บ้านไม้เก่าในป่าลึก
ผมได้ไปฟังเรื่องหนึ่งของต่างประเทศมาเกี่ยวกับบ้านที่อยู่ในป่าเลย
หยิบมาเล่าใหม่ ขอให้อ่านเพิ่มความสนุกนะคับ เริ่มกันเลยดีกว่า
เรื่อง
"บ้านไม้เก่าในป่าลึก"
ในป่าลึกที่ห่างไกลจากหมู่บ้าน มีบ้านไม้เก่าหลังหนึ่งที่ถูกทิ้งร้างมานานนับปี บ้านหลังนี้ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และมอสเขียวชอุ่ม บรรยากาศเงียบสงัด ไม่มีเสียงนกหรือแมลงใดๆ บริเวณนี้ถูกเล่าลือว่าเป็นที่อยู่ของวิญญาณที่ยังไม่สงบ และไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้
คืนหนึ่ง กลุ่มเพื่อนสี่คนตัดสินใจจะมาท้าทายความกลัวของพวกเขาโดยการไปค้างคืนในบ้านหลังนี้ พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล่าขานที่คนแก่ใช้หลอกเด็ก แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาในบ้าน เสียงประตูเก่าที่เอียงลงมาปิดอย่างช้าๆ โดยที่ไม่มีใครแตะต้อง
ภายในบ้าน มันมืดมิดและอับชื้น มีเพียงแสงไฟจากไฟฉายของพวกเขาที่ส่องสว่าง พื้นไม้เก่าเสียงดังกึกๆ เมื่อพวกเขาเดินผ่าน ภาพวาดเก่าๆ บนผนังดูเหมือนจะมองตามพวกเขาไปทุกที่
เมื่อเวลาผ่านไป เสียงกระซิบเบาๆ เริ่มดังขึ้นในอากาศ เพื่อนคนหนึ่งชื่อ "นัท" เริ่มได้ยินเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน มันกระซิบเรียกชื่อเขาอย่างนุ่มนวล "นัท...นัท..." นัทเริ่มรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างตามเขาอยู่ แต่ทุกครั้งที่เขาหันไปดู กลับไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น
คืนนั้น เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ พวกเขาพยายามจะนอน แต่เสียงกระซิบและความรู้สึกหนาวเย็นที่แผ่ซ่านไปทั่วทำให้พวกเขาไม่อาจหลับตาลงได้
ทันใดนั้น หนึ่งในเพื่อนของนัทเห็นเงาดำปรากฏขึ้นในกระจก มันยืนอยู่หลังนัทพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา ทุกคนต่างตกใจและตะโกนเรียกนัท แต่เมื่อเขาหันกลับมา เงานั้นก็หายไป
แต่ความสยองยังไม่จบ เสียงกระแทกที่มาจากชั้นบนทำให้พวกเขาต้องเดินขึ้นไปตรวจสอบ ห้องนอนที่พวกเขาเข้าไปเป็นห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นและมีกลิ่นอับๆ แต่ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในห้อง ประตูปิดลงอย่างแรง และเงามืดของวิญญาณเริ่มปรากฏรอบๆ ตัวพวกเขา
เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ดังขึ้นจากเพื่อนคนหนึ่งที่เริ่มถูกลากไปยังมุมมืดๆ ของห้อง ในขณะที่คนอื่นๆ พยายามจะช่วย แต่แรงลึกลับบางอย่างดึงเขาไปอย่างรุนแรงจนเขาหายไปในเงามืด
ความหวาดกลัวที่เข้าครอบงำทำให้พวกเขาตัดสินใจจะหนีออกจากบ้าน แต่ทุกครั้งที่พวกเขาพยายามจะวิ่งลงบันได พวกเขากลับพบว่าพวกเขาอยู่ในที่เดิม เหมือนถูกขังอยู่ในวงกตที่ไม่มีทางออก
สุดท้าย พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะเย็นเยียบและเสียงกระซิบที่บอกว่า "บ้านหลังนี้เป็นของเรา...และพวกเจ้าจะไม่มีวันได้ออกไป"