เปิดสาเหตุ "เต๊ะ ศตวรรษ" เคยคิดอยากจบชีวิตตัวเอง !!
เปิดสาเหตุ "เต๊ะ ศตวรรษ" เคยคิดอยากจบชีวิตตัวเอง !! ดึงสติกลับมาได้เพราะอะไร ?
อดีตนักแสดงชื่อดังระดับเอเชียอย่าง "เต๊ะ ศตวรรษ" เคยเผยว่าเคยมีช่วงชีวิตที่รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง เผชิญกับปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องงาน ความสัมพันธ์ และป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
เผยสาเหตุหลักที่ทำให้ "เต๊ะ ศตวรรษ" once had suicidal thoughts :
โรคซึมเศร้า : เต๊ะ ศตวรรษ เผยว่า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาหลายปี ซึ่งโรคนี้ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ทำให้รู้สึกสิ้นหวัง มองโลกในแง่ร้าย คิดว่าตัวเองไร้ค่า และอยากจบชีวิต
ปัญหาส่วนตัว : เต๊ะ ศตวรรษ เคยเผชิญกับปัญหาส่วนตัว เช่น ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ปัญหาการเงิน และความกดดันจากงาน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกแย่ และทำให้คิดสั้น
การทำงาน : เต๊ะ ศตวรรษ เคยทำงานในวงการบันเทิงที่ไต้หวัน ซึ่งต้องเผชิญกับแรงกดดันสูง ทั้งเรื่องงาน ภาพลักษณ์ และวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตของเขา
อย่างไรก็ตาม "เต๊ะ ศตวรรษ" ได้รับการรักษาและช่วยเหลือจนสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาได้ ปัจจุบันเขามีครอบครัวที่อบอุ่น และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ล่าสุดเจ้าตัวได้เล่าเรื่องราวที่เกือบทำให้เขาไม่มีลมหายใจบนโลกใบนี้ ว่า ...
“ผมเคยนับถอยหลังวันตายของตัวเอง เคยคิดว่าการอยู่บนโลกเป็นเรื่องที่ยากมาก สมัยก่อนผมได้ยินคำว่าผู้ป่วยซึมเศร้า ผมไม่เคยเข้าใจเลย แต่พอผมกลายเป็นผู้ป่วยเอง ผมถึงเข้าใจวิธีคิดและความเจ็บปวดมากขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่ทุกอย่างดูยากไปหมด ทำไมโลกเราไม่เหมือนคนอื่นเขา ทำไมชีวิตเราแย่จังเลย คนรอบตัวไม่ดี ทั้งที่จริงๆ มันดีนะ แต่เรามองไม่เห็นมุมนั้น แต่จากคนที่นับถอยหลังจะตาย ตอนนี้พระเจ้าผมอยากอยู่นานๆ อยากมีชีวิตอยู่ อยากเล่นกับเขา อยากรู้ว่าอนาคตเขาเป็นยังไง อยากเป็นเพื่อนเขาอยากคอยปลอบเขา อยากให้กำลังใจเขา อยากอยู่ใกล้ๆ เขาไปยาวๆ ผมคิดว่าหลายคนที่เคยมีประสบการณ์อยากฆ่าตัวตาย แล้วเขาได้อยู่จุดนี้ ได้มีโอกาสดูแลเด็กสักคนนึงดูแลของขวัญที่พระเจ้าให้ ผมว่าเขาจะเปลี่ยนความคิดแบบผม ผมรู้สึกว่ามันเป็นคำตอบที่พระเจ้าให้ผ่านแจ็คกี้และยาดาห์ผ่านมาถึงผมว่าการที่ผมตัดสินใจมีชีวิตอยู่ต่อนั้นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง”
ตอนนั้นก็ดังมาก ประสบความสำเร็จมาก ดูพร้อมมากในทุกๆ ด้านของชีวิต อะไรทำให้กลับไปอยู่ในสภาวะแบบนั้น ?
“ต้องยอมรับว่าการประสบความสำเร็จเป็นเรื่องที่ดี แต่ขณะที่ประสบความสำเร็จ ผมอยู่ต่างประเทศคนเดียว ผมไม่มีผู้ปกครอง ไม่มีคนที่คอยคอนเซ้าท์ เวลาผมมีปัญหา ผมไม่มีใครเลย ผมต้องคิดเองถามเองตอบเองตลอด ยุคผมไม่เหมือนยุคน้องๆ ที่ไปจีนไต้หวันยุคนี้สบายหน่อย แต่ยุคผมเหมือนยุคทางลูกรัง น้องเขาไปแบบทางด่วน ผมไปแบบทางลูกรัง ทำงานหนักมาก ตื่นตี 4 เสร็จ 4 ทุ่ม 90 วันต่อเนื่อง ร่างกายมันไม่ไหว สองอย่างที่บอก แม้ผมจะมีชื่อเสียง มีรายได้ที่ดี แต่ก็เป็นประตูนำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเข้ามาในชีวิตด้วย สมัยก่อนเคยกินเหล้า สูบบุหรี่ เคยเที่ยว หรือการเคยมีชีวิตคู่มาก่อน ผมก็เป็นสามีที่ไม่สัตย์ซื่อ ถูกล่อลวงด้วยหลายสิ่ง สิ่งนี้ก็กลับมาจู่โจมผม ในวันที่ผมอ่อนแอที่สุด ในวันที่ผมป่วย ผมถึงได้บอกว่าความคิดต่างๆ เข้ามาว่าแกไม่ดีๆ เต็มไปหมดเลย แล้วไม่มีเหตุผลที่เราจะตอบว่าใช่ มันไม่ดีจริงๆ ก่อนหน้านั้นผมมีข้อผิดพลาดเยอะมาก แต่ด้วยความรักจากพระเจ้า มีคนเข้ามาพูดกับผมเยอะมากว่าพระเจ้ารักพี่เต๊ะนะ ผมก็ไม่เข้าใจความหมายว่ารักแล้วยังไงวะ จากที่ผมปิดใจ ผมก็เริ่มให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตของผม ผมเริ่มไปโบสถ์ ยอมให้คนบางคนเข้ามานั่งคุยกับเรา เมื่อก่อนผมคุยกับใครไม่ได้เลย คิดว่าเขาจะเข้ามาทำร้ายเรา... จะตำหนิเราตลอด แต่พอเราเริ่มต้นใหม่ถึงรู้ว่าชีวิตมีค่ามีความหมายมาก ถึงได้ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่ผมได้กลับมาเริ่มต้นใหม่และมีชีวิต สามารถกลับมามีลมหายใจและได้รับของขวัญที่เป็นน้องยาดาห์”