ครั้งหนึ่งในชีวิตที่อิตาลี่
เมื่อเสร็จจากการประชุมที่เยอรมันแล้ว คิวต่อไปต้องเดินทางไปประชุมที่ประเทศอิตาลี่
ครั้งนี้เดินทางไปจากเยอรมันโดยขับรถยนต์ไป เนื่องจากถนนในยุโรปสามารถเชื่อมต่อกันได้หลายประเทศ ถนนที่ว่านี้คือ Autobahn
ช่วงที่เดินทางไปนั้นหิมะหยุดตกพอดี แต่ก็ยังมีหิมะที่ปกคลุมตามพื้นดินให้เห็นอยู่ตลอดเส้นทาง
บน Autobahn รถที่ขับช้ากว่าคันอื่นต้องขับชิดขวา ส่วนรถคันที่ขับเร็วกว่าคันอื่นๆ ให้ขับทางด้านซ้ายของเลน ความเร็วของรถที่วิ่งบน Autobahn นั้นเร็วมาก เท่าที่เห็นนั้นแต่ละคันใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ปลอดภัยเนื่องจากพื้นถนนเรียบมาก
พอถึงช่วงเที่ยงก็จอดพักรถ
หาอาหารเที่ยงกินกัน
ส่วนผมก็จิบเบียร์นิดหน่อย เนื่องจากไม่ต้องขับรถ เพื่อนผู้หญิงซึ่งเป็นชาวเยอรมันเป็นคนขับ ผมจึงจิบเบียร์เยอรมันได้ตามสบายใจ
มื้อนี้เราไม่ต้องจ่ายครับ กินฟรี
เมื่อกินเสร็จแล้วก็เดินเล่นกันอีกนิดหน่อย ค่อยเดินทางต่อ
พอมาถึงที่หมายในอิตาลี่ เจ้าภาพก็พาไปกินอาหารเย็นกันเลย
อาหารมื้อแรกในอิตาลี่นั้นเป็นอาหารพื้นเมือง ชื่ออะไรก็จำไม่ได้แล้ว รสชาดออกเค็มๆ กินกับขนมปังแข็งๆ
เมื่อทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับโรงแรมที่พักเพื่อพักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับการประชุมในวันรุ่งข้ึน
พอรุ่งเช้าก็เตรียมตัวออกเดินทางออกจากโรงแรมที่พัก
เหมือนตอนไปประชุมที่เยอรมันเลย เดินทางโดยรถบัส
ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมที่พักประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย
สถานที่จัดการประชุมเป็นบริษัทเล็กๆ ในอิตาลี่ ตั้งอยู่กลางหุบเขา อากาศดีมากเลย
ทางเจ้าภาพอิตาลี่ได้เตรียมเครื่องดิ่มและของว่างไว้คอยบริการตลอดเวลาเลย
ยังคิดอยู่เลยว่าเรามาประชุมหรือมางานกินเลี้ยงกันแน่ แต่ก็ดีสนุกดี
พอประชุมกันเสร็จก็เตรียมตัวออกไปเดินเล่นกัน
วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม วันนี้นั่งรถเก๋งไปประชุมกับเพื่อน
ก่อนออกเดินทางต้องขูดเอาหิมะที่เกาะกระจกหน้ารถออกก่อน
เตรียมพร้อมสำหรับการประชุม
วันนี้มีการประชุมเพียงครึ่งวันเท่านั้นเนื่องจากต้องเผื่อเวลาในการเดินทางกลับไปเยอรมันด้วย
ระหว่างทางก็ได้แวะโรงงานผลิตขนมไปด้วย
เมื่อเดินทางถึงที่พักในเยอรมันก็แยกย้ายกันพักผ่อน / ลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่นะครับ