เบญจเพส ในวัย 25
#เบญจเพส
ผมเคยโพสต์เรื่องเบญจเพสไปแล้วในสามสี่ปีก่อน และเห็นว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตลอดถึงยังมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งสองมุมมอง บวกบ้าง ลบบ้าง ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นการเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทานสู่ผู้ที่สนใจเท่านั้น เพราะรู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม บางทีนั้นมันอาจจะลด หรือเพิ่มความกังวลให้แก่ผู้ที่อ่านก็ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลที่ถูกต้องในมุมของการพยากรณ์
คำว่าเบญจเพส นี้ตั้งแต่ผมจำความได้มานั้น เป็นเรื่องที่น่าตกใจ และในสมัยเด็กๆนั้นก็กลัวคำๆนี้ไปเลย ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่ได้ยินคำว่า เบญจเพสนี้ ก็ยังมีความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยแฝงอยู่แน่นอน เพราะเป็นคำติดปากของคนไทย ที่ทำให้รู้สึกวิตก
ความจริงนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นกลัว อะไรมากมายขนาดนั้น หากได้เข้าใจในมุมของการพยากรณ์ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ดีมากๆ สำหรับใครบางคน หรือแม้แต่อาจจะเป็นเรื่องราวที่ร้ายมากๆ สำหรับใครบางคนก็ได้
หลายครั้งที่ผมเองถูกทัก จากหมอดูสมัยอดีตว่าต้องระวังเรื่องนี้ ซึ่งก็อยู่ในใจผมมาตลอดกาล จนวันหนึ่งที่ได้เข้าใจเมื่อเป็นโหรแล้ว ก็อยากจะนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังบ้าง
ในมุมมองที่ผมได้ศึกษาจากครูอาจารย์ ที่ทำให้กระจ่างในเรื่องนี้นั้น ท่านเล่าว่า เบญจเพส ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกดวงชะตา ............????
แล้วเกิดขึ้นกับใครกันคือประเด็นที่ผมสนใจ ......ครูท่านได้เล่าว่า เบญจหมายถึงห้า และเพสนั้นหมายถึงยี่สิบ ดังนั้นคำว่าเบญเพสจึงมีความหมายว่า ยี่สิบห้า และจะต้องเกิดเฉพาะกับคนที่เกิดในวันอังคารเท่านั้น(นับเวลาเกิดคือราวหกโมงเช้าและสิ้นสุดหกโมงเช้าของอีกวัน ที่ถือว่าเกิดในวันอังคาร ไม่ใช่การนับเปลี่ยนวันตามสากลคือหลังเที่ยงคืน)
ซึ่งคนที่เกิดในวันอังคารนั้น เกิดได้สองลักษณะ คือได้ลาภก้อนใหญ่ เป็นทรัพย์สิน ที่ดิน มรดก หรือได้รับทุกข์ขนาดหนัก............แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเสียนั้นจะต้องแฝงมาด้วยความซีเรียสและกดดันแน่นอน ด้วยเหตุที่ว่า(โดยการพิจารณาจากหลักการทางมหาทักษา)
คนที่เกิดในวันอังคารนั้น ดาวอังคารจะเสวยอายุ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 8 ปี
และเมื่อครบ 8 ปีแล้ว ดาวพุธ ก็จะเสวยอายุต่อจากดาวอังคารอีก 17 ปี ลองสังเกตดูว่า จะครบ 25 ปีพอดีเมื่อดาวพุธเสวยอายุ และดาวที่รับช่วงจากดาวพุธต่อในการเสวยอายุนั้นคือดาวเสาร์
ในทางโหราศาสตร์นั้น ดาวเสาร์ถือเป็นดาวทุกข์โทษ ดาวแห่งความกดดัน อันตราย ดังคำที่ว่า ทุกโทษทายเสาร์ในตำราการพยากรณ์เกือบทุกๆเล่มที่ได้บรรจุหลักคำนี้ไว้ และเชื่อว่าหลายๆท่านได้เห็นประโยคนี้มากันบ้างแล้ว
การเสวยอายุนั้น มันยังมีในมุมมองเชิงลึกไปอีก คือเสวยอายุ เสวยแทรกอายุ เสวยซอยอายุ และเสวยส่วนอายุ
สำหรับคนที่เกิดในวันอังคารนั้น เมื่อครบ 25 ปี บริบูรณ์ ดาวเสาร์จะเข้าเสวยอายุ แทรก ซอย ส่วน 100 เปอเซ็นต์ จึงทำให้เกิดต้องมีเรื่องราวเกี่ยวกับดาวเสาร์ตามความหมายของดาวเกิดขึ้น นั่นคือเรื่องของความกดดันซีเรียส หรือทุกข์โทษเป็นปกติ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ในอายุ 25 ปี บริบูรณ์ของคนที่เกิดในวันอังคารนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ทั้งนี้ทั้งนั้นย่อมขึ้นอยู่กับดวงชะตาเกิดของคนๆนั้น ว่าดาวเสาร์ในดวงชะตาของชะตานั้นเป็นดาวที่ให้คุณหรือโทษนั่นเอง ประเด็นหลักคือต้องเอาดวงชะตามาวิเคราะห์จะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด
หากคนเกิดวันอังคาร ที่มีอายุ 25 ปีบริบูรณ์นั้น ในดวงชะตามีดาวเสาร์ที่ให้คุณแก่ดวงชะตาแล้ว ย่อมได้รับผลดี ได้รับมรดก ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เป็นชิ้นเป็นอัน และทำให้กลายเป็นคนมั่งมีทรัพย์สินอย่างนึกไม่ถึงเลยก็ว่าได้
แต่หากคนเกิดวันอังคาร ที่มีอายุ 25 ปีบริบูรณ์นั้น ในดวงชะตามีดาวเสาร์ที่ให้โทษแก่ดวงชะตาแล้วก็ย่อมได้รับทุกข์โทษตาความหมายของดาวเสาร์นั่นเองคือ ความลำบาก ความเจ็บป่วย เกี่ยวกับลำไส้ กระดูก ภูมิแพ้ อุบัติเหตุ หรือเรื่องราวร้ายๆที่ถาโถมเข้ามาคณานับจนรับ หรือทำใจได้ยากยิ่งเช่นกัน
แล้วสำหรับคนที่เกิดในวันอื่นนั้นแล้วในช่วงอายุ 25 ปี บริบูรณ์นั้น บังเอิญพบเจอเรื่องที่เลวร้าย ก็หักใส่ในรายของคำว่าเบญจเพส(ในมุมของความรู้สึกคนไทย) ทั้งหมดซึ่งความจริงไม่น่าจะถูกต้องเท่าไหร่นัก คำถามคือแล้วทำไมต้องเกิดอันตรายกับคนอื่นที่ไม่เกิดในวันอังคารตอนอายุ 25 ปีกันหล่ะ ..........
ทุกดวงชะตานั้น ประกอบไปด้วยเรื่องดีเรื่องร้าย ตลอดเวลา ตามระบบของการโคจรของดวงดาวในท้องฟ้า(ดวงคือดวงดาว) นั่นหมายความว่าในช่วงนั้นดวงชะตาของท่านอาจได้รับผลกระทบจากดาวดวงใดดวงหนึ่งในทิศทางลบ เท่านั้นเองซึ่งบางครั้งก็อาจจะดีมากๆ หรือร้ายๆมากๆ กว่าคนที่เกิดวันอังคารตามที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นก็ได้ เพราะทุกดวงชะตานั้นมีความแตกต่าง ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง บางคนรวยล้นฟ้า บางคน จน ลำบากสุดๆก็มี มันขึ้นอยู่กับ ลักษณะของดวงดาว หรือดวงชะตาของท่านนั่นเอง
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เสมือนกับในอดีตสามสี่ปีที่แล้วที่ผมได้เคยเอาเรื่องนี้เขียนบทความ บางคนก็ว่า ช่วงนั้น ฉันอาการหนัก บางคนก็ว่าช่วงนั้นฉันโชคดีจะตาย บางคนก็ว่า ฉันไม่เห็นเกิดวันอังคารเลย ทำไมฉันต้องเจอเหตุการณ์ขนาดนั้น บางคนก็บอกว่าฉันเกิดวันอังคารแต่ทำไมเป็นช่วงเฟื่องฟูของฉันมากนัก.........ก็ตามที่บอกว่าในดวงชะตาของเรานั้น ไม่ได้มีดาวดวงเดียวที่ให้คุณหรือโทษ
ในการวิเคราะห์มีถึงสิบกว่าดวงในตำราโหราศาสตร์ไทย มีอีกหลายดวงที่กำลังให้คุณ หรือมีอีกหลายดวงที่กำลังให้โทษ ในช่วงเวลาดังกล่าวนั่นเอง ดังนั้นอย่าเพิ่งร้อนไปก่อนไข้ ขอให้ท่านลองเปิดใจ กับโหราศาสตร์แล้วท่านจะรู้ว่า โหราศาสตร์นั้นคือวิชามหัศจรรย์ ที่ล่วงรู้สรรพสิ่งได้อย่างน่าปลื้มปีติ