เสาหินอ่อน หน้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน ในอดีต
เสาหินอ่อน หน้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน
🔸เสานี้เรียกว่า หัวเปียว (จีนตัวย่อ: 华表; จีนตัวเต็ม: 華表) จะเป็นเสาพิธีการประเภทหนึ่งที่ใช้ในสถาปัตยกรรมเเบบจีนโบราณ ซึ่งเสานี้มักจะสร้างเป็นคู่กันที่หน้าพระราชวังและสุสาน ให้มีความโดดเด่นเเละเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม
เมื่อวางไว้นอกพระราชวัง อาจเรียกว่า บังมู่ (จีนตัวย่อ: 谤木; จีนตัวเต็ม: 謗木) จะเป็นกระดานแสดงความคิดเห็น เเต่เมื่อวางไว้นอกสุสาน จะเรียกว่า เฉินเต้าจู้ (จีน: 神道柱) เสาวิถีแห่งจิตวิญญาณ
🔸ตำราคลาสสิกของจีนกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของ เสาหินนี้ ว่าเป็นของ Shun ผู้นำในตำนานซึ่งสืบเนื่องมาจากศตวรรษที่ 23-22 ก่อนคริสต์ศักราช บางคนบอกว่ามันพัฒนามาจากเสาโทเท็มของชนเผ่าโบราณ
ซึ่งจะเป็นกระดานไม้ที่ตั้งไว้บนถนนสายหลักเพื่อให้ผู้คนสามารถเขียนได้ หรือการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลได้
🔸เเต่อย่างไรก็ตาม ตามประเพณีถือว่าในช่วงกลางราชวงศ์เซี่ย กษัตริย์ได้ย้ายบังมูไปด้านหน้าพระราชวัง เพื่อควบคุมการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ในช่วงรัชสมัยอันโด่งดังของกษัตริย์หลี่แห่งโจว(King Li of Zhou) กษัตริย์จะคอยเฝ้าติดตามผู้ที่เขียนหรือผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ก็จะเฝ้าติดตามเเละถูกสังหารสิ้น 😮 จนทำให้เสาความคิดเห็นนี้ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆเนื่องจากกลัวถูกสังหาร
ในราชวงศ์ฮั่น บังมูกลายเป็นเพียงสัญลักษณ์แสดงถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนเช่นกัน เเต่เสาถูกสร้างขึ้นใกล้สะพาน พระราชวัง ประตูเมือง และสุสาน
🔸ชื่อ Huabiao(หัวเปียว) เกิดขึ้นยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ เป็นยุคใน ประวัติศาสตร์จีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 420 ถึงปี ค.ศ. 589 ได้พัฒนาเสาบังมู่ โดยติดตั้งกล่องไว้ข้างเสาบังมู่ ผู้ที่ต้องการแสดงความคับข้องใจหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลสามารถโพสต์ข้อความลงในช่องเหล่านี้ได้(ไม่ตามไปสังหารเหมือนเเต่ก่อน)
🔸Huabiao ที่ยังหลงเหลืออยู่มักทำจากหินอ่อนสีขาว โดยทั่วไปแล้ว huabiao จะประกอบด้วยสี่องค์ประกอบ ด้านล่างมีฐานสี่เหลี่ยมตกแต่งด้วยภาพนูนต่ำเป็นรูปมังกร ดอกบัว และสัญลักษณ์มงคลอื่นๆ
🔸ด้านบนเป็นเสาประดับด้วยมังกรขดและเมฆมงคล ใกล้ด้านบนสุด เสามีกระดานหินแนวนอนไขว้กันเป็นรูปเมฆ (เรียกว่า “กระดานเมฆ”)
🔸 เสามีหมวกกลมอยู่ด้านบน เรียกว่า chenglupan (承露盤) “แผ่นเก็บน้ำค้าง” บนหมวกมีสัตว์ในตำนานเรียกว่า เติ้งหลง (จีน: 蹬龙) หนึ่งใน “บุตรทั้งเก้าของมังกร” ซึ่งว่ากันว่ามีนิสัยชอบมองท้องฟ้า ว่ากันว่าบทบาทของมันบนยอดหัวเปียวคือการสื่อสารอารมณ์ของผู้คนไปยังสวรรค์เบื้องบน นั้นเองครับ
🔹ภาพบน:ในปี ค.ศ. 1933 (Photo: Morrison Hedda)
🔹ภาพล่าง:ในปี ค.ศ. 2015 (Photo:Wikimedia)
#history
#jarnmooChannel
#ประวัติศาสตร์จีน