ประเพณี การรัดเท้า ที่แสนเจ็บปวดของเด็กจีนในสมัยก่อน
ประเทศจีนนั้นมีประเพณีที่ไม่เหมือนใครอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการรัดเท้าให้เล็กและดูเหมือนดอกบัว สมัยก่อนการรัดเท้าถือเป็นเรื่องปกติและออกจะฮิตกันด้วยซ้ำ เพราะเท้าที่ถูกรัดแบบ บัวทองสามนิ้ว”เป็นทรงเท้าที่คนจีนในสมัยนั้นมองว่ามันสวย และยังเป็นการบ่งบอกด้วยว่าเป็นเท้าของคนชั้นสูง คนจากตระกูลผู้ดี การรัดเท้ามีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังตอนปลาย ผู้หญิงคนแรกที่รัดเท้าตัวเองคือข้าราชบริพารในราชสำนัก ชื่อว่า เหยา หนิง ต่อมาก็ขยายความนิยมไปที่ชนชั้นสูง ต่อมาก็เริ่มนิยมกันแทบทุกชนชั้น เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ในยุคนั้นเลย
ข้อกำหนดคือต้องรัดเท้าให้เหลือเพียง 3 นิ้ว และให้เท้ามีลักษณะโค้งงอเหมือนดอกบัว การรัดเท้า ยิ่งอายุน้อยยิ่งง่าย เพราะกระดูกเท้าของเด็กนั้นอ่อน ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเริ่มรัดเท้าคือเด็กอ ตอนล้างเท้า แรกเริ่มจะให้เด็กเอาเท้าแช่น้ำร้อนที่ผสมสมุนไพร แล้วแต่สูตรของแต่ละบ้าน บางบ้านก็ผสมเลือดสัตว์ไปด้วย ที่ให้แช่ในน้ำร้อนเพราะจะได้ดัดงอได้ง่าย ต่อมาก็ตัดเล็บ แล้วก็นำผ้าที่ผ่านการต้มในน้ำเดือดและตากจนแห้งเรียบร้อยแล้วมารัดเท้า พับนิ้วเท้าทั้ง 4 นิ้วเหลือแค่นิ้วโป้ง และก็ดันเท้าส่วนหน้ากับข้อเท้าให้แนบกันให้ได้มากสุด ให้ตัวหน้าเท้าของเราโค้งขึ้นมา จากนั้นก็เอาผ้ารัดแล้วก็เย็บตัวผ้าให้เรียบร้อย ผ่านไปสักพักเมื่อเท้าเริ่มแน่นไปกับผ้าที่รัดก็จะให้ฝึกเดิน ขั้นตอนนี้จะเจ็บมากไม่ต่างกันเพราะตัวเด็กต้องคอยบังคับรูปเท้าเวลาเดิน แน่นอนว่าการรัดเท้ามีข้อเสียมากกว่าข้อดีค่ะ อย่างเด็กที่ถูกรัดเท้าแต่ยังเล็ก พอแก่ตัวไปก็จะเดินไม่ได้ คนจีนในสมัยนั้นมองว่าเท้าที่เล็กคือเท้าที่สวย ผู้หญิงที่มีเท้าเล็ก คือผู้หญิงที่สวย และเป็นหญิงที่ชายปรารถนาจะแต่งงานด้วย สุดท้ายประเพณีนี้ถูกยกเลิกสมัยราชวงศ์ชิง เพราะมองว่าเป็นประเพณีที่บ่อนทำลายชาติ ก็คือทำให้เดินไม่ได้ พอเดินไม่ได้ก็ทำงานไม่ได้ เป็นการขาดกำลังในการพัฒนาชาติ แถมยังโดนชาติตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์อีกนั่นเอง