หลี่ หงจาง ทางเลือกสุดท้ายของซูสีไทเฮา
🔸โลหิตนี้แหละที่จะตอบแทนคุณประเทศชาติ และจงจำบทเรียนอันอัปยศครั้งนี้เอาไว้ให้ดี🔸(หลี่ หงจาง)
🐉หลี่ หงจาง (จีน: 李鴻章) เป็นขุนนางขั้นหนึ่ง เป็นผู้บัญชาการทหาร และนักการทูตชาวจีนในปลายราชวงศ์ชิง(ในช่วงที่พระนางซูสีไทเฮายังมีอำนาจอยู่
🐉หลี่ หงจาง มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกพัฒนาอุตสาหกรรมและการทหารของจีนให้ทัดเทียมสากล เขาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆหลายตำแหน่งในราชสำนักทั้งเป็น
🔸ข้าหลวงมณฑลจื๋อลี่ (ค.ศ. 1871–1895)
🔸ข้าหลวงมณฑลหูกว่าง (ค.ศ. 1867–1870)
🔸ข้าหลวงมณฑลเหลียงก่วง (ค.ศ. 1899–1900)
🐉หลี่ หงจางเป็นขุนนางหัวสมัยใหม่และเป็นนักการทูตคนสำคัญจึงทำให้เขามีชื่อเสียงในสื่อตะวันตก เขาร่วมมือกับรัสเซียในการต่อต้านอิทธิพลของอังกฤษและต่อต้านการรุกคืบของจักรวรรดิญี่ปุ่นในแมนจูเรีย
🐉เเต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของราชสำนักชิงที่มีต่อเขากลับดับวูบลง "เมื่อจีนพ่ายแพ้ในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง" และจีนต้องลงนามในสัญญาอัปยศอย่างสนธิสัญญาชิโมโนเซกิ
🐉หลี่หงจางถูกลอบทำร้ายขณะลงนาม🐉
🔸หลังจากที่การเจรจาเสร็จสิ้นลง หลี่ หงจางดูกลัดกลุ้มอ่อนเพลียและมีเรื่องหนักใจเต็มไปหมด เขาก้าวออกจากอาคารชุมปันโรแล้วนั่งเกี้ยวกลับไปที่วัดอินโจจิ
🔸ในขณะที่เกี้ยวของหลี่ หงจางใกล้ถึงที่พักทันใดนั้นก็มีชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งถือปืนพกหนึ่งกระบอกในมือพุ่งตัวออกมาจากฝูงชน เขาเล็งปืนไปที่หลี่ หงจางแล้วก็ยิงเข้าใส่โดยไม่รอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้ติดตามหลี่ หงจางได้ทันตั้งตัว กระสุนปืนยิงถูกแก้มซ้ายของหลี่ หงจางจนเลือดไหลอาบหน้า
🔸เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้ติดตามจึงรีบหามหลี่ หงจางกลับเข้าที่พักในวัดอินโจจิ แพทย์รีบตรวจอาการบาดเจ็บของเขาอย่างละเอียดทันทีและพบว่ากระสุนยิงโดนกระดูกโหนกแก้มด้านซ้าย ตำแหน่งบาดแผลอยู่ใต้ตาซ้ายประมาณหนึ่งนิ้ว
🔸กระสุนยังคงค้างอยู่ในเนื้อแต่ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา หลี่ หงจาง หลังได้ถูกลอบทำร้ายมีท่าทีสงบนิ่ง เขาได้กล่าวกำชับผู้ติดตามให้เก็บเสื้อเปื้อนเลือดที่เขาถอดไว้ อย่าซักรอยเลือดออก หลี่ หงจางได้ชี้นิ้วไปที่เสื้อเปื้อนเลือดตัวนั้นแล้วกล่าวอย่างองอาจว่า
"เลือดนี้แหละที่จะตอบแทนคุณประเทศชาติ และจงจำบทเรียนอันอัปยศครั้งนี้เอาไว้ให้ดี"
🔸ซึ่งการลงนามครั้งนี้ ก่อให้เกิดเป็นข้อโต้แย้งในบรรดาขุนนางจีนถึงความรับผิดชอบในฐานะที่เขาผู้บัญชาการกองเรือเป่ยหยางในสงครามครั้งนั้น ซึ่งในที่สุดก็ทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งในค.ศ. 1895
🔸เเต่หลังจากถูกปลดจากตำแหน่ง เขาเป็นหนึ่งในคณะทูตของจีนซึ่งได้เดินทางเยือนรัสเซีย, ยุโรป และอเมริกาเหนือ
🔸ก่อนที่ในปี ค.ศ. 1900 เขาได้กลับมานั่งในตำแหน่งเดิมโดยพระนางซูสีไทเฮา มีพระราชเสาวนีย์ตั้งเจ้าชายชิง ซึ่งเป็นอัครมหาเสนาบดี (Prime Minister) และหลี่ หงจาง ซึ่งเป็นราชครู (Grand Tutor) ให้เป็นผู้มีอำนาจเต็มในการลงลายมือชื่อในพิธีสารนี้สำหรับจักรวรรดิชิง
🔸ในช่วงเวลานี้เขาได้ลงนามในพิธีสารนักมวยซึ่งเป็นการยุติกบฎนักมวย ซึ่งทำให้ซูสีไทเฮาจักรพรรดิกวังซฺวี่ได้กลับ พระราชวังต้องห้าม อีกครั้ง ในปี 1902 หลังจากที่หลบหนีไปใน ปี ค.ศ. 1900
🔸หลี่ หงจางก็ถึงแก่อนิจกรรมในตำแหน่งด้วยโรคตับอักเสบ ขณะมีอายุ 78 ปี เสียชีวิตหลังจากที่ลงนาม สองเดือน
#history
#jarnmooChannel
#ราชวงศ์ชิง