ประวัติ เจสัน วอร์ฮีส์ (Jason Voorhees) ตำนานสยองขวัญแห่ง Friday the 13th
ประวัติ Jason Voorhees: ตำนานสยองขวัญแห่ง Friday the 13th
ถ้าพูดถึงชื่อ Jason Voorhees แฟนหนังสยองขวัญคงไม่มีใครไม่รู้จัก เด็กหนุ่มผู้ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัวและความตาย จากเรื่องราวในซีรีส์หนัง “Friday the 13th” เจสันเป็นตัวละครที่ทั้งลึกลับ น่ากลัว และมาพร้อมกับหน้ากากฮ็อกกี้และมีดปลายแหลมที่พร้อมจะกรีดเสียงหวีดร้องจากเหยื่อ วันนี้เราจะมาพาคุณไปรู้จักกับประวัติของ Jason Voorhees กันอย่างละเอียด
กำเนิดแห่งความสยองขวัญ
เจสันเกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ปี 1946 ในเมืองคริสตัลเลค รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เจสันเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางการเจริญเติบโตทางสมอง ทำให้เขาถูกล้อเลียนและแกล้งจากเด็กคนอื่น ๆ อยู่เสมอ แม่ของเขา พาเมล่า วอร์ฮีส์ ทำงานเป็นแม่บ้านที่ค่ายคริสตัลเลค ซึ่งเป็นที่ที่เจสันใช้เวลาในวัยเด็ก
ในปี 1957 เกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเจสันไปตลอดกาล เมื่อเขาถูกเด็กคนอื่น ๆ ผลักลงไปในทะเลสาบและจมน้ำเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ทำให้พาเมล่า แม่ของเจสันเกิดความโกรธแค้นและเริ่มต้นการฆ่าคนในค่ายเพื่อแก้แค้นให้ลูกชายของเธอ
การกลับมาของเจสัน
หลายปีต่อมา ในปี 1980 เรื่องราวของเจสันเริ่มต้นขึ้นเมื่อค่ายคริสตัลเลคเปิดอีกครั้ง การฆาตกรรมเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพาเมล่าพยายามที่จะหยุดยั้งไม่ให้ค่ายเปิด แต่ในที่สุดเธอถูกฆ่าโดยผู้รอดชีวิต อลิซ ฮาร์ดี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจสันกลับมาจากความตาย
เจสันที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในวัยเด็กได้กลับมาและกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ไม่มีใครหยุดได้ เขาเริ่มออกตามล่าและฆ่าคนที่มาที่ค่ายคริสตัลเลค การฆาตกรรมที่เขาทำนั้นเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและน่ากลัว ทว่าเจสันไม่ใช่แค่คนธรรมดาที่สามารถฆ่าได้ง่าย ๆ ความสามารถในการฟื้นตัวจากบาดแผลและการกลับมาจากความตายทำให้เขากลายเป็นตำนานสยองขวัญที่ไม่อาจลืมเลือน
การพัฒนาของเจสันในภาพยนตร์
ซีรีส์หนัง “Friday the 13th” นับว่าเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่มีความยาวนานและมีการพัฒนาเรื่องราวของเจสันอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละภาค เจสันมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทั้งรูปลักษณ์และความสามารถ เช่น
- Friday the 13th Part 2 (1981): เจสันกลับมาในฐานะฆาตกรต่อเนื่องที่สวมหน้ากากปิดหน้า และใช้มีดล่าคนที่เข้ามาในค่าย
- Friday the 13th Part III (1982): เจสันได้หน้ากากฮ็อกกี้อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาในภาคนี้
- Friday the 13th: The Final Chapter (1984): เจสันถูกฆ่าอย่างรุนแรง แต่กลับมามีชีวิตอีกครั้งในภาคถัดไป
- Friday the 13th Part VI: Jason Lives (1986): เจสันกลับมาในฐานะซอมบี้ที่มีพลังอันมหาศาลและไม่สามารถฆ่าได้ง่าย
- Jason X (2001): เจสันถูกแช่แข็งและตื่นขึ้นมาในอนาคตในอวกาศ ซึ่งเพิ่มความน่ากลัวในบรรยากาศใหม่
ความโหดเหี้ยมและความหวาดกลัว
เจสันเป็นฆาตกรที่ไม่เลือกเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีอาวุธพร้อมต่อสู้ ความโหดเหี้ยมของเขาไม่ได้มาจากความเกลียดชัง แต่เป็นการกระทำที่ไร้ความรู้สึก และไม่มีใครเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงฆ่า ความสามารถในการฟื้นตัวจากบาดแผลและการกลับมาจากความตายทำให้เขากลายเป็นตำนานสยองขวัญที่ไม่อาจลืมเลือน
การรับรู้และอิทธิพล
เจสัน วอร์ฮีส์ กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัวและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการหนังสยองขวัญ หน้ากากฮ็อกกี้และมีดของเขากลายเป็นเครื่องหมายที่รู้จักกันทั่วโลก นอกจากนี้ เจสันยังปรากฏตัวในสื่ออื่น ๆ นอกเหนือจากภาพยนตร์ เช่น หนังสือการ์ตูน วิดีโอเกม และของเล่นต่าง ๆ
ตำนานที่ไม่มีวันตาย
เจสัน วอร์ฮีส์ ไม่ใช่แค่ตัวละครในหนังสยองขวัญ แต่เป็นตำนานที่อยู่ในใจของแฟนหนังทั่วโลก ความโหดเหี้ยมและความลึกลับของเขาทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าเรื่องราวของเขาจะจบลงไปหลายครั้ง แต่เจสันก็ยังคงกลับมาให้แฟนหนังได้หวาดกลัวอยู่เสมอ
จากการเป็นเด็กที่ถูกล้อเลียนและจมน้ำตาย เจสัน วอร์ฮีส์ กลับกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความสยองขวัญและความตายที่ไม่มีใครหยุดได้ ไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวในรูปแบบใดหรือในยุคสมัยใด ความหวาดกลัวที่เจสันสร้างขึ้นจะคงอยู่ในใจของผู้คนไปตลอดกาล
สรุป
เจสัน วอร์ฮีส์ คือตำนานแห่งความสยองขวัญที่ไม่มีวันจางหาย ความโหดเหี้ยมและความลึกลับของเขาทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่มีอิทธิพลและเป็นที่รู้จักทั่วโลก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เจสันยังคงเป็นที่จดจำและเป็นที่หวาดกลัวของแฟนหนังสยองขวัญอยู่เสมอ
นั่นคือเรื่องราวของ Jason Voorhees ฆาตกรหน้ากากฮ็อกกี้ผู้ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังสยองขวัญ "Friday the 13th" หวังว่าคุณจะสนุกกับการอ่านและรับรู้เรื่องราวของเขามากขึ้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเจสันอาจจะกำลังเฝ้าดูคุณอยู่!
อ้างอิงจาก: coffeeman