก็ได้เวลากินกันอีกแล้ว
ขาหมูเยอรมันครับ
เอาละครับเรื่องราวก็มีประมาณนี้ครับ ไว้พบกันใหม่ในตอนถัดไปตอนที่ 3 นะครับ / สวัสดีครับ
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็น
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
ย้อนตำนาน “ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์” อ่านราชโองการผิดเพียงคำเดียว แต่ช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์นับพัน
ความงามที่ไม่เสื่อมคลายของ คิมซารัง แม้จะอายุเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่
นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมาก
ศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริต
บราวนี่ ไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมน้อย อร่อยสร้างภาพ
ความงามที่ไม่เสื่อมคลายของ คิมซารัง แม้จะอายุเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม
'ซ่าหริ่ม' ขนมไทยโบราณที่ยังนิยมอยู่ในยุคปัจจุบัน
เที่ยวสวนจตุจักร กรุงเทพฯ
ท่าแร่สว่างทั้งเมือง เปิดยิ่งใหญ่ “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส” ขบวนแห่คึกคัก–โดรนโชว์สุดตระการตา ดึงนักท่องเที่ยวคับคั่ง ยกระดับประเพณีศรัทธาสู่ Signature Thailand Event
วัดกู้ วัดเก่าแก่ในนนทบุรี ที่ต้องไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ มรดกประวัติศาสตร์แห่งลพบุรี ร่องรอยความรุ่งเรืองสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช









































