วาฮีล่า: อสูรสีขาวแห่งแดนลับแล
ความเชื่อเรื่องสัตว์อสูร ปรากฏตัวขึ้นในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก สัตว์ที่มีมากมายหลายชนิดในป่าที่เรารู้จักสามารถเห็นได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คนในยุคสมัยต่างๆ และทั่วโลกก็มีตำนานสัญลักษ์มอบให้สัตว์เหล่านั้นในตัวแทนของความชั่วร้ายบ้าง ความดีบ้าง อันเป็นพื้นฐานความกลัวที่เกิดขึ้นกลายเป็นความยำเกรงและเคารพ วันนี้เราจะพาทุกท่านเดินทางไปยังทวีปอเมริกาเหนือ ไปยังทุ่งหิมะของแคนนาดาและอะลาสก้า เพื่อไปทำความรู้จักกับหมาป่ายักษ์ในตำนานที่ออกล่ามนุษย์ สร้างความหวาดกลัวให้แก่ชนพื้นเมืองอเมริกันมากมายหลากหลาย ถ้าพร้อมแล้วไปฟังกันเลย
วาฮีล่า (Waheela) หรือ วาวิล่าร์ (Waveelar) เป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ที่พบอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ มีลักษณะกำยำ ตัวใหญ่ดูคล้ายหมาป่าผสมกับหมี ยาวได้ถึง 3 เมตร และความสูงของมันเมื่อยืนยาวถึง 1.2 เมตร มีสีขาวหรือสีดำสนิท บ้างก็ว่าสีคล้ายหมาป่าปกติทั่วไป มีหางยาวที่มีขนปุกปุย มีนิสัยดุร้ายชอบล่าเหยื่อตามลำพัง โดยจะจับมนุษย์และสัตว์ที่หลงเข้าถิ่นฐานมากิน
เรื่องราวของวาฮีล่า เป็นตำนานเล่าขานในหมู่ชนพื้นเมืองอเมริกันหลายๆ เผ่าที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ โดยพวกเขาเล่าถึงมันมีมานานถึง 50,000-100,000 ปีที่แล้ว โดยปรากฏเป็นสัญลักษ์ และหน้ากากในพิธีกรรม ว่ากันว่ามันคืออสูรกายโบราณที่จะจับมนุษย์ที่หลงทางไปในเขตของมันกัดกิน โดยเอาไปแต่ส่วนหัวทิ้งให้ร่างเหลือแต่ตัว โดยสถานที่ที่วาฮิล่าอาศัยอยู่นั้นเชื่อว่าน่าจะเป็นเทือกเขานาฮานี่ (Nahanni Valley) ซึ่งเป็นหุบเขาที่เชื่อกันว่าเป็นดินแดนลับแลที่เข้าไปแล้วจะออกมาไม่ได้ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศแคนนาดา และยังเชื่อยาวไกลไปถึงรัฐมิชิแกนและอะลาสก้าในประเทศสหรัฐอเมริกาที่อยู่ติดกันด้วย
เมื่อมีชาวยุโรปมาตั้งรกราก มีรายงานการพบเห็นและต่อสู้กับหมาป่าขนาดใหญ่ที่ดุร้ายมีพละกำลังมาก พวกเขาเจอมันช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวที่มันจะออกหากินบ่อยๆ หมาป่าที่ชาวยุโรปพบไม่เหมือนหมาป่าสีเทาที่พวกเขารู้จัก มันตัวใหญ่ มีสีดำหรือขาว บางทีก็โผล่มาจากไหนไม่รู้คล้ายกับถูกส่งมาเองและอันตรธานหายไปได้
รายงานการพบหมาป่าขนาดใหญ่ได้ถูกบันทึกผ่านกล้องในปี ค.ศ. 2007 เมื่อชายนิรนามคนหนึ่งจากรัฐมิชิแกนพาสุนัขไปเดินเล่นในป่า สุนัขของเขาเกิดหลุดจากสายจูงและวิ่งไปเห่าบางสิ่งที่อยู่ในภาพ ปรากฏสัตว์คล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ที่น่าจะยาวถึงสามเมตร โดยสัตว์ตัวนั้นมีท่าทางดุร้ายและวิ่งไล่กวดสุนัขของเขาจนแตกกระเจิง โชคดีที่เจ้าของสุนัขได้วิ่งเข้าไปช่วยสุนัขของตนให้พ้นจากจุดนั้นด้วยความเร็ว และวิดีโอก็ได้ตัดไปโดยไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ แต่คลิปก็ถูกอัปโหลดมาบน youtube และจะมีรายงานที่เป็นคำบอกเล่าหลายๆ ชิ้นที่ไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษ์อักษรนัก
นักสัตว์ลึกลับวิทยาต่างลงความเห็นเป็นสมมุติฐานว่า ตัวจริงของวาฮิล่าอาจจะเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์กลุ่มสุนัข พวกเขาคิดว่ามันอาจจะมาจากสัตว์สองชนิดนี้ หนึ่ง คือ แอฟิซีออน (Amphicyon) แอมฟิซีออน เป็นสัตว์วงศ์สุนัขและหมีที่สูญพันธุ์ไปแล้ว มีลักษณะร่วมของสุนัขโดยมีขาที่ยาว หางยาว และปีนต้นไม้ได้ด้วยกรงเล็บยาวคล้ายหมี อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือเมื่อ 3 ล้านปีที่แล้วและสูญพันธุ์ไปก่อนมนุษย์จะอพยพเข้ามายังอเมริกาเหนือเสียอีก อีกตัวที่มีการตั้งสมมุติฐาน ก็คือ ไดร์วูลฟ์ (Dire Wolf) เป็นสัตว์วงศ์สุนัขที่มีความใกล้ชิดกับหมาไคโยตี้ในอเมริกาเหนือ มีขนาดตัวใหญ่กว่าหมาป่าสีเทาเช่นกันและเคยอาศัยหากินในอเมริกาเหนือถึงเมื่อ 100,000 ปีที่แล้ว เมื่อยุคน้ำแข็งสิ้นสุดลง และแหล่งอาหารจำพวกสัตว์ใหญ่ร่อยหลอลงพร้อมกับการล่าจากมนุษย์ที่เอาเนื้อและขนของพวกมันไปทำเสื้อผ้า หากสัตว์ทั้งสองชนิดมีประชากรที่ตกสำรวจ เล็ดรอดจากการสูญพันธุ์ ก็เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจจะยังอยู่ แต่มีจำนวนประชากรที่น้อยจนต้องหลบซ่อนตัว
ถึงแม้จะไม่มีข้อสรุปแน่ชัด แต่วาฮิล่าก็เป็นตัวแทนแสดงถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์และหมาป่า ทั้งการเป็นสัตว์นักล่าที่เก่งกาจและดุร้าย เช่นดียวกันกับมนุษย์ที่มีทั้งปัญญาและเครื่องมือ ไม่แน่ว่า มันก็คือภาพสะท้อนของความดิบเถื่อนในการเอาชีวิตรอดก็เช่นกัน หากไม่ระวังทุกฝีก้าว ทุ่งหิมะพร้อมจะมีอสูรกายมาเด็ดหัวคุณในคราบของหมาป่า ก็เป็นได้
คลิปวิดีโอจากปี 2007 ที่มีการเจอหมาป่ายักษ์