"กะลาตาเดียว"ของขลังเรียกเงินเรียกทองที่ไม่ต้องปลุกเสก
เครื่องรางของขลังที่คนทั่วไปรู้จักมักจะต้องใช้องค์ประกอบมากมายรวมถึงการปลุกเสก แต่ในบรรดาเครื่องรางของขลังมีเครื่องรางชนิดหนึ่งที่ไม่ต้องปลุกเสกและได้มาจากธรรมชาตินั่นก็คือ "กะลาตาเดียว"
กะลามะพร้าวที่มีตาเพียงตาเดียวหรือ "กะลาตาเดียว" ถือเป็นของหายากเพราะโดยทั่วไปแล้วกะลามะพร้าวจะมี 2 ตา กะลาตาเดียวจึงเป็นของขลังที่มีฤทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ในตัวโดยไม่จำเป็นต้องปลุกเสก มักถูกนำไปแกะสลักหรือทำเป็นเครื่องประดับ โดยคนโบราณเชื่อว่ามีคุณวิเศษดังนี้
ด้านทรัพย์สินและอาชีพการงาน
หากตักข้าวสารใส่หม้อด้วยกะลาตาเดียวเวลาหุงข้าวหรือนำติดตัวเวลาประกอบอาชีพจะทำให้มีทรัพย์สินบริบูรณ์ หากเป็นเกษตรกรก็จะทำให้พืชผลงอกงาม หากเป็นข้าราชการก็จะก้าวหน้า เติบโตในหน้าที่การงาน ค้าขายได้เงินได้ทองดี
ป้องกันอาถรรพ์และสิ่งไม่ดี
สามารถใช้เป็นเครื่องรางพกติดตัวหรือนำไปปลุกเสกเพิ่มเติมได้ ไว้ใช้ป้องกันสิ่งไม่ดี คุณไสย เสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจ ของที่เข้าตัว รวมถึงแก้ผีเข้าและล้างอาถรรพ์ในบ้าน เช่นปลูกบ้านทับของไม่เป็นมงคล หรืออยู่กลางทางสามแพร่งและอื่นๆ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าป้องกันอุบัติเหตุให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วย
ช่วยเรื่องสุขภาพ
หากนำมาทำเป็นเครื่องประดับที่สวมใส่เป็นประจำเช่นสร้อยข้อมือหรือสร้อยคอ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หากเจ็บป่วยอยู่อาการก็จะดีขึ้น นอกจากนี้คนสมัยโบราณใช้รักษาการตัดต้อที่ตาของคนเพราะเชื่อว่าช่วยให้หายได้ รวมถึงเชื่อว่าใช้รักษาโรคอัมพาตได้โดยนำกะลาตาเดียวทั้งลูกมาผ่าเป็น 4 ส่วน แล้วนำชิ้นหนึ่งวางไว้ทางทิศตะวันตก อีก 3 ชิ้นนำมาต้มน้ำกินทุกวันวันละ 3 มื้อมื้อละ 1 แก้ว
นอกจากด้านต่างๆดังที่กล่าวไปแล้วยังเชื่อว่ามีฤทธิ์ด้านคงกระพันและเมตตามหานิยม รวมถึงช่วยให้รับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้จากความรู้สึก สำหรับวิธีบูชานั้นมีคาถาดังนี้
.
เอกะจักขุ นาฬิเกลา สุริยประภา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะ รัตนะ สัมปันโน มณีโชติ ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหัง วันทามิ เม สะทา ฯ
.
การบูชาให้ถวายน้ำชาหรือกาแฟดำและจุดธูป 8 ดอกทุกพลบค่ำ จากนั้นท่องนะโม 3 จบและตามด้วยคาถา 1 จบ
สำหรับวันที่มีสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคา ในขณะที่เกิดสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคาให้บูชาของดำ 8 อย่างและท่องคาถา